case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 1
1/3/2545 ราคาปิด 24.80 (หลังจากพลิกจากขาดทุน เป็นกำไร และกำไรน้อยเป็นกำไรมากขึ้น)
15/5/2545 ประกาศ Q1 กำไร 244.999 ล้านบาท โตจาก Q1 ปีที่แล้ว 240.159 ล้านบาท
3/6/2545 ราคาปิด 20.90 (ประกาศออกมาดี ราคาลง)
14/08/2545 ประกาศ Q2 กำไร 336.921 ล้านบาท โตจาก Q2 ปีที่แล้ว 277.265 ล้านบาท
2/9/2545 ราคาปิด 18.20 (ประกาศออกมาดี ราคาลง)
12/11/2545 ประกาศ Q3 กำไร 272.042 ล้านบาท โตจาก Q3 ปีที่แล้ว 184.514 ล้านบาท
2/12/2545 ราคาปิด 16.50 (ประกาศออกมาดีราคาลง)
25/02/2546 ประกาศผลประกอบการณ์รายปี 2545 กำไร 1287 ล้านบาท โตจากปีที่แล้ว 1002 ล้านบาท
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เติบโตเท่ากับ 28.44 %
3/3/2546 ราคาปิด 12.50 (ประกาศออกมาดี ราคาหุ้นลงต่อ)
ณ ราคา 12.50 pe 7.70 โต 28.44 %
14/05/2546 ประกาศ Q1 กำไร 256.027 ล้านบาท โตจาก Q1 ปีที่ผ่านมา 244.999 ล้านบาท
2/6/2546 ราคาปิด 17.80 (ประกาศออกมดี หุ้นขึ้น)
ผ่านมา 1 ปี 7 เดือน bigc อยู่นิ่งๆ ที่ราคาไม่ถึง 20 บาท
1/2/2548 ราคาปิด 20.30
1.อาจารย์ ซื้อ bigc 18 บาท แล้วถือมาถึงปัจจุบัน
2.ช่วงที่ราคาลงจาก 24.80 มา 12.50 ระยะเวลาที่ราคาลง ประมาณ 1 ปี
3.ผมไม่ได้เสนอว่า หุ้นดีราคาลงนะครับ
เรื่องนี้พวกเราได้เรียนรู้อะไรบ้าง
15/5/2545 ประกาศ Q1 กำไร 244.999 ล้านบาท โตจาก Q1 ปีที่แล้ว 240.159 ล้านบาท
3/6/2545 ราคาปิด 20.90 (ประกาศออกมาดี ราคาลง)
14/08/2545 ประกาศ Q2 กำไร 336.921 ล้านบาท โตจาก Q2 ปีที่แล้ว 277.265 ล้านบาท
2/9/2545 ราคาปิด 18.20 (ประกาศออกมาดี ราคาลง)
12/11/2545 ประกาศ Q3 กำไร 272.042 ล้านบาท โตจาก Q3 ปีที่แล้ว 184.514 ล้านบาท
2/12/2545 ราคาปิด 16.50 (ประกาศออกมาดีราคาลง)
25/02/2546 ประกาศผลประกอบการณ์รายปี 2545 กำไร 1287 ล้านบาท โตจากปีที่แล้ว 1002 ล้านบาท
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เติบโตเท่ากับ 28.44 %
3/3/2546 ราคาปิด 12.50 (ประกาศออกมาดี ราคาหุ้นลงต่อ)
ณ ราคา 12.50 pe 7.70 โต 28.44 %
14/05/2546 ประกาศ Q1 กำไร 256.027 ล้านบาท โตจาก Q1 ปีที่ผ่านมา 244.999 ล้านบาท
2/6/2546 ราคาปิด 17.80 (ประกาศออกมดี หุ้นขึ้น)
ผ่านมา 1 ปี 7 เดือน bigc อยู่นิ่งๆ ที่ราคาไม่ถึง 20 บาท
1/2/2548 ราคาปิด 20.30
1.อาจารย์ ซื้อ bigc 18 บาท แล้วถือมาถึงปัจจุบัน
2.ช่วงที่ราคาลงจาก 24.80 มา 12.50 ระยะเวลาที่ราคาลง ประมาณ 1 ปี
3.ผมไม่ได้เสนอว่า หุ้นดีราคาลงนะครับ
เรื่องนี้พวกเราได้เรียนรู้อะไรบ้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 2
ตลาดไม่ make sense (เสมอไป หรือในช่วงเวลานึง)
ตลาด ความรู้สึกช้า
สำหรับผู้ที่รู้ดีกว่า โอกาสดีๆ มาแน่ๆ
ตลาด ความรู้สึกช้า
สำหรับผู้ที่รู้ดีกว่า โอกาสดีๆ มาแน่ๆ
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
- awesomekid
- Verified User
- โพสต์: 94
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 3
โอกาสในการซื้อมีมาเสมอครับ
====================================
เก็บเล็กผสมน้อยมาลงทุน เพื่ออนาคตอันเป็นอิสระ
====================================
เก็บเล็กผสมน้อยมาลงทุน เพื่ออนาคตอันเป็นอิสระ
====================================
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 4
ซื้อวันที่ 1/3/2545 ราคา 24.80 ถือมาถึงวันที่ 22/9/2554 ราคา 116.50
ประมาณ 9 ปี 6 เดือน
จาก 24.80 มาเป็น 116.50 คิดเป็น ผลตอบแทน 17.68 % ทบต้นทุกปี ยังไม่นับปันผลระหว่างทาง
ซื้อวันที่ 3/3/2546 ราคา 12.50 ถือมาถึงวันที่ 22/9/2554 ราคา 116.50
ประมาณ 8 ปี 6 เดือน
จากราคา 12.50 มาเป็น 116.50 คิดเป็นผลตอบแทน 30.03 % ทบต้นทุกปี ยังไม่นับปันผลระหว่างทาง
สรุป การซื้อในช่วงราคา 24.80 ไปจนถึง 12.50 แล้วถือมาถึงปัจจุบัน จะได้กำไร อยู่ในช่วง 17.68 % - 30.03 % ทบต้นทุกปี ยังไม่นับปันผล
ประมาณ 9 ปี 6 เดือน
จาก 24.80 มาเป็น 116.50 คิดเป็น ผลตอบแทน 17.68 % ทบต้นทุกปี ยังไม่นับปันผลระหว่างทาง
ซื้อวันที่ 3/3/2546 ราคา 12.50 ถือมาถึงวันที่ 22/9/2554 ราคา 116.50
ประมาณ 8 ปี 6 เดือน
จากราคา 12.50 มาเป็น 116.50 คิดเป็นผลตอบแทน 30.03 % ทบต้นทุกปี ยังไม่นับปันผลระหว่างทาง
สรุป การซื้อในช่วงราคา 24.80 ไปจนถึง 12.50 แล้วถือมาถึงปัจจุบัน จะได้กำไร อยู่ในช่วง 17.68 % - 30.03 % ทบต้นทุกปี ยังไม่นับปันผล
-
- Verified User
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 5
อีกมุมหนึ่ง....
หุ้นขึ้น ประมาณ 30 บาท จากเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าผมจะคิดถูกหรือเปล่า ว่าน่าจะมาจาก กรณี คาร์ฟู มีส่วนในก้อนมากสุด ถ้าไม่มีกรณีนี้ ราคาอาจไม่ใช่ตัวเลขปัจจุบันนี้ก็ได้ ผลตอบแทนก็น่าจะเปลี่ยนไปมากเช่นกัน (เมื่อคิดจาก ปี 2545 หรือ 2546)
หุ้นขึ้น ประมาณ 30 บาท จากเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าผมจะคิดถูกหรือเปล่า ว่าน่าจะมาจาก กรณี คาร์ฟู มีส่วนในก้อนมากสุด ถ้าไม่มีกรณีนี้ ราคาอาจไม่ใช่ตัวเลขปัจจุบันนี้ก็ได้ ผลตอบแทนก็น่าจะเปลี่ยนไปมากเช่นกัน (เมื่อคิดจาก ปี 2545 หรือ 2546)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 12
โค้ด: เลือกทั้งหมด
-3
1/3/2545 ราคาปิด 24.80 (หลังจากพลิกจากขาดทุน เป็นกำไร และกำไรน้อยเป็นกำไรมากขึ้น)
15/5/2545 ประกาศ Q1 กำไร 244.999 ล้านบาท โตจาก Q1 ปีที่แล้ว 240.159 ล้านบาท
3/6/2545 ราคาปิด 20.90 (ประกาศออกมาดี ราคาลง)
14/08/2545 ประกาศ Q2 กำไร 336.921 ล้านบาท โตจาก Q2 ปีที่แล้ว 277.265 ล้านบาท
2/9/2545 ราคาปิด 18.20 (ประกาศออกมาดี ราคาลง)
12/11/2545 ประกาศ Q3 กำไร 272.042 ล้านบาท โตจาก Q3 ปีที่แล้ว 184.514 ล้านบาท
2/12/2545 ราคาปิด 16.50 (ประกาศออกมาดีราคาลง)
25/02/2546 ประกาศผลประกอบการณ์รายปี 2545 กำไร 1287 ล้านบาท โตจากปีที่แล้ว 1002 ล้านบาท
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เติบโตเท่ากับ 28.44 %
3/3/2546 ราคาปิด 12.50 (ประกาศออกมาดี ราคาหุ้นลงต่อ)
ณ ราคา 12.50 pe 7.70 โต 28.44 %
14/05/2546 ประกาศ Q1 กำไร 256.027 ล้านบาท โตจาก Q1 ปีที่ผ่านมา 244.999 ล้านบาท
2/6/2546 ราคาปิด 17.80 (ประกาศออกมดี หุ้นขึ้น)
ผ่านมา 1 ปี 7 เดือน bigc อยู่นิ่งๆ ที่ราคาไม่ถึง 20 บาท
1/2/2548 ราคาปิด 20.30
1.อาจารย์ ซื้อ bigc 18 บาท แล้วถือมาถึงปัจจุบัน
2.ช่วงที่ราคาลงจาก 24.80 มา 12.50 ระยะเวลาที่ราคาลง ประมาณ 1 ปี
3.ผมไม่ได้เสนอว่า หุ้นดีราคาลงนะครับ
เรื่องนี้พวกเราได้เรียนรู้อะไรบ้าง
ไม่ได้บอกว่า หุ้นจะลง หรือว่าขึ้น กลัวไรกันจ๊ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 13
^^ 5555555555555555555 ผมเห็น p'jeng โดน bury บ่อยมากนะครับ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเลย สงสัยมีคู่อริ ตามมาบนเวป
value trap
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 14
ธรรมดาครับ เพราะคนส่วนมากล้มเหลว และคนส่วนน้อยสำเร็จวรันศ์ บัฟเฟต เขียน:^^ 5555555555555555555 ผมเห็น p'jeng โดน bury บ่อยมากนะครับ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเลย สงสัยมีคู่อริ ตามมาบนเวป
การแสดงความเห็น ย่อมไม่เป็นที่ถูกใจคนส่วนมาก ที่ล้มเหลว พี่ทำใจอยู่แล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 15
มือใหม่ครับ ถ้าอยากได้รับข้อมูลจริง ไม่บิดเบือน กรุณาช่วยไปกดเปิดกระทู้ด้านบนด้วยครับ
ไม่งั้น ผมว่า ผมก็เลิกโพสเหมือนกัน
เสียเวลา
เพราะเว็บบอร์ด tvi ออกแบบระบบ ไม่สอดคล้องกับการ แสดงความจริง
ไม่งั้น ผมว่า ผมก็เลิกโพสเหมือนกัน
เสียเวลา
เพราะเว็บบอร์ด tvi ออกแบบระบบ ไม่สอดคล้องกับการ แสดงความจริง
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 17
ผม+ให้พี่เจ๋ง เพราะ ชื่นชมที่พี่เจ๋งกล้าพูดความจริงครับJeng เขียน:มือใหม่ครับ ถ้าอยากได้รับข้อมูลจริง ไม่บิดเบือน กรุณาช่วยไปกดเปิดกระทู้ด้านบนด้วยครับ
ไม่งั้น ผมว่า ผมก็เลิกโพสเหมือนกัน
เสียเวลา
เพราะเว็บบอร์ด tvi ออกแบบระบบ ไม่สอดคล้องกับการ แสดงความจริง
ในห้องผม +ให้หมด
คนเราบางครั้งความจริง น่าจะดีกว่าความหวังลมๆๆแล้งๆๆ
ยินดีที่ได้รู้จัก ได้พูดคุยกับพี่เจ๋ง ผมยอมรับเลยว่า ที่ไทยวีไอ มีหลายสิบคน
ที่ผมยกให้ ด้านเป็นคนดีมีความรู้และลงทุนด้วยฝีมือ
อย่างพี่ นัน พี่ซีเค พี่ครรชิต พี่เจ๋ง พี่โจ๊ก น้องฮง และอีกหลายๆท่าน
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 62
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 18
ผมคิดว่า PE 28 เท่า มันสูงเกินไปหน่อย
ถ้าเหลือ 20 เท่า ซื้อ หมด ตูดเลย
ถ้าเหลือ 20 เท่า ซื้อ หมด ตูดเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 19
พี่Jeng ก็ทำนองแบบนี้ แหละ ครับ ผมจึงไปบ่นที่ห้อง -1 ว่าJeng เขียน:มือใหม่ครับ ถ้าอยากได้รับข้อมูลจริง ไม่บิดเบือน กรุณาช่วยไปกดเปิดกระทู้ด้านบนด้วยครับ
ไม่งั้น ผมว่า ผมก็เลิกโพสเหมือนกัน
เสียเวลา
เพราะเว็บบอร์ด tvi ออกแบบระบบ ไม่สอดคล้องกับการ แสดงความจริง
ผมจึงอยากให้มีการใช้ -1 ให้น้อยที่สุด ครับ และอยากให้ใช้ในกรณีที่เรารับไม่ได้จริงๆเท่านั้น(ใช้มากไป แล้วถ้าเกิดทำให้มันเป็นความชินชา มีเครื่องมือก็ไร้ประโยชน์ อาจต้องมีถึง -20 ,-30 หรือ -100 ก็ได้) ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติไม่ต้องเร่งเร้าการใช้ ใช้น้อยแล้วขลัง ดีกว่า ครับpakhakorn เขียน:ไม่รู้ความรู้สึกของผม...ผิดปกติ...หรือเปล่า?
ทำไมช่วงนี้ ผมอ่านกระทู้ ต่างๆ มันให้..ความรู้สึกว่า...คนค่อยไม่อยากเขียนกระทู้ หรือเขียนกระทู้ก็แบบเกร็งๆ หากระทู้อ่านที่ให้ความรู้สึกแบบสบายๆ หยอดด้วยมุกผ่อนคลายความเครียดบ้าง..หายไปไหนหมดแล้ว
หรือเรากำลัง...เร่งเร้า...... อะไร? ที่เร็วไปหรือเปล่า?
แค่ข้อมูลหรือความเห็นที่แตกต่าง เราก็ให้ -1 ได้แล้ว?(หรือผมสายตาสั้นแล้ว..ยังมองเห็นเพี้ยนอีก?)
สำหรับผม -1 ตัวเดียว ผมก็แทบไม่อยากเขียนแล้ว ครับ ไม่ต้องรอ 3 หรือ 5 ตัว ครับ ความเห็นและข้อมูลที่แตกต่างไม่ควรมี -1 ครับ การไม่ให้ +1 ก็แทบแสดงให้เห็นแล้วข้อมูลนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาปกติ จึงไม่มี +1 ให้
ผมว่าคนเขียนส่วนใหญ่(ซึ่งเป็นส่วนน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับคนอ่านอย่างเดียว) ข้อเขียนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เขียนมาเพื่อกลั่นแกล้งหรือทำร้ายกัน แค่ความเห็นหรือข้อมูลไม่ถูกใจทำไมต้องให้ -1
ผมจึงบ่นในกระทู้ -1 ว่าห้องมันเริ่มเงียบเหงา และขาดการผ่อนคลาย ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 40
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 20
คุณ jeng กรุณาอย่าเลิก post นะครับ ชอบมุมมอง และ ความคิด ของคุณ jeng ตามอ่านมาหลายปี รอดมาได้ทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะ ร้อยคนร้อยหุ้น ที่คุณ jeng ได้จุดประกายไว้เมื่อหลายปีก่อน ขอบคุณครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 22
การซื้อแบบปิรามิด ถ้าคิดว่าหุ้นที่ดูอยู่ ดีมาก และราคาที่ลงมาก น่าซื้อ
สมมุติ หุ้น abc ราคา 20 บาท แล้วลงมาเหลือ 10 บาท
เราเข้าซื้อหุ้น abc ราคา 10 บาท ซื้อ 10000 หุ้น (อย่าซื้อเต็มพอร์ทเผื่อใจไว้บ้าง)
พอราคาลงมา 8 บาท ซื้อ 20000 หุ้น
ราคาลงมา 6 บาท ซื้อ 40000 หุ้น
ต้นทุนเราจะเหลือ 7.14
พอราคาพลิกกลับไปที่ 8 บาท ก็กำไรแล้ว 9 10 ก็กำไร
การซื้อแบบปิรามิด ต้องมีฐานอยู่ล่าง
________________________________________________
รายย่อย ชอบซื้อแบบปิรามิด ฐานอยู่บน เช่น
ราคาหุ้น 10 บาท ซื้อ 10000 หุ้น
ราคาหุ้น 12 บาท ซื้อ 20000 หุ้น
ราคาหุ้น 14 บาท ซื้อ 40000 หุ้น
ถ้าซื้อแบบนี้ ฐานอยู่บน พอราคาพลิกกลับ มา 12 บาท เราก็ขาดทุนแล้ว
________________________________________________
ถ้าซื้อ ที่ราคา 10 บาท แล้วหุ้นขึ้นไป เราจะซื้อเพิ่มเราก็ซื้อเพิ่มได้ครึ่งเดียว
คือซื้อเป็นปิรามิด ฐานอยู่ล่าง
เราก็ซื้อที่ราคา 12 บาท อีก 5000 หุ้น และซื้อที่ 14 บาท ที่ 2500 หุ้น
หรือเราไม่ซื้อเพิ่มก็ได้ ตามใจ
ช่วงตลาดผันผวนแบบนี้ หุ้นก็ลงได้มาก อย่าเพิ่งเข้าไปรับเร็วๆนะครับ
สำหรับคนที่มีเงิน
________________________________________________
ส่วนคนที่เต็มพอร์ทอยู่แล้ว
1.ถือ
2.หรือไม่ก็ขายไป ครึ่งหนึ่ง (ถ้าเครียด )
เพื่อลดความเครียด = คลายเครียดเรโชว์
เพราะถ้าหุ้นลงต่อ ก็ขาดทุนครึ่งเดียว
และยังเหลือเงินอีกครึ่งมาซื้อต่ำๆ
หุ้นกลับมาราคาเดิม ก็จะทำให้พอร์ทไม่ขาดทุน
เช่น ซื้อมา 12 ราคาหุ้นตกมาเหลือ 10 บาท
ถ้าเราเครียดมากๆ ก็ขายไปครึ่งหนึ่ง
ถ้าหุ้นเด้งกลับไป 12 เราก็ขาดทุนครึ่งเดียว
ถ้าหุ้นตกไป 8 บาท เราก็สามารถซื้อกลับได้ ทำให้ทุนเราอยู่ที่ 10 บาท
หุ้นกลับไป 10 บาท เราเสมอตัว
น่าจะพอมีประโยชน์สำหรับมือใหม่
สมมุติ หุ้น abc ราคา 20 บาท แล้วลงมาเหลือ 10 บาท
เราเข้าซื้อหุ้น abc ราคา 10 บาท ซื้อ 10000 หุ้น (อย่าซื้อเต็มพอร์ทเผื่อใจไว้บ้าง)
พอราคาลงมา 8 บาท ซื้อ 20000 หุ้น
ราคาลงมา 6 บาท ซื้อ 40000 หุ้น
ต้นทุนเราจะเหลือ 7.14
พอราคาพลิกกลับไปที่ 8 บาท ก็กำไรแล้ว 9 10 ก็กำไร
การซื้อแบบปิรามิด ต้องมีฐานอยู่ล่าง
________________________________________________
รายย่อย ชอบซื้อแบบปิรามิด ฐานอยู่บน เช่น
ราคาหุ้น 10 บาท ซื้อ 10000 หุ้น
ราคาหุ้น 12 บาท ซื้อ 20000 หุ้น
ราคาหุ้น 14 บาท ซื้อ 40000 หุ้น
ถ้าซื้อแบบนี้ ฐานอยู่บน พอราคาพลิกกลับ มา 12 บาท เราก็ขาดทุนแล้ว
________________________________________________
ถ้าซื้อ ที่ราคา 10 บาท แล้วหุ้นขึ้นไป เราจะซื้อเพิ่มเราก็ซื้อเพิ่มได้ครึ่งเดียว
คือซื้อเป็นปิรามิด ฐานอยู่ล่าง
เราก็ซื้อที่ราคา 12 บาท อีก 5000 หุ้น และซื้อที่ 14 บาท ที่ 2500 หุ้น
หรือเราไม่ซื้อเพิ่มก็ได้ ตามใจ
ช่วงตลาดผันผวนแบบนี้ หุ้นก็ลงได้มาก อย่าเพิ่งเข้าไปรับเร็วๆนะครับ
สำหรับคนที่มีเงิน
________________________________________________
ส่วนคนที่เต็มพอร์ทอยู่แล้ว
1.ถือ
2.หรือไม่ก็ขายไป ครึ่งหนึ่ง (ถ้าเครียด )
เพื่อลดความเครียด = คลายเครียดเรโชว์
เพราะถ้าหุ้นลงต่อ ก็ขาดทุนครึ่งเดียว
และยังเหลือเงินอีกครึ่งมาซื้อต่ำๆ
หุ้นกลับมาราคาเดิม ก็จะทำให้พอร์ทไม่ขาดทุน
เช่น ซื้อมา 12 ราคาหุ้นตกมาเหลือ 10 บาท
ถ้าเราเครียดมากๆ ก็ขายไปครึ่งหนึ่ง
ถ้าหุ้นเด้งกลับไป 12 เราก็ขาดทุนครึ่งเดียว
ถ้าหุ้นตกไป 8 บาท เราก็สามารถซื้อกลับได้ ทำให้ทุนเราอยู่ที่ 10 บาท
หุ้นกลับไป 10 บาท เราเสมอตัว
น่าจะพอมีประโยชน์สำหรับมือใหม่
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4526
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 24
พี่เจ๋งบอกว่า รายย่อยชอบซื้อฐาน บน งั้นพี่ก็รายใหญ่นาสิ (ขําๆนะ )
ผมว่าปัญหาคือ เราไม่รู้ราคาที่เราซื้อ มันจะลงหรือขึ้นไง ตอนซื้อเราคิดว่ามันมี MOS ที่ พอแล้ว
ก็ซื้อไป คงไม่มีใครอยากซื้อฐาน บนหรอกครับ ยิ่งถ้ารู้ว่ามันจะลง คงรอลงแล้วค่อยซื้อไม่ดีกว่าเหรอ
วิธี ปิระมิด ถ้าใช้ถูกจะดี ถ้าใช้ตาม พี่เจ๋ง บอก แล้วเป็นพวก Cyclical นี่ Chipหายเลยนะครับ เรียกว่าออกจากบ่อนไม่มีChip ไปแลกตัง ค่าTaxi เลยแหละ
วิธีของ ปีระมิด เห็นด้วยเฉพาะหุ้นที่ Earnings ไม่ผันผวนมากนัก มี Growth เพราะ MOS ที่แท้จริงสําหรับผมนอกจากราคา แล้ว คือ Earnings Growth ครับเพราะ EPS ยิ่งโต PE เราก็ยิ่งตํ่า MOS ก็เพิ่มไปในตัว
แต่ ไม่เห็นด้วยกับหุ้น Cyclical เช่น นํ้ามัน ถั่วเหลือง ยาง เรือ เหล็ก etc
ถ้า commodities ขาลง หรือ ค่าการกลั่น ลง พวกนี้ Earnings จะลดลงตาม ราคาขายที่ลดลง เผลอๆมี Stock Loss ด้วย ลองไปซื้อ เฉลี่ย RCL PSL TTA TOP THAI etc ( ยก ตย เฉยๆนะครับเพื่อให้เห็นภาพ) ตอน ราคา ลงสิครับ
จะเกิดอะไรขีั้น
ผมว่าปัญหาคือ เราไม่รู้ราคาที่เราซื้อ มันจะลงหรือขึ้นไง ตอนซื้อเราคิดว่ามันมี MOS ที่ พอแล้ว
ก็ซื้อไป คงไม่มีใครอยากซื้อฐาน บนหรอกครับ ยิ่งถ้ารู้ว่ามันจะลง คงรอลงแล้วค่อยซื้อไม่ดีกว่าเหรอ
วิธี ปิระมิด ถ้าใช้ถูกจะดี ถ้าใช้ตาม พี่เจ๋ง บอก แล้วเป็นพวก Cyclical นี่ Chipหายเลยนะครับ เรียกว่าออกจากบ่อนไม่มีChip ไปแลกตัง ค่าTaxi เลยแหละ
วิธีของ ปีระมิด เห็นด้วยเฉพาะหุ้นที่ Earnings ไม่ผันผวนมากนัก มี Growth เพราะ MOS ที่แท้จริงสําหรับผมนอกจากราคา แล้ว คือ Earnings Growth ครับเพราะ EPS ยิ่งโต PE เราก็ยิ่งตํ่า MOS ก็เพิ่มไปในตัว
แต่ ไม่เห็นด้วยกับหุ้น Cyclical เช่น นํ้ามัน ถั่วเหลือง ยาง เรือ เหล็ก etc
ถ้า commodities ขาลง หรือ ค่าการกลั่น ลง พวกนี้ Earnings จะลดลงตาม ราคาขายที่ลดลง เผลอๆมี Stock Loss ด้วย ลองไปซื้อ เฉลี่ย RCL PSL TTA TOP THAI etc ( ยก ตย เฉยๆนะครับเพื่อให้เห็นภาพ) ตอน ราคา ลงสิครับ
จะเกิดอะไรขีั้น
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 25
โค้ด: เลือกทั้งหมด
วิธี ปิระมิด ถ้าใช้ถูกจะดี ถ้าใช้ตาม พี่เจ๋ง บอก แล้วเป็นพวก Cyclical นี่ Chipหายเลยนะครับ เรียกว่าออกจากบ่อนไม่มีChip ไปแลกตัง ค่าTaxi เลยแหละ
เพราะถ้าเราซื้อหุ้น cyclical ไม่เป็น เราก็เจ๊งอยู่ดีครับ
ส่วนคนที่ดูหุ้น cyclical เป็น
การซื้อแบบปิรามิด ก็ช่วยได้อยู่ดีครับ
วิธีการซื้อแบบปิรามิด เป็นวิธีการซื้อ ที่สามารถสู้ได้ทั้งหุ้นขึ้น และลง ในระยะสั้นๆ
การวิเคราะห์แล้วมั่นใจมี mos เต็มที่ แล้วอัดเต็มพอร์ท เวลาหุ้นปรับตัวลง นั่งดู แล้วก็งง งง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 26
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ผมว่าปัญหาคือ เราไม่รู้ราคาที่เราซื้อ มันจะลงหรือขึ้นไง ตอนซื้อเราคิดว่ามันมี MOS ที่ พอแล้ว
ก็ซื้อไป คงไม่มีใครอยากซื้อฐาน บนหรอกครับ ยิ่งถ้ารู้ว่ามันจะลง คงรอลงแล้วค่อยซื้อไม่ดีกว่าเหรอ
การซื้อแบบปิรามิด เป็นการเผื่อใจไง เพราะถ้าลง หุ้นยิ่งถูกขึ้นอีก เราก็ซื้อเพิ่ม
ใสสัดส่วนที่มากขึ้น
จากตัวอย่าง ราคา 10 บาท ที่เราคิดว่ามี mos สุดๆแล้ว เราซื้อ
ลงมาอีก 20 % เราซื้อเพิ่ม 2 เท่า ลงมาอีก 40 % เราซื้อเพิ่มอีก
แบบนี้ครับ เจอกันปีหน้า ทุกอย่างกลับมาเข้าที่ ก็กำไรเป็นกอบเป็นกำ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 27
ไม่ซีเรียสนะ rocker แค่เล่าให้ฟังวิธีเอาตัวรอดในตลาดผันผวน ขี้เกียจเถียงด้วย
เชื่อหรือไม่ว่า วิธีนี้ เจ้ามือกลัวสุดๆ เพราะทุบลงเยอะๆ แล้วมีคนมาช้อนซื้อหนักๆ
เขาเหนื่อย แต่เรารวย
เชื่อหรือไม่ว่า วิธีนี้ เจ้ามือกลัวสุดๆ เพราะทุบลงเยอะๆ แล้วมีคนมาช้อนซื้อหนักๆ
เขาเหนื่อย แต่เรารวย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 28
คำนวณเล่นๆให้ดูก็ได้Jeng เขียน:ไม่ซีเรียสนะ rocker แค่เล่าให้ฟังวิธีเอาตัวรอดในตลาดผันผวน ขี้เกียจเถียงด้วย
เชื่อหรือไม่ว่า วิธีนี้ เจ้ามือกลัวสุดๆ เพราะทุบลงเยอะๆ แล้วมีคนมาช้อนซื้อหนักๆ
เขาเหนื่อย แต่เรารวย
เช่น tks
tks 6.00 ซื้อ 10000 หุ้น 60000 บาท
ไม่มีใครรู้ว่าจะลงจะขึ้นในระยะสั้น ถ้าขึ้นก็ let profit run
ถ้าลงตามตลาดโลก
tks 5.00 ซื้อ 20000 หุ้น 100000 บาท
แลเหมือนเดิมไม่มีใครรู้ว่าจะขึ้นจะลง แต่ฐานมันต่ำ ทุน 5.33
ต่อมา ขึ้น ก็ let profit run
ต่อมาลง เช่น
tks 4.00 ซื้อ 40000 หุ้น 160000 บาท
ต้นทุน 4.57
ถ้าขึ้น let profit run
ถ้าลงไปอีก
tks 3.00 ซื้อ 80000 หุ้น 240000 บาท
ต้นทุน 3.73 บาท pe ประมาณ 3.73
เนื่องจากเราไม่รู้ว่าหุ้นจะขึ้นจะลง
แต่เรารู้ว่าถ้าหุ้นพื้นฐานดี ราคาลง (ลงมาแล้วน่าซื้อ)
แต่เราไม่ควรซื้อหมด เราควรซื้อเป็นปิรามิด
ถ้าเราคิดว่าตลาดไม่ดี เราไม่ซื้อ เราก็ไม่ต้องซื้อ ก็แค่นั้นเอง
และเราก็ไม่รู้หรอกว่าม้นจะลงหรือไม่ลง เราก็ไม่ต้องไปคาดเดาว่ามันจะลง
เพียงแต่เราเตรียมกลยุธไว้ ว่าถ้าขึ้นทำไง ถ้าลงทำไง ก็แค่นั้นเอง
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4526
- ผู้ติดตาม: 0
Re: case study bigc ผลประกอบการณ์ดีต่อเนื่อง ราคาลงตลอด
โพสต์ที่ 29
ขอบคุณที่สาธิตครับ ผมก็ไม่อยากจะเถียงกับพี่เช่นกัน
แล้วถ้าซื้อ หุ้นหลาย ตัวต่างเวลากัน แล้ว ซื้อจนเงินหมดหละครับ จะทําไง เพราะตอนซื้อแต่ละตัวก็ไม่ซื้อเต็มอยู่แล้ว
เวลาหุ้นตกนะครับ ก็ตกพร้อมกันแต่ % ต่างกัน แบบที่พี่คํานวณ พี่ ไล่ราคา ลงแล้ว Weight เพิ่ม แสดงว่าพี่มองขาลงครับ
คาดว่าจะลงถึงกันเงินไว้เก็บเป็นขั้นๆแบบนั้น Concept แบบนั้นคาดว่าหลายท่านคงรู้ครับ แต่เวลาทําจริงคือ ไม่มีเงินที่จะซื้อทุกขั้นขนาดนั้น ซื้อถึงจุด 1 เงินหมด แล้วมันลงต่ออีก 10 20 % หละ พอทําได้ถ้ามีCashflow เข้ามาเรื่อยๆนะครับ ซื้อเฉลี่ยเอา แต่ถ้าไม่มีCashflow คงต้องถือ หรือไม่ ทยอย ปรับPort
แล้วถ้าซื้อ หุ้นหลาย ตัวต่างเวลากัน แล้ว ซื้อจนเงินหมดหละครับ จะทําไง เพราะตอนซื้อแต่ละตัวก็ไม่ซื้อเต็มอยู่แล้ว
เวลาหุ้นตกนะครับ ก็ตกพร้อมกันแต่ % ต่างกัน แบบที่พี่คํานวณ พี่ ไล่ราคา ลงแล้ว Weight เพิ่ม แสดงว่าพี่มองขาลงครับ
คาดว่าจะลงถึงกันเงินไว้เก็บเป็นขั้นๆแบบนั้น Concept แบบนั้นคาดว่าหลายท่านคงรู้ครับ แต่เวลาทําจริงคือ ไม่มีเงินที่จะซื้อทุกขั้นขนาดนั้น ซื้อถึงจุด 1 เงินหมด แล้วมันลงต่ออีก 10 20 % หละ พอทําได้ถ้ามีCashflow เข้ามาเรื่อยๆนะครับ ซื้อเฉลี่ยเอา แต่ถ้าไม่มีCashflow คงต้องถือ หรือไม่ ทยอย ปรับPort