เราบริโภคข่าวสารมากเกินไปรึเปล่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1311
- ผู้ติดตาม: 0
เราบริโภคข่าวสารมากเกินไปรึเปล่า
โพสต์ที่ 1
ผมสงสัยว่าถ้าเราลงทุนโดยมุ่งศึกษาไปที่รายบริษัทอย่างเดียวโดยไม่ต้องไปบริโภคข่าวสารมากไปจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า และลงทุนสบายใจกว่ารึเปล่าครับ อย่างเหตุการหนี้ยุโรป อเมริกาถดถอย ถ้าเราไม่รู้(เพราะไม่บริโภคข่าวเลย)เราคงไม่ไปคาดการตลาดว่าจะลง บางคนล้างพอร์ตขายหุ้นไปก่อน(ผมปล่อยไป30%) บางคนพอตลาดตกหนักหุ้นราคาต่ำกว่าพื้นฐาน yieldสูงมากขึ้นแต่ไม่กล้าซื้อเพราะรับรู้ว่าศกกำลังแย่ ตลาดหุ้นอาจตกลงไปอีก(ที่ว่ากันว่าถูกแล้วยังมีถูกกว่า) แต่หากท้ายที่สุดเหตุการไม่แย่อย่างที่คิดหุ้นกลับมาก็คิดเสียดายว่าขายไปทำไม ครั้นจะเข้าซื้ออีกครั้งก็กลัวเหตุการจะไม่จบจริง กลายเป็นเสียโอกาสไป รึเปล่าครับ
- OutOfMyMind
- Verified User
- โพสต์: 1232
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราบริโภคข่าวสารมากเกินไปรึเปล่า
โพสต์ที่ 2
ผมว่าเปิดตารับข่าวสารไว้ก็ดีนะครับ แต่ใจเราต้องเอามากรองเองว่ามันส่งผลต่อการลงุทนของเราจริง ๆ หรือไม่
แชทบอทสำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า
https://www.chathoon.com/
https://www.chathoon.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 1401
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราบริโภคข่าวสารมากเกินไปรึเปล่า
โพสต์ที่ 3
ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและอารมณ์ความรู้สึกในตอนนั้นครับ บางทีคนเราอาจจะเครียดเรื่องแบบนี้มากเกินไปว่ามันจะกระทบกับหุ้นที่เราถือ แต่เศรษฐกิจมีบทบาทมากกับตัวบริษัทและแนวโน้ม ควรจะศึกษาไว้ครับ แต่ถ้าคิดว่าเรารับไม่ไหวจริงๆ ก็พักสักหน่อย
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราบริโภคข่าวสารมากเกินไปรึเปล่า
โพสต์ที่ 4
ผมว่าเมื่อเราลงทุนในบริษัท หนึ่ง ๆ สิ่งที่เราควรรู้ คือ รู้ในตัวธุรกิจ ของบริษัท นั้น ๆ ให้ได้มากที่สุด
เมื่อธุรกิจ ยังดำเนินไปตามปกติ ข่าวสาร ที่เข้ามากระทบ ธุรกิจ นั้น ๆ จะมี 2 อย่างคือ
1. กระทบตัวธุรกิจโดยตรง เช่น ถ้าขายยาง ก็ราคายางแพงขึ้น
2. กระทบธุรกิจโดยอ้อม เช่น ตลาดยุโรป ปั่นป่วน
ปัญหาของคนส่วนใหญ่ รวมทั้ง ผมด้วย คือ ไม่สามารถแยก แยะ ได้อย่างชัดเจน ว่า ข่าวสารนั้น ๆ จะกระทบธุรกิจ ขนาดไหน และจะส่งผลเมื่อไหร่
และ ผมก็คิดว่า ผู้บริหารบริษัท นั้น ๆ ก็ไม่ทราบชัดเจนเหมือนกัน
ดังนั้น ประเด็นคือ เราต้องวิเคราะห์ (เดา) ข่าวสาร นั้นให้ออก ว่ากระทบแค่ไหน แล้วบริษัท ที่เราถืออยู่ จะเป็นอย่างไร จาก ข่าวสารดังกล่าว
ส่วน ผลกระทบรอบข้างคือสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการแปรความ จากท่านอื่น ๆ ซึ่งก็จะ Re Act ไปตาม ความคิดของตนเอง ถ้าบริษัทที่เราถืออยู่ มี Trader + เก็งกำไร เยอะ ก็ถือว่าเป็นโอกาศก็แล้วกัน ครับ มองในแง่ดี แม้ว่าจะเจ็บช้ำกันไปบ้าง
แต่ทุกอย่างก็มีกรณียกเว้น เช่น ถ้าเกิดวิกฤติจริง ๆ ผมก็มั่นใจว่าทุกบริษัท จะกระทบหมด ดังนั้นทางรอด เราก็ต้องมีแผนมารองรับล่ะครับ
เมื่อธุรกิจ ยังดำเนินไปตามปกติ ข่าวสาร ที่เข้ามากระทบ ธุรกิจ นั้น ๆ จะมี 2 อย่างคือ
1. กระทบตัวธุรกิจโดยตรง เช่น ถ้าขายยาง ก็ราคายางแพงขึ้น
2. กระทบธุรกิจโดยอ้อม เช่น ตลาดยุโรป ปั่นป่วน
ปัญหาของคนส่วนใหญ่ รวมทั้ง ผมด้วย คือ ไม่สามารถแยก แยะ ได้อย่างชัดเจน ว่า ข่าวสารนั้น ๆ จะกระทบธุรกิจ ขนาดไหน และจะส่งผลเมื่อไหร่
และ ผมก็คิดว่า ผู้บริหารบริษัท นั้น ๆ ก็ไม่ทราบชัดเจนเหมือนกัน
ดังนั้น ประเด็นคือ เราต้องวิเคราะห์ (เดา) ข่าวสาร นั้นให้ออก ว่ากระทบแค่ไหน แล้วบริษัท ที่เราถืออยู่ จะเป็นอย่างไร จาก ข่าวสารดังกล่าว
ส่วน ผลกระทบรอบข้างคือสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการแปรความ จากท่านอื่น ๆ ซึ่งก็จะ Re Act ไปตาม ความคิดของตนเอง ถ้าบริษัทที่เราถืออยู่ มี Trader + เก็งกำไร เยอะ ก็ถือว่าเป็นโอกาศก็แล้วกัน ครับ มองในแง่ดี แม้ว่าจะเจ็บช้ำกันไปบ้าง
แต่ทุกอย่างก็มีกรณียกเว้น เช่น ถ้าเกิดวิกฤติจริง ๆ ผมก็มั่นใจว่าทุกบริษัท จะกระทบหมด ดังนั้นทางรอด เราก็ต้องมีแผนมารองรับล่ะครับ
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
- yoyoeffect
- Verified User
- โพสต์: 364
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราบริโภคข่าวสารมากเกินไปรึเปล่า
โพสต์ที่ 5
ผมว่า สมัยนี้นักลงทุนรายย่อย เก่งขึ้นมากเพราะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ไวกว่าเมื่อก่อนเยอะจากทั้งทางสื่อต่างๆและ internet
นักลงทุนสมัยก่อนกว่าจะถึงข้อมูลก็ตลาดวายก่อนซะแล้ว แต่กระนั้นรายย่อยก็ยังเสียเปรียบมาโดยตลอดอยู่ดี
นักลงทุนต่างชาติและสถาบัน ต่างก็มีกลวิธีทั้งทางตรงและทางลวงในการล่อหลอกการลงทุนได้ผลที่ดีมาอยู่เสมอ เพราะมีอำนาจทางการเงินที่สูงและการลงทุนเป็นไปในทางเดียวกัน(ในแต่ละกลุ่ม) ส่วนรายย่อยต่างคนก็ต่างลงทุน หลากสไตล์และหลายมุมมอง
นักลงทุนสมัยก่อนกว่าจะถึงข้อมูลก็ตลาดวายก่อนซะแล้ว แต่กระนั้นรายย่อยก็ยังเสียเปรียบมาโดยตลอดอยู่ดี
นักลงทุนต่างชาติและสถาบัน ต่างก็มีกลวิธีทั้งทางตรงและทางลวงในการล่อหลอกการลงทุนได้ผลที่ดีมาอยู่เสมอ เพราะมีอำนาจทางการเงินที่สูงและการลงทุนเป็นไปในทางเดียวกัน(ในแต่ละกลุ่ม) ส่วนรายย่อยต่างคนก็ต่างลงทุน หลากสไตล์และหลายมุมมอง