น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 1
น้ำท่วมยาวนาน
วันนี้เข้าโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม โรงงานไหนได้รับผลกระทบทางลบบ้างครับ
และกลุ่มไหนจะได้ประโยชน์บ้างครับ
วันนี้เข้าโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม โรงงานไหนได้รับผลกระทบทางลบบ้างครับ
และกลุ่มไหนจะได้ประโยชน์บ้างครับ
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 3
ขอโทษครับ ถ้าเห็นว่ากระทู้ไม่เหมาะสม ไม่เกิดประโยชน์ ทีมงานช่วยลบกระทู้ได้เลยครับ
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 5
+1beaeaebe เขียน:ผมไม่เห็นว่าจะไม่เหมาะตรงไหนเลยกับการตั้งกระทุ้น้ำท่วม อย่าไปคิดมาสิครับ เราคุยเรื่องลงทุน ไม่ได้ซ้ำเติมใคร หรือคุยแล้วน้ำจะยิ่งท่วม?
ผมก้มองว่า ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกัน เจ้าของกระทู้คงอยากจะแสดงความเห็นเรื่องกิจการ
ที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์เพื่อแชร์ความรู้
ผมก้มองว่าไม่เห็นจะไปเกี่ยวไร กับเรื่องซ้ำเติม
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- Java The Boy
- Verified User
- โพสต์: 497
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 6
บริษัทส่วนใหญ่เดือดร้อนทั้งทางตรงและทางอ้อม
ทางอ้อมคือกำลังซื้อหดหาย ขายของและเก็บหนี้ลำบาก
HMPRO กลุ่มวัสดุก่อสร้าง
TASCO ยางมะตอย
ได้ประโยชน์หลังน้ำท่วมทุกปี
ทางอ้อมคือกำลังซื้อหดหาย ขายของและเก็บหนี้ลำบาก
HMPRO กลุ่มวัสดุก่อสร้าง
TASCO ยางมะตอย
ได้ประโยชน์หลังน้ำท่วมทุกปี
ความสุขที่แท้จริงของมนุษย์มีอยู่ 4 ข้อคือ...
ได้อยู่ในที่อากาศปลอดโปร่ง
พ้นจากความทะเยอทะยาน
ทำงานสร้างสรรค์
และรักใครสักคน ...
"อัลแบร์ กามูส์"
ได้อยู่ในที่อากาศปลอดโปร่ง
พ้นจากความทะเยอทะยาน
ทำงานสร้างสรรค์
และรักใครสักคน ...
"อัลแบร์ กามูส์"
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 7
อยุธยาวิกฤต!น้ำทะลักนิคมอุตฯ
อยุธยาอ่วม น้ำทะลักท่วม 46 โรงงานนิคมอุตฯสหรัตนครคาดเสียหายแสนล้าน ขณะที่โบราณสถาน-สถานที่สำคัญเจอน้ำท่วมเพิ่มหลายแห่ง
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. กระแสน้ำจากแม่น้ำน้อย แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และกระแสน้ำหลากตามทุ่งจาก จ.ลพบุรี ได้ไหลเข้าท่วมหลายพื้นที่ของ จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ชุมชนสองฝั่งแม่น้ำและเขตทุ่งนา ใน 16 อำเภอ ของจังหวัด
ทั้งนี้ในจำนวนนี้มีถึง 14 อำเภอที่โดนน้ำท่วมอย่างหนัก และบางอำเภอถูกตัดขาดจากโลกภายนอกแล้ว เนื่องจากถนนถูกน้ำท่วมไม่สามารถสัญจรได้ เช่น อ.บ้านแพรก อ.มหาราช อ.ท่าเรือ อ.ผักไห่
ขณะที่ อ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.นครหลวง เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก โดยคันกั้นน้ำของนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนคร ต.บางพระครู อ.นครหลวง ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้และพังลงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำเอ่อเข้าท่วม โรงงานขนาดใหญ่และขนาดกลางในนิคมกว่า 46 แห่ง โดยเกือบทุกโรงงานไม่สามารถที่จะขนย้ายสิ่งของได้ทัน
นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่น้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย โดยเบื้องต้นประเมินว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท
นอกจากนี้กระแสน้ำยังไหลข้ามคันล้อมของเทศบาลเมืองอโยธยา และ อบต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธา เข้าท่วมสถานที่สำคัญในพื้นที่หลายแห่ง อาทิ
ทำให้น้ำระดับความสูงกว่า 2-3 เมตร
ไล่ถล่มจม
สวนเฉลิพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โบราณสถานกลุ่มวัดกฎีดาว ศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวหันตรา ชุมชนในต.หันตรา ชุมชนเทศบาลเมืองอโยธยา หมู่บ้านการเคหะพระนครศรีอยุธยา วัดมเหยงค์ ตลาดสี่แยกวัดพระญาติ รวมทั้งเขตเศรษฐกิจริมถนนโรจนะในเขต ต.ไผ่ลิง ซึ่งมีร้านค้าตั้งอยู่จำนวนมาก
นอกจากนี้ น้ำยังเอ่อท่วมบนถนนโรจนะเส้นทางขาออกอยุธยา ตั้งแต่แยกวงเวียนกลางถนนถึงสี่แยกวัดพระญาติ โดยน้ำยังคงท่วมขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง
วิกฤตมากครับคราวนี้ นิคมนี้ชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งนั้น
ต้องหยุดการผลิตไปเป็นเดือน
ไม่อยากจะคิดเลย บริษัทผมก็โดนไปเต็มๆ เห็นแล้วหดหู่ใจ
ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ขนาดนี้ หลังน้ำลดอะไรจะเกืดขึ้นมั่งเนี่ย
ไม่อยากจะคิด
อยุธยาอ่วม น้ำทะลักท่วม 46 โรงงานนิคมอุตฯสหรัตนครคาดเสียหายแสนล้าน ขณะที่โบราณสถาน-สถานที่สำคัญเจอน้ำท่วมเพิ่มหลายแห่ง
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. กระแสน้ำจากแม่น้ำน้อย แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และกระแสน้ำหลากตามทุ่งจาก จ.ลพบุรี ได้ไหลเข้าท่วมหลายพื้นที่ของ จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ชุมชนสองฝั่งแม่น้ำและเขตทุ่งนา ใน 16 อำเภอ ของจังหวัด
ทั้งนี้ในจำนวนนี้มีถึง 14 อำเภอที่โดนน้ำท่วมอย่างหนัก และบางอำเภอถูกตัดขาดจากโลกภายนอกแล้ว เนื่องจากถนนถูกน้ำท่วมไม่สามารถสัญจรได้ เช่น อ.บ้านแพรก อ.มหาราช อ.ท่าเรือ อ.ผักไห่
ขณะที่ อ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.นครหลวง เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก โดยคันกั้นน้ำของนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนคร ต.บางพระครู อ.นครหลวง ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้และพังลงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำเอ่อเข้าท่วม โรงงานขนาดใหญ่และขนาดกลางในนิคมกว่า 46 แห่ง โดยเกือบทุกโรงงานไม่สามารถที่จะขนย้ายสิ่งของได้ทัน
นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่น้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย โดยเบื้องต้นประเมินว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท
นอกจากนี้กระแสน้ำยังไหลข้ามคันล้อมของเทศบาลเมืองอโยธยา และ อบต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธา เข้าท่วมสถานที่สำคัญในพื้นที่หลายแห่ง อาทิ
ทำให้น้ำระดับความสูงกว่า 2-3 เมตร
ไล่ถล่มจม
สวนเฉลิพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โบราณสถานกลุ่มวัดกฎีดาว ศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวหันตรา ชุมชนในต.หันตรา ชุมชนเทศบาลเมืองอโยธยา หมู่บ้านการเคหะพระนครศรีอยุธยา วัดมเหยงค์ ตลาดสี่แยกวัดพระญาติ รวมทั้งเขตเศรษฐกิจริมถนนโรจนะในเขต ต.ไผ่ลิง ซึ่งมีร้านค้าตั้งอยู่จำนวนมาก
นอกจากนี้ น้ำยังเอ่อท่วมบนถนนโรจนะเส้นทางขาออกอยุธยา ตั้งแต่แยกวงเวียนกลางถนนถึงสี่แยกวัดพระญาติ โดยน้ำยังคงท่วมขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง
วิกฤตมากครับคราวนี้ นิคมนี้ชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งนั้น
ต้องหยุดการผลิตไปเป็นเดือน
ไม่อยากจะคิดเลย บริษัทผมก็โดนไปเต็มๆ เห็นแล้วหดหู่ใจ
ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ขนาดนี้ หลังน้ำลดอะไรจะเกืดขึ้นมั่งเนี่ย
ไม่อยากจะคิด
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
-
- Verified User
- โพสต์: 984
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 8
งานก่อสร้างซ่อมแซมหลังน้ำลดคงมหาศาล ทั้งภาครัฐ และเอกชน ใครค้าวัสดุก่อสร้างน่าจะได้ประโยชน์ น่าเห็นใจมักๆ ครับกับภัยธรรมชาติที่นับวันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวแล้ง เดี๋ยวน้ำท่วม หรือว่าเราเอาชนะธรรมชาติไม่ได้ หรือว่าไม่เคยคิดหาทางป้องกันอย่างจริงจัง
"Look at market fluctuations as your friend rather than your enemy; profit from folly rather than participate in it." – Warren Buffett
-
- Verified User
- โพสต์: 1258
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 9
คุณ tum_H ครับ แล้วโรงงานในโรจนะตอนนี้น้ำท่วมไม๊ครับ
โรงงานประกอบรถยนต์ขาดชิ้นส่วนไปชิ้นนึง ก็ต้องหยุดไลน์แล้ว ปลายเดือนนี้น้องชายผมจะจอง Honda City MC สีเทา อย่างงี้คิดว่าจะได้รับรถเมื่อไหร่ครับเนี่ย
โรงงานประกอบรถยนต์ขาดชิ้นส่วนไปชิ้นนึง ก็ต้องหยุดไลน์แล้ว ปลายเดือนนี้น้องชายผมจะจอง Honda City MC สีเทา อย่างงี้คิดว่าจะได้รับรถเมื่อไหร่ครับเนี่ย
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 10
สถานการณ์เป็นอย่างนี้คงต้องนั่งร้องเพลงรอแล้วล่ะครับKaiser เขียน:คุณ tum_H ครับ แล้วโรงงานในโรจนะตอนนี้น้ำท่วมไม๊ครับ
โรงงานประกอบรถยนต์ขาดชิ้นส่วนไปชิ้นนึง ก็ต้องหยุดไลน์แล้ว ปลายเดือนนี้น้องชายผมจะจอง Honda City MC สีเทา อย่างงี้คิดว่าจะได้รับรถเมื่อไหร่ครับเนี่ย
อย่างที่ทราบ สหรัตนคร ถือเป็นหัวใจที่สำคัญของการผลิตรถ
ไม่รู้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้เมื่อไหร่
ตอนนี้ต้องส่งกำลังใจไปช่วยครับ
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 11
ประกันภัยอึ้งเคลมน้ำท่วมฉุดกำไร กระจายพอร์ตลดเสี่ยง-ส่งตัวแทนแนะลูกค้าย้ายรถ
ประกันภัยสะอื้นน้ำท่วมเชียงใหม่ โดนลูกค้าเคลมเพียบ เชื่อปีนี้มีอีกหลายระลอก หวั่นเสียหายหนักกว่าปีที่แล้ว ฟันธงกระทบกำไรแน่ เร่งแจกนโยบายตัวแทนแนะลูกค้าย้ายรถหนีน้ำ หวังกระจายพอร์ตงานเฉลี่ยความเสี่ยง ปรับเพิ่มเบี้ยขึ้นเท่าตัว
แหล่งข่าวจากบริษัทประกันวินาศภัยรายหนึ่งเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ผลจากกรณีน้ำท่วมใหญ่ที่เข้าท่วมตัวเมือง เขตเศรษฐกิจ รวมถึงพื้นที่อยู่อาศัยประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นไปได้ที่จะสร้างความเสียหายซึ่งกระทบกับธุรกิจประกันภัยมากกว่าเหตุที่เกิดขึ้นในภาคกลางช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากในพื้นที่ประสบเหตุในจังหวัดเชียงใหม่น่าจะมีสัดส่วนของผู้ที่ทำประกันภัยค่อนข้างมาก ทั้งกลุ่มที่อยู่อาศัย ร้านค้ารายย่อย และรถยนต์
"ขณะนี้แต่ละบริษัทคงยังไม่สามารถเข้าไปสำรวจความเสียหายได้เพราะบางพื้นที่ยังท่วมอยู่ บางพื้นที่เพิ่งลด ในเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเสียหายค่อนข้างเยอะ และเป็นไปได้ที่แต่ละบริษัทมีค่าสินไหมจากความเสียหายมากกว่าปีที่แล้ว แม้ส่วนใหญ่จะเป็นรายย่อย แต่ส่วนใหญ่บริษัทจะเก็บความเสี่ยงไว้เอง ไม่ได้ส่งต่อไปผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศเหมือนลูกค้ารายใหญ่ จึงเชื่อว่าน่าจะมีผลกระทบต่อกำไรในปีนี้แน่นอน"
แหล่งข่าวกล่าวว่า เป็นไปได้ที่เหตุการณ์น้ำท่วมในปีนี้ยังจะไม่จบเท่านี้ เชื่อว่าหลายบริษัทได้เริ่มให้นโยบายแก่ตัวแทนต้องเริ่มลงพื้นที่พบลูกค้า ช่วยดูแลความเสี่ยงให้ลูกค้าด้วย หรือกรณีของรถยนต์ซึ่งเคลื่อนที่ได้ก็เริ่มแนะนำให้ลูกค้าต้องหาที่จอดในกรณีฉุกเฉินเพื่อป้องกันความเสียหายหากเกิดเหตุน้ำท่วมขึ้น นอกจากนี้การขยายช่องทางขายให้หลากหลายเพื่อให้ลูกค้ากระจายตัว ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการบริหารความเสี่ยงได้เช่นกัน
นายพุทธิพงษ์ ด่านบุญสุต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยเศรษฐกิจประกันภัย กล่าวว่า ค่าสินไหมอันเป็นผลจากความเสียหายในกรณีน้ำท่วมปีนี้น่าจะค่อนข้างหนักใกล้เคียงหรือมากกว่าปีที่แล้ว เพราะมีทั้งประกันทรัพย์สินส่วนบุคคล ประกันสำหรับธุรกิจ รวมถึงประกันภัยพืชผลอย่างข้าวนาปีที่เพิ่งเข้ามาเพิ่มในปีนี้ด้วย ดังนั้นผลกระทบต่อบริษัทประกันจะเริ่มเห็นในงบการเงินของไตรมาสที่ 4 ปีนี้ และไตรมาส 1 ปี 2555
สิ่งที่เกิดขึ้นในการปรับตัวของภาคธุรกิจต่อจากนี้ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า น่าจะเห็นการปรับตัวใน 3 เรื่องหลักคือ การปรับรูปแบบการรับเสี่ยงภัย ซึ่งเชื่อว่ารีอินชัวเรอร์จะต้องเริ่มคุยเรื่องนี้อย่างจริงจังกับธุรกิจในประเทศถึงความกังวลเรื่องนี้ อาจจะต้องจำกัดความรับผิดชอบของมูลค่าความเสียหายในแต่ละเหตุการณ์ให้รัดกุมมากขึ้นเพื่อจำกัดวงของความรับผิดชอบ
ผลสะท้อนดังกล่าวจะโยงมาถึงการปรับตัวในด้านที่ 2 ก็คือ การปรับเพิ่มเบี้ยให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นไปได้ที่ภาพรวมค่าเบี้ยอาจจะต้องปรับตัวขึ้นสูงถึง 100% ก็เป็นได้ เพราะความเสี่ยงเปลี่ยนไปมาก จากภัยที่มาเป็นบางฤดูกาล แต่ขณะนี้เป็นภัยที่มาแน่นอน รีอินชัวเรอร์บางรายก็จะไม่กล้ารับ หรือถ้ารับก็ต้องคิดเบี้ยแพงขึ้น
"การคิดเบี้ยก็ต้องอิงกับหลักคณิตศาสตร์ประกันภัยเป็นหลัก เมื่อความเสี่ยงสูงขึ้นก็มีผลต่อเงินกองทุนของบริษัทประกันที่ต้องมีให้เพียงพอรองรับกับความเสี่ยงที่รับประกันภัย จะเริ่มเห็นชัดขึ้นว่าผลจากเหตุการณ์นี้จะสะเทือนในงบการเงินเพิ่มขึ้น จากที่พอร์ตนี้เคยมีกำไรและกระจายไปถัวเฉลี่ยกับพอร์ตอื่นที่เสียหายเยอะ"
เรื่องสุดท้ายก็คือ การปรับปรุงระบบเข้าถึงข้อมูลเพื่อพิจารณาความเสี่ยงก่อนรับประกันภัย โดยทางสมาคมประกันวินาศภัยเองก็ได้เริ่มโครงการสำรวจเส้นทางน้ำจากภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อมาใช้พิจารณาความเสี่ยง
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในกรณีความเสียหายของเหตุการณ์น้ำท่วม 14 จังหวัดภาคใต้ในปลายปีที่แล้ว มีมูลค่าความเสียหายของประกันภัยประมาณ 650 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ที่มีเหตุน้ำท่วมภาคใต้ช่วงเดือน เม.ย.มียอดความเสียหายประมาณเกือบ 200 ล้านบาท ส่วนเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ส.ค.-ต.ค.ที่พบข้อมูลความเสียหายแล้วประมาณ 65 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าดังกล่าวยังไม่รวมกรณีน้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่
ประกันภัยสะอื้นน้ำท่วมเชียงใหม่ โดนลูกค้าเคลมเพียบ เชื่อปีนี้มีอีกหลายระลอก หวั่นเสียหายหนักกว่าปีที่แล้ว ฟันธงกระทบกำไรแน่ เร่งแจกนโยบายตัวแทนแนะลูกค้าย้ายรถหนีน้ำ หวังกระจายพอร์ตงานเฉลี่ยความเสี่ยง ปรับเพิ่มเบี้ยขึ้นเท่าตัว
แหล่งข่าวจากบริษัทประกันวินาศภัยรายหนึ่งเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ผลจากกรณีน้ำท่วมใหญ่ที่เข้าท่วมตัวเมือง เขตเศรษฐกิจ รวมถึงพื้นที่อยู่อาศัยประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นไปได้ที่จะสร้างความเสียหายซึ่งกระทบกับธุรกิจประกันภัยมากกว่าเหตุที่เกิดขึ้นในภาคกลางช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากในพื้นที่ประสบเหตุในจังหวัดเชียงใหม่น่าจะมีสัดส่วนของผู้ที่ทำประกันภัยค่อนข้างมาก ทั้งกลุ่มที่อยู่อาศัย ร้านค้ารายย่อย และรถยนต์
"ขณะนี้แต่ละบริษัทคงยังไม่สามารถเข้าไปสำรวจความเสียหายได้เพราะบางพื้นที่ยังท่วมอยู่ บางพื้นที่เพิ่งลด ในเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเสียหายค่อนข้างเยอะ และเป็นไปได้ที่แต่ละบริษัทมีค่าสินไหมจากความเสียหายมากกว่าปีที่แล้ว แม้ส่วนใหญ่จะเป็นรายย่อย แต่ส่วนใหญ่บริษัทจะเก็บความเสี่ยงไว้เอง ไม่ได้ส่งต่อไปผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศเหมือนลูกค้ารายใหญ่ จึงเชื่อว่าน่าจะมีผลกระทบต่อกำไรในปีนี้แน่นอน"
แหล่งข่าวกล่าวว่า เป็นไปได้ที่เหตุการณ์น้ำท่วมในปีนี้ยังจะไม่จบเท่านี้ เชื่อว่าหลายบริษัทได้เริ่มให้นโยบายแก่ตัวแทนต้องเริ่มลงพื้นที่พบลูกค้า ช่วยดูแลความเสี่ยงให้ลูกค้าด้วย หรือกรณีของรถยนต์ซึ่งเคลื่อนที่ได้ก็เริ่มแนะนำให้ลูกค้าต้องหาที่จอดในกรณีฉุกเฉินเพื่อป้องกันความเสียหายหากเกิดเหตุน้ำท่วมขึ้น นอกจากนี้การขยายช่องทางขายให้หลากหลายเพื่อให้ลูกค้ากระจายตัว ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการบริหารความเสี่ยงได้เช่นกัน
นายพุทธิพงษ์ ด่านบุญสุต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยเศรษฐกิจประกันภัย กล่าวว่า ค่าสินไหมอันเป็นผลจากความเสียหายในกรณีน้ำท่วมปีนี้น่าจะค่อนข้างหนักใกล้เคียงหรือมากกว่าปีที่แล้ว เพราะมีทั้งประกันทรัพย์สินส่วนบุคคล ประกันสำหรับธุรกิจ รวมถึงประกันภัยพืชผลอย่างข้าวนาปีที่เพิ่งเข้ามาเพิ่มในปีนี้ด้วย ดังนั้นผลกระทบต่อบริษัทประกันจะเริ่มเห็นในงบการเงินของไตรมาสที่ 4 ปีนี้ และไตรมาส 1 ปี 2555
สิ่งที่เกิดขึ้นในการปรับตัวของภาคธุรกิจต่อจากนี้ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า น่าจะเห็นการปรับตัวใน 3 เรื่องหลักคือ การปรับรูปแบบการรับเสี่ยงภัย ซึ่งเชื่อว่ารีอินชัวเรอร์จะต้องเริ่มคุยเรื่องนี้อย่างจริงจังกับธุรกิจในประเทศถึงความกังวลเรื่องนี้ อาจจะต้องจำกัดความรับผิดชอบของมูลค่าความเสียหายในแต่ละเหตุการณ์ให้รัดกุมมากขึ้นเพื่อจำกัดวงของความรับผิดชอบ
ผลสะท้อนดังกล่าวจะโยงมาถึงการปรับตัวในด้านที่ 2 ก็คือ การปรับเพิ่มเบี้ยให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นไปได้ที่ภาพรวมค่าเบี้ยอาจจะต้องปรับตัวขึ้นสูงถึง 100% ก็เป็นได้ เพราะความเสี่ยงเปลี่ยนไปมาก จากภัยที่มาเป็นบางฤดูกาล แต่ขณะนี้เป็นภัยที่มาแน่นอน รีอินชัวเรอร์บางรายก็จะไม่กล้ารับ หรือถ้ารับก็ต้องคิดเบี้ยแพงขึ้น
"การคิดเบี้ยก็ต้องอิงกับหลักคณิตศาสตร์ประกันภัยเป็นหลัก เมื่อความเสี่ยงสูงขึ้นก็มีผลต่อเงินกองทุนของบริษัทประกันที่ต้องมีให้เพียงพอรองรับกับความเสี่ยงที่รับประกันภัย จะเริ่มเห็นชัดขึ้นว่าผลจากเหตุการณ์นี้จะสะเทือนในงบการเงินเพิ่มขึ้น จากที่พอร์ตนี้เคยมีกำไรและกระจายไปถัวเฉลี่ยกับพอร์ตอื่นที่เสียหายเยอะ"
เรื่องสุดท้ายก็คือ การปรับปรุงระบบเข้าถึงข้อมูลเพื่อพิจารณาความเสี่ยงก่อนรับประกันภัย โดยทางสมาคมประกันวินาศภัยเองก็ได้เริ่มโครงการสำรวจเส้นทางน้ำจากภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อมาใช้พิจารณาความเสี่ยง
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในกรณีความเสียหายของเหตุการณ์น้ำท่วม 14 จังหวัดภาคใต้ในปลายปีที่แล้ว มีมูลค่าความเสียหายของประกันภัยประมาณ 650 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ที่มีเหตุน้ำท่วมภาคใต้ช่วงเดือน เม.ย.มียอดความเสียหายประมาณเกือบ 200 ล้านบาท ส่วนเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ส.ค.-ต.ค.ที่พบข้อมูลความเสียหายแล้วประมาณ 65 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าดังกล่าวยังไม่รวมกรณีน้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
-
- Verified User
- โพสต์: 159
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 13
ถ้าเทียบกันระหว่าง HMPRO กับ GLOBAL ใครน่าจะขายดีกว่ากันครับ??เพราะดูแล้วJava The Boy เขียน:บริษัทส่วนใหญ่เดือดร้อนทั้งทางตรงและทางอ้อม
ทางอ้อมคือกำลังซื้อหดหาย ขายของและเก็บหนี้ลำบาก
HMPRO กลุ่มวัสดุก่อสร้าง
TASCO ยางมะตอย
ได้ประโยชน์หลังน้ำท่วมทุกปี
กำลังซื้อของคนต่างจังหวัด ไม่น่าจะสู้ราคา HMPRO ไหวนะครับ ถ้าเทียบราคาของสินค้าแล้ว
ผมว่า GLOBAL คนต่างจังหวัดยังพอซื้อไหวนะครับ
ปล.ไม่ได้ดูถูกคนต่างจังหวัดนะครับ..ผมดูจากสภาพบ้านเรือนที่ได้เห็นจากในข่าว และที่สำคัญ
บ้านผมก็อยู่ลพบุรีที่กำลังวิกฤตอยู่(โดนประตูน้ำบางโฉมสีเข้า เต็มๆ ) อ้อแต่ไม่รู้ว่า
ที่ลพบุรี มี HMPRO กับ GLOBAL หรือเปล่า......ผมไม่มีหุ้นทั้งสองตัว นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 16
น้ำท่วมเลิกกิจการมกรากว่า 1,000 ราย [ เดลินิวส์, 7 ก.พ. 55 ]
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศ
เดือน ม.ค. 55 มี จำนวน 1,094 ราย เพิ่มขึ้น 79% เทียบกับเดือน ม.ค. 54 ที่มีนิติบุคคลจดทะเบียน
เลิก 610 ราย หรือเพิ่มขึ้น 484 ราย แต่เมื่อเทียบกับการจดทะเบียนเลิกเดือน ธ.ค. 54 ลดลง 71%
หรือลดลงไป 2,615 ราย โดยมีทุนจดทะเบียนเลิกกิจการ ม.ค. 55 มูลค่า 2,467 ล้านบาท ซึ่งประเภท
ธุรกิจที่จดทะเบียนเลิกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป บริการนันทนการ
อสังหาริมทรัพย์
--จบ--
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศ
เดือน ม.ค. 55 มี จำนวน 1,094 ราย เพิ่มขึ้น 79% เทียบกับเดือน ม.ค. 54 ที่มีนิติบุคคลจดทะเบียน
เลิก 610 ราย หรือเพิ่มขึ้น 484 ราย แต่เมื่อเทียบกับการจดทะเบียนเลิกเดือน ธ.ค. 54 ลดลง 71%
หรือลดลงไป 2,615 ราย โดยมีทุนจดทะเบียนเลิกกิจการ ม.ค. 55 มูลค่า 2,467 ล้านบาท ซึ่งประเภท
ธุรกิจที่จดทะเบียนเลิกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป บริการนันทนการ
อสังหาริมทรัพย์
--จบ--
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 17
สั่งยกถนนสูง 1 ม.ตลอดเจ้าพระยา [ เดลินิวส์, 9 ก.พ. 55 ]
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมช.คมนาคมเปิดเผยว่า ได้ให้กรมทางหลวง (ทล.) และกรม
ทางหลวงชนบท (ทช.) สำรวจเส้นทางถนน ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด ไล่ตั้งแต่จังหวัด
กรุงเทพฯ อยุธยา อ่างทอง ถึงชัยนาท เพื่อสร้างถนนยกระดับ สูงประมาณ 1 เมตร เหมือนเป็น
เขื่อนกั้นน้ำยกระดับตลอดทั้งแนว คาดว่ามีความยาวประมาณ 300-400 กิโลเมตร เพื่อเป็นแนว
ทางป้องกันน้ำท่วมโดยทล. ได้มีการประเมินราคาค่าก่อสร้างเบื้องต้นประมาณกิโลเมตรละ 5-8
ล้านบาท
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมช.คมนาคมเปิดเผยว่า ได้ให้กรมทางหลวง (ทล.) และกรม
ทางหลวงชนบท (ทช.) สำรวจเส้นทางถนน ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด ไล่ตั้งแต่จังหวัด
กรุงเทพฯ อยุธยา อ่างทอง ถึงชัยนาท เพื่อสร้างถนนยกระดับ สูงประมาณ 1 เมตร เหมือนเป็น
เขื่อนกั้นน้ำยกระดับตลอดทั้งแนว คาดว่ามีความยาวประมาณ 300-400 กิโลเมตร เพื่อเป็นแนว
ทางป้องกันน้ำท่วมโดยทล. ได้มีการประเมินราคาค่าก่อสร้างเบื้องต้นประมาณกิโลเมตรละ 5-8
ล้านบาท
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 18
ระวังๆ จะเป็น... เขื่อน_มหาภัย
ไทยรัฐ “ลม เปลี่ยนทิศ”
เขียนติง การสร้างเขื่อนยักษ์ ป้องกันน้ำท่วมใน 6นิคมอุตสาฯ ที่เคยถูกน้ำท่วม ซึ่งจะสร้างเป็นเขื่อนคอนกรีตหนาๆ สูง 5-7ม. ฐานราก ยังฝังลงไปในชั้นดินอีกหลายๆ เมตร โดยชี้ให้เห็นว่า
จะเป็นผลเสีย มากกว่า... ผลดี เป็นการตอกย้ำว่า พื้นที่ตรงนี้จะเจอน้ำท่วมใหญ่ไปอีกนาน เพราะเขื่อน_รัฐบาล มันฟ้องพื้นที่แห่งนี้ คือ ที่น้ำท่วม จึงต้องสร้างเขื่อนใหญ่ ที่แข็งแรง & ถาวร ขนาดนั้น ; ผมเขียนไปว่า ความยาวของเขื่อน ทั้งหมด 50-60กม.
มีผู้รู้โทร.มาแย้งว่า ไม่ใช่แค่ 50-60กม. แต่ทั้งหมดยาว 300กม. แล้วหยอดให้เห็นภาพว่า ลองหลับตา_นึกดู เถิด เขื่อนกั้นน้ำรอบนิคมอุตสาฯ 6แห่ง เพื่อป้องกันน้ำจาก ม.เจ้าพระยา & น้ำทุ่ง ที่ไหลทะลัก มาจากทางเหนือ เมื่อมาเจอเขื่อนยักษ์กั้น แบบนั้น น้ำทั้งหมดจะไหลไปไหน ก็ไหลกระจายทะลักเข้าโจมตี... กรุงเทพฯ มั่วไป... โหม๊ด แน่นอน
การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโดย สร้างเขื่อนยักษ์ ล้อมรอบนิคม 300กม. จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ “ผิด” โดยสิ้นเชิง ! เป็นการเอาเงิน 15,000ล้านบ. ไปทิ้งๆๆ น้ำ ดีไม่ดี อาจเป็น “ชนวน” ทำให้เกิด “การทะเลาะครั้งใหญ่” เพื่อ “ทำลายเขื่อน” อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ได้
ยิ่งฟัง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ พูดในรายการ รัฐบาล_ยิ่งลักษณ์ พบปชช. เมื่อวันเสาร์ ผมฟังแล้ว ก็ยิ่งวิตกแทน
“ เราไม่สามารถบังคับทิศทางของน้ำได้ ซึ่งแผนเฉพาะหน้า ที่เราทำ ก็ไม่สามารถครอบคลุมเรื่องการป้องกันน้ำท่วม ได้ทั้งหมด จะป้องกันได้เฉพาะฝั่ง ม.เจ้าพระยา เขตเมืองเศรษฐกิจ & เขตนิคมอุตสาฯ ”
หมายความว่า พื้นที่ ที่เหลือจะถูกน้ำท่วมหมด ยังงั้น... ฤา
คำพูดของนายกฯ สอดคล้องกับความเห็นของ ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญยุทธศาสตร์น้ำ ของรัฐบาล ที่บอกว่า
หากปริมาณน้ำ มา_เท่าเดิม แล้วรัฐบาล ไม่มีการเตรียมพร้อมป้องกัน หรือว่าทำพื้นที่ Flood Way ตามที่พูดไว้ไม่ทัน แน่นอนว่า กรุงเทพฯ จะท่วมหนัก แน่ โดยเฉพาะทางฝั่งธนฯ จะหนักกว่า... ทุกพื้นที่ เนื่องจาก อยู่ติดกับม.เจ้าพระยา
ความจริงพื้นที่ 31จังหวัด ที่เป็น... ต้นน้ำ , กลางน้ำ & ปลายน้ำ ที่ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะไปฟังบรรยาย ในสัปดาห์หน้า ล้วนเป็นพื้นที่รับน้ำ มาตั้งแต่สมัยโบราณ รวมทั้ง อยุธยา , ปทุมธานี , กรุงเทพฯ ก็เป็นพื้นที่รับน้ำ มาตั้งแต่สมัยอยุธยา
หลายร้อยปีมานี้ มีน้ำท่วมใหญ่ไม่กี่ครั้ง เพราะคนโบราณ รู้จักบริหารจัดการน้ำด้วย Flood Way & คูคลอง มีการขุดคลอง_เพิ่มเติม เพื่อชักน้ำ & ระบายน้ำ
แต่ที่มันท่วมหนัก ในปัจจุบัน เพราะ ม.เจ้าพระยา – ท่าจีน – บางปะกง & คูคลอง ที่บรรพบุรุษขุดไว้หลาย1,000สาย >> มัน ตื้นเขิน ระบายน้ำได้น้อย แถมยังถูกบุกรุกจาก ชุมชน - นายทุนที่ดิน เอาที่ระบายน้ำ_Flood Way ไปทำเป็น หมู่บ้านจัดสรร & โรงงาน เช่นที่ มีนบุรี , หนองจอก ที่เรียกกันว่า “หมู่บ้าน_นายพล” ล้วนตั้งอยู่บนเส้นทางระบายน้ำ_Flood Way ทั้งสิ้น เป็นตัวขวางทางน้ำไหล เพราะมีการ “แก้_ผังเมือง” เพื่อ เปลี่ยน Flood Way เป็น พื้นที่ธุรกิจ เอื้อประโยชน์... พ่อค้า_นายทุน
หนทางเดียว ที่จะแก้น้ำท่วมกรุงเทพฯ & ปริมณฑล ได้อย่างถาวร รัฐบาล ต้องไปเอาพื้นที่ Flood Way คืนมา หรือ ไม่ก็ต้อง “สร้าง Flood Way_ใหม่” ที่มีขนาดใหญ่เพียงพอ จะรองรับน้ำเป็นพันเป็น 10,000ล้านคิว ได้ เหมือนเมืองใหญ่ในโลก เช่นที่ ญี่ปุ่น , เกาหลีใต้ , ...
วันก่อน คุณวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดอุตสาฯ แถลงว่า เขื่อน ในนิคม 6แห่ง (ยกเว้น นิคม_Factory Land ที่ไม่สร้าง) ได้เริ่มลงมือก่อสร้างแล้ว ตั้งแต่ 1 กพ. 55 & จะเสร็จหมดสิ้นภายในเดือน กย. 55นี้
เขื่อนสร้างเสร็จเมื่อไร นิคมอุตสาฯ 6แห่ง ก็จะกลายเป็น... เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ ภายในกำแพงเมืองสูง 6–7ม. มีป้อมค่าย_ดูแลน้องน้ำ จากภายในกำแพง เหมือนเมืองในหนังจีนโบราณ ไม่มีผิด
ไม่รู้ว่า ดูแล้วจะเกิด... ความเชื่อมั่น ตรงไหน? เป็นใคร_ก็เผ่น เผ่นปีนี้_ไม่ทัน ก็ >> เผ่นปีหน้า แน่ๆ ------ # # #
ที่มา : http://www.pantip.com/cafe/news/topic/N ... 83485.html
ไทยรัฐ “ลม เปลี่ยนทิศ”
เขียนติง การสร้างเขื่อนยักษ์ ป้องกันน้ำท่วมใน 6นิคมอุตสาฯ ที่เคยถูกน้ำท่วม ซึ่งจะสร้างเป็นเขื่อนคอนกรีตหนาๆ สูง 5-7ม. ฐานราก ยังฝังลงไปในชั้นดินอีกหลายๆ เมตร โดยชี้ให้เห็นว่า
จะเป็นผลเสีย มากกว่า... ผลดี เป็นการตอกย้ำว่า พื้นที่ตรงนี้จะเจอน้ำท่วมใหญ่ไปอีกนาน เพราะเขื่อน_รัฐบาล มันฟ้องพื้นที่แห่งนี้ คือ ที่น้ำท่วม จึงต้องสร้างเขื่อนใหญ่ ที่แข็งแรง & ถาวร ขนาดนั้น ; ผมเขียนไปว่า ความยาวของเขื่อน ทั้งหมด 50-60กม.
มีผู้รู้โทร.มาแย้งว่า ไม่ใช่แค่ 50-60กม. แต่ทั้งหมดยาว 300กม. แล้วหยอดให้เห็นภาพว่า ลองหลับตา_นึกดู เถิด เขื่อนกั้นน้ำรอบนิคมอุตสาฯ 6แห่ง เพื่อป้องกันน้ำจาก ม.เจ้าพระยา & น้ำทุ่ง ที่ไหลทะลัก มาจากทางเหนือ เมื่อมาเจอเขื่อนยักษ์กั้น แบบนั้น น้ำทั้งหมดจะไหลไปไหน ก็ไหลกระจายทะลักเข้าโจมตี... กรุงเทพฯ มั่วไป... โหม๊ด แน่นอน
การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโดย สร้างเขื่อนยักษ์ ล้อมรอบนิคม 300กม. จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ “ผิด” โดยสิ้นเชิง ! เป็นการเอาเงิน 15,000ล้านบ. ไปทิ้งๆๆ น้ำ ดีไม่ดี อาจเป็น “ชนวน” ทำให้เกิด “การทะเลาะครั้งใหญ่” เพื่อ “ทำลายเขื่อน” อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ได้
ยิ่งฟัง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ พูดในรายการ รัฐบาล_ยิ่งลักษณ์ พบปชช. เมื่อวันเสาร์ ผมฟังแล้ว ก็ยิ่งวิตกแทน
“ เราไม่สามารถบังคับทิศทางของน้ำได้ ซึ่งแผนเฉพาะหน้า ที่เราทำ ก็ไม่สามารถครอบคลุมเรื่องการป้องกันน้ำท่วม ได้ทั้งหมด จะป้องกันได้เฉพาะฝั่ง ม.เจ้าพระยา เขตเมืองเศรษฐกิจ & เขตนิคมอุตสาฯ ”
หมายความว่า พื้นที่ ที่เหลือจะถูกน้ำท่วมหมด ยังงั้น... ฤา
คำพูดของนายกฯ สอดคล้องกับความเห็นของ ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญยุทธศาสตร์น้ำ ของรัฐบาล ที่บอกว่า
หากปริมาณน้ำ มา_เท่าเดิม แล้วรัฐบาล ไม่มีการเตรียมพร้อมป้องกัน หรือว่าทำพื้นที่ Flood Way ตามที่พูดไว้ไม่ทัน แน่นอนว่า กรุงเทพฯ จะท่วมหนัก แน่ โดยเฉพาะทางฝั่งธนฯ จะหนักกว่า... ทุกพื้นที่ เนื่องจาก อยู่ติดกับม.เจ้าพระยา
ความจริงพื้นที่ 31จังหวัด ที่เป็น... ต้นน้ำ , กลางน้ำ & ปลายน้ำ ที่ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะไปฟังบรรยาย ในสัปดาห์หน้า ล้วนเป็นพื้นที่รับน้ำ มาตั้งแต่สมัยโบราณ รวมทั้ง อยุธยา , ปทุมธานี , กรุงเทพฯ ก็เป็นพื้นที่รับน้ำ มาตั้งแต่สมัยอยุธยา
หลายร้อยปีมานี้ มีน้ำท่วมใหญ่ไม่กี่ครั้ง เพราะคนโบราณ รู้จักบริหารจัดการน้ำด้วย Flood Way & คูคลอง มีการขุดคลอง_เพิ่มเติม เพื่อชักน้ำ & ระบายน้ำ
แต่ที่มันท่วมหนัก ในปัจจุบัน เพราะ ม.เจ้าพระยา – ท่าจีน – บางปะกง & คูคลอง ที่บรรพบุรุษขุดไว้หลาย1,000สาย >> มัน ตื้นเขิน ระบายน้ำได้น้อย แถมยังถูกบุกรุกจาก ชุมชน - นายทุนที่ดิน เอาที่ระบายน้ำ_Flood Way ไปทำเป็น หมู่บ้านจัดสรร & โรงงาน เช่นที่ มีนบุรี , หนองจอก ที่เรียกกันว่า “หมู่บ้าน_นายพล” ล้วนตั้งอยู่บนเส้นทางระบายน้ำ_Flood Way ทั้งสิ้น เป็นตัวขวางทางน้ำไหล เพราะมีการ “แก้_ผังเมือง” เพื่อ เปลี่ยน Flood Way เป็น พื้นที่ธุรกิจ เอื้อประโยชน์... พ่อค้า_นายทุน
หนทางเดียว ที่จะแก้น้ำท่วมกรุงเทพฯ & ปริมณฑล ได้อย่างถาวร รัฐบาล ต้องไปเอาพื้นที่ Flood Way คืนมา หรือ ไม่ก็ต้อง “สร้าง Flood Way_ใหม่” ที่มีขนาดใหญ่เพียงพอ จะรองรับน้ำเป็นพันเป็น 10,000ล้านคิว ได้ เหมือนเมืองใหญ่ในโลก เช่นที่ ญี่ปุ่น , เกาหลีใต้ , ...
วันก่อน คุณวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดอุตสาฯ แถลงว่า เขื่อน ในนิคม 6แห่ง (ยกเว้น นิคม_Factory Land ที่ไม่สร้าง) ได้เริ่มลงมือก่อสร้างแล้ว ตั้งแต่ 1 กพ. 55 & จะเสร็จหมดสิ้นภายในเดือน กย. 55นี้
เขื่อนสร้างเสร็จเมื่อไร นิคมอุตสาฯ 6แห่ง ก็จะกลายเป็น... เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ ภายในกำแพงเมืองสูง 6–7ม. มีป้อมค่าย_ดูแลน้องน้ำ จากภายในกำแพง เหมือนเมืองในหนังจีนโบราณ ไม่มีผิด
ไม่รู้ว่า ดูแล้วจะเกิด... ความเชื่อมั่น ตรงไหน? เป็นใคร_ก็เผ่น เผ่นปีนี้_ไม่ทัน ก็ >> เผ่นปีหน้า แน่ๆ ------ # # #
ที่มา : http://www.pantip.com/cafe/news/topic/N ... 83485.html
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 19
แนวฟลัดเวย์ไม่ต้องซื้อประกัน รัฐบาลให้ความคุ้มครอง นอกพื้นที่ขายปลายมีนา [ เดลินิวส์, 9 มี.ค. 55 ]
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(คปภ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทประกันภัยเปิดขายกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองภัยพิบัติ ตาม พ.ร.บ.
กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ พ.ศ. 2555 ช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ เป็นต้นไป ขอให้ประชาชนตรวจ
สอบพื้นที่ของตนเองด้วยว่า บ้านเรือน และทรัพย์สินที่จะทำประกันภัยพิบัติต้องไม่อยู่ในแนวทางรับน้ำ
(ฟลัดเวย์) ทางน้ำผ่าน หรือแก้มลิง ตามที่รัฐบาลประกาศด้วย เพราะถือว่าพื้นที่ดังกล่าวรัฐบาลรับผิดชอบ
ช่วยเหลืออยู่แล้ว แต่ผู้ที่ยังไม่มั่นใจว่าจะถูกรวมอยู่นพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ ซื้อกรมธรรม์ไปก่อนได้ หากรัฐบาล
ประกาศชัดแล้ว บริษัทประกันภัยจะคืนเงินค่าเบี้ยประกันให้ภายหลัง
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(คปภ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทประกันภัยเปิดขายกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองภัยพิบัติ ตาม พ.ร.บ.
กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ พ.ศ. 2555 ช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ เป็นต้นไป ขอให้ประชาชนตรวจ
สอบพื้นที่ของตนเองด้วยว่า บ้านเรือน และทรัพย์สินที่จะทำประกันภัยพิบัติต้องไม่อยู่ในแนวทางรับน้ำ
(ฟลัดเวย์) ทางน้ำผ่าน หรือแก้มลิง ตามที่รัฐบาลประกาศด้วย เพราะถือว่าพื้นที่ดังกล่าวรัฐบาลรับผิดชอบ
ช่วยเหลืออยู่แล้ว แต่ผู้ที่ยังไม่มั่นใจว่าจะถูกรวมอยู่นพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ ซื้อกรมธรรม์ไปก่อนได้ หากรัฐบาล
ประกาศชัดแล้ว บริษัทประกันภัยจะคืนเงินค่าเบี้ยประกันให้ภายหลัง
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำท่วม บริษัทไหนเดือดร้อน และบริษัทไหนได้ประโยชน์
โพสต์ที่ 20
คาดปีนี้พื้นที่กรุงเทพฯ20%ไม่รอดน้ำท่วม [ ข่าวสด, 20 ก.ค. 55 ]
นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวด ล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานา
ชาติสิรินธร กล่าวในงานเสวนาเรื่อง 'ถอดบทเรียนการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยใน 3
มิติ' จัดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า ปีนี้โอกาสที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
จะเกิดน้ำท่วม มีความเป็นไปได้ 20% ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงน้อย เพราะปริมาณน้ำยังน้อยกว่าปีที่
ผ่านมา แต่ต้องจับตาดูว่าจะมีพายุเข้าไทยแค่ไหน
นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวด ล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานา
ชาติสิรินธร กล่าวในงานเสวนาเรื่อง 'ถอดบทเรียนการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยใน 3
มิติ' จัดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า ปีนี้โอกาสที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
จะเกิดน้ำท่วม มีความเป็นไปได้ 20% ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงน้อย เพราะปริมาณน้ำยังน้อยกว่าปีที่
ผ่านมา แต่ต้องจับตาดูว่าจะมีพายุเข้าไทยแค่ไหน
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."