COMPANY VISIT REPORT: ASIMAR

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

COMPANY VISIT REPORT: ASIMAR

โพสต์ที่ 1

โพสต์

รายงาน Company Visit ของ Thai Value Investor
บมจ. เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ (ASIMAR)
โดยสำนักข่าวอินโฟเควสท์

ASIMAR เผยรายได้ซ่อมเรือไตรมาสแรกพุ่ง 74 ล้านบาท สูงจากเป้า 66 ล้านบาท เตรียมรับรู้รายได้ 117 ล้านบาทในไตรมาส 3 ส่งผลแนวโน้มสูงทำรายได้ตามเป้า 600 ล้านบาท แย้มของานประมูลอีก 1-2 โครงการเท่านั้น พร้อมวางแผนขยายอู่ลอยเพิ่มแห่งที่ 3 รองรับเรือขนาดใหญ่ต่างประเทศ และมุ่งหาพันธมิตรต่างชาติ หวังเสริมจุดแข็งในบริการ ระบุราคาน้ำมันและเหล็กขึ้นไม่กระทบ เหตุปรับเพิ่มค่าบริการรอบ 2 ในปีนี้
นางวรวรรณ งานทวี กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ (ASIMAR) เปิดเผยว่า จากที่เคยตั้งเป้าไว้ว่ารายได้บริษัทฯปีนี้จะอยู่ที่ 600 ล้านบาทนั้น หลังจากผลดำเนินงานไตรมาสแรกที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทจะทำได้ตามเป้า เพราะตัวเลขรายได้ในส่วนที่มาจากการซ่อมเรือพุ่งสูงถึง 74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/46 ที่รับรู้รายได้เพียง 35 ล้านบาท และสูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 66 ล้านบาท ดังนั้น ASIMAR คาดว่ารายได้จากการซ่อมเรือปี 2547 น่าจะอยู่ที่ 300 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ 250 ล้านบาท ประมาณ 20%
ขณะเดียวกัน บริษัทฯเตรียมรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/47 โดยเป็นโครงการจากต่างประเทศ 50 ล้านบาท และโครงการรัฐบาลอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 67 ล้านบาท รวมทั้งรายได้จากโครงการเรือตำรวจน้ำที่จะส่งมอบในปลายเดือนนี้ ดังนั้น หากชนะงานประมูลโครงการอีกเพียง 1 หรือ 2 โครงการ ก็จะทำให้บริษัทฯทำรายได้ตามเป้าที่คาดไว้ โดยมีมูลค่าโครงการละประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งโครงการแรกที่จะเริ่มประมูลอยู่ในช่วงไตรมาส 3 โดยเป็นงานภายในประเทศมูลค่าราว 250 ล้านบาท
"รายได้ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสแรก เป็นผลมาจากการซื้ออู่ลอยสำหรับต่อเรือและซ่อมเรือเพิ่มอีก 1 อู่ ซึ่งจะส่งผลต่อมาร์จินของบริษัทฯ โดยขณะนี้งานในประเทศเราเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดประมาณ 30% แต่งานจากต่างประเทศเป็นของบริษัทยูนิไท" นางวรวรรณ กล่าว
นางวรวรรณ กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนจะขยายอู่ลอยเพิ่มเป็นแห่งที่ 3 ในอนาคตอันใกล้ โดยจะเป็นอู่ลอยที่รองรับเรือขนาดใหญ่กว่า 20,000 เดทเวทตัน จากปัจจุบันที่อู่ลอย 2 แห่งของบริษัทฯรับเรือขนาดไม่เกิน 4,000 และ 20,000 เดทเวทตัน เนื่องจากมีลูกค้าต่างประเทศที่มีเรือขนาดใหญ่เคยติดต่อขอใช้บริการ แต่บริษัทฯไม่มีอู่รองรับได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจำเป็นต้องออกหุ้นเพิ่มทุน หากต้องลงทุนสำหรับอู่ลอยขนาดใหญ่ดังกล่าว คาดว่าจะใช้เม็ดเงินประมาณ 300 - 400 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมุ่งหาพันธมิตรต่างชาติ เพื่อดึงจุดเด่นของพันธมิตรเหล่านั้น มาเสริมจุดแข็งให้กับ ASIMAR อาทิ บริษัทในญี่ปุ่น ซึ่งมีแผนจะร่วมจัดดีไซด์แพ็กเกจ คือ การนำลูกค้าในญี่ปุ่นมาใช้บริการอู่ของ ASIMAR และใช้วัตถุดิบและอุปกรณ์ทันสมัยบางส่วนจากญี่ปุ่น โดย ASIMAR จะเป็นผู้สนับสนุนในด้านกำลังการผลิต เพราะค่าจ้างแรงงานที่ญี่ปุ่นสูงมาก ขณะเดียวกัน ยังส่งผลดีต่อการพัฒนาเทคโนโลยีของบริษัทฯในอนาคตด้วย ล่าสุด บริษัทของสเปนแห่งหนึ่ง เพิ่งเข้ามาเยื่ยมชมโรงงาน และสนใจเป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้วย
ทางด้านสถานการณ์เศรษฐกิจโลกขณะนี้ นางวรวรรณ กล่าวว่า ราคาน้ำมันและราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทฯเพิ่ม แต่ไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อสัดส่วนมาร์จิน เพราะบริษัทฯเพิ่งจะปรับขึ้นค่าบริการเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี ส่วนกรณีที่จีนแตะเบรคเศรษฐกิจอาจมองได้ 2 แง่มุม คือ ส่งผลเสียที่ลูกค้าจากจีนน้อยลง แต่ขณะเดียวกันก็ส่งผลดี เพราะจีนก็เป็น 1 ในคู่แข่ง เช่นเดียวกับสิงคโปร์และเวียดนาม ที่มีความก้าวหน้าในธุรกิจอู่เรือมาก
ทั้งนี้ ASIMAR ได้ปรับลดสัดส่วนมาร์จินของบริการลง เพราะต้องการดึงลูกค้าจากประเทศคู่แข่งดังกล่าวมากขึ้น โดยเฉพาะเวียดนามที่เป็นคู่แข่งสำคัญในขณะนี้ แต่ยังคงรายได้ปี 2547 ตามแผนคาดการรณ์ของบริษัทฯ คือ รายได้จากการซ่อมเรือ 250 ล้านบาท การต่อเรือ 350 ล้านบาท และรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากปี 2546 อีก 70 ล้านบาท รวมเป็น 600 ล้านบาท
man
Verified User
โพสต์: 245
ผู้ติดตาม: 0

COMPANY VISIT REPORT: ASIMAR

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ยกขึ้นมาให้อ่านชัดๆ
ขอบคุณ คุณ มานพ คุณ ck
ล็อคหัวข้อ