สูตรสำหรับคนเล่นMargin!!! (ใครเล่นMarginห้ามพลาดนะครับ^^)

[picklife]

สวัสดีครับ^^เห็นว่าช่วงนี้ตลาดไม่สู้ดีนัก...เลยเริ่มเป็นห่วงคนเล่นมาร์จิ้นครับ เลยขออนุญาติแชร์สูตรที่ผมใช้ในการบริหารความเสี่ยงในช่วงที่เล่นมาร์จิ้นนะครับ...เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆโดนเฉพาะ!!!มือใหม่!!!

สูตรนี้เป็นสูตรง่ายๆครับเพื่อให้ในการประเมินว่าเมื่อไหร่ เราจะถูกMargin Call และเมื่อไหร่เราจะโดนForced Sell และหลังจากที่เราโดนForced Sell สภาพของพอร์ทเราจะมีลักษณะเช่นไร?

ใครที่เล่นมาร์จิ้นไม่ควรอย่างยิ่ง!!!ที่จะมองว่าจะได้อย่างเดียว เราต้องมองในกรณีที่เสียด้วยแล้วประเมินอีกทีว่าโอกาสที่ได้เพิ่มขึ้นมาแลกกับกับความเสี่ยงที่ได้รับ มันคุ้มไหม!!!!

วิธีหนึ่งที่ผมใช้ในการประเมินก่อนที่จะตัดสินใจว่าตัวเองจะเล่นมาร์จิ้นไหม คือการทำworksheet5-10ปี แล้วแต่สมมุติฐานว่าPanicจะเกิดทุกกี่ปี อย่างผมผมมองที่5ปีเกิดครั้ง ผมก็ลองสมมุติว่าถ้าถือหุ้น50% ปีที่1-4ได้กำไรปีละ20% ปีที่5ขาดทุน-50% พอร์ทปลายทางจะเป็นเท่าไหร่? และลองทำตารางหลายๆอัน ไล่ต้องแต่ถือหุ้น50% 75% 100% 125% 150% 175% 200% แล้วดูว่าพอร์ทแบบไหนโตสุด และลองเปลี่ยนจากขาดทุน-50%ในปีที่5เป็นปีที่1 2 3 4 ค่าจะต่างกันไหม? ลองเปลี่ยนReturnเป็น 10% 30% และขาดทุน-60% หรืออื่นๆตามสสมุติฐานที่เราได้ตั้งไว้ แล้วประเมินดูว่าในระยะยาวการใช้มาร์จิ้นเท่าไหร่ดีที่สุด แต่!!!!ผมไม่ขอเอาที่ผมทำมาแชร์นะครับอยากให้ลองเองเพราะไม่อยากชี้แนะให้ใครเล่นจิ้นเดี๋ยวเล่นเสียหายหนักจะมาเล่นผมT^Tผมก็ซวยเลย...

ซึ่งสิ่งที่อยากจะสื่อคือ การจะตัดสินใจทำอะไร? หรือไม่ทำอะไร? อย่าใช้อารมณ์ ความโลภ คลวามกลัว หรืออะไรก็ตาม ให้ใช้เหตุผลที่มาจากการวางแผนไว้แล้วล่วงหน้าดีกว่าครับ ซึ่งถ้าPanic-50%อยู่ในแผนของคุณ พอวันนั้นมาถึงคุณก็ไม่ตื่นตะหนก ตกกะจาย เพราะทุกอย่างมันอยู่ในแผนเราทั้งหมด^^ดังนั้นสำหรับมือใหม่อย่าทำอะไรโดยไร้แผนนะครับ^^


กลับมาที่สูตรดีกว่าครับ^^(เป็นสูตรง่ายๆนะครับ หลายท่านอาจจะรู้แล้ว แต่หลายคิดว่ายังไม่รู้โดยเฉพาะคนอ่อนMathอย่างผมT^Tกว่าจะได้สูตรนี้มาคิดหัวแทบแตกT^T)


Remark: สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักว่าMMคืออะไรแนะนำให้อ่านกระทู้นี้เสริมนะครับ http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 26481.html


k=(Mn-Mf)/(100-Mf) ---------------------(สมการที่1)
Ef=(1-k/Mf) ---------------------(สมการที่2)

k=%ขาดทุนของพอร์ทรวม
Mn=%Margin Rate Now คือ%MMณ.ปัจจุบัน
Mf=%Margin Rate Future คือ%MMในอนาคต ปกติใช้ที่35และ25เพื่อจะได้รู้ค่าk
Ef=%พอร์ทคงเหลือในอนาคต

[picklife]

ตัวอย่างที่1 ตลาดดูไม่ค่อยดีเลยอยากรู้ว่าถ้าพอร์ทเราลงไปอีกประมาณกี่%เราถึงโดนCallและลงไปอีกกี่%เราถึงโดนForce Sell

ในพอร์ทมีหุ้นหลายตัว มีต้องแต่MM50 ถึงMM90 แต่โดยสรุปแล้ว
Portมูลค่า=180,000บาท
หนี้=80,000บาท
ส่วนทุนปัจจุบันEn=100,000บาท

ดังนั้นขั้นแรกเราต้องหาMMของพอร์ทเราก่อน เพราะแม้นMMของหุ้น50 แต่เราอาจจะให้ไม่เต็ม50 หรือเราใช้เต็มแต่ถือหุ้นหลายMM
ซึ่งผมให้MMของพอร์ทปัจจุบันคือMnตามสูตร
ดังนั้น Mn=En/Portn=100,000/150,000*100=55.56%

Mfที่โดนMargin Call = 35%
k=(Mn-Mf)/(100-Mf)
k=(55.56-35)/(100-35)=31.63%<<<<<<<<<<Margin Call
Ef=(1-k/Mn) ******ขอแก้สูตรจากMfเป็นMnนะครับ
Ef=(1-31.63/55.56)
Ef=43.07%
Ef=0.4307*100,000=43,700บาท

Mfที่โดนForced Sell = 25%
k=(Mn-Mf)/(100-Mf)
k=(55.56-25)/(100-25)=40.75%<<<<<<<<<<Forced SellEf=(1-k/Mn) ******ขอแก้สูตรจากMfเป็นMnนะครับ
Ef=(1-40.75/55.56)
Ef=26.66%
Ef=0.2666*100,000=26,660บาท

สรุป!!! ถ้าคุณมีเงิน1แสนคุณถือหุ้น180% ถ้าพอร์ทคุณร่วงลงไป-31.63%ส่วนทุนคุณจะเหลือ43,700บาทคุณจะโดนCallเพื่อให้MMของพอร์ทคุณมากกว่า35
แต่หากลงต่อไปอีกรวมเป็น-40.75%ส่วนทุนคุณจะเหลือ26,660บาท คุณจะโดนบังคับขายเพื่อให้MMของพอร์ทคุณมากกว่า25

ปล.ข้อดีของสูตรนี้คือ คุณสามารถทำการประเมินได้ทุกเวลาที่คุณต้องการ เช่นถ้าพอร์ทคุณลงมาแล้ว-15%คุณก็สามารถมาเข้าสูตรนี้ใหม่ได้ โดยมูลค่าพอร์ทล่าสุด กับหนี้ตัวเดิม(แต่อาจจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อย เพราะมีส่วนดอกเบี้ยด้วย)
แล้วถึงเวลานั้นคุณค่อยมาตัดสินใจว่าจะเอายังต่อดีต่อไป ถ้าไม่ทำอะไรหุ้นลงไป-31.63%หรือ40.75% ตอนนั้นPEจะเป็นเท่าไหร่?มีโอกาสเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน?(ปล.อย่าไปเล่นตัวที่Eลดนะครับ^^เพราะมันคือเหวที่ไม่มีก้น)
และถ้ามองย้อนอดีตแล้วหุ้นที่พื้นฐานแบบนี้Eไม่กระทบยังโตสม่ำเสมอ เจอPanicแบบนี้ PEจะลงไปถึงเท่าไหร่? 8 6 4 หรือ2(แล้วแต่อุตสาหกรรมและพื้นฐานมันด้วยนะครับ^^)

ปล.การลงทุนมีความเสี่ยง การเล่นจิ้นบนความเสี่ยงมีความเสี่ยงโครตๆ ดังนั้นศึกษาข้อมูลให้ดี อย่าโลภ และวางแผนรับแผนรุกก่อนการลงทุนทุกครั้งนะครับ^^

[picklife]

k=(Mn-Mf)/(100-Mf) ---------------------(สมการที่1)
Ef=(1-k/Mn) ---------------------(สมการที่2)

k=%ขาดทุนของพอร์ทรวม
Mn=%Margin Rate Now คือ%MMณ.ปัจจุบัน=ส่วนทุนปัจจุบัน/มูลค่าพอร์ทปัจจุบัน
Mf=%Margin Rate Future คือ%MMในอนาคต ปกติใช้ที่35และ25เพื่อจะได้รู้ค่าk
Ef=%พอร์ทคงเหลือในอนาคต

ขอโทษครับขอแก้สูตรใหม่เป็นตามนี้นะครับ^^

[picklife]

อ้ออ!!!! เผื่อน้องใหม่มาอ่าน แนะนำให้ไปอ่านเรื่องเกี่ยวกับมาร์จิ้นในเวปTVIนะครับ เพราะมีพี่ๆมาแชร์กันหลายกระทู้มากๆความรู้ดีๆทั้งนั้นครับ
และปัจุบันผม.....ผม....ผมไม่จิ้นแล้วนะครับ

[thaloengsak]

ผมมือใหม่ขอคำแนะนำด้วยครับ

[picklife]

ผมมือใหม่ขอคำแนะนำด้วยครับ

ผมใหม่กว่าพี่อีกครับ
หลักฐานมือใหม่ ว่าแล้วก็ถามซะเลย

รบกวนถามพี่ๆที่พอรู้เรื่องการCallและการForceหน่อยนะครับพี่
( ไม่เคยอ่านรายละเอียดตรงนี้เลย)

1.ในกรณีที่โดนCall(อยู๋ในช่วงMM25-35แล้วทำเนียนครับ) แล้วเราไม่วางเงินเพิ่มจะเกิดอะไรขึ้นครับ ดอกจะขึ้นหรือปล่าวครับ หรือโดนตัดเครดิตครับ???

2.ในกรณีที่โดนForceแล้ว เข้าจะขายบางส่วนเพื่อให้MMกลับมาที่25 หรือขายให้MMกลับมาที่35 หรือขายล้างพอร์ทเลยครับ?

3.ดอกเบี้ย เขาจะเพิ่มมาในLoadใช่ไหมครับ เขาเพิ่มวันละครั้ง เดือนละครั้ง หรือเพิ่มยังไงหรอครับ?

4.ทำไมเราไม่ได้เอกสารว่าเราเสียค่าดอกไปเท่าไหร่? เมื่อไหร่บ้าง? เราสามารถขอได้ไหมครับ?

[leaderinshadow]

จริงๆ ถามโบรก ง่ายกว่าครับ ฮาๆๆ

ผมสงสัยอะไร ก็ถามโบรกเอา ไม่ก็ขอโหลดคู่มือ เรื่องการใช้มาร์จิ้นจากโบรก มาอ่านเพราะบางที มาร์ก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง
แต่พอดีว่า พอมีความรู้เรื่องพวกนี้อยู่ก่อนบ้างแล้ว

เรื่อง ดอกเบี้ย แต่ละโบรกจะมีสูตรการคิดไม่เหมือนกันนะครับ ต้องถามมาร์
ส่วนการ Force คือ จุดที่หนี้ เท่ากับทุน ตรงนั้นจะเป็นจุดที่เงินลงทุนเราไม่เหลือซักบาทแล้วนะครับ
เค้าจะขายหุ้นทั้งหมดเพื่อใช้หนี้ครับ
แต่มักจะมีการโทรแจ้ง ก่อนประหารชีวิตนะครับ

เพราะการ Force sell คือการประหารชีวตนักลงทุน
หรือเป็นจุดที่นักลงทุนหมดตัวนะครับ

[SamuelYeD]

จริงๆ ถามโบรก ง่ายกว่าครับ ฮาๆๆ

ผมสงสัยอะไร ก็ถามโบรกเอา ไม่ก็ขอโหลดคู่มือ เรื่องการใช้มาร์จิ้นจากโบรก มาอ่านเพราะบางที มาร์ก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง
แต่พอดีว่า พอมีความรู้เรื่องพวกนี้อยู่ก่อนบ้างแล้ว

เรื่อง ดอกเบี้ย แต่ละโบรกจะมีสูตรการคิดไม่เหมือนกันนะครับ ต้องถามมาร์
ส่วนการ Force คือ จุดที่หนี้ เท่ากับทุน ตรงนั้นจะเป็นจุดที่เงินลงทุนเราไม่เหลือซักบาทแล้วนะครับ
เค้าจะขายหุ้นทั้งหมดเพื่อใช้หนี้ครับ
แต่มักจะมีการโทรแจ้ง ก่อนประหารชีวิตนะครับ

เพราะการ Force sell คือการประหารชีวตนักลงทุน
หรือเป็นจุดที่นักลงทุนหมดตัวนะครับ

ข้อคำแนะนำด้วย ตัวอย่างเช่น

ทุน 1 ล้านบาท กู้ Margin 6 แสนบาท รวมเป็นทุนทั้งหมด 1.6 ล้านบาท และหนี้ 6 แสนบาท
ถ้ามูลค่าหุ้นลดลงจาก 1.6 ล้านบาท เหลือ 6 แสนบาท(หรืออาจมากกว่าสำหรับความเสี่ยงที่มูลค่าจะลดอีก)
ก็จะโดน Force Sell ใช่หรือไม่ครับ

ขอบคุณครับ

[leaderinshadow]

จริงๆ คือ จะโดนเรียก Call มาร์จิ้นที่ MM เหลือ 35% ก่อนครับ
ก็ที่ประมาณ 9.2 แสน
ว่าขอให้เพิ่มหลักประกัน

เค้าคงไม่อยู่ดีๆ มา force
ส่วนจุดที่ Force คือ MM 25%
จาก หนี้ 6 แสน ถ้าจิ้มเครื่องไม่ผิดคือ พอร์ตรวมที่ 8 แสนครับ จะโดน Force ครับ
และถ้ากำลัง Force แล้วระหว่างนั้น ราคากำลังร่วง จนเงินที่ชำระหนี้ไม่หมด ก็เป็นเรื่อง

ยกตัวอย่าง เช่นหุ้น IEC LIVE ตอนก่อนดิ่งนรก ราคาประมาณ 5 บาท
บทจะร่วง ราคาเค้าร่วง ติด floor กันหลายวัน แบบไม่มี Bid คือ เปิดมา floor เลย เปิดมาอีกวัน ก็ floor
จนราคาเหลือไม่ถึงบาท ใครที่ใช้มาร์จิ้นซื้อไว้ ก็หมดตัวได้

เวลากดเครื่องคิดเลข
ผมใช้วิธีง่ายๆคือ คือ เอา 1 ลบด้วย MM (ตัวอย่าง Call 35% ก็เอา 1-0.35=0.65)
ไปหารจำนวนหนี้ ก็จะรู้ตัวเลขคราวๆ

หรือลองศึกษาจากไฟล์คุณชิณญ์ดูนะครับ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=49911

[Financeseed]

ยังไม่ได้เล่น แต่ขอศึกษาไว้ก่อนนะครับ

[picklife]

จริงๆ ถามโบรก ง่ายกว่าครับ ฮาๆๆ

ผมสงสัยอะไร ก็ถามโบรกเอา ไม่ก็ขอโหลดคู่มือ เรื่องการใช้มาร์จิ้นจากโบรก มาอ่านเพราะบางที มาร์ก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง
แต่พอดีว่า พอมีความรู้เรื่องพวกนี้อยู่ก่อนบ้างแล้ว

เรื่อง ดอกเบี้ย แต่ละโบรกจะมีสูตรการคิดไม่เหมือนกันนะครับ ต้องถามมาร์
ส่วนการ Force คือ จุดที่หนี้ เท่ากับทุน ตรงนั้นจะเป็นจุดที่เงินลงทุนเราไม่เหลือซักบาทแล้วนะครับ
เค้าจะขายหุ้นทั้งหมดเพื่อใช้หนี้ครับ
แต่มักจะมีการโทรแจ้ง ก่อนประหารชีวิตนะครับ

เพราะการ Force sell คือการประหารชีวตนักลงทุน
หรือเป็นจุดที่นักลงทุนหมดตัวนะครับ

อ้ออ.....ขอบคุณมากๆครับ^^

แต่จุดที่Forceนี่ผมว่าไม่ใช่จุดที่หนี้เท่ากับพอร์ทนะครับและทุนเป็น0นะครับ
น่าจะเป็นจุดที่MM25% ทุน/พอร์ท=0.25
ถ้าทุน=100พอร์ทก็400 เท่ากับ4เด้ง!!!
จากนี้ถ้าหุ้นลงอีก25%เงินเราจะ=0บาท ดังนั้นForceจุดนี้สำหรับBrokerน่าจะปลอดภัยครับ
เพราะพอร์ทบางท่านโยนMPแล้วหายไปเป็น10% ดังนั้นถ้าBrokerปล่อยให้ทุนเหลือ0แล้วโยนขาย ผมว่าจุดนั้นน่าจะเข้าเนื้อแล้วนะครับ

[picklife]

เวลากดเครื่องคิดเลข
ผมใช้วิธีง่ายๆคือ คือ เอา 1 ลบด้วย MM (ตัวอย่าง Call 35% ก็เอา 1-0.35=0.65)
ไปหารจำนวนหนี้ ก็จะรู้ตัวเลขคราวๆ

ขอบคุณครับวิธีนี้ง่ายมากๆครับ