ไม่แปลกใจที่ SPALI/RAIMON วิ่งแซง เมื่อเทียบกับทั้งกลุ่มเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่แปลกใจที่ SPALI/RAIMON วิ่งแซง เมื่อเทียบกับทั้งกลุ่มเลย
โพสต์ที่ 1
ตื่นซื้อคอนโดฯหนีน้ำท่วมซ้ำ ธ.ค.บิ๊กแบรนด์แห่เปิดโครงการ4หมื่นล.วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 07:11:53 น.
น้ำท่วมใหญ่ปลุกตลาดคอนโดฯ ร้อนแรงอีกครั้ง เผยพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน สนใจซื้อห้องชุดเป็นที่พักสำรอง จัดสรรแห่ลงทุน "แอล.พี.เอ็น.-เอ็นซี" เร่งเปิดตัวคอนโดฯใหม่เร็วขึ้น "เอเชี่ยน-ไรมอนแลนด์" ฟันยอดขายกระฉูด เผยเดือนธันวาคมเปิดตัวทะลุ 4 หมื่นล้าน "หัวหิน-พัทยา-เชียงใหม่" รับเละ
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า จากต้นปี 2554 วงการอสังหาริมทรัพย์ได้ประเมินทิศทางการพัฒนา ตลาดที่อยู่อาศัยแนวสูงหรือคอนโดมิเนียมว่าจะลดความร้อนแรงลง หลังจากมีความต้องการสูงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจนทำให้เกิดภาวะอิ่มตัว แต่วิกฤตน้ำท่วมใหญ่ได้พลิกโฉมหน้าวงการอสังหาฯอีกครั้ง โดยพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงฉับพลัน มีความต้องการซื้อคอนโดฯ เพื่อเป็นที่พักอาศัยแห่งที่ 2 ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ผู้ประกอบการต่างหันมาลงทุนเปิดตัวคอนโดมิเนียมช่วง เดือน ธันวาคมสูงถึง 40,000 ล้านบาท
REIC ชี้ตลาดคอนโดฯดีดกลับ
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) เปิดเผยว่า น่าจะเห็นแนวโน้มโครงการอาคารชุดที่เปิดขายใหม่เพิ่มมากขึ้นในปีหน้า จากปีนี้ที่ผู้ประกอบการเลื่อนเปิดตัวช่วงน้ำท่วม โดยคาดว่าปี 2555 จะมีอาคารชุดเปิดขายใหม่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 50,000 หน่วย จากปีนี้ที่ประเมินว่ามีโครงการเปิดขายใหม่รวม 42,000 หน่วย ลดลงจากปี 2553 ที่มีการเปิดตัวทั้งหมด 66,000 หน่วย
"ปีหน้าคอนโดฯที่เปิดใหม่น่าจะมียอดขายค่อนข้างดี คาดว่าในจำนวนที่เปิดใหม่ 50,000 หน่วย น่าจะมียอดขายได้ถึง 70% เพราะคอนโดฯมีแนวโน้มจะได้รับความนิยมมากขึ้น เห็นได้จากขณะนี้เริ่มมีการโฆษณาเปิดตัวคอนโดฯมากขึ้น อาทิ กลุ่มศุภาลัยก็เตรียมจะเปิดคอนโดฯบนที่ดินในย่านรัชดาภิเษก ติดศูนย์วัฒนธรรมฯ
ขณะที่ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA ระบุว่า ผลสำรวจการเปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แม้จะอยู่ในภาวะน้ำท่วมหนัก แต่ก็มีการเปิดตัวใหม่รวมกันถึง 15,655 ล้านบาท จาก 22 โครงการ แบ่งเป็นที่อยู่อาศัย 21 โครงการ และอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นอีก 1 โครงการ
ในจำนวน 21 โครงการดังกล่าว เป็นคอนโดมิเนียม 13 โครงการ และที่เหลือ 8 โครงการ เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ มีหน่วยขายรวม 5,654 หน่วย
LPN-NC เร่งแผนเปิดคอนโดฯ
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)หรือ LPN บริษัทที่ได้รับฉายาว่าเจ้าพ่อ คอนโดฯ เปิดเผยว่า ภาวะร้อนแรงของตลาดคอนโดมิเนียมกลับมาให้เห็น อีกครั้ง หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ บริษัทจึงได้ตัดสินใจเร่งเปิดตัวโครงการลุมพินีวิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ จากเดิมแผนจะเปิดตัวไตรมาส 1/55 มาเปิดในช่วงไตรมาส 4 นี้แทน
"น้ำท่วมส่งผลต่อจิตวิทยาผู้บริโภค อยางนอย 3-6 เดือนคอนโดฯ จะกลับมาบูมอีกครั้ง ประเมินจากยอดขายของบริษัททั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะพัทยา แบรนด์ ลุมพินีวิลล์ จอมเทียนขายดีมากในช่วงที่ผ่านมา ประเมินว่าคนที่มีกำลังซื้อหรือกลุ่มที่เป็นเจ้าของบ้านเดี่ยวราคา 5 ล้านบาทมีความสามารถจะซื้อคอนโดฯราคาประมาณ 1 ล้านบาท เป็นเซฟเฮาส์ เพราะมีประสบการณ์จากน้ำท่วมต้องหาที่พักสำรองซึ่งหายากมากในตอนนั้น แม้แต่พอร์ตให้เช่าของ แอล.พี.เอ็น. ที่มีประมาณ 1 พันห้องก็เต็ม 100% ขณะทีมีความต้องการเช่าเข้ามาถึง 200%"
ก่อนหน้านี้บริษัทตั้งเป้ามียอดรับรู้รายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท ยอดขาย 1.4 หมื่นล้านบาท ปรากฏว่าผลประกอบการ 9 เดือนแรกทำได้ใกล้เคียงเป้าทั้งปี แต่ภาวะน้ำท่วมทำให้ต้องชะลอเปิดตัว 2 โครงการคือ ลุมพินี เมกะบางนา และลุมพินีคอนโดทาวน์ ลาดปลาเค้า
นายโอภาสกล่าวว่า ในช่วงวิกฤต น้ำท่วม ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม (น้ำเริ่มท่วมกรุงเทพฯ) จนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ประมาณ 45 วันพบว่ายอดขายคอนโดฯดีดกลับเกินคาดเกือบ 1,000 ยูนิต บริษัทจึงตัดสินใจเปิดตัว 3 โครงการรวดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ได้แก่ ลุมพินี เมกะบางนา, ลุมพินีคอนโดทาวน์ ลาดปลาเค้า และเร่งเปิดตัวลุมพินีวิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ ที่คาดว่าจะทำยอดขายเพิ่มอีกประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งหมายถึงจะทำให้บริษัทมีอัตราเติบโตของปีนี้กระโดดขึ้นเป็น 25% จากเฉลี่ยปกติบริษัทจะโตปีละ 10-15%
น.พ.สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นซี เฮ้าซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NC กล่าวว่า บริษัทปรับแผนการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ โดยหนึ่งในแนวทางสำคัญคือจะเร่งเปิดตัวคอนโดมิเนียมเร็วขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาสนใจเลือกซื้อคอนโดฯเพิ่มขึ้น โดยอยู่ระหว่างศึกษาโอกาสลงทุนระหว่างทำเลพัทยากับในกรุงเทพฯ โดยที่พัทยาบริษัทมีแลนด์แบงก์อยู่แล้ว
เอเชี่ยน-ไรมอนแลนด์ขายกระฉูด
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงน้ำท่วมพบว่า ยอดขายคอนโดฯสูงขึ้นจากปกติ 1-1.5 เท่า เฉลี่ยเคยได้กว่า 100 ล้านบาท เพิ่มเป็น 300 ล้านบาท มาจากโครงการ แอสปาย พระราม 4 กับไลฟ์ รัชดา ราคาเริ่มต้น 1.7-2.6 ล้านบาทเป็นหลัก
ขณะที่นายเพียเรส มอเรียอาที ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานลูกค้า บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเพิ่งจะเปิดตัวคอนโดฯ แบรนด์ใหม่ "ยูนิกซ์ เซาท์พัทยา" ปรากฏว่าช่วงพรีเซลมียอดจองเข้ามาแล้ว 20% จากทั้งหมด 1,207 ยูนิต ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทหันมาจับตลาดกลาง-ล่าง โดย รีไซซ์ห้องชุด 22 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.8 แสนบาท รองรับลูกค้าในพัทยาและคนกรุงเทพฯ ที่เปลี่ยนพฤติกรรมมองหาคอนโดฯตากอากาศเป็นที่พักอาศัยสำรอง หลังจากเกิดวิกฤตน้ำท่วมในกรุงเทพฯช่วงที่ผ่านมา
"คลาสเซ่" ขายยกตึก 220 ล้าน
ฟากนายธนกร ทองเจริญ ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท วิทูรธนากร จำกัด ในเครือโรงแรมโกลเด้นทิวลิปซอฟเฟอ ริน (ชื่อเดิมโรงแรมเรดิสัน) กล่าวว่า แนวโน้มหลังน้ำท่วม บริษัทได้นำโครงการ "คลาสเซ่ อาร์ซีเอ รัชดา-พระราม 9" คอนโดฯสร้างเสร็จตกแต่งพร้อมอยู่ มาจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย เฟสแรกมียูนิตรวม 630 ยูนิต เพิ่งจะทยอยโอนให้ลูกค้าประมาณ 100 ยูนิต หรือเฉลี่ย 15% แต่ช่วงน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่ายอดขายก้าวกระโดดเป็น 30% ในเวลาอันสั้น คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีหน้า และเตรียมเปิดเฟส 2 ต่อทันทีอีก 674 ยูนิต
แผนการตลาดคลาสเซ่ฯ เจาะลูกค้าเป้าหมาย 2 กลุ่มลูกค้ารายย่อยและ นักลงทุน โดยเฉพาะลูกค้านักลงทุนขณะนี้กำลังเจรจาขายอาคาร A3 166 ยูนิต ในราคาเหมาตึก 220 ล้านบาท เฉลี่ยยูนิตละ 1.3 ล้านบาท เป็นราคาที่มีส่วนลดประมาณ 15% คาดว่าจะได้ ข้อสรุปภายในช่วงต้นปีหน้า โดยห้องขนาด 32 ตร.ม.จะสามารถปล่อยเช่าได้เฉลี่ยเดือนละ 11,000 บาท คาดว่าใช้เวลาคืนทุน 7 ปี
หัวหินเปิดตัวกว่า 2.1 หมื่นล้าน
นายมณเฑียร อินทร์น้อย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านราชประสงค์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้รวบรวมซื้อที่ดินบริเวณ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จากเจ้าของเดิมประมาณ 3-4 ราย จนได้ที่ดินแปลงติดทะเลหน้ากว้าง 200 เมตร รวมพื้นที่ประมาณ 130 ไร่ ลงทุนพัฒนาคอนโดฯ "ดิ เอนเนอร์จี้ หัวหิน" มูลค่าโครงการประมาณ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น 33 อาคาร และสูง 3 ชั้น 1 อาคาร รวม 6,000 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 31.55-89.30 ตารางเมตร เริ่มต้น 1.8-7 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวครั้งแรก 19-25 ธันวาคม ณ สยามพารากอน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด ธุรกิจร่วมทุนระหว่างกลุ่มชาญอิสสระกับเครือสหพัฒน์ โดยนายบุญเกียรติ โชควัฒนา ก็เตรียมเปิดตัวคอนโดฯ "บ้านวิวทะเล" ออกแบบเป็นอาคารสูง 15 ชั้น 1 อาคาร และสูง 4 ชั้น 4 อาคาร รวม 270 ยูนิต ราคา 3-28 ล้านบาท/ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท รองรับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการห้องชุดตากอากาศเป็นบ้านหลังที่ 2
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 0&catid=07
น้ำท่วมใหญ่ปลุกตลาดคอนโดฯ ร้อนแรงอีกครั้ง เผยพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน สนใจซื้อห้องชุดเป็นที่พักสำรอง จัดสรรแห่ลงทุน "แอล.พี.เอ็น.-เอ็นซี" เร่งเปิดตัวคอนโดฯใหม่เร็วขึ้น "เอเชี่ยน-ไรมอนแลนด์" ฟันยอดขายกระฉูด เผยเดือนธันวาคมเปิดตัวทะลุ 4 หมื่นล้าน "หัวหิน-พัทยา-เชียงใหม่" รับเละ
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า จากต้นปี 2554 วงการอสังหาริมทรัพย์ได้ประเมินทิศทางการพัฒนา ตลาดที่อยู่อาศัยแนวสูงหรือคอนโดมิเนียมว่าจะลดความร้อนแรงลง หลังจากมีความต้องการสูงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจนทำให้เกิดภาวะอิ่มตัว แต่วิกฤตน้ำท่วมใหญ่ได้พลิกโฉมหน้าวงการอสังหาฯอีกครั้ง โดยพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงฉับพลัน มีความต้องการซื้อคอนโดฯ เพื่อเป็นที่พักอาศัยแห่งที่ 2 ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ผู้ประกอบการต่างหันมาลงทุนเปิดตัวคอนโดมิเนียมช่วง เดือน ธันวาคมสูงถึง 40,000 ล้านบาท
REIC ชี้ตลาดคอนโดฯดีดกลับ
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) เปิดเผยว่า น่าจะเห็นแนวโน้มโครงการอาคารชุดที่เปิดขายใหม่เพิ่มมากขึ้นในปีหน้า จากปีนี้ที่ผู้ประกอบการเลื่อนเปิดตัวช่วงน้ำท่วม โดยคาดว่าปี 2555 จะมีอาคารชุดเปิดขายใหม่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 50,000 หน่วย จากปีนี้ที่ประเมินว่ามีโครงการเปิดขายใหม่รวม 42,000 หน่วย ลดลงจากปี 2553 ที่มีการเปิดตัวทั้งหมด 66,000 หน่วย
"ปีหน้าคอนโดฯที่เปิดใหม่น่าจะมียอดขายค่อนข้างดี คาดว่าในจำนวนที่เปิดใหม่ 50,000 หน่วย น่าจะมียอดขายได้ถึง 70% เพราะคอนโดฯมีแนวโน้มจะได้รับความนิยมมากขึ้น เห็นได้จากขณะนี้เริ่มมีการโฆษณาเปิดตัวคอนโดฯมากขึ้น อาทิ กลุ่มศุภาลัยก็เตรียมจะเปิดคอนโดฯบนที่ดินในย่านรัชดาภิเษก ติดศูนย์วัฒนธรรมฯ
ขณะที่ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA ระบุว่า ผลสำรวจการเปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แม้จะอยู่ในภาวะน้ำท่วมหนัก แต่ก็มีการเปิดตัวใหม่รวมกันถึง 15,655 ล้านบาท จาก 22 โครงการ แบ่งเป็นที่อยู่อาศัย 21 โครงการ และอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นอีก 1 โครงการ
ในจำนวน 21 โครงการดังกล่าว เป็นคอนโดมิเนียม 13 โครงการ และที่เหลือ 8 โครงการ เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ มีหน่วยขายรวม 5,654 หน่วย
LPN-NC เร่งแผนเปิดคอนโดฯ
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)หรือ LPN บริษัทที่ได้รับฉายาว่าเจ้าพ่อ คอนโดฯ เปิดเผยว่า ภาวะร้อนแรงของตลาดคอนโดมิเนียมกลับมาให้เห็น อีกครั้ง หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ บริษัทจึงได้ตัดสินใจเร่งเปิดตัวโครงการลุมพินีวิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ จากเดิมแผนจะเปิดตัวไตรมาส 1/55 มาเปิดในช่วงไตรมาส 4 นี้แทน
"น้ำท่วมส่งผลต่อจิตวิทยาผู้บริโภค อยางนอย 3-6 เดือนคอนโดฯ จะกลับมาบูมอีกครั้ง ประเมินจากยอดขายของบริษัททั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะพัทยา แบรนด์ ลุมพินีวิลล์ จอมเทียนขายดีมากในช่วงที่ผ่านมา ประเมินว่าคนที่มีกำลังซื้อหรือกลุ่มที่เป็นเจ้าของบ้านเดี่ยวราคา 5 ล้านบาทมีความสามารถจะซื้อคอนโดฯราคาประมาณ 1 ล้านบาท เป็นเซฟเฮาส์ เพราะมีประสบการณ์จากน้ำท่วมต้องหาที่พักสำรองซึ่งหายากมากในตอนนั้น แม้แต่พอร์ตให้เช่าของ แอล.พี.เอ็น. ที่มีประมาณ 1 พันห้องก็เต็ม 100% ขณะทีมีความต้องการเช่าเข้ามาถึง 200%"
ก่อนหน้านี้บริษัทตั้งเป้ามียอดรับรู้รายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท ยอดขาย 1.4 หมื่นล้านบาท ปรากฏว่าผลประกอบการ 9 เดือนแรกทำได้ใกล้เคียงเป้าทั้งปี แต่ภาวะน้ำท่วมทำให้ต้องชะลอเปิดตัว 2 โครงการคือ ลุมพินี เมกะบางนา และลุมพินีคอนโดทาวน์ ลาดปลาเค้า
นายโอภาสกล่าวว่า ในช่วงวิกฤต น้ำท่วม ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม (น้ำเริ่มท่วมกรุงเทพฯ) จนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ประมาณ 45 วันพบว่ายอดขายคอนโดฯดีดกลับเกินคาดเกือบ 1,000 ยูนิต บริษัทจึงตัดสินใจเปิดตัว 3 โครงการรวดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ได้แก่ ลุมพินี เมกะบางนา, ลุมพินีคอนโดทาวน์ ลาดปลาเค้า และเร่งเปิดตัวลุมพินีวิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ ที่คาดว่าจะทำยอดขายเพิ่มอีกประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งหมายถึงจะทำให้บริษัทมีอัตราเติบโตของปีนี้กระโดดขึ้นเป็น 25% จากเฉลี่ยปกติบริษัทจะโตปีละ 10-15%
น.พ.สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นซี เฮ้าซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NC กล่าวว่า บริษัทปรับแผนการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ โดยหนึ่งในแนวทางสำคัญคือจะเร่งเปิดตัวคอนโดมิเนียมเร็วขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาสนใจเลือกซื้อคอนโดฯเพิ่มขึ้น โดยอยู่ระหว่างศึกษาโอกาสลงทุนระหว่างทำเลพัทยากับในกรุงเทพฯ โดยที่พัทยาบริษัทมีแลนด์แบงก์อยู่แล้ว
เอเชี่ยน-ไรมอนแลนด์ขายกระฉูด
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงน้ำท่วมพบว่า ยอดขายคอนโดฯสูงขึ้นจากปกติ 1-1.5 เท่า เฉลี่ยเคยได้กว่า 100 ล้านบาท เพิ่มเป็น 300 ล้านบาท มาจากโครงการ แอสปาย พระราม 4 กับไลฟ์ รัชดา ราคาเริ่มต้น 1.7-2.6 ล้านบาทเป็นหลัก
ขณะที่นายเพียเรส มอเรียอาที ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานลูกค้า บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเพิ่งจะเปิดตัวคอนโดฯ แบรนด์ใหม่ "ยูนิกซ์ เซาท์พัทยา" ปรากฏว่าช่วงพรีเซลมียอดจองเข้ามาแล้ว 20% จากทั้งหมด 1,207 ยูนิต ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทหันมาจับตลาดกลาง-ล่าง โดย รีไซซ์ห้องชุด 22 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.8 แสนบาท รองรับลูกค้าในพัทยาและคนกรุงเทพฯ ที่เปลี่ยนพฤติกรรมมองหาคอนโดฯตากอากาศเป็นที่พักอาศัยสำรอง หลังจากเกิดวิกฤตน้ำท่วมในกรุงเทพฯช่วงที่ผ่านมา
"คลาสเซ่" ขายยกตึก 220 ล้าน
ฟากนายธนกร ทองเจริญ ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท วิทูรธนากร จำกัด ในเครือโรงแรมโกลเด้นทิวลิปซอฟเฟอ ริน (ชื่อเดิมโรงแรมเรดิสัน) กล่าวว่า แนวโน้มหลังน้ำท่วม บริษัทได้นำโครงการ "คลาสเซ่ อาร์ซีเอ รัชดา-พระราม 9" คอนโดฯสร้างเสร็จตกแต่งพร้อมอยู่ มาจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย เฟสแรกมียูนิตรวม 630 ยูนิต เพิ่งจะทยอยโอนให้ลูกค้าประมาณ 100 ยูนิต หรือเฉลี่ย 15% แต่ช่วงน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่ายอดขายก้าวกระโดดเป็น 30% ในเวลาอันสั้น คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีหน้า และเตรียมเปิดเฟส 2 ต่อทันทีอีก 674 ยูนิต
แผนการตลาดคลาสเซ่ฯ เจาะลูกค้าเป้าหมาย 2 กลุ่มลูกค้ารายย่อยและ นักลงทุน โดยเฉพาะลูกค้านักลงทุนขณะนี้กำลังเจรจาขายอาคาร A3 166 ยูนิต ในราคาเหมาตึก 220 ล้านบาท เฉลี่ยยูนิตละ 1.3 ล้านบาท เป็นราคาที่มีส่วนลดประมาณ 15% คาดว่าจะได้ ข้อสรุปภายในช่วงต้นปีหน้า โดยห้องขนาด 32 ตร.ม.จะสามารถปล่อยเช่าได้เฉลี่ยเดือนละ 11,000 บาท คาดว่าใช้เวลาคืนทุน 7 ปี
หัวหินเปิดตัวกว่า 2.1 หมื่นล้าน
นายมณเฑียร อินทร์น้อย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านราชประสงค์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้รวบรวมซื้อที่ดินบริเวณ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จากเจ้าของเดิมประมาณ 3-4 ราย จนได้ที่ดินแปลงติดทะเลหน้ากว้าง 200 เมตร รวมพื้นที่ประมาณ 130 ไร่ ลงทุนพัฒนาคอนโดฯ "ดิ เอนเนอร์จี้ หัวหิน" มูลค่าโครงการประมาณ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น 33 อาคาร และสูง 3 ชั้น 1 อาคาร รวม 6,000 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 31.55-89.30 ตารางเมตร เริ่มต้น 1.8-7 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวครั้งแรก 19-25 ธันวาคม ณ สยามพารากอน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด ธุรกิจร่วมทุนระหว่างกลุ่มชาญอิสสระกับเครือสหพัฒน์ โดยนายบุญเกียรติ โชควัฒนา ก็เตรียมเปิดตัวคอนโดฯ "บ้านวิวทะเล" ออกแบบเป็นอาคารสูง 15 ชั้น 1 อาคาร และสูง 4 ชั้น 4 อาคาร รวม 270 ยูนิต ราคา 3-28 ล้านบาท/ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท รองรับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการห้องชุดตากอากาศเป็นบ้านหลังที่ 2
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 0&catid=07
-
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไม่แปลกใจที่ SPALI/RAIMON วิ่งแซง เมื่อเทียบกับทั้งกลุ่ม
โพสต์ที่ 2
อสังหาเจอศึกหนัก ปัญหาการเมืองร้อน ลูกค้าต่างชาติกระเจิง
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2555 ผจญความเสี่ยงสูง ทั้งปัญหาการเมือง น้ำท่วม ดอกเบี้ยสูง ราคาที่ดิน วัสดุก่อสร้างแพง บ้านเดี่ยวตกที่นั่งลำบาก ผู้บริโภคขยาดน้ำท่วมเบนเข็มซื้อคอนโดมิเนียม
นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเซ็นจูรี 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 2555 ว่ามีปัจจัยเสี่ยงสูงในการลงทุนโดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องความไม่แน่นอนด้านการเมือง และอัตราดอกเบี้ยรวมถึงการขยับขึ้นของราคาที่ดินและวัสดุก่อสร้าง
โดยเฉพาะปัญหาการเมืองเป็นตัวลดความเชื่อมั่นการลงทุนในประเทศของกลุ่มต่างชาติ ลงไปมากสิ่งที่ต้องระวัง คือ ในช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองอย่างไร ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมก็ฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุนลงไปมากเช่นกัน สังเกตได้จาก ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ หลายบริษัทที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยอดขายหายไปกว่า 50% รวมถึงยอดโอนด้วย ส่วนของบริษัทเองช่วงเวลาดังกล่าวยอดขายหายไป 20-50% จากเดิมที่แต่ละเดือนบริษัทจะมียอดขาย 500 ล้านบาท/เดือน เหลือเพียง 200 ล้านบาท/เดือน
จากสภาพปัจจัยแปรปรวนที่เกิดขึ้นในปลายปีนี้และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าตนมองว่ากลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจะเป็นกลุ่มบ้านเดี่ยวเพราะผู้บริโภคหันไปสนใจกลุ่มคอนโดมิเนียมเนื่องจากความไม่มั่นใจจากน้ำท่วมใหญ่ในประเทศ ขณะที่สุขุมวิท ยังคงครองแชมป์ทำเลที่ผู้ประกอบการมีความต้องการสูงสุด โดยเฉพาะย่านเพลินจิต เอกมัย ทำให้มีการปรับราคาขึ้น10-15% http://naewna.com/news.asp?ID=293076
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2555 ผจญความเสี่ยงสูง ทั้งปัญหาการเมือง น้ำท่วม ดอกเบี้ยสูง ราคาที่ดิน วัสดุก่อสร้างแพง บ้านเดี่ยวตกที่นั่งลำบาก ผู้บริโภคขยาดน้ำท่วมเบนเข็มซื้อคอนโดมิเนียม
นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเซ็นจูรี 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 2555 ว่ามีปัจจัยเสี่ยงสูงในการลงทุนโดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องความไม่แน่นอนด้านการเมือง และอัตราดอกเบี้ยรวมถึงการขยับขึ้นของราคาที่ดินและวัสดุก่อสร้าง
โดยเฉพาะปัญหาการเมืองเป็นตัวลดความเชื่อมั่นการลงทุนในประเทศของกลุ่มต่างชาติ ลงไปมากสิ่งที่ต้องระวัง คือ ในช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองอย่างไร ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมก็ฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุนลงไปมากเช่นกัน สังเกตได้จาก ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ หลายบริษัทที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยอดขายหายไปกว่า 50% รวมถึงยอดโอนด้วย ส่วนของบริษัทเองช่วงเวลาดังกล่าวยอดขายหายไป 20-50% จากเดิมที่แต่ละเดือนบริษัทจะมียอดขาย 500 ล้านบาท/เดือน เหลือเพียง 200 ล้านบาท/เดือน
จากสภาพปัจจัยแปรปรวนที่เกิดขึ้นในปลายปีนี้และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าตนมองว่ากลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจะเป็นกลุ่มบ้านเดี่ยวเพราะผู้บริโภคหันไปสนใจกลุ่มคอนโดมิเนียมเนื่องจากความไม่มั่นใจจากน้ำท่วมใหญ่ในประเทศ ขณะที่สุขุมวิท ยังคงครองแชมป์ทำเลที่ผู้ประกอบการมีความต้องการสูงสุด โดยเฉพาะย่านเพลินจิต เอกมัย ทำให้มีการปรับราคาขึ้น10-15% http://naewna.com/news.asp?ID=293076
-
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไม่แปลกใจที่ SPALI/RAIMON วิ่งแซง เมื่อเทียบกับทั้งกลุ่ม
โพสต์ที่ 3
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2554 07:25แสนสิริชี้พัทยา-หัวหินบูม'หนีน้ำท่วม'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แสนสิริ"ระบุน้ำท่วมหนุนตลาดคอนโดพรีเมียมบูมต่อเนื่อง พัทยา-หัวหิน-กรุงเทพฯ ดีมานด์พุ่งพรวด ลูกค้าเล็งซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อุทกภัยร้ายแรงในครั้งนี้จะทำให้อสังหาริมทรัพย์ในทำเลท่องเที่ยวอย่างพัทยา หัวหิน มีความต้องการซื้อสูง สะท้อนได้จากช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามีความต้องการซื้อเกิดขึ้นมากอย่างผิดปกติในย่านดังกล่าว ซึ่งทั้งพัทยา หัวหิน รวมไปถึงเขาใหญ่ ถือเป็นหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่ยังสามารถพัฒนาและขยายตัวได้อีก คาดว่าหลังจากนี้จะมีผู้ประกอบการจำนวนมากสนใจเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการ แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อราคาที่ดินสูงขึ้น แต่มากน้อยต้องพิจารณาอีกครั้ง
ขณะที่ เขตกรุงเทพฯ พฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยจะหลีกเลี่ยงโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ในทำเลน้ำท่วมอย่างแน่นอน โดยจำนวนผู้เข้าชมโครงการในทำเลที่น้ำไม่ท่วม เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ละ 30 ราย เป็น 40-50 ราย
"พัทยา หัวหิน แต่เดิมเป็นทำเลที่มีความต้องการซื้อสูงอยู่แล้ว แต่ในช่วงน้ำท่วม ดีมานด์ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น มีลูกค้าติดต่อซื้อโครงการที่ขายหมดแล้วของบริษัทในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก มองว่าในอนาคตน่าจะมีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นไปอีก" นายอุทัยกล่าว
ในทางเดียวกัน กลุ่มผู้ประกอบการมีแนวโน้มไม่เข้าไปลงทุนหรือพัฒนาโครงการใหม่ในทำเลน้ำท่วม ยกเว้นโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า แม้จะเผชิญปัญหาน้ำท่วมแต่ยังถือเป็นทำเลที่น่าสนใจ เพราะสามารถเดินทางได้สะดวก
นายอุทัย กล่าวต่อไปว่า แนวทางตลาดคอนโดมิเนียมในอนาคต ผู้ประกอบการจะพัฒนาโครงการระดับพรีเมียม รองรับกลุ่มลูกค้าระดับบนที่เชื่อว่าจะตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมเป็นบ้านหลังที่ 2 มากขึ้น รองรับภาวะฉุกเฉินที่ไม่สามารถคาดเดาได้ นอกจากนี้รูปแบบการอยู่อาศัย ของครอบครัวคนรุ่นใหม่ จะนิยมคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ขึ้น มี 2-3 ห้องนอน รองรับไลฟ์สไตล์และความต้องการที่หลากหลายในด้านพื้นที่
ล่าสุด แสนสิริ เปิดตัวโครงการใหม่ "ควอทโทร บาย แสนสิริ ทองหล่อ ซอย 4" ขนาด 49.5-295.5 ตร.ม. มี 1-3 ห้องนอน พร้อมให้บริการแอพพลิเคชั่น ควอทโทร เอ็กคลูซีฟ เซอร์วิส เว็บไซต์ และระบบปฏิบัติของสมาร์ทโฟนทุกระบบ อำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยมากขึ้น ทั้งด้านระบบการจองรถรับ-ส่งสถานที่ใกล้เคียง การเรียกพนักงานทำความสะอาด การเรียกพ่อบ้าน การแจ้งเตือนจดหมาย เป็นต้น
http:///s7QrfY
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2554 07:25แสนสิริชี้พัทยา-หัวหินบูม'หนีน้ำท่วม'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แสนสิริ"ระบุน้ำท่วมหนุนตลาดคอนโดพรีเมียมบูมต่อเนื่อง พัทยา-หัวหิน-กรุงเทพฯ ดีมานด์พุ่งพรวด ลูกค้าเล็งซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อุทกภัยร้ายแรงในครั้งนี้จะทำให้อสังหาริมทรัพย์ในทำเลท่องเที่ยวอย่างพัทยา หัวหิน มีความต้องการซื้อสูง สะท้อนได้จากช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามีความต้องการซื้อเกิดขึ้นมากอย่างผิดปกติในย่านดังกล่าว ซึ่งทั้งพัทยา หัวหิน รวมไปถึงเขาใหญ่ ถือเป็นหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่ยังสามารถพัฒนาและขยายตัวได้อีก คาดว่าหลังจากนี้จะมีผู้ประกอบการจำนวนมากสนใจเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการ แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อราคาที่ดินสูงขึ้น แต่มากน้อยต้องพิจารณาอีกครั้ง
ขณะที่ เขตกรุงเทพฯ พฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยจะหลีกเลี่ยงโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ในทำเลน้ำท่วมอย่างแน่นอน โดยจำนวนผู้เข้าชมโครงการในทำเลที่น้ำไม่ท่วม เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ละ 30 ราย เป็น 40-50 ราย
"พัทยา หัวหิน แต่เดิมเป็นทำเลที่มีความต้องการซื้อสูงอยู่แล้ว แต่ในช่วงน้ำท่วม ดีมานด์ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น มีลูกค้าติดต่อซื้อโครงการที่ขายหมดแล้วของบริษัทในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก มองว่าในอนาคตน่าจะมีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นไปอีก" นายอุทัยกล่าว
ในทางเดียวกัน กลุ่มผู้ประกอบการมีแนวโน้มไม่เข้าไปลงทุนหรือพัฒนาโครงการใหม่ในทำเลน้ำท่วม ยกเว้นโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า แม้จะเผชิญปัญหาน้ำท่วมแต่ยังถือเป็นทำเลที่น่าสนใจ เพราะสามารถเดินทางได้สะดวก
นายอุทัย กล่าวต่อไปว่า แนวทางตลาดคอนโดมิเนียมในอนาคต ผู้ประกอบการจะพัฒนาโครงการระดับพรีเมียม รองรับกลุ่มลูกค้าระดับบนที่เชื่อว่าจะตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมเป็นบ้านหลังที่ 2 มากขึ้น รองรับภาวะฉุกเฉินที่ไม่สามารถคาดเดาได้ นอกจากนี้รูปแบบการอยู่อาศัย ของครอบครัวคนรุ่นใหม่ จะนิยมคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ขึ้น มี 2-3 ห้องนอน รองรับไลฟ์สไตล์และความต้องการที่หลากหลายในด้านพื้นที่
ล่าสุด แสนสิริ เปิดตัวโครงการใหม่ "ควอทโทร บาย แสนสิริ ทองหล่อ ซอย 4" ขนาด 49.5-295.5 ตร.ม. มี 1-3 ห้องนอน พร้อมให้บริการแอพพลิเคชั่น ควอทโทร เอ็กคลูซีฟ เซอร์วิส เว็บไซต์ และระบบปฏิบัติของสมาร์ทโฟนทุกระบบ อำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยมากขึ้น ทั้งด้านระบบการจองรถรับ-ส่งสถานที่ใกล้เคียง การเรียกพนักงานทำความสะอาด การเรียกพ่อบ้าน การแจ้งเตือนจดหมาย เป็นต้น
http:///s7QrfY
- Unstablemind
- Verified User
- โพสต์: 405
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไม่แปลกใจที่ SPALI/RAIMON วิ่งแซง เมื่อเทียบกับทั้งกลุ่ม
โพสต์ที่ 4
Another real estate post with long posts
Its all about getting alpha.