[b]หมอฟรอยด์กับนักลงทุนขวางโลก[/b]

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

[b]หมอฟรอยด์กับนักลงทุนขวางโลก[/b]

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมอ่านเรื่อง CI ของอาจารย์ ท่านพูดตอนหนึ่งเกี่ยวกับเรื่อง reflexivity
นึกถึงเรื่องสมมุติบทสนทนาของหมอฟรอยด์กับนักลงทุนขวางโลก
ไม่ตกยุคเช่นกันครับ ดังเช่นตัวอย่างตอนหนึ่ง หมอฟรอยด์พูดว่า.....

" คนที่ใฝ่หาใครสักคนที่เป็นแบบอย่างในอุดมคติที่เขาต้องการเป็นจะเหนื่อยหน่อยครับ เขาจะมีชีวิตอยู่กับการวิ่งตาม เพราะไม่อาจตัดสินใจได้ว่าตัวเขาเองนั้น แท้จริงเป็นใคร เป็นคนในอุดมคติหรือเป็นตัวตนที่แท้จริง เขาไม่อาจไว้ใจตัวเองได้ สูญเสียความเชื่อมั่น เมื่อใครบางคนเสียตรงนั้นไป เขาก็พร้อมเป็นทาสของใครก็ได้ นักลงทุนท่านใดก็ได้ พระรูปไหนก้ได้ นักการเมืองคนไหนก้ได้ พวกเขาไม่อาจยืนด้วยตัวเองได้อีก ต้องการพึ่งพิงใครบางคน บางที ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครด้วยซ้ำ ต้องการให้ใครบางคนก็ได้มาบอกว่าพวกเขาเป็นสิ่งนี้สิ่งนั้น พวกเขาต้องการให้ใครมอบ "อัตลักษณ์" ให้ตัวเอง โดยลืมธรรมชาติและตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไป"

.......................

หมอฟรอยด์กับนักลงทุนขวางโลก

หมอฟรอยด์ : อ้าว สวัสดีครับ เป็นไง วันนี้ลมอะไรพัดมา

นักลงทุนขวางโลก : สวัสดีครับพี่หมอ นี่เพื่อนผมครับพี่หมอ เพื่อนผมเป็นนักลงทุนครับ ผมเล่าให้เขาฟังว่าพี่หมอเคยช่วยแก้ปัญหาอีโก้ของผม เขามีปัญหาเหมือนกัน วันนี้เลยพามาหาพี่หมอครับ

หมอฟรอยด์ : สวัสดีครับ ชื่ออะไรครับ

เพื่อนท่านขวางโลก : สวัสดีครับพี่หมอ ผมชื่อ ฮิต เลอร์ ครับ

หมอฟรอยด์ : เรื่องเป็นอย่างไรครับน้องฮิต

ฮิต เลอร์ : ผมไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองเลยครับ เวลาจะลงทุน ผมชอบเอาความคิดไปเทียบเคียงกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ผมไม่กล้าตัดสินใจเอง ต้องตามคนอื่นตลอด บางทีผมก็ทำทีว่าวิเคราะห์หุ้นด้วยตัวเอง แต่จริงๆ ผมไปอ่านของคนอื่นอีกที แล้วก็แสร้งว่าเป็นความคิดของผมเองครับ ทำไงครับพี่หมอที่จะกล้าตัดสินใจด้วยตัวเองได้ซะทีครับ


นักลงทุนขวางโลก : ประมาณอย่างนี้หรือปล่าวครับ นักลงทุนท่านนี้ไม่เพียงใช้ความคิดเห็นของคนอื่นๆ เป็นเครื่องประเมินผลกับความคิดตัวเองเท่านั้น แต่ยังใช้เพื่อเป็นแนวทางว่า เขาควรจะปฏิบัติอย่างไรในการซื้อขายหุ้นด้วยครับ

ฮิต เลอร์ : ใช่เลยครับ บางครั้งผมก็อยู่ในสภาพการณ์ที่ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรจึงจะถูกต้องครับ


หมอฟรอยด์ : ลองสมมุติตัวอย่างสักอันได้ไหมครับ อย่างเวลาน้องฮิต ไปร้านอาหารญี่ปุ่นนี่ ยกน้ำแกงขึ้นซดไหม

ฮิตเลอร์ : ในร้านญีปุ่น ใคร ๆ เขาก็ทำกันนะครับ ถ้าผมขอช้อนเขามาตักน้ำแกง ทำให้ผมดูเซ่อดูเป็นตัวตลกไปเลยนะครับ ผมเห็นคนญึ่ปุ่นนั่งข้างๆ สี่ห้าคน เขายกซดกันหมดเลยครับ

หมอฟรอยด์ : ในไม่ช้าน้อง ฮิต ก็ยกขึ้นซดบ้าง

ฮิต เลอร์ : จะเหลือหรือครับพี่หมอ ผมซดดังซู้ดซ้าดเลยครับ

หมอฟรอยด์ : น้องขวางโลกยกซดไหม

นักลงทุนขวางโลก : ผมไม่ถนัดครับพี่หมอ ผมขอช้อนเขา ในกรณีอย่างร้านญึ่ปุ่น ผมไม่ถือว่า คนอื่นที่นั่งในร้านกำลังชักชวนให้เราทำตามเขา แต่มันหมายความว่า การกระทำของคนอื่นๆ มีอิทธิพลต่อเราโดยทางอ้อมครับ อย่างกรณีของน้องฮิต "กลุ่มอ้างอิง" ที่ใช้เปรียบเทียบและมีอิทธิพลต่อเขาเป็นคนญี่ป่นซะด้วยครับ ในกรณีอย่างนั้นพูดยากนะครับที่จะไม่ทำตาม แต่ผมขอช้อนดีกว่าครับ

ฮิต เลอร์ : เอ้ย ขวางโลก นายไม่เข้าใจเรานะ ถ้าเราขอช้อนตอนนั้นนะ ทุกคนในร้านคงมองเราอย่างสมเพช ระคนเวทนาและขบขันนะโว้ยเฮ้ย เราไม่เหมือนนายหรอกเว้ย นายชอบทำตัวแหกคอก เดียวก็เหมือนเว็บการลงทุน xxxxxx .com นั้นหรอก ที่เขาต่อต้านนายอย่างเงียบๆ และสุดท้ายก็ไล่นายออกจากกลุ่ม นายยังจำได้ไหม พี่หมอครับ คลื่นใหญ่มันมีปัญหาใช่ไหมครับ

นักลงทุนขวางโลก : เราชอบเป็นปลาที่ว่ายทวนน้ำ ไม่เหมือนนายหรอกที่อะไรก็ทำตามคนอื่นเขา ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง พี่หมอครับ ไอ้ฮิต มันมีปัญหาใช่ไหมครับ

หมอฟรอยด์ : กลุ่มเรียกร้องต้องการให้สมาชิกทำตามกลุ่มเพื่อเสถียรภาพและความมั่นคงของกลุ่มครับ คนที่แหกคอกจะทำให้ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยของกลุ่มกระทบกระเทือนและสั่นคลอนเสถียรภาพและความมั่นคงของกลุ่ม เราคงเคยได้ยินเสียงเรียกร้องแบบนี้ในเว็บการลงทุนบ่อย ๆ นะครับ บางอย่างโดยเฉพาะสังคมเล็ก ๆ ก็กำหนดเอาใว้อย่างชัดเจนเลยว่า เราต้องทำอย่างนี้ เราต้องทำอย่างนั้น ถ้าเราไม่ทำตาม เราก็จะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมนั้น ๆ

นักลงทุนขวางโลก : คนเราอาจยอมรับตามกลุ่ม แต่ความจริงภายในใจของตนเองอาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้ครับ

หมอฟรอยด์ : ฟังดูแล้วดูเหมือนจะให้ความรู้สึกไปในทางลบ แต่การยอมตามสังคมคนกลุ่มใหญ่เป็นสิ่งจำเป็น ถ้าสังคมไม่มีกฏเกณฑ์หรือคนไม่ยอมตามสังคมเลย อะไรจะเกิดขึ้น ถ้ารถไม่ยอมจอดเมื่อถึงสี่แยกไฟแดง การจราจรก็คงวุ่นวายใช่ไหมครับ

นักลงทุนขวางโลก : ก็ใช่ครับพี่หมอ ผมก็ไม่ถึงกับขวางไปทุกอย่าง แต่ก้ไม่ถึงกลับเออออห่อหมกกับคนอื่นไปทุกอย่างเหมือนกันนะครับ

หมอฟรอยด์ : ในกรณีของน้องฮิต เมื่อเขามีความคิดอะไรก็ตาม เขาจะคิดไปก่อนว่า ความคิดของตัวเองถูกต้องหรือไม่ ถ้าลองเอาไปเทียบกับคนอื่นแล้วพบว่าความคิดของเขาคล้ายกับคนหมู่มากนะ เขาจะมั่นใจมากขึ้นว่าความคิดของเขาจะถูกต้อง

ฮิต เลอร์ : ใช่ครับ รู้สึกชักจะอบอุ่นใจบ้างที่มีเพื่อนนะครับ ยิ่งมั่นใจมากขึ้นด้วยครับ

หมอฟรอยด์ : เคยได้ยินคนที่ชื่อ อาดอฟ ฮิตเลอร์ ไหมครับ

ฮิต เลอร์ : เคยครับ พี่หมอ ทำไมหรือครับ

หมอฟรอยด์ : ทราบไหมครับ อาดอฟ ฮิตเลอร์เกี่ยวข้องกับการลงทุนอย่างไรบ้าง

นักลงทุนขวางโลก : ในแง่มุมเรื่องจิตวิทยาฝูงชนครับพี่หมอ ฮิตเลอร์ชอบอ่านหนังสือชื่อ The Crowd ของ Le bon นักสังคมวิทยาการเมืองชาวฝรั่งเศสมากครับ มีนักลงทุนเฮจฟันหลายท่านที่กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้โดยเฉพาะ Ed Seyketa เซียนจิตวิทยาการลงทุนครับ

ฮิต เลอร์ : ไอเดียหลักของ เลอ บอง คืออะไรครับ

หมอฟรอยด์ : Lebon บอกว่า การชักจูงและชี้นำในช่วงเวลาการชุมนุม สามารถทำให้ปัจเจกบุคคลสูญเสียความมีเหตุผล และสำนึกในศีลธรรม และก่อให้เกิดลักษณะ “อารมณ์และจิตใจร่วมเป็นหนึ่งเดียว” และเป็นภาวะของอารมณ์ที่เกินความเป็นจริง ยิ่งกว่านั้น ในที่สุด เกิดภาวะแพร่ระบาด เป็นภาวะที่สมาชิกในที่ชุมนุม ยอมทำตามการชักจูงชี้นำ คำสั่ง และปฏิบัติการของผู้นำชุมนุม หรือการเคลื่อนไหว ใช่ มั๊ยพี่น้อง” “ใช่… ไม่ใช่?” “ ขอเสียงหน่อย คงคุ้นๆ นะครับ

ฮิต เลอร์ : ทำไมคนมากมายถึงตกหลุมพรางฮิตเลอร์ ยอมทำตามที่เขาสั่งทุกอย่างครับ


หมอฟรอยด์ : คนอย่าง อาดอฟ ฮิตเลอร์ โจเสฟ สตาลิน เหมาเซตุง จะเกิดขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าครับ ถ้าหากคนยังไม่ทิ้งความคิดเรื่องอุดมคติครับ

นักลงทุนขวางโลก : อุดมคติอะไรครับ

หมอฟรอยด์ : คนที่ใฝ่หาใครสักคนที่เป็นแบบอย่างในอุดมคติที่เขาต้องการเป็นจะเหนื่อยหน่อยครับ เขาจะมีชีวิตอยู่กับการวิ่งตาม เพราะไม่อาจตัดสินใจได้ว่าตัวเขาเองนั้น แท้จริงเป็นใคร เป็นคนในอุดมคติหรือเป็นตัวตนที่แท้จริง เขาไม่อาจไว้ใจตัวเองได้ สูญเสียความเชื่อมั่น เมื่อใครบางคนเสียตรงนั้นไป เขาก็พร้อมเป็นทาสของใครก็ได้ พระรูปไหนก้ได้ นักการเมืองคนไหนก้ได้ พวกเขาไม่อาจยืนด้วยตัวเองได้อีก ต้องการพึ่งพิงใครบางคน บางที ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครด้วยซ้ำ ต้องการให้ใครบางคนก็ได้มาบอกว่าพวกเขาเป็นสิ่งนี้สิ่งนั้น พวกเขาต้องการให้ใครมอบ "อัตลักษณ์" ให้ตัวเอง โดยลืมธรรมชาติและตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไป

นักลงทุนขวางโลก : ผมมีอีโก้มากเกินไป พี่หมอสอนให้ผม สลาย อีโก้ ของตัวเอง แต่ฮิตเขาไม่มี "อีโก้" เลย แต่กลับพยายามที่จะมีมันขึ้นมา ยังไงกันครับพี่หมอ

หมอฟรอยด์ : ไม่ใช่ไม่อีโก้เลยครับ เคสของน้องฮิตเขาแยกออกเป็นสองเสี่ยงที่ขัดแย้งกันตลอด คือเขามีแบบอย่างในอุดมคติที่ต้องไปให้ถึงกับตัวเขาเอง และเป็น "ตัวเอง" ที่ตัวเขาไม่ชอบและไม่ได้รับการยกย่องจากตัวเอง แบบอย่างยิ่งมีมากเท่าใด ยิ่งเป้นโรคจิตเภทมากขึ้นเท่านั้น ตัวตนของเขาไม่นานจะแยกเป็นเสี่ยงครับ

นักลงทุนขวางโลก : พี่หมอแนะนำไอ้ฮิตมันอย่างไรครับ

หมอฟรอยด์ : สิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุด มองเห็นตัวเองอย่างที่เขาเป็น ไม่ใช่เป้นแบบคนอื่น เขาต้องทำตัวให้ว่างเปล่าจากตัวตนอย่างถึงที่สุด ยิ่งตะหนักรู้ในตัวเขาเองมากเท่าใด ตัวเขาก็จะดำรงอยู่น้อยเท่านั้นครับ

ผมขอจบเพียงแค่นี้ครับ
ขอบคุณครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ
sakkaphan
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1111
ผู้ติดตาม: 0

Re: [b]หมอฟรอยด์กับนักลงทุนขวางโลก[/b]

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณครับ ชอบมากครับ

ผมเป็นคนนึงที่มีอีโก้สูงอยู่เหมือนกัน ตอนเริ่มลงทุนนี่ คิดว่าตัวเองถูกตัวเองแน่ ไม่คิดจะหาความรู้จากผู้ที่มีประสบการณ์มาแล้ว หนังสือด้านการลงทุนก็อ่านเล่มเดียวแล้วคิดว่าตัวเองแน่ คิดว่าพอรู้พื้นฐานคร่าวๆแล้วที่เหลือคิดเองก็ได้ ไม่คิดจะตามใครหรอก....สมัครสมาชิกthaiviก็สมัครไปงั้นๆไม่เคยมาสนมาอ่าน
จนกระทั่งลงทุนไปเรื่อยๆ เริ่มเห็นว่า ไม่สำเร็จ ลองเปลี่ยนวิธีบ้างแล้ว ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่ใช่ จนในที่สุดยอมสลายอีโก้ตัวเอง เริ่มอ่านหนังสือมากขึ้น และเริ่มเข้าเว็บบอร์ดมาหาความรู้ ถามพี่ๆที่มีประสบการณ์ ทำให้พอค้นพบหนทางของตัวเองในที่สุด

ไม่ว่าจะมีอีโก้สูงไปจนไม่ฟังไม่รับรู้สิ่งรอบด้าน หรือไม่มีอีโก้เลยจนทำอะไรไม่ถูกต้องให้เซียนชี้นำตลอด อย่างไหนมันก็ไม่ดีทั้งนั้นละครับ ที่ดีที่สุดสำหรับผมมันคือการbalanceให้ได้ระหว่าง2สิ่งนี้

ไม่รู้ว่าระหว่างการไม่มีอีโก้ในตนเองเลย กับมีอีโก้สูงเกินไป อย่างไหนจะแก้ยากกว่ากัน
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
paracet
Verified User
โพสต์: 62
ผู้ติดตาม: 0

Re: [b]หมอฟรอยด์กับนักลงทุนขวางโลก[/b]

โพสต์ที่ 3

โพสต์

อีโก้ที่สูงเป็นเรื่องที่ดีครับ เพราะมันจะคอยควบคุม Ids ในร่างกายเราให้อยู่ใน Norm


ว่าแต่ว่าอีโก้ ของคุณมันแปลว่าอะไรกันแน่
anuchitkova
Verified User
โพสต์: 28
ผู้ติดตาม: 0

Re: [b]หมอฟรอยด์กับนักลงทุนขวางโลก[/b]

โพสต์ที่ 4

โพสต์

thank you for a good post kub :roll:
noname
ภาพประจำตัวสมาชิก
ซุนเซ็ก
Verified User
โพสต์: 1104
ผู้ติดตาม: 0

Re: [b]หมอฟรอยด์กับนักลงทุนขวางโลก[/b]

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เขึยนได้ดีมากครับพี่ ชอบ +1
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
ภาพประจำตัวสมาชิก
peacedev
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 0

Re: [b]หมอฟรอยด์กับนักลงทุนขวางโลก[/b]

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ชอบบทความนี้คับ

ส่วนตัวผมคิดว่าเรื่องทำตามหรือเลียนแบบคนอื่นหรือการใฝ่หาบุคคลในอุดมคติเพื่อฝากอัตลักษณ์ของตนเอาไว้ กับการไม่มีอีโก้นี่เป็นคนละเรื่องกันครับ
ผมเคยเจออยู่เคสหนึ่งที่ชัดมาก บุคลิกภายนอกเขาดูเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองมาก แต่นั่นเป็นเพียงอัตลักษณ์ที่เขาดึงมาจากคนอื่นอีกที ลึก ๆ แล้วเขาไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเองเลย เขาจะต้องคอยมีบุคคลในอุดมคติและคอยทดสอบอยู่เสมอ ว่าบุคคลนั้นยังเชื่อถือได้หรือไม่ เวลาซื้อของก็ต้องดูที่แพงและมีแบรนด์ไว้ก่อน เพราะไม่รู้สึกว่าของแพงมันต้องดีไม่โดยหลอกชัวร์ แต่ไม่ค่อยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยจริง ๆ เท่าไหร่ ขนาดเวลามีแฟนยังคอยถามคนอื่นเลย ว่าแฟนเขาสวยใช่ไหม

แต่ประเด็นจริง ๆ ก็คือ คน ๆ นี้เขากลับมีอีโก้สูงมาก การที่เขาฝากอัตลักษณ์ไว้กับอุดมคติของตน มันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นแบบนั้นจริง ๆ
เขาเริ่มคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น ๆ ที่ได้พบเจอ และเริ่มยกตนข่มผู้คนรอบตัว เริ่มแสดงตัวเป็นผู้รู้เพื่อให้ได้มาซึ่งการยอมรับ แต่สิ่งที่เขาทำได้จริง ๆ นั้นเป็นเพียงแค่ลอกมาแต่เปลือกเท่านั่น จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อแก่นข้างในกลับกลวงโบ๋
sattaya
Verified User
โพสต์: 1372
ผู้ติดตาม: 0

Re: [b]หมอฟรอยด์กับนักลงทุนขวางโลก[/b]

โพสต์ที่ 7

โพสต์

สวัสดีครับพี่โหน่ง

โพสของพี่โหน่งยังคงมีคำสอนอยู่เสมอ ขอบคุณครับ
สติมา ปัญญาเกิด
โพสต์โพสต์