วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
wk0966
Verified User
โพสต์: 490
ผู้ติดตาม: 0

วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ดูเหมือนวิกฤต subprime ที่ผ่านมา วอร์เรน บัฟเฟตต์ เข้าไปรับซื้อหุ้นไว้แยะที่เดียว คิดกันไหมว่า รอบนี้ถ้าหุ้นตกยาวลงลึก วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะรอดไหม
“Survival of the fittest”
“รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม ปันผลเพิ่ม”
aonzzung
Verified User
โพสต์: 611
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ไม่ต้องไปห่วงเค้าหรอกครับ
คนนั้นนะเค้าเซียน
ห่วงตัวเองดีกว่า...
naijan
Verified User
โพสต์: 5011
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 3

โพสต์

รอดครับ ปู่บัฟเฟตต์มาหลาย10ปีแล้วครับ ผ่านมาหลายวิกฤติแล้วครับ
แค่นี้ไม่ระคายผิวปู่หรอกครับ ปู่ไม่ได้มองว่าราคาหุ้นตกต่ำไม่ใช่ความเสี่ยง
แต่เป็นโอกาส มุมมองเรื่องความเสี่ยงของปู่นั่นแตกต่างไปจากความเสี่ยงของนักลงทุนทั่วๆไปครับ
---------------------------------------------------------------
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางเกี่ยวกับการสร้างความมั่งคั่งและการลงทุน วิธีการสอนลูกให้มั่งคั่ง
เชิญได้ที่...
http://www.wealththailand.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
densin
Verified User
โพสต์: 1073
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เหมือนมีอยู่ตัวนึง ไม่แน่ใจว่า american expressหรือเปล่า
ซื้อแล้วผ่านไป1ปีขาดทุน50% หายไปครึ่ง
แกก้เลยซื้อเพิ่มอีก ผ่านไปปีที่2ขึ้นมา2เด้งได้
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
saichon
Verified User
โพสต์: 1219
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมว่าคนที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนแนววีไอเค้ามีหลักคิดที่คล้ายๆกันน๊ะครับ
มีพี่ที่ประสบความสำเร็จแล้วคนหนึ่งบอกผมว่า...
"ความผันผวนของตลาด คือโอกาสของพวกเรา(ชาววีไอ)"

ผมตีความว่าถ้าพวกเค้าประเมินมูลค่ากิจการในอนาคตของกิจการที่เค้าจะลงทุนได้แล้ว
การที่ตลาดหุ้นผันผวนรุนแรง(ราคาหุ้นตกต่ำมากๆ) ยิ่งถือว่าเป็นโอกาสทองของพวกเค้า
ที่จะสร้างผลตอบแทนได้มากกว่ากรณีที่ตลาดผันผวนน้อยๆครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
harlembeats
Verified User
โพสต์: 97
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 6

โพสต์

densin เขียน:เหมือนมีอยู่ตัวนึง ไม่แน่ใจว่า american expressหรือเปล่า
ซื้อแล้วผ่านไป1ปีขาดทุน50% หายไปครึ่ง
แกก้เลยซื้อเพิ่มอีก ผ่านไปปีที่2ขึ้นมา2เด้งได้
รุ้สึกมี washington post ด้วยอีกตัวมั้งครับ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 7

โพสต์

รูปภาพ
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เคยขาดทุนเยอะๆตอนที่เกิดเหตุการณ์ 9 11 ครับ
เค้าถือหุ้น Gen.RE (ผมเขียนถูกไหมเอ่ย) เป็นบริษัทรับประกันภัยต่อ

ไม่มีใครทำพลาด 100% และทำถูก 100% ครับ

แต่เมื่อทำพลาด หรือทำถูกแล้ว เค้าเรียนรู้จากการกระทำเหล่านั้นได้มาก น้อยแค่ไหน
ผลตอบแทน หลายครั้งไม่สำคัญเท่าบมเรียนที่ได้
เพราะบทเรียนสามารถนำมาใช้ได้ตลอดชีวิตครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
ภาพประจำตัวสมาชิก
<< New >>
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1145
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 9

โพสต์

วอชิงตันโพส ซื้อไปก็ลงอีกครับ คลับคล้าย คลับคลาว่าลงเยอะเหมือนกัน แค่สุดท้ายก็ขึ้นมาอยุ่ดี
อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mp808
Verified User
โพสต์: 254
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 10

โพสต์

The economy can go through hyperinflation or a 10 year recession and Buffett will still be fine.
Winter is coming...
harikung
Verified User
โพสต์: 2232
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เหมือนจะเคยมีนะครับ แต่จำไม่ได้ว่าเป็นหุ้นอะไร บัฟเฟตก้อคนนะครับ ต้องมีพลาดบ้างอะไรบ้าง
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
panwasit
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 430
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 12

โพสต์

โอกาศผิดพลาด 1 ครั้งในชีวิต คือ100%

เอามาจากหนังสือนะ อิอิ
ปล ความเห็นส่วนตัว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 13

โพสต์

เคยครับ 2-3 ครั้งที่รู้กันทั่วไป
พลาดล่าสุดสารภาพกับผู้ถือหุ้นเองในรายงานประจำปีปี 2009 นี่เอง ว่ามีช่วงปี 2008 ได้ "ลงทุนแบบผิดสาหัสสากรรจ์" ใน Conoco Phillips ซื้อตอนราคามันสูง แล้วร่วงหนัก เลยต้องค่อยๆ ระบายของขาดทุน


http://www.berkshirehathaway.com/letters/letters.html

รายงานในปี 2008
จำนวนหุ้น 84,896,273 ConocoPhillips
5.7% ของกิจการ
ราคาต้นทุน 7,008 MUSD
ราคาตลาด 4,398MUSD

รายงานในปี 2009
จำนวนหุ้น 37,711,330 ConocoPhillips
2.5% ของกิจการ
ราคาต้นทุน 2,741MUSD
ราคาตลาด 1,926MUSD

รายงานในปี 2010
จำนวนหุ้น 29,109,637 ConocoPhillips
2.0% ของกิจการ
ราคาต้นทุน 2,028 MUSD
ราคาตลาด 1,982 MUSD


"I told you in an earlier part of this report that last year I made a major mistake of commission (and maybe more; this one sticks out). Without urging from Charlie or anyone else, I bought a large amount of ConocoPhillips stock when oil and gas prices were near their peak. I in no way anticipated the dramatic fall in energy prices that occurred in the last half of the year. I still believe the odds are good that oil sells far higher in the future than the current $40-$50 price. But so far I have been dead wrong. Even if prices should rise, moreover, the terrible timing of my purchase has cost Berkshire several billion dollars"






ส่วนปีอื่นๆ ลองดู
http://finance.yahoo.com/banking-budget ... t-mistakes

ก่อนหน้า่นั้น โดยเฉพาะช่วงยังไม่ดัง หรือช่วงแกลองผิดลองถูก ไม่มีคนรู้
สิ่งที่แกบอก Buffett Partnership ช่วงแรกคือให้สนใจที่ผลงานรวมสุดท้าย ว่าต้องได้กำไร ภายในแกพลาดอะไรอย่าไปรู้เลย ไม่เคยเขียนเลย ว่าใน port มีหุ้นอะไรบ้าง เพราะไม่ต้องรายงานตลาดหุ้นเหมือน BH
harikung
Verified User
โพสต์: 2232
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ขอบคุณครับ ก้อว่าคุ้นๆว่าจะเป็นบริษัทเกี่ยวกะพลังงาน
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
wk0966
Verified User
โพสต์: 490
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 15

โพสต์

อย่าง ConocoPhillips นี่ถือว่าขาดทุนนะครับ เพราะขายออกหมดได้ราคาต่ำกว่าตอนซื้อ
อย่าง american express ไม่ถือว่าขาดทุนนี่ครับเพราะ แกคงมองว่าจะกลับทำกำไรในที่สุด
มีตัวที่ราคาต่ำก่าตอนซื้อแต่ยังถืออยู่ ก็ถือว่าขาดทุนนะครับ เพียงแต่หนังยังฉายไม่จบ

ล่าสุด ซื้อ bank ใหญ่เข้าไปเป็นผู้ถือใหญ่เลย อีก 2 ปีคงได้รู้ว่า ซื้อไปวันนี้ ได้ราคาถูกจิงไหม คนซื้อตามแยะด้วย
รู้สึกกันไหมครับว่า แกพยายามดันราคาหุ้นในสหรัฐไว้ไม่ไห้ตก เพราะเก็บเอาไว้แยะหลากหลายช่วงหลัง subprime
เลยไม่รู้แก มี bias ไหม

มีอีกคำถามนึงวอร์เรน บัฟเฟตต์ ถือหุ้นนอกสหรัฐไว้บ้างไหม
“Survival of the fittest”
“รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม ปันผลเพิ่ม”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 16

โพสต์

เคยซื้อปิโตรไชน่า (น้ำมัน) ขายไปแล้ว
ตอนนี้ ที่เพิ่งถือไม่นาน คือ BYD ผลิต battery+รถไฟฟ้า (รถยนต์ใช้ Batt) มีแผนสี่จะส่งขาย USA ด้วย
เพราะวิสัยทัศน์ปู่บอกว่า "All Cars Will Be Electric By 2030" ...เพราะพลังงานขาดแคลน
BYD = Build Your Dream

เกตต์กับชาร์ลีว่าไง (พูดถึง BYD ตอนหลังนาทีที่ 3:40)


VIDEO
กลายเป็นหุ้นร้อนแรง


พาเพื่อนต่างวัย นักบริจาคด้วยกัน เยี่ยมเยียนจีน


ข่าวทั่วไป ตอนปลายเป็นการออกกำลังของพนักงานสนุกสนาน เฮฮา




กระทู้ก่อนหน้า ที่เกี่ยวข้อง
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=35417
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=7&t=47532
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=48817
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=7&t=43320
ภาพประจำตัวสมาชิก
romee
Verified User
โพสต์: 1850
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 17

โพสต์

http://dekisugi.net/archives/11852 ตามบทความนี้เลยครับ
You only live once, but if you do it right, once is enough.
tingun
Verified User
โพสต์: 99
ผู้ติดตาม: 0

Re: วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุนมากๆไหม

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ข้อผิดพลาดของบัฟเฟตต์
วิบูลย์ พึงประเสริฐ Value Way 1/3/2553

ทุกคนอาจคิดว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นนักลงทุนระดับ "เทพ" ที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาด ในความเป็นจริงนักลงทุนระดับตำนานรายนี้


เคยลงทุนผิดพลาดหลายครั้งและทุกครั้งเขามักบอกผู้ถือหุ้นเบิร์กไชน์ของเขาเสมอในรายงานประจำปีว่าเขาทำอะไรโง่ๆ ลงไปบ้าง เรามาดูกันว่าเขาทำอะไรผิดพลาดบ้าง

อันดับแรก การลงทุนในบริษัท โคโนโค ฟิลิปส์ (Conoco Phillips) ในปี 2008 บัฟเฟตต์ซื้อหุ้นบริษัทนี้เป็นจำนวนมาก เขาคาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น ในขณะนั้นราคาน้ำมันขึ้นไปสูงกว่า 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่เวลาได้พิสูจน์ว่าบัฟเฟตต์คิดผิด หลังเกิดวิกฤติซับไพร์มราคาน้ำมันลดลงจาก 150 เหรียญ เหลือเพียง 30 เหรียญราคาหุ้นบริษัทน้ำมันทั่วโลกลดลงอย่างมาก โคโนโค ฟิลิปส์ก็เช่นเดียวกัน ในช่วงเวลานั้นบัฟเฟตต์ต้องขายหุ้นบริษัทนี้ออกไปเพื่อนำเงินไปลงทุนในทรัพย์สินอื่น เช่น การซื้อหุ้นกู้ของจีอี การลงทุนครั้งนั้นทำให้เบิร์กไชน์ขาดทุนไปถึง 3 พันล้านเหรียญ (กว่า 1 แสนล้านบาท) ข้อผิดพลาดของบัฟเฟตต์ครั้งนี้ ชี้ว่าการเห็นราคาหุ้นหรือราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้นมากๆ อย่างรวดเร็ว อาจทำให้นักลงทุนอดใจไม่ได้เพราะกลัว "ตกรถ" โดยหารู้ไม่ว่ารถคันนั้นอาจถอยหลังมาทับคนที่ตามขึ้นไปทีหลังเมื่อไหร่ก็ได้ นักลงทุนที่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนให้อยู่เหนือฝูงชนได้จะมีความได้เปรียบในสถานการณ์เช่นนี้

อันดับสอง การลงทุนในสายการบินยูเอสแอร์ (U.S. Air) บัฟเฟตต์เข้าซื้อหุ้นบุริมสิทธิในปี 1989 เนื่องจากผลตอบแทนของเงินปันผลที่สูงรวมทั้งการเติบโตที่ดีของรายได้และกำไรของสายการบินในช่วงที่ผ่านมา แต่ท้ายที่สุดการลงทุนในยูเอสแอร์กลายเป็นฝันร้าย เมื่อบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้แม้กระทั่งหุ้นบุริมสิทธิที่บัฟเฟตต์ถืออยู่ สุดท้ายแม้จะขายหุ้นที่มีอยู่ออกไปได้หลังจากพยายามขายอยู่นาน แต่ก็ทำให้เขาขยาดหุ้นสายการบินไปอีกนาน ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้เขารู้ว่าการลงทุนกับบริษัทที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงอย่างสายการบินซึ่งต้องใช้เงินซื้อเครื่องบินใหม่ๆ มาเพื่อขยายเส้นทางบิน เมื่อเงินสดไม่พอต้องกู้เงินมาลงทุน สุดท้ายผู้ถือหุ้นจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการขยายตัวของรายได้และกำไรเลย

อันดับสาม การลงทุนในบริษัท เดกเตอร์ ชูวร์ (Dexter Shoes) ในปี 1993 ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรองเท้ารายใหญ่ในอเมริกาโดยการแลกหุ้นกับบริษัทเบิร์กไชน์ในเวลานั้น หลังจากเวลาผ่านไปไม่กี่ปี ธุรกิจรองเท้าของบริษัทเดกเตอร์ ชูวร์ถูกสินค้าที่ผลิตจากจีนและประเทศอื่นๆ เข้ามาแย่งตลาดเนื่องจากสินค้าของบริษัทไม่มีความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืน (Competitive Advantage) ทำให้ถูกแย่งลูกค้าไปได้อย่างง่ายดาย สำหรับการลงทุนในบริษัทนี้ บัฟเฟตต์ประเมินความเสียหายจากราคาหุ้นของเบิร์กไชน์ที่ใช้ในการเข้าซื้อหุ้นของเดกเตอร์ชูวร์ไว้ที่ $3.5 พันล้านเหรียญ (กว่า 1 แสนล้านบาท) สิ่งที่เขาเรียนรู้จากข้อผิดพลาดครั้งนั้นคือการซื้อธุรกิจที่ไม่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน ถึงแม้บริษัทจะไปได้ดีในระยะสั้น แต่ระยะยาวแล้วธุรกิจจะไม่สามารถรักษาอัตรากำไรที่สูงเช่นเดิมได้ คู่แข่งจะค่อยๆ เข้ามาในตลาดเนื่องจากความน่าดึงดูดในการเติบโตของรายได้และกำไรของอุตสาหกรรมนั้นๆ ในช่วงหลังๆ บัฟเฟตต์จะเลือกซื้อหุ้นในธุรกิจที่มีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นบริษัทโคคา-โคลา วอลมาร์ท หรือยิลเลตต์ เป็นต้น

สำหรับนักลงทุนทั่วไปจะเห็นว่าแม้แต่นักลงทุนระดับ "เทพ" อย่างบัฟเฟตต์ยังลงทุนผิดพลาดได้ ดังนั้นไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิดพลาดในตลาดหุ้น เพียงแต่ข้อแตกต่างระหว่างนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จกับล้มเหลวอยู่ที่การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดนั้นแล้วเริ่มต้นใหม่แทนที่จะถอดใจโทษตัวเองแล้วออกจากตลาดหุ้นไป หรือไม่ก็ทำผิดพลาดเช่นเดิมซ้ำๆ อยู่ตลอดเวลา
โพสต์โพสต์