ใครอ่านนสพ.ทันหุ้นบ้างครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
ใครอ่านนสพ.ทันหุ้นบ้างครับ
โพสต์ที่ 1
ใครอ่านบ้างครับ ผมรุ้สึกว่า ข้อมูลไร้สาระมาก ห่วยระดับโลกทีเดียว
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
- untrataro25
- Verified User
- โพสต์: 952
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ใครอ่านนสพ.ทันหุ้นบ้างครับ
โพสต์ที่ 2
หนังสือพิมพ์ ปั่นหุ้น น่ะหรือครับ
"เพราะเรียบง่าย จึงชนะ"
- Unstablemind
- Verified User
- โพสต์: 405
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ใครอ่านนสพ.ทันหุ้นบ้างครับ
โพสต์ที่ 3
I read it to get my daily 555
Its all about getting alpha.
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ใครอ่านนสพ.ทันหุ้นบ้างครับ
โพสต์ที่ 5
มี 2 หนังสือพิมพ์ ลงท้ายด้วยคำว่า "หุ้น" เหมือนกัน
ทุกวันจะมีคนสรุป เอาแต่หัวข้อข่าวไปกระจาย ผ่านระบบข้อความอิเลคทรอนิคส์
ซึ่งผม "คาด" แต่ไม่มีข้อมูลยืนยัน ว่าข่าวนี้ น่าจะไปถึงคนร้อยละ 80-90 ที่เป็นนัก "เล่น" หุ้น
เพราะยุคใหม่ มี mail group อีก
webboard ต่างๆ copy ส่งต่อๆ กัน
ไม่ถึงกับเหมือนจดหมายลูกโซ่ แต่ก็เข้าสู่ประสาทการรับรู้ของคนจำนวนมาก
เผยแพร่กระจายดุจดังเป็นข่าวสารอันน่าเชื่อถือ
แม้แต่โบรคฯ ที่มีสมาชิกรายย่อยมากสุด ก็เอาไปส่งผ่าน e-mail ด้วย ตอนสายๆ แต่ก็ก่อนเปิดตลาด หลังช่วงที่คนเริ่มนั่งเปิด comp ตอนเช้า คนถึงที่ทำงานกันแล้ว และรอเริ่มจะติดตาม "การแสดงสด" ของตลาดประมูลตัวเลข ตอนสิบโมง บางคนอยู่บ้าน ก็บิดขี้เกียจออกไปแล้ว
บางทีก็ใช่ มีเค้าลาง บางทีก็ปั้นสร้างความหวัง
แต่ที่เหมือนกันทุก "หัวข้อข่าว" คือจะเขียน "ขยาย" ให้ใจนักเล่นหุ้นพองโต
แล้วพอมันยำกัน คนเลยหวัง ว่ามันเป็น "ข้อมูลจริง" ส่วนใหญ่
ยิ่งชื่อย่อไหน ตรงกับชื่อหุ้นตัวเองสนใจ ก็พร้อมจะกระโจนไปหา หรือหุ้นไหนตัวเองถืออยู่ อาจอดไม่ได้ ที่จะไปมอง ticker ตอนเปิดตลาด เผลอๆ ขาย เพราะถูกชักนำให้เขว
ที่เห็นบ่อยๆ สำนวน จะประเภท "ส่งซิกเกินเป้า" "โบรกประเมินกำไรโต" "ปั๊มกำไร" "ดันตัวเลข" "ปักธงรายได้" "คาดกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง" "งบหรู" "ส่องผลงาน" ฯลฯ
บ่อยครั้ง ผมพบว่ามีการยกเมฆ
บางทีคิดจะกระตุ้นหุ้นตัวไหน ก็เขียนข้อมูลเชิงจิตวิทยา ทำนองที่เราเห็นอยู่ขึ้นมาดื้อๆ
หัวข้อข่าวสรุปแบบนี้ เคยมีการอ้าง "กรุงเทพธุรกิจ" และ "x หุ้น" ทั้งสองเล่ม ด้วย แต่พอผมไปหากรุงเทพธุรกิจและ x หุ้น ในช่วงอาทิตย์นั้น กลับไม่มีข่าวที่ว่าจริง
แต่ที่ผมตั้งข้อสงสัย มีหุ้นที่กิจการดีจริง ผลประกอบก็ดี แต่มีข่าวลักษณะนี้ด้วย
ไม่อยากมองแง่ร้าย ดังนั้นจึงขอตั้งข้อสังเกตเป็นลักษณะ "ทฤษฎีสมคบคิด" ที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ว่ามีหุ้นดังๆ หรือแม้แต่ที่คิดว่ากิจการพื้นฐานดี จำนวนมาก เสมือนจะมีอะไรเบื้องหลังกับสื่อไม่กี่ฉบับเหล่านี้
หรือก็อาจประเภท "เจ้ามือ" จำนวนมาก ฉวยโอกาส "แอบอ้าง" ว่าเป็นข่าวจากหนังสือ "x หุ้น" ตอนจะโปรโมท กระต้นหุ้นตัวเอง โดยเฉพาะช่วงตลาดซบเซา หรือช่วงยังไม่มี "สตอรี่" กับหุ้นตัวเอง
แล้ว "โบรกเกอร์" ซึ่งจะได้ประโยชน์เมื่อรายย่อยซื้อขายเยอะ ก็จะผสมโรงไปด้วย เอาไปกระจาย เหมือนข่าวปั่นหัวตอนสงคราม ข่าวลือที่ใช้ในวงการเมือง แต่นี่เป็นยุคดูถูจอและดูโอ้คอร์ เอามาใช้การเงินการทองของมวลมหาชน
อย่างกรณีศึกษา ผมเคยสังเกตหุ้นมือถือตัวหนึ่ง ตอนที่ราคาอยู่แถวราว 40 ปลาย อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนๆ เจ้ากรมข่าวลือเหล่านี้ ก็กระตุ้นด้วยการ ตั้งตัวเลข "ลอยลม" "สรุปหัวข้อข่าว" ตั้งเป้ามา 60 กว่าบาทดื้อๆ แล้วอ้างอย่างที่บอก
แล้วก็ได้ผล ว่ามันพุ่งขึ้นอย่างมากตอนเปิดตลาด แม้จะไม่ถึงตัวเลขตอนนั้น และตอนสายจะหล่นลงไป แต่ก็ยืนขึ้นมาสูงกว่าวันก่อนหน้าได้
แบบนี้ ผมไม่รู้สึกปลื้มเท่าไหร่ แม้ตอนนั้นผมถือหุ้นนั้นอยู่ด้วย แม้ตอนหลังคนจะแห่ตามกันเพราะหวังปันผล เพราะมันไม่ยั่งยืนเหมือนตอนข้อมูลจริงออกมา
แล้วแบบนี้เกิดบ่อยๆ ไม่รู้มีรายย่อย "เสี่ยงโชครายวัน" กี่พันกี่หมื่นราย อาจถูก "เซียนปล่อยของ" พวกนี้หลอกกินรายวัน พอซื้อราคาสูงเขาปล่อยของเสร็จ ราคาร่วง ตอนปิดตลาดก็จำยอมขายขาดทุน เพราะผิดหวังไม่เห็นมัน "วิ่ง" อย่างที่คิด
เป็นไปตามทฤษฎีเกม zero-sum game เสี่ยงโชค มีคนได้ ต้องมีคนเสีย เพราะเงินไม่ได้เสกมาเอง เรียกการจ่ายเงินเพื่อหวังผลกำไรไม่กี่ชั่วโมงว่าการลงทุน
ต่างจากการลงทุนจริงๆ ที่มีแต่คนได้กับได้ เมื่อเอาเงินไปทำงานถูกต้องเกิดคุณค่าทางเศรษฐศาสตร์จริง เพราะมาจากการสะท้อนผลกำไรจากงานของกิจการและการปันส่วนแบ่งที่เพิ่มจริง
เพราะหัวข้อ พูดถึงหนังสือพิมพ์นี้ ก็เลยต้องวิจารณ์สิ่งที่เห็น บางส่วน นอกเรื่อง "คุณค่า" ไปเยอะ แต่พูดความจริงจากที่สังเกตมา
"ใครอ่านนสพ.ทันหุ้นบ้างครับ"
ผมไม่เคยซื้อสักครั้ง (ฉบับกระดาษเห็นบ่อยๆ ก็ตอนไปเข้าเล้า(จน์) รอเครื่อง ของบางกอกแอร์ที่สุวรรณภูมิ ยังแปลกใจ ว่าบางกอกแอร์คาดหวังว่านักเล่นหุ้น เป็นกลุ่มลูกค้าของบางกอกแอร์ด้วยหรือไงไม่ทราบ เพราะรับประจำ)
แต่ชอบสังเกต ยืนยันว่า "อ่านหัวข้อรายวัน" อย่างที่เห็น
หลังจากอ่านทฤษฎีมา ตอนแบบนี้เป็นโอกาส ที่เราจะศึกษากว้างๆ วิชา behavioral finance ของจริง
การใช้ข่าวของผู้ชักนำ และพฤติกรรมฝูงชนไปทางไหน
เพราะราคาหุ้นที่เราเห็น มันคือก็คือราคาที่มนุษย์เราๆ ตั้งขึ้น ไม่ได้มีบัญญัติตายตัว พระเจ้าและธรรมชาติไม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์ไว้ เหมือน 1 วัน ที่ต้องมีราว 24 ชั่วโมง
แม้แต่ที่เราคิดว่า intrinsic value มันคือส่วนผสมความคาดหวังลงไปคลุกกันกับพื้นฐาน เราเลยมีคำว่า "forward" ทั้งหลาย ไม่ได้อยู่กับตัวเลขปัจจุบันเท่านั้น
เราคงไม่อาจไปเตือนคนที่แห่ตามกันได้ เพราะมันมากมายจนเกินขอบเขตเรา
แต่เราใช้จังหวะและโอกาสแบบที่ปรมาจารย์ทั้งหลายสอนไว้ดีกว่า
(ถึงแม้เราไม่ใช่ day trade แต่ซื้อ-ขายนานๆ ครั้งก็ตาม...) ตอนเราจะซื้อ ดูตอนที่คนเบื่อๆ
อย่าไปซื้อตอนที่เขา "ปล่อยข่าว หวังปล่อยของ"
ถ้าเกิดใกล้จังหวะจะขายอะไรขึ้นมา เราก็อาจจะผสมโรงไปด้วยเหมือนกัน ชอบสื่อทั้งหลายพวกนี้ตอนนั้น ไหนๆ ก็เตือนคนอื่นไม่ได้ แอบเห็นแก่ตัวเล็ก ด้วยดีกั่ว:twisted:
ทุกวันจะมีคนสรุป เอาแต่หัวข้อข่าวไปกระจาย ผ่านระบบข้อความอิเลคทรอนิคส์
ซึ่งผม "คาด" แต่ไม่มีข้อมูลยืนยัน ว่าข่าวนี้ น่าจะไปถึงคนร้อยละ 80-90 ที่เป็นนัก "เล่น" หุ้น
เพราะยุคใหม่ มี mail group อีก
webboard ต่างๆ copy ส่งต่อๆ กัน
ไม่ถึงกับเหมือนจดหมายลูกโซ่ แต่ก็เข้าสู่ประสาทการรับรู้ของคนจำนวนมาก
เผยแพร่กระจายดุจดังเป็นข่าวสารอันน่าเชื่อถือ
แม้แต่โบรคฯ ที่มีสมาชิกรายย่อยมากสุด ก็เอาไปส่งผ่าน e-mail ด้วย ตอนสายๆ แต่ก็ก่อนเปิดตลาด หลังช่วงที่คนเริ่มนั่งเปิด comp ตอนเช้า คนถึงที่ทำงานกันแล้ว และรอเริ่มจะติดตาม "การแสดงสด" ของตลาดประมูลตัวเลข ตอนสิบโมง บางคนอยู่บ้าน ก็บิดขี้เกียจออกไปแล้ว
บางทีก็ใช่ มีเค้าลาง บางทีก็ปั้นสร้างความหวัง
แต่ที่เหมือนกันทุก "หัวข้อข่าว" คือจะเขียน "ขยาย" ให้ใจนักเล่นหุ้นพองโต
แล้วพอมันยำกัน คนเลยหวัง ว่ามันเป็น "ข้อมูลจริง" ส่วนใหญ่
ยิ่งชื่อย่อไหน ตรงกับชื่อหุ้นตัวเองสนใจ ก็พร้อมจะกระโจนไปหา หรือหุ้นไหนตัวเองถืออยู่ อาจอดไม่ได้ ที่จะไปมอง ticker ตอนเปิดตลาด เผลอๆ ขาย เพราะถูกชักนำให้เขว
ที่เห็นบ่อยๆ สำนวน จะประเภท "ส่งซิกเกินเป้า" "โบรกประเมินกำไรโต" "ปั๊มกำไร" "ดันตัวเลข" "ปักธงรายได้" "คาดกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง" "งบหรู" "ส่องผลงาน" ฯลฯ
บ่อยครั้ง ผมพบว่ามีการยกเมฆ
บางทีคิดจะกระตุ้นหุ้นตัวไหน ก็เขียนข้อมูลเชิงจิตวิทยา ทำนองที่เราเห็นอยู่ขึ้นมาดื้อๆ
หัวข้อข่าวสรุปแบบนี้ เคยมีการอ้าง "กรุงเทพธุรกิจ" และ "x หุ้น" ทั้งสองเล่ม ด้วย แต่พอผมไปหากรุงเทพธุรกิจและ x หุ้น ในช่วงอาทิตย์นั้น กลับไม่มีข่าวที่ว่าจริง
แต่ที่ผมตั้งข้อสงสัย มีหุ้นที่กิจการดีจริง ผลประกอบก็ดี แต่มีข่าวลักษณะนี้ด้วย
ไม่อยากมองแง่ร้าย ดังนั้นจึงขอตั้งข้อสังเกตเป็นลักษณะ "ทฤษฎีสมคบคิด" ที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ว่ามีหุ้นดังๆ หรือแม้แต่ที่คิดว่ากิจการพื้นฐานดี จำนวนมาก เสมือนจะมีอะไรเบื้องหลังกับสื่อไม่กี่ฉบับเหล่านี้
หรือก็อาจประเภท "เจ้ามือ" จำนวนมาก ฉวยโอกาส "แอบอ้าง" ว่าเป็นข่าวจากหนังสือ "x หุ้น" ตอนจะโปรโมท กระต้นหุ้นตัวเอง โดยเฉพาะช่วงตลาดซบเซา หรือช่วงยังไม่มี "สตอรี่" กับหุ้นตัวเอง
แล้ว "โบรกเกอร์" ซึ่งจะได้ประโยชน์เมื่อรายย่อยซื้อขายเยอะ ก็จะผสมโรงไปด้วย เอาไปกระจาย เหมือนข่าวปั่นหัวตอนสงคราม ข่าวลือที่ใช้ในวงการเมือง แต่นี่เป็นยุคดูถูจอและดูโอ้คอร์ เอามาใช้การเงินการทองของมวลมหาชน
อย่างกรณีศึกษา ผมเคยสังเกตหุ้นมือถือตัวหนึ่ง ตอนที่ราคาอยู่แถวราว 40 ปลาย อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนๆ เจ้ากรมข่าวลือเหล่านี้ ก็กระตุ้นด้วยการ ตั้งตัวเลข "ลอยลม" "สรุปหัวข้อข่าว" ตั้งเป้ามา 60 กว่าบาทดื้อๆ แล้วอ้างอย่างที่บอก
แล้วก็ได้ผล ว่ามันพุ่งขึ้นอย่างมากตอนเปิดตลาด แม้จะไม่ถึงตัวเลขตอนนั้น และตอนสายจะหล่นลงไป แต่ก็ยืนขึ้นมาสูงกว่าวันก่อนหน้าได้
แบบนี้ ผมไม่รู้สึกปลื้มเท่าไหร่ แม้ตอนนั้นผมถือหุ้นนั้นอยู่ด้วย แม้ตอนหลังคนจะแห่ตามกันเพราะหวังปันผล เพราะมันไม่ยั่งยืนเหมือนตอนข้อมูลจริงออกมา
แล้วแบบนี้เกิดบ่อยๆ ไม่รู้มีรายย่อย "เสี่ยงโชครายวัน" กี่พันกี่หมื่นราย อาจถูก "เซียนปล่อยของ" พวกนี้หลอกกินรายวัน พอซื้อราคาสูงเขาปล่อยของเสร็จ ราคาร่วง ตอนปิดตลาดก็จำยอมขายขาดทุน เพราะผิดหวังไม่เห็นมัน "วิ่ง" อย่างที่คิด
เป็นไปตามทฤษฎีเกม zero-sum game เสี่ยงโชค มีคนได้ ต้องมีคนเสีย เพราะเงินไม่ได้เสกมาเอง เรียกการจ่ายเงินเพื่อหวังผลกำไรไม่กี่ชั่วโมงว่าการลงทุน
ต่างจากการลงทุนจริงๆ ที่มีแต่คนได้กับได้ เมื่อเอาเงินไปทำงานถูกต้องเกิดคุณค่าทางเศรษฐศาสตร์จริง เพราะมาจากการสะท้อนผลกำไรจากงานของกิจการและการปันส่วนแบ่งที่เพิ่มจริง
เพราะหัวข้อ พูดถึงหนังสือพิมพ์นี้ ก็เลยต้องวิจารณ์สิ่งที่เห็น บางส่วน นอกเรื่อง "คุณค่า" ไปเยอะ แต่พูดความจริงจากที่สังเกตมา
"ใครอ่านนสพ.ทันหุ้นบ้างครับ"
ผมไม่เคยซื้อสักครั้ง (ฉบับกระดาษเห็นบ่อยๆ ก็ตอนไปเข้าเล้า(จน์) รอเครื่อง ของบางกอกแอร์ที่สุวรรณภูมิ ยังแปลกใจ ว่าบางกอกแอร์คาดหวังว่านักเล่นหุ้น เป็นกลุ่มลูกค้าของบางกอกแอร์ด้วยหรือไงไม่ทราบ เพราะรับประจำ)
แต่ชอบสังเกต ยืนยันว่า "อ่านหัวข้อรายวัน" อย่างที่เห็น
หลังจากอ่านทฤษฎีมา ตอนแบบนี้เป็นโอกาส ที่เราจะศึกษากว้างๆ วิชา behavioral finance ของจริง
การใช้ข่าวของผู้ชักนำ และพฤติกรรมฝูงชนไปทางไหน
เพราะราคาหุ้นที่เราเห็น มันคือก็คือราคาที่มนุษย์เราๆ ตั้งขึ้น ไม่ได้มีบัญญัติตายตัว พระเจ้าและธรรมชาติไม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์ไว้ เหมือน 1 วัน ที่ต้องมีราว 24 ชั่วโมง
แม้แต่ที่เราคิดว่า intrinsic value มันคือส่วนผสมความคาดหวังลงไปคลุกกันกับพื้นฐาน เราเลยมีคำว่า "forward" ทั้งหลาย ไม่ได้อยู่กับตัวเลขปัจจุบันเท่านั้น
เราคงไม่อาจไปเตือนคนที่แห่ตามกันได้ เพราะมันมากมายจนเกินขอบเขตเรา
แต่เราใช้จังหวะและโอกาสแบบที่ปรมาจารย์ทั้งหลายสอนไว้ดีกว่า
(ถึงแม้เราไม่ใช่ day trade แต่ซื้อ-ขายนานๆ ครั้งก็ตาม...) ตอนเราจะซื้อ ดูตอนที่คนเบื่อๆ
อย่าไปซื้อตอนที่เขา "ปล่อยข่าว หวังปล่อยของ"
ถ้าเกิดใกล้จังหวะจะขายอะไรขึ้นมา เราก็อาจจะผสมโรงไปด้วยเหมือนกัน ชอบสื่อทั้งหลายพวกนี้ตอนนั้น ไหนๆ ก็เตือนคนอื่นไม่ได้ แอบเห็นแก่ตัวเล็ก ด้วยดีกั่ว:twisted:
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ใครอ่านนสพ.ทันหุ้นบ้างครับ
โพสต์ที่ 6
อย่าไปพึ่งว่านสพ.เขาครับ ถึงมันจะเขียนข่าวอย่างไรแต่เป็นหน้าที่ของเราครับที่จะนำข้อมูล(Data)มาแปลงเป็น(Information)เพื่อจะใช้ประโยชน์จากมันได้เต็มที่
ข่าวจะบอกว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร และอนาคตจะไปทางไหน เมื่อรวมกับข้อมมูลที่เรามี(งบการเงิน การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ ฯลฯ) มันจะได้ "สมมติฐาน" แล้วเซียนหุ้นตัวจริงก็วัดกันที่ "สมมติฐาน" ที่แหละครับ
ข่าวจะบอกว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร และอนาคตจะไปทางไหน เมื่อรวมกับข้อมมูลที่เรามี(งบการเงิน การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ ฯลฯ) มันจะได้ "สมมติฐาน" แล้วเซียนหุ้นตัวจริงก็วัดกันที่ "สมมติฐาน" ที่แหละครับ
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 276
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ใครอ่านนสพ.ทันหุ้นบ้างครับ
โพสต์ที่ 9
ความน่าเชื่อถือประมาณ The Sun ในวงการฟุตบอล
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ใครอ่านนสพ.ทันหุ้นบ้างครับ
โพสต์ที่ 11
edit :
เดี๋ยวคนจะงงว่า ใช้ประโยชน์อย่างไร?
กล่าวคือ...
ผมมองว่า...เราจะได้ "รู้เรา และรู้เขา" ด้วยอ่ะนะครับ
เพราะเดี๋ยวนี้ "พวกสื่อ" หากินกันง่ายครับ
พวกสื่อบางกลุ่มมักจะซื้อเก็บกันไว้ก่อน พอตีพิมพ์ข่าวดีออกมา ก็แกล้งดันกันนิดหน่อยพอเป็นพิธี แล้วก็เทขาย...ปิดงาน!!!
เล่นกันสั้นๆ ไม่เกิน 3 วันทำการ ก็ได้เงินกินหนมง่ายๆ สบายไปแล้ว
และเราต้องเข้าใจอารมณ์นัก นสพ. ครับ
กับการใส่ไข่ การปรุงแต่ง และอาการโม้ หรือเขียนเกินจริง
เช่น
- ใช้คำที่เผ็ดร้อน เช่น พุงกาง, อู้ฟู้, งบเริ่ด, ฟ้าผ่า, โบรคเทใจ, ดี๊ด๊า ฯลฯ
- เขียนเกินจริง ทั้งๆที่ผู้บริหารไม่เคยพูดเช่นั้นเลย แม่มเขียนกันเอง นั่งเทียนไปเอง ซึ่งตรงนี้อันตรายมากๆครับ
นสพ. เขียนผิดเขียนมั่ว...ไม่ต้องรับผิดชอบ
แต่ถ้าเราซื้อลงทุนผิดซื้อมั่ว...อันนี้เจ๊งจริงๆนะครับ
นสพ. ควรมีจรรยาบรรณมากกว่านี้ ควรต้องรับผิดชอบในความผิดพลาดของตนเองบ้าง
แต่ผมเองไม่มีความรู้ด้านกฎหมายเท่าไหร่นั้น ว่าทำไมคนไม่ฟ้อง นสพ. บ้าง
แต่อย่างไรก็ตาม...
อย่าเพียงแค่อ่านมัน แต่จงมองมันให้ขาด และใช้ประโยชน์จากมันนะครับ
เดี๋ยวคนจะงงว่า ใช้ประโยชน์อย่างไร?
กล่าวคือ...
ผมมองว่า...เราจะได้ "รู้เรา และรู้เขา" ด้วยอ่ะนะครับ
เพราะเดี๋ยวนี้ "พวกสื่อ" หากินกันง่ายครับ
พวกสื่อบางกลุ่มมักจะซื้อเก็บกันไว้ก่อน พอตีพิมพ์ข่าวดีออกมา ก็แกล้งดันกันนิดหน่อยพอเป็นพิธี แล้วก็เทขาย...ปิดงาน!!!
เล่นกันสั้นๆ ไม่เกิน 3 วันทำการ ก็ได้เงินกินหนมง่ายๆ สบายไปแล้ว
และเราต้องเข้าใจอารมณ์นัก นสพ. ครับ
กับการใส่ไข่ การปรุงแต่ง และอาการโม้ หรือเขียนเกินจริง
เช่น
- ใช้คำที่เผ็ดร้อน เช่น พุงกาง, อู้ฟู้, งบเริ่ด, ฟ้าผ่า, โบรคเทใจ, ดี๊ด๊า ฯลฯ
- เขียนเกินจริง ทั้งๆที่ผู้บริหารไม่เคยพูดเช่นั้นเลย แม่มเขียนกันเอง นั่งเทียนไปเอง ซึ่งตรงนี้อันตรายมากๆครับ
นสพ. เขียนผิดเขียนมั่ว...ไม่ต้องรับผิดชอบ
แต่ถ้าเราซื้อลงทุนผิดซื้อมั่ว...อันนี้เจ๊งจริงๆนะครับ
นสพ. ควรมีจรรยาบรรณมากกว่านี้ ควรต้องรับผิดชอบในความผิดพลาดของตนเองบ้าง
แต่ผมเองไม่มีความรู้ด้านกฎหมายเท่าไหร่นั้น ว่าทำไมคนไม่ฟ้อง นสพ. บ้าง
แต่อย่างไรก็ตาม...
อย่าเพียงแค่อ่านมัน แต่จงมองมันให้ขาด และใช้ประโยชน์จากมันนะครับ
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1018
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ใครอ่านนสพ.ทันหุ้นบ้างครับ
โพสต์ที่ 13
ถ้าอ่านแค่พาดหัวนี่ target เป็น 100 % เกือบทุกตัว เป้าเท่านั้นเท่านี้ กำไรโตที 500-1000 % มีหุ้นอย่างนี้โผล่มาให้พาดหัวทุกวัน ผมยังสงสัยว่าถ้าเมืองไทยมีบริษัทที่กำไรโตได้สูงขนาดนี้ และจำนวนเยอะขนาดนี้ ไม่เกิน3 ปีสงสัยเราจะครองโลกแล้วครับ
นั่นเป็นส่วนพาดหัว แต่ถ้าดูไส้ใน นี่นั่งเทียนเยอะมาก มีแต่คำว่าแหล่งข่าวเต็มไปหมด ตัวเลขบางตัวก็ไม่มีที่มา สรุปอ่านเอาสนุกพอได้ครับ และถ้าอยากใช้ประโยชน์จาก นสพ.ฉบับนี้ก็แค่อย่าตกเข้าไปอยู่ในกระแสความโลภของแมงเม่าที่เข้ามาอ่านก็พอ แล้วก็ใช้จิตวิทยาการลงทุนนิดนึงกรณีที่เรามีหุ้นตรงกับที่เขาเชียร์พอดี เพราะอย่างน้อยราคาก็ต้องขยับตามแรงเชียร์อยู่แล้ว
สุดท้าย ตลาด จับ mkting ข้อหาปล่อยข่าวลือ จะเข้ามาคุม website หุ้น เพราะมีการเชียร์หุ้นในwebboard แต่ผมไม่เคยเห็นตลาดกล้าทำอะไรกับ นสพ.ที่ปล่อยข่าว มั่วๆ เลยครับ
นั่นเป็นส่วนพาดหัว แต่ถ้าดูไส้ใน นี่นั่งเทียนเยอะมาก มีแต่คำว่าแหล่งข่าวเต็มไปหมด ตัวเลขบางตัวก็ไม่มีที่มา สรุปอ่านเอาสนุกพอได้ครับ และถ้าอยากใช้ประโยชน์จาก นสพ.ฉบับนี้ก็แค่อย่าตกเข้าไปอยู่ในกระแสความโลภของแมงเม่าที่เข้ามาอ่านก็พอ แล้วก็ใช้จิตวิทยาการลงทุนนิดนึงกรณีที่เรามีหุ้นตรงกับที่เขาเชียร์พอดี เพราะอย่างน้อยราคาก็ต้องขยับตามแรงเชียร์อยู่แล้ว
สุดท้าย ตลาด จับ mkting ข้อหาปล่อยข่าวลือ จะเข้ามาคุม website หุ้น เพราะมีการเชียร์หุ้นในwebboard แต่ผมไม่เคยเห็นตลาดกล้าทำอะไรกับ นสพ.ที่ปล่อยข่าว มั่วๆ เลยครับ