เทคนิค [b] Arbitrage[/b] แบบบ้าน ๆ ในภาวะ[b] Cash Is King[
- KGYF
- Verified User
- โพสต์: 399
- ผู้ติดตาม: 0
เทคนิค [b] Arbitrage[/b] แบบบ้าน ๆ ในภาวะ[b] Cash Is King[
โพสต์ที่ 1
เทคนิค Arbitrage แบบบ้าน ๆ ในภาวะ Cash Is King
เรื่องเกิดเมื่อไม่กี่วันมานี่เองครับ เล่าเป็นประสบการณ์ครับ เผื่อเป็นประโยชน์บ้าง ขอเล่าเป็นตัวละครแบบบ้าน ๆ นะครับ จะได้ตรงกับหัวข้อกระทู้
เพราะผมเล่าแบบวิชาการไม่ค่อยจะเป็นครับ และไม่ขอเอ่ยชื่อหุ้นนะครับ จะได้ไม่เป็นการชี้นำ
เริ่มเรื่อง.....ผมกับเพื่อน
เธอ : ขอยืมเงินหน่อยซิ
ผม : เท่าไหร่?
เธอ : สามแสนนิด ๆ
ผม : เอาไปทำอะไร
เธอ : ติด w3 หุ้น ..... อยู่ที่ 3.98 บาท ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 3.7 นิด ๆ (ขายตอนนี้ก็ขาดทุน แต่ต้องเคลียร์เงินกับทางโบรคก่อน)
ผม : ไม่มีเงินให้นะ(ขณะนี้ เต็มพอร์ต)
เธอ : ขายหุ้นช่วยหน่อยซิ
ผม : ห๊ะ ! (ไม่ใช่เรื่องของตรู จะให้ขายหุ้นเลยเรอะ(อันนี้คิดในใจ ไม่กล้าว่าเพือนที่แสนดี))
ไม่ขายอ่ะ เธอว์ หุ้นแต่ละตัว รักยิ่งกว่าลูกในไส้
เธอ : มีทองไหม?
ผม : มี จะทำไมรีเธอว์?
เธอ : เอาไปขายมาช่วยหน่อยซิ
ผม : เอ่ออ ! เอางั้นเลยรึ
เธอ : เอาน่าาาาาาา เดี๋ยวขายหุ้นเสร็จ เอามาคืนทั้งต้น ทั้งดอกเลย(ขายขาดทุน จะเอาดอกมาจากไหนเนี่ย)
ผม : ปู่ ย่า บอก "มีเงินเรียกน้อง มีทองเรียกพี่" ไม่ขายนะเธอ(คิดในใจ)
เดี๋ยวหาทางหาเงินมาให้ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันนะ
.... ปิ๊งไอเดีย ... ผมไปดูพื้นฐานหุ้นตัวที่เธอซื้อ... อ๊ะ พื้นฐานดี ปันผลปีละประมาณ 60 สต. แต่ไตรมาสสี่ปีที่แล้วขาดทุนและราคาหุ้นก็ตกลงมาอยู่แถว 5 บาท และเริ่มไต่ขึ้น
ราคาปัจจุบัน(ตอนที่ผมตัดสินใจซื้อจากเพื่อน) อยู่ที่ประมาณ 7 บาทกว่า ซึ่งถ้าปันผลเท่าเดิมคงประมาณ 8% ถ้าหุ้นกลับมาทำกำไรเหมือนเดิมหลังน้ำท่วม
....
แต่เธอติดวอร์ กลับมาดูวอร์ซิ ราคาที่เธอซื้อคือ 3.98 นิวไฮของวันเลยครับ(เมพจริง ๆ ) ผมดูราคาย้อนหลังไปก่อนน้ำท่วมราคาอยู่ที่ประมาณ 5 บาทนิด ๆ เท่ากับผมเหลืออัพไซด์ประมาณ 20 %
.... วันต่อมาผมโทรหาเธอครับ
ผม : เป็นไงบ้างเธอว์
เธอ : สบายดี หาทางช่วยได้รึยัง
ผม : พอมีทางนะ เดี๋ยวผมโอนเงินให้ โอนหุ้นที่มีให้ผมก็แล้วกัน
เธอ : จริงรึ?
ผม : จริงซิ โอนมาเลยนะ เดี๋ยวโอนเงินไปให้
......
หลายคนคงคิด มันเกี่ยวกับ Arbitrage ตรงไหนว่ะ
...ผมจะเฉลยให้ฟังครับ เทคนิค Arbitrage ของผมคือ ผมเอาทองที่ผมมีไปจำนำครับ ซึ่งผมคิดความเสี่ยงและผลตอบแทนออกมาเป็น ดังนี้
- จำนำทอง เสียดอกเบี้ย 1.25% /ด = 15% / ปี(คำนวณเผื่อว่าไม่เป็นไปตามคาดการณ์ อาจได้ถือหุ้นยาวเป็นปี)
-ผมซื้อหุ้นตัวนี้ ราคา 3.98 บาท อัพไซด์ ที่ผมคาดการณ์ไว้ 20 % ซึ่งเท่ากับ 20-1.25 % = 18.75 %
... ณ เวลานี้ หุ้นตัวที่ผมซื้อ ราคาอยู่ที่ 4.8 บาท ซึ่งถ้าผมขาย ณ ตอนนี้ ผมก็จะได้กำไรทันที 18 % พร้อมนำเงินที่ได้จาการขายหุ้น ไปไถ่ทองกลับคือมาเป็นของตัวเอง
และกำไรจากหุ้น ก็นำไปลงทุนต่อไป
...จะเห็นว่า ตอนนี้ ผมได้เป็นทั้งพี่ ทั้งน้อง ในภาวะที่ Cash Is King
อ่าห์.... แล้วเทคนิค Arbitrage แบบบ้าน ๆ จะทำให้ นลท. ได้กำไรกันถ้วนหน้า
หรือเจ๊งไปตาม ๆ กัน พวกเธอว์วววว จงตามไปเสพย์(ทดลอง) ใช้เทคนิคนี้ โดยพลัน .....
เรื่องเกิดเมื่อไม่กี่วันมานี่เองครับ เล่าเป็นประสบการณ์ครับ เผื่อเป็นประโยชน์บ้าง ขอเล่าเป็นตัวละครแบบบ้าน ๆ นะครับ จะได้ตรงกับหัวข้อกระทู้
เพราะผมเล่าแบบวิชาการไม่ค่อยจะเป็นครับ และไม่ขอเอ่ยชื่อหุ้นนะครับ จะได้ไม่เป็นการชี้นำ
เริ่มเรื่อง.....ผมกับเพื่อน
เธอ : ขอยืมเงินหน่อยซิ
ผม : เท่าไหร่?
เธอ : สามแสนนิด ๆ
ผม : เอาไปทำอะไร
เธอ : ติด w3 หุ้น ..... อยู่ที่ 3.98 บาท ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 3.7 นิด ๆ (ขายตอนนี้ก็ขาดทุน แต่ต้องเคลียร์เงินกับทางโบรคก่อน)
ผม : ไม่มีเงินให้นะ(ขณะนี้ เต็มพอร์ต)
เธอ : ขายหุ้นช่วยหน่อยซิ
ผม : ห๊ะ ! (ไม่ใช่เรื่องของตรู จะให้ขายหุ้นเลยเรอะ(อันนี้คิดในใจ ไม่กล้าว่าเพือนที่แสนดี))
ไม่ขายอ่ะ เธอว์ หุ้นแต่ละตัว รักยิ่งกว่าลูกในไส้
เธอ : มีทองไหม?
ผม : มี จะทำไมรีเธอว์?
เธอ : เอาไปขายมาช่วยหน่อยซิ
ผม : เอ่ออ ! เอางั้นเลยรึ
เธอ : เอาน่าาาาาาา เดี๋ยวขายหุ้นเสร็จ เอามาคืนทั้งต้น ทั้งดอกเลย(ขายขาดทุน จะเอาดอกมาจากไหนเนี่ย)
ผม : ปู่ ย่า บอก "มีเงินเรียกน้อง มีทองเรียกพี่" ไม่ขายนะเธอ(คิดในใจ)
เดี๋ยวหาทางหาเงินมาให้ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันนะ
.... ปิ๊งไอเดีย ... ผมไปดูพื้นฐานหุ้นตัวที่เธอซื้อ... อ๊ะ พื้นฐานดี ปันผลปีละประมาณ 60 สต. แต่ไตรมาสสี่ปีที่แล้วขาดทุนและราคาหุ้นก็ตกลงมาอยู่แถว 5 บาท และเริ่มไต่ขึ้น
ราคาปัจจุบัน(ตอนที่ผมตัดสินใจซื้อจากเพื่อน) อยู่ที่ประมาณ 7 บาทกว่า ซึ่งถ้าปันผลเท่าเดิมคงประมาณ 8% ถ้าหุ้นกลับมาทำกำไรเหมือนเดิมหลังน้ำท่วม
....
แต่เธอติดวอร์ กลับมาดูวอร์ซิ ราคาที่เธอซื้อคือ 3.98 นิวไฮของวันเลยครับ(เมพจริง ๆ ) ผมดูราคาย้อนหลังไปก่อนน้ำท่วมราคาอยู่ที่ประมาณ 5 บาทนิด ๆ เท่ากับผมเหลืออัพไซด์ประมาณ 20 %
.... วันต่อมาผมโทรหาเธอครับ
ผม : เป็นไงบ้างเธอว์
เธอ : สบายดี หาทางช่วยได้รึยัง
ผม : พอมีทางนะ เดี๋ยวผมโอนเงินให้ โอนหุ้นที่มีให้ผมก็แล้วกัน
เธอ : จริงรึ?
ผม : จริงซิ โอนมาเลยนะ เดี๋ยวโอนเงินไปให้
......
หลายคนคงคิด มันเกี่ยวกับ Arbitrage ตรงไหนว่ะ
...ผมจะเฉลยให้ฟังครับ เทคนิค Arbitrage ของผมคือ ผมเอาทองที่ผมมีไปจำนำครับ ซึ่งผมคิดความเสี่ยงและผลตอบแทนออกมาเป็น ดังนี้
- จำนำทอง เสียดอกเบี้ย 1.25% /ด = 15% / ปี(คำนวณเผื่อว่าไม่เป็นไปตามคาดการณ์ อาจได้ถือหุ้นยาวเป็นปี)
-ผมซื้อหุ้นตัวนี้ ราคา 3.98 บาท อัพไซด์ ที่ผมคาดการณ์ไว้ 20 % ซึ่งเท่ากับ 20-1.25 % = 18.75 %
... ณ เวลานี้ หุ้นตัวที่ผมซื้อ ราคาอยู่ที่ 4.8 บาท ซึ่งถ้าผมขาย ณ ตอนนี้ ผมก็จะได้กำไรทันที 18 % พร้อมนำเงินที่ได้จาการขายหุ้น ไปไถ่ทองกลับคือมาเป็นของตัวเอง
และกำไรจากหุ้น ก็นำไปลงทุนต่อไป
...จะเห็นว่า ตอนนี้ ผมได้เป็นทั้งพี่ ทั้งน้อง ในภาวะที่ Cash Is King
อ่าห์.... แล้วเทคนิค Arbitrage แบบบ้าน ๆ จะทำให้ นลท. ได้กำไรกันถ้วนหน้า
หรือเจ๊งไปตาม ๆ กัน พวกเธอว์วววว จงตามไปเสพย์(ทดลอง) ใช้เทคนิคนี้ โดยพลัน .....
" สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ = การให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง "
" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เทคนิค [b] Arbitrage[/b] แบบบ้าน ๆ ในภาวะ[b] Cash Is K
โพสต์ที่ 2
พูดตรงๆนะครับ ว่า "ฟลุ๊ก" หวังว่าจะไม่โกรธกันนะครับ เพราะคุณผิดตั้งแต่เอาทองไป "จำนำ" แล้วครับ
ถ้าทองพวกนี้ไม่ได้มีความหมายทางใจกับคุณ เช่นเจ้าคุณปู่ให้มาเป็นมรดกตกทอด เป็นเข็มขัดทองที่คุณย่าทวดชอบใส่ อะไรประมาณนั้น คุณควรจะ"ขาย"ทิ้งไปครับ พวกสร้อยลายธรรมดา ซื้อเมื่อไรก็ได้ ได้เงินคืนมาเมื่อไร ไปซื้อคืนที่ร้านได้ง่ายๆ มานั่งจ่ายดอกอยู่ทำไมครับ
ถ้าหุ้นมันไม่ไปไหนซะปี ก็โดนดอกไปแล้ว 15% เท่านี้ยังไม่พอ ถ้าตอนคุณเอาทองไปจำ ทองบาทละ 27,000 พอเอาไปจำเขาหัก 15%(มั้ง?) จะได้ เงินสด 23,000 ณ วันนี้ทองเหลือแค่ 23,000 แต่คุณต้องเอาเงินต้น 23,000 ไปจ่าย เท่ากับว่าคุณเสียเงินไปฟรีๆ เพราะจ่ายไป 23,000 ได้ของมูลค่า 23,000 กลับมา โดนทั้งขึ้นทั้งล่องเลย สู้ขายไปแต่แรกเอาเงิน 27,000 หักไม่กี่ร้อยบาท ได้เงิน 26,000 มา วันนี้เอาไปซื้อทองยังเงินเหลืออีก 3,000 ดีกว่าเห็นๆครับ
ถ้าทองพวกนี้ไม่ได้มีความหมายทางใจกับคุณ เช่นเจ้าคุณปู่ให้มาเป็นมรดกตกทอด เป็นเข็มขัดทองที่คุณย่าทวดชอบใส่ อะไรประมาณนั้น คุณควรจะ"ขาย"ทิ้งไปครับ พวกสร้อยลายธรรมดา ซื้อเมื่อไรก็ได้ ได้เงินคืนมาเมื่อไร ไปซื้อคืนที่ร้านได้ง่ายๆ มานั่งจ่ายดอกอยู่ทำไมครับ
ถ้าหุ้นมันไม่ไปไหนซะปี ก็โดนดอกไปแล้ว 15% เท่านี้ยังไม่พอ ถ้าตอนคุณเอาทองไปจำ ทองบาทละ 27,000 พอเอาไปจำเขาหัก 15%(มั้ง?) จะได้ เงินสด 23,000 ณ วันนี้ทองเหลือแค่ 23,000 แต่คุณต้องเอาเงินต้น 23,000 ไปจ่าย เท่ากับว่าคุณเสียเงินไปฟรีๆ เพราะจ่ายไป 23,000 ได้ของมูลค่า 23,000 กลับมา โดนทั้งขึ้นทั้งล่องเลย สู้ขายไปแต่แรกเอาเงิน 27,000 หักไม่กี่ร้อยบาท ได้เงิน 26,000 มา วันนี้เอาไปซื้อทองยังเงินเหลืออีก 3,000 ดีกว่าเห็นๆครับ
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
- KGYF
- Verified User
- โพสต์: 399
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เทคนิค [b] Arbitrage[/b] แบบบ้าน ๆ ในภาวะ[b] Cash Is K
โพสต์ที่ 3
simplelife เขียน:พูดตรงๆนะครับ ว่า "ฟลุ๊ก" หวังว่าจะไม่โกรธกันนะครับ เพราะคุณผิดตั้งแต่เอาทองไป "จำนำ" แล้วครับ
ถ้าทองพวกนี้ไม่ได้มีความหมายทางใจกับคุณ เช่นเจ้าคุณปู่ให้มาเป็นมรดกตกทอด เป็นเข็มขัดทองที่คุณย่าทวดชอบใส่ อะไรประมาณนั้น คุณควรจะ"ขาย"ทิ้งไปครับ พวกสร้อยลายธรรมดา ซื้อเมื่อไรก็ได้ ได้เงินคืนมาเมื่อไร ไปซื้อคืนที่ร้านได้ง่ายๆ มานั่งจ่ายดอกอยู่ทำไมครับ
ถ้าหุ้นมันไม่ไปไหนซะปี ก็โดนดอกไปแล้ว 15% เท่านี้ยังไม่พอ ถ้าตอนคุณเอาทองไปจำ ทองบาทละ 27,000 พอเอาไปจำเขาหัก 15%(มั้ง?) จะได้ เงินสด 23,000 ณ วันนี้ทองเหลือแค่ 23,000 แต่คุณต้องเอาเงินต้น 23,000 ไปจ่าย เท่ากับว่าคุณเสียเงินไปฟรีๆ เพราะจ่ายไป 23,000 ได้ของมูลค่า 23,000 กลับมา โดนทั้งขึ้นทั้งล่องเลย สู้ขายไปแต่แรกเอาเงิน 27,000 หักไม่กี่ร้อยบาท ได้เงิน 26,000 มา วันนี้เอาไปซื้อทองยังเงินเหลืออีก 3,000 ดีกว่าเห็นๆครับ
ไม่โกรธแน่นอนครับ ผมกลับถือว่าเป็นอีกมุมให้เราได้ต่อยอดความคิดมากกว่าครับ ผมชอบอ่านความเห็นที่แตกต่าง เพื่อนำมาปรับปรุงมากกว่าจะมาโกรธกัน ซึ่งไม่ได้ประโยชน์อันใด
ขอบคุณในความคิดเห็นอีกมุมมองครับ
" สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ = การให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง "
" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
- todsapon
- Verified User
- โพสต์: 1137
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เทคนิค [b] Arbitrage[/b] แบบบ้าน ๆ ในภาวะ[b] Cash Is K
โพสต์ที่ 4
อาบิจาทคือกำไรเมื่อซื้อไม่ใช่กำไรเมื่อขาย เช่น ขายของ ทุกวันนี้สมมุติว่าซื้อสินค้ามาราคาหนึ่งในราคา 500 บาท จะไปขายให้คน ๆ หนึ่งในราคา 600 บาท ซึ่งเรารู้ว่าเขาต้องการมันแน่ ๆ นั่นน่าจะเป็นอาบิจาทมากกว่าครับ กรณีของ SSC ก็เคยมีอาบิจาท แต่ผมไ่ม่ได้เล่นเพราะรู้สึกว่าได้น้อยไป ความจริงก็ได้ตั้ง 10% ลงทุนไม่กี่เดือน เสียดายมาก ๆKGYF เขียน:simplelife เขียน:พูดตรงๆนะครับ ว่า "ฟลุ๊ก" หวังว่าจะไม่โกรธกันนะครับ เพราะคุณผิดตั้งแต่เอาทองไป "จำนำ" แล้วครับ
ถ้าทองพวกนี้ไม่ได้มีความหมายทางใจกับคุณ เช่นเจ้าคุณปู่ให้มาเป็นมรดกตกทอด เป็นเข็มขัดทองที่คุณย่าทวดชอบใส่ อะไรประมาณนั้น คุณควรจะ"ขาย"ทิ้งไปครับ พวกสร้อยลายธรรมดา ซื้อเมื่อไรก็ได้ ได้เงินคืนมาเมื่อไร ไปซื้อคืนที่ร้านได้ง่ายๆ มานั่งจ่ายดอกอยู่ทำไมครับ
ถ้าหุ้นมันไม่ไปไหนซะปี ก็โดนดอกไปแล้ว 15% เท่านี้ยังไม่พอ ถ้าตอนคุณเอาทองไปจำ ทองบาทละ 27,000 พอเอาไปจำเขาหัก 15%(มั้ง?) จะได้ เงินสด 23,000 ณ วันนี้ทองเหลือแค่ 23,000 แต่คุณต้องเอาเงินต้น 23,000 ไปจ่าย เท่ากับว่าคุณเสียเงินไปฟรีๆ เพราะจ่ายไป 23,000 ได้ของมูลค่า 23,000 กลับมา โดนทั้งขึ้นทั้งล่องเลย สู้ขายไปแต่แรกเอาเงิน 27,000 หักไม่กี่ร้อยบาท ได้เงิน 26,000 มา วันนี้เอาไปซื้อทองยังเงินเหลืออีก 3,000 ดีกว่าเห็นๆครับ
ไม่โกรธแน่นอนครับ ผมกลับถือว่าเป็นอีกมุมให้เราได้ต่อยอดความคิดมากกว่าครับ ผมชอบอ่านความเห็นที่แตกต่าง เพื่อนำมาปรับปรุงมากกว่าจะมาโกรธกัน ซึ่งไม่ได้ประโยชน์อันใด
ขอบคุณในความคิดเห็นอีกมุมมองครับ
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
- pongo
- Verified User
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เทคนิค [b] Arbitrage[/b] แบบบ้าน ๆ ในภาวะ[b] Cash Is K
โพสต์ที่ 5
กรณีนี้ไม่ใช่ arbitrage นะครับ เป็นแค่การสวิตช์ asset ที่คุณ KGYF คำนวณออกมาแล้วว่า asset class ตัวไหนมี upside มากกว่า
ก็ขายตัวที่ upside น้อยกว่า หรือมี cost of fund ต่ำกว่ามาซื้อเท่านั้นเอง
ก็ขายตัวที่ upside น้อยกว่า หรือมี cost of fund ต่ำกว่ามาซื้อเท่านั้นเอง
- todsapon
- Verified User
- โพสต์: 1137
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เทคนิค [b] Arbitrage[/b] แบบบ้าน ๆ ในภาวะ[b] Cash Is K
โพสต์ที่ 6
แล้วของผมนี่เรียกว่าอาบิจาทหรือเปล่าครับtodsapon เขียน:อาบิจาทคือกำไรเมื่อซื้อไม่ใช่กำไรเมื่อขาย เช่น ขายของ ทุกวันนี้สมมุติว่าซื้อสินค้ามาราคาหนึ่งในราคา 500 บาท จะไปขายให้คน ๆ หนึ่งในราคา 600 บาท ซึ่งเรารู้ว่าเขาต้องการมันแน่ ๆ นั่นน่าจะเป็นอาบิจาทมากกว่าครับ กรณีของ SSC ก็เคยมีอาบิจาท แต่ผมไ่ม่ได้เล่นเพราะรู้สึกว่าได้น้อยไป ความจริงก็ได้ตั้ง 10% ลงทุนไม่กี่เดือน เสียดายมาก ๆKGYF เขียน:simplelife เขียน:พูดตรงๆนะครับ ว่า "ฟลุ๊ก" หวังว่าจะไม่โกรธกันนะครับ เพราะคุณผิดตั้งแต่เอาทองไป "จำนำ" แล้วครับ
ถ้าทองพวกนี้ไม่ได้มีความหมายทางใจกับคุณ เช่นเจ้าคุณปู่ให้มาเป็นมรดกตกทอด เป็นเข็มขัดทองที่คุณย่าทวดชอบใส่ อะไรประมาณนั้น คุณควรจะ"ขาย"ทิ้งไปครับ พวกสร้อยลายธรรมดา ซื้อเมื่อไรก็ได้ ได้เงินคืนมาเมื่อไร ไปซื้อคืนที่ร้านได้ง่ายๆ มานั่งจ่ายดอกอยู่ทำไมครับ
ถ้าหุ้นมันไม่ไปไหนซะปี ก็โดนดอกไปแล้ว 15% เท่านี้ยังไม่พอ ถ้าตอนคุณเอาทองไปจำ ทองบาทละ 27,000 พอเอาไปจำเขาหัก 15%(มั้ง?) จะได้ เงินสด 23,000 ณ วันนี้ทองเหลือแค่ 23,000 แต่คุณต้องเอาเงินต้น 23,000 ไปจ่าย เท่ากับว่าคุณเสียเงินไปฟรีๆ เพราะจ่ายไป 23,000 ได้ของมูลค่า 23,000 กลับมา โดนทั้งขึ้นทั้งล่องเลย สู้ขายไปแต่แรกเอาเงิน 27,000 หักไม่กี่ร้อยบาท ได้เงิน 26,000 มา วันนี้เอาไปซื้อทองยังเงินเหลืออีก 3,000 ดีกว่าเห็นๆครับ
ไม่โกรธแน่นอนครับ ผมกลับถือว่าเป็นอีกมุมให้เราได้ต่อยอดความคิดมากกว่าครับ ผมชอบอ่านความเห็นที่แตกต่าง เพื่อนำมาปรับปรุงมากกว่าจะมาโกรธกัน ซึ่งไม่ได้ประโยชน์อันใด
ขอบคุณในความคิดเห็นอีกมุมมองครับ
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ