ในอดีต การเกษตรเป็นหัวใจหลัก ในการทำมาหากินมาแต่กาลนานมาแล้ว
แต่เมื่อราคาผลิตเกษตร ไม่คงที่ และบางครั้งทำแล้วกำไร ขาดทุนไม่คงที่
ก็เริ่มมี การทำรายได้จากอุตสาหกรรม ต่างต่างเข้ามา ไม่ว่า
จะอีเล็กโทนิค และอื่น ในการผลิต
และมีเป็นรายได้ที่ทำเงินได้สม่ำเสมอ ตามภาวะความต้องการของตลาด
บ้างก็ละที่นาไร่นา ไปทำงานเมืองนอก เพราะค่าแรงดีกว่าการทำเกษตร
พอกลับมามอง
ในปัจจุบัน
เรากำลังพัฒนาอุสาหกรรมต่างต่างมากขึ้น แต่เรากำลังถูกราคาน้ำมัน
กดดัน มากขึ้นเช่นกัน
ใช้พลังงานมากขึ้นมากขึ้น แต่ผลผลิตทางเกษตรที่ขายออกไป
ไม่แน่ใจว่าสมดุลกันหรือเปล่า
มานั่งนึก
ถ้าเราสามารถทำเกษตรมาก ขึ้นสินค้าเกษตรสามารถทำกำไรได้
สม่ำเสมอ จนถึงทุกวันนี้
แล้วเราใช้พลังงานน้อยลงกว่าทุกวันนี้เพราะไม่ต้องมีอุตสาหกรรม
หลายตัวที่ใช้พลัังงานมากจนเกินไป
บางทีเราอาจไม่ต้องมาตื่นเต้นกับราคาขึ้นลงของพลังงานจนเกินไปก้ได้
การคงอยู่ มีชีวิตอย่างพอเพียง น่าจะพอกับสังคมไทยนะ
ผมว่าบางที่เรากำลังหลงทางกัน
-
- ผู้ติดตาม: 0
ผมว่าบางที่เรากำลังหลงทางกัน
โพสต์ที่ 2
ถ้าสามารถที่จะเปลี่ยนให้กลับเป็นเศรษฐกิจแบบพอเพียง
ไม่ต้องทั้งหมดแม้จะไม่ถึงครึ่ง อาจจะเศษหนึ่งส่วนสี่ก็จะสามารถที่จะอยู่ได้ การแก้ไขจะต้องใช้เวลา ไม่ใช่ง่าย ๆ โดยมากคนก็ใจร้อนเพราะเดือดร้อน
แต่ว่าถ้าทำตั้งแต่เดี๋ยวนี้ก็จะสามารถที่จะแก้ไขได้
พระราชดำรัส
พระราชทานเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2540
จากหนังสือคู่มือการดำเนินชีวิตสำหรับประชาชน ปี 2541 และ ทฤษฎีใหม่
ไม่ต้องทั้งหมดแม้จะไม่ถึงครึ่ง อาจจะเศษหนึ่งส่วนสี่ก็จะสามารถที่จะอยู่ได้ การแก้ไขจะต้องใช้เวลา ไม่ใช่ง่าย ๆ โดยมากคนก็ใจร้อนเพราะเดือดร้อน
แต่ว่าถ้าทำตั้งแต่เดี๋ยวนี้ก็จะสามารถที่จะแก้ไขได้
พระราชดำรัส
พระราชทานเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2540
จากหนังสือคู่มือการดำเนินชีวิตสำหรับประชาชน ปี 2541 และ ทฤษฎีใหม่