5 นวัตกรรมล้ำยุค น่าอ่านมากทีเดียวครับ
- nasesus
- Verified User
- โพสต์: 1276
- ผู้ติดตาม: 0
5 นวัตกรรมล้ำยุค น่าอ่านมากทีเดียวครับ
โพสต์ที่ 1
เดลินิวส์
วันพุธ ที่ 12 มกราคม 2554
ไอบีเอ็ม เปิดเผย “Next Five in Five” 5 นวัตกรรมล้ำยุค ที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน และไลฟ์สไตล์ของคนเราในอนาคต 5 ปีข้างหน้า
โดยการค้นคว้าวิจัยครั้งนี้ได้อ้างอิงแนวโน้มสภาพตลาดและพฤติกรรมทางสังคม ที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนเรารวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งจะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเหล่านี้ให้กลายเป็นจริง ซึ่ง 5 นวัตกรรมมีดังนี้ คือ
1. คุณจะพูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ต่างสถานที่กันได้เสมือนจริงในรูปแบบภาพโฮโลแกรม 3 มิติ
2. แบตเตอรี่ที่ใช้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ จะมีขนาดเล็กและสามารถใช้งานได้นานขึ้นโดยไม่ต้องชาร์จไฟ
3. เซ็นเซอร์ที่รวบรวมข้อมูลรอบตัวมนุษย์ สามารถนำมาช่วยรักษาระบบนิเวศให้โลกของเราได้
4. ระบบการเดินทางอัจฉริยะ ที่จะแนะนำการเดินทางให้ถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด
5. การนำพลังงานความร้อนจากชิพ คอมพิวเตอร์มารีไซเคิลเป็นพลังงานที่ใช้ในเมืองใหญ่
“นายตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป” ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ไอบีเอ็มได้คิดค้นนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อช่วยสร้างสรรค์โลกให้ฉลาดขึ้นภายใต้แนวคิด “สมาร์ทเตอร์ แพลนเนต” มาอย่างต่อเนื่อง
จากผลงานวิจัยในแล็บของไอบีเอ็มทั่วโลก ล่าสุดได้เปิดเผยนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต ของคนเราในอีก 5 ปีข้างหน้า
นวัตกรรมแรกก็คือ “คุณจะพูดคุยกับเพื่อนในรูปแบบ 3 มิติ”
ในช่วง 5 ปีนับจากนี้ อินเทอร์เฟซ 3 มิติจะช่วยให้คุณสามารถพูดคุยโต้ตอบกับภาพโฮโลแกรม 3 มิติของเพื่อนคุณในแบบเรียลไทม์ เหมือนที่คุณเคยเห็นในภาพยนตร์ ปัจจุบัน ระบบ 3 มิติและกล้องโฮโลกราฟิกมีความก้าวล้ำเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังมีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ จนสามารถบรรจุไว้ในโทรศัพท์มือถือ และในอนาคต คุณก็จะสามารถใช้งานภาพถ่าย ท่องเว็บ และสนทนากับเพื่อนของคุณในรูปแบบที่แปลกใหม่ได้อย่างแท้จริง
นักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานอย่างจริงจังเพื่อพัฒนาปรับปรุงการสนทนาผ่านวิดีโอ ให้กลายเป็นการสนทนาผ่านระบบโฮโลกราฟี่ หรือ “เทเลพรีเซนซ์ 3 มิติ” ซึ่งใช้ลำแสงที่กระจายจากวัตถุ และสร้างแบบจำลองภาพวัตถุดังกล่าว คล้ายคลึงกับวิธีการที่ดวงตาของมนุษย์เราใช้ในการมองเห็นภาพสิ่งต่าง ๆ รอบตัว นอกเหนือจากภาพของเพื่อน ๆ แล้ว คุณจะเห็นสิ่งอื่น ๆ ในรูปแบบ 3 มิติเช่นกัน
ทั้งนี้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในฝ่ายวิจัยของไอบีเอ็มพยายามมองหาหนทางใหม่ ๆ ในการแสดงผลข้อมูล 3 มิติ โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยให้วิศวกรสามารถตรวจสอบงานออกแบบของทุก ๆ สิ่ง ตั้งแต่อาคารไปจนถึงโปรแกรมซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งรันแบบจำลองของโรคติดต่อที่แพร่กระจายทั่วโลกในรูปแบบ 3 มิติที่รองรับการโต้ตอบอินเทอร์แอคทีฟ และแสดงผลแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลกบนทวิตเตอร์ โดยทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในแบบเรียลไทม์และมีความแม่นยำสูง
นวัตกรรมต่อมาคือ “แบตเตอรี่จะใช้อากาศเพื่อขับเคลื่อนอุปกรณ์”
คุณคงเคยนึกฝันอยากให้แบตเตอรี่ โน้ตบุ๊กของคุณรองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จไฟ หรือโทรศัพท์มือถือที่คุณพกพาไปได้ทุกที่โดยไม่ต้องอาศัยพลังงานจาก แบตเตอรี่ ในอีก 5 ปีข้างหน้าความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในส่วนของเทคโนโลยีทราน ซิสเตอร์และแบตเตอรี่จะช่วยให้อุปกรณ์ของ คุณมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับปัจจุบัน
และในบางกรณีอุปกรณ์ขนาดเล็กอาจไม่ต้องใช้แบตเตอรี่เลย แทนที่จะใช้แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออนที่มีน้ำหนักมากดังที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนาแบตเตอรี่ที่ใช้อากาศเพื่อทำปฏิกิริยากับโลหะที่ ก่อให้เกิดพลังงานและทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ซึ่งถ้าหากพัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้สำเร็จ ก็จะทำให้เกิดแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักเบาและมีประสิทธิภาพ สามารถขับเคลื่อนทุกสิ่ง ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้บริโภค
ซึ่งไอบีเอ็มได้ปฏิวัติแนวคิดเกี่ยวกับทรานซิสเตอร์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐานใน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดปริมาณการใช้พลังงานให้เหลือน้อยกว่า 0.5 โวลต์ต่อทรานซิสเตอร์ 1 ตัว และผลที่ตามมาก็คือ อุปกรณ์บางอย่าง เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องอ่านอิเล็กทรอนิกส์ (e-reader) อาจไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ในการทำงาน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ใช้แบตเตอรี่นี้จะสามารถชาร์จไฟโดยใช้เทคนิคที่ เรียกว่า การเก็บเกี่ยวพลังงาน (Energy Scavenging) ปัจจุบันนาฬิกาข้อมือบางรุ่นที่ใช้เทคนิคนี้สามารถชาร์จไฟโดยอาศัยการ เคลื่อนไหวแขนของผู้สวมใส่ และไม่จำเป็นต้องใช้การไขลานแต่อย่างใด แนวคิดเดียวกันนี้อาจนำมาใช้เพื่อชาร์จโทรศัพท์มือถือ โดยเพียงแค่เขย่าเครื่องเบา ๆ คุณก็จะสามารถโทรฯออกได้
ส่วนนวัตกรรมที่สาม คือ “เซ็นเซอร์ที่รวบรวมข้อมูลรอบตัวมนุษย์ สามารถนำมาช่วยรักษาระบบนิเวศให้โลกของเราได้”
ในอีก 5 ปีนับจากนี้ เซ็นเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ รถยนต์ กระเป๋าสตางค์ และแม้กระทั่งข้อความทวีตของคุณ จะเก็บรวบรวมข้อมูลที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์มองเห็นภาพรวมของสภาพแวดล้อมรอบ ตัวคุณในแบบเรียลไทม์ คุณจะสามารถส่งข้อมูลนี้เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน ปกป้องสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือตรวจสอบติดตามพืชหรือสัตว์ต่างถิ่นที่กำลังคุกคามระบบนิเวศทั่วโลก ซึ่งจะมีกลุ่มคนที่เรียกว่า “พลเมืองนักวิทยาศาสตร์” (Citizen Scientists) จะใช้เซ็นเซอร์ที่มีอยู่แล้ว เพื่อสร้างชุดข้อมูลจำนวนมหาศาลสำหรับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
การสังเกตปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น หิมะเริ่มละลายในเมือง มียุงชุมมากขึ้น หรือลำธารแห้งเหือด ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์และนักวิทยาศาสตร์ยังขาดแคลนข้อมูลเหล่า นี้ในปัจจุบัน แม้กระทั่งโน้ตบุ๊กของคุณก็สามารถใช้เป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหว และถ้าหากมีการปรับใช้อย่างเหมาะสมและเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อื่น ๆ โน้ตบุ๊กของคุณก็จะสามารถระบุเหตุแผ่นดิน ไหวต่อเนื่อง และเพิ่มความรวดเร็วในการทำงานของหน่วยกู้ภัยและช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้ มากมาย
ไอบีเอ็มได้จดสิทธิบัตรเทคนิคที่ช่วยให้ระบบสามารถวิเคราะห์การเคลื่อนตัว ของเปลือกโลกและเหตุแผ่นดินไหวได้อย่างแม่นยำ จึงสามารถเตือนภัยสึนามิได้แต่เนิ่น ๆ นอกจากนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวยังสามารถตรวจวัดและวิเคราะห์พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย จากเหตุ แผ่นดินไหวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้หน่วยกู้ภัยสามารถประเมินสถานการณ์และจัดลำดับความสำคัญของงานที่ ต้องทำหลังเกิดแผ่นดินไหว ไอบีเอ็มยังได้พัฒนา “โปรแกรม” บนโทรศัพท์มือถือที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้จัดส่งข้อมูลที่มีประโยชน์เพื่อจุด ประสงค์บางอย่าง เช่น ปรับปรุงคุณภาพของน้ำดื่ม หรือรายงานเกี่ยวกับ มลพิษทางเสียง ล่าสุดไอบีเอ็มได้สร้างโปร แกรมกรีค วอทช์ เพื่อให้ผู้ใช้ถ่ายภาพหนองน้ำหรือลำธาร ตอบคำถามง่าย ๆ 3 ข้อเกี่ยวกับภาพดังกล่าว และข้อมูลนั้น ก็จะถูกจัดส่งให้แก่หน่วยงานประปาในท้องถิ่นโดยอัตโนมัติ
ส่วนนวัตกรรมที่สี่ คือ “ระบบการเดินทาง หรือจราจรอัจฉริยะ ที่จะแนะนำการเดินทางให้ถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด”
ลองนึกถึงการเดินทางด้วยรถยนต์บนทางหลวงที่ปราศจากปัญหาจราจรติดขัด หรือรถไฟใต้ดินที่มีผู้โดยสารเบาบาง ไม่มีปัญหาการเดินทางล่าช้าเนื่องจากการก่อสร้างสะพาน และไม่ต้องห่วงว่าจะไปถึงที่ทำงานสายเกินกว่าเวลาเข้างาน
ในอีก 5 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลจะให้คำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อ ให้ผู้เดินทางไปถึงจุดหมายได้เร็วที่สุด ระบบจราจรอัจฉริยะจะเรียนรู้แบบแผนของผู้เดินทาง รวมถึงพฤติกรรม และจะจัดส่งข้อมูลเส้นทางและความปลอดภัยในการเดินทางให้แก่ผู้เดินทางได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม นักวิจัยของไอบีเอ็มกำลังพัฒนาแบบจำลองใหม่ ๆ ที่จะคาดการณ์ผลลัพธ์ของการเดินทางที่หลากหลาย เพื่อนำเสนอข้อมูลที่ดีกว่าการรายงานสภาพการจราจรแบบเดิม ๆ เช่นที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน หรืออุปกรณ์ที่บอกได้แค่ว่าคุณอยู่ตรงจุดไหนท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด หรือแอพพลิเคชั่นบนเว็บที่ระบุระยะเวลาการเดินทางโดยประมาณในสภาพจราจร ปัจจุบัน
การใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ในรูปแบบใหม่ ๆ พร้อมด้วยเทคโนโลยีการวิเคราะห์และคาดการณ์ของไอบีเอ็ม จะช่วยให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์และผสานรวมสถานการณ์สมมุติที่เป็นไปได้ หลายสถาน การณ์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้เดินทาง เพื่อนำเสนอข้อมูลเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางในแต่ละวัน
และนวัตกรรมสุดท้าย คือ “การนำพลังงานความร้อนจากชิพคอมพิวเตอร์มารีไซเคิลเป็นพลังงานที่ใช้ในเมืองใหญ่”
นวัตกรรมในคอมพิวเตอร์และดาต้าเซ็นเตอร์จะทำให้เราสามารถนำเอาความร้อนและ พลังงานส่วนเกินจากระบบเหล่านี้มาใช้ในการทำสิ่งต่าง ๆ เช่น การเพิ่มความอบอุ่นให้กับอาคารในช่วงฤดูหนาว และการทำความเย็นในช่วงฤดูร้อน แล้วลองนึกดูสิว่าจะเป็นอย่างไรหากเราสามารถนำเอาพลังงานที่หลั่งไหลเข้าสู่ ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกมารีไซเคิลเพื่อรองรับการใช้พลังงานในเมืองใหญ่ ปัจจุบัน ราว 50 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์ถูกใช้ในระบบระบายความร้อน และพลังงานความร้อนส่วนใหญ่ก็ถูกปล่อยสู่บรรยากาศอย่างเปล่าประโยชน์
เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำบนชิพคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นผลงานการพัฒนาของไอบีเอ็ม ช่วยให้เราสามารถนำเอาพลังงานความร้อนจากชิพคอมพิวเตอร์มารีไซเคิลอย่างมี ประสิทธิภาพ เพื่อทำน้ำร้อนภายในอาคารสำนักงานและบ้านเรือนต่าง ๆ
โครงการนำร่องในสวิตเซอร์แลนด์เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเทคโนโลยีนี้ คาดว่าจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 30 ตันต่อปี หรือลดลง 85 เปอร์เซ็นต์ เครือข่ายท่อนำส่ง ของเหลวขนาดจิ๋ว (Microfluidic Capil-laries) ภายในฮีทซิงค์ ถูกเชื่อมต่อไว้บนพื้นผิวของชิพแต่ละตัวในคอมพิวเตอร์คลัสเตอร์ ซึ่งช่วยให้สามารถส่งน้ำเข้าไปภายในไมครอนของเซมิคอนดักเตอร์ได้โดยตรง การส่งกระแสน้ำผ่านชิพแต่ละตัวอย่างใกล้ชิดเช่นนี้จะช่วยถ่ายเทความร้อนได้ อย่างมีประสิทธิ ภาพ โดยน้ำที่ระบายออกมาจะมีอุณหภูมิสูงถึง 60 องศาเซลเซียส และถูกส่งผ่านเครื่องถ่ายเทความร้อนเพื่อจัดส่งพลังงานความร้อนที่ได้ไปยัง ที่อื่น
ทึ่งไหม...กับ 5 นวัตกรรมล้ำยุคที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราใน 5 ปีข้างหน้า!!!!.
วันพุธ ที่ 12 มกราคม 2554
ไอบีเอ็ม เปิดเผย “Next Five in Five” 5 นวัตกรรมล้ำยุค ที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน และไลฟ์สไตล์ของคนเราในอนาคต 5 ปีข้างหน้า
โดยการค้นคว้าวิจัยครั้งนี้ได้อ้างอิงแนวโน้มสภาพตลาดและพฤติกรรมทางสังคม ที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนเรารวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งจะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเหล่านี้ให้กลายเป็นจริง ซึ่ง 5 นวัตกรรมมีดังนี้ คือ
1. คุณจะพูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ต่างสถานที่กันได้เสมือนจริงในรูปแบบภาพโฮโลแกรม 3 มิติ
2. แบตเตอรี่ที่ใช้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ จะมีขนาดเล็กและสามารถใช้งานได้นานขึ้นโดยไม่ต้องชาร์จไฟ
3. เซ็นเซอร์ที่รวบรวมข้อมูลรอบตัวมนุษย์ สามารถนำมาช่วยรักษาระบบนิเวศให้โลกของเราได้
4. ระบบการเดินทางอัจฉริยะ ที่จะแนะนำการเดินทางให้ถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด
5. การนำพลังงานความร้อนจากชิพ คอมพิวเตอร์มารีไซเคิลเป็นพลังงานที่ใช้ในเมืองใหญ่
“นายตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป” ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ไอบีเอ็มได้คิดค้นนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อช่วยสร้างสรรค์โลกให้ฉลาดขึ้นภายใต้แนวคิด “สมาร์ทเตอร์ แพลนเนต” มาอย่างต่อเนื่อง
จากผลงานวิจัยในแล็บของไอบีเอ็มทั่วโลก ล่าสุดได้เปิดเผยนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต ของคนเราในอีก 5 ปีข้างหน้า
นวัตกรรมแรกก็คือ “คุณจะพูดคุยกับเพื่อนในรูปแบบ 3 มิติ”
ในช่วง 5 ปีนับจากนี้ อินเทอร์เฟซ 3 มิติจะช่วยให้คุณสามารถพูดคุยโต้ตอบกับภาพโฮโลแกรม 3 มิติของเพื่อนคุณในแบบเรียลไทม์ เหมือนที่คุณเคยเห็นในภาพยนตร์ ปัจจุบัน ระบบ 3 มิติและกล้องโฮโลกราฟิกมีความก้าวล้ำเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังมีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ จนสามารถบรรจุไว้ในโทรศัพท์มือถือ และในอนาคต คุณก็จะสามารถใช้งานภาพถ่าย ท่องเว็บ และสนทนากับเพื่อนของคุณในรูปแบบที่แปลกใหม่ได้อย่างแท้จริง
นักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานอย่างจริงจังเพื่อพัฒนาปรับปรุงการสนทนาผ่านวิดีโอ ให้กลายเป็นการสนทนาผ่านระบบโฮโลกราฟี่ หรือ “เทเลพรีเซนซ์ 3 มิติ” ซึ่งใช้ลำแสงที่กระจายจากวัตถุ และสร้างแบบจำลองภาพวัตถุดังกล่าว คล้ายคลึงกับวิธีการที่ดวงตาของมนุษย์เราใช้ในการมองเห็นภาพสิ่งต่าง ๆ รอบตัว นอกเหนือจากภาพของเพื่อน ๆ แล้ว คุณจะเห็นสิ่งอื่น ๆ ในรูปแบบ 3 มิติเช่นกัน
ทั้งนี้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในฝ่ายวิจัยของไอบีเอ็มพยายามมองหาหนทางใหม่ ๆ ในการแสดงผลข้อมูล 3 มิติ โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยให้วิศวกรสามารถตรวจสอบงานออกแบบของทุก ๆ สิ่ง ตั้งแต่อาคารไปจนถึงโปรแกรมซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งรันแบบจำลองของโรคติดต่อที่แพร่กระจายทั่วโลกในรูปแบบ 3 มิติที่รองรับการโต้ตอบอินเทอร์แอคทีฟ และแสดงผลแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลกบนทวิตเตอร์ โดยทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในแบบเรียลไทม์และมีความแม่นยำสูง
นวัตกรรมต่อมาคือ “แบตเตอรี่จะใช้อากาศเพื่อขับเคลื่อนอุปกรณ์”
คุณคงเคยนึกฝันอยากให้แบตเตอรี่ โน้ตบุ๊กของคุณรองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จไฟ หรือโทรศัพท์มือถือที่คุณพกพาไปได้ทุกที่โดยไม่ต้องอาศัยพลังงานจาก แบตเตอรี่ ในอีก 5 ปีข้างหน้าความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในส่วนของเทคโนโลยีทราน ซิสเตอร์และแบตเตอรี่จะช่วยให้อุปกรณ์ของ คุณมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับปัจจุบัน
และในบางกรณีอุปกรณ์ขนาดเล็กอาจไม่ต้องใช้แบตเตอรี่เลย แทนที่จะใช้แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออนที่มีน้ำหนักมากดังที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนาแบตเตอรี่ที่ใช้อากาศเพื่อทำปฏิกิริยากับโลหะที่ ก่อให้เกิดพลังงานและทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ซึ่งถ้าหากพัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้สำเร็จ ก็จะทำให้เกิดแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักเบาและมีประสิทธิภาพ สามารถขับเคลื่อนทุกสิ่ง ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้บริโภค
ซึ่งไอบีเอ็มได้ปฏิวัติแนวคิดเกี่ยวกับทรานซิสเตอร์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐานใน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดปริมาณการใช้พลังงานให้เหลือน้อยกว่า 0.5 โวลต์ต่อทรานซิสเตอร์ 1 ตัว และผลที่ตามมาก็คือ อุปกรณ์บางอย่าง เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องอ่านอิเล็กทรอนิกส์ (e-reader) อาจไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ในการทำงาน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ใช้แบตเตอรี่นี้จะสามารถชาร์จไฟโดยใช้เทคนิคที่ เรียกว่า การเก็บเกี่ยวพลังงาน (Energy Scavenging) ปัจจุบันนาฬิกาข้อมือบางรุ่นที่ใช้เทคนิคนี้สามารถชาร์จไฟโดยอาศัยการ เคลื่อนไหวแขนของผู้สวมใส่ และไม่จำเป็นต้องใช้การไขลานแต่อย่างใด แนวคิดเดียวกันนี้อาจนำมาใช้เพื่อชาร์จโทรศัพท์มือถือ โดยเพียงแค่เขย่าเครื่องเบา ๆ คุณก็จะสามารถโทรฯออกได้
ส่วนนวัตกรรมที่สาม คือ “เซ็นเซอร์ที่รวบรวมข้อมูลรอบตัวมนุษย์ สามารถนำมาช่วยรักษาระบบนิเวศให้โลกของเราได้”
ในอีก 5 ปีนับจากนี้ เซ็นเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ รถยนต์ กระเป๋าสตางค์ และแม้กระทั่งข้อความทวีตของคุณ จะเก็บรวบรวมข้อมูลที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์มองเห็นภาพรวมของสภาพแวดล้อมรอบ ตัวคุณในแบบเรียลไทม์ คุณจะสามารถส่งข้อมูลนี้เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน ปกป้องสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือตรวจสอบติดตามพืชหรือสัตว์ต่างถิ่นที่กำลังคุกคามระบบนิเวศทั่วโลก ซึ่งจะมีกลุ่มคนที่เรียกว่า “พลเมืองนักวิทยาศาสตร์” (Citizen Scientists) จะใช้เซ็นเซอร์ที่มีอยู่แล้ว เพื่อสร้างชุดข้อมูลจำนวนมหาศาลสำหรับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
การสังเกตปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น หิมะเริ่มละลายในเมือง มียุงชุมมากขึ้น หรือลำธารแห้งเหือด ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์และนักวิทยาศาสตร์ยังขาดแคลนข้อมูลเหล่า นี้ในปัจจุบัน แม้กระทั่งโน้ตบุ๊กของคุณก็สามารถใช้เป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหว และถ้าหากมีการปรับใช้อย่างเหมาะสมและเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อื่น ๆ โน้ตบุ๊กของคุณก็จะสามารถระบุเหตุแผ่นดิน ไหวต่อเนื่อง และเพิ่มความรวดเร็วในการทำงานของหน่วยกู้ภัยและช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้ มากมาย
ไอบีเอ็มได้จดสิทธิบัตรเทคนิคที่ช่วยให้ระบบสามารถวิเคราะห์การเคลื่อนตัว ของเปลือกโลกและเหตุแผ่นดินไหวได้อย่างแม่นยำ จึงสามารถเตือนภัยสึนามิได้แต่เนิ่น ๆ นอกจากนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวยังสามารถตรวจวัดและวิเคราะห์พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย จากเหตุ แผ่นดินไหวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้หน่วยกู้ภัยสามารถประเมินสถานการณ์และจัดลำดับความสำคัญของงานที่ ต้องทำหลังเกิดแผ่นดินไหว ไอบีเอ็มยังได้พัฒนา “โปรแกรม” บนโทรศัพท์มือถือที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้จัดส่งข้อมูลที่มีประโยชน์เพื่อจุด ประสงค์บางอย่าง เช่น ปรับปรุงคุณภาพของน้ำดื่ม หรือรายงานเกี่ยวกับ มลพิษทางเสียง ล่าสุดไอบีเอ็มได้สร้างโปร แกรมกรีค วอทช์ เพื่อให้ผู้ใช้ถ่ายภาพหนองน้ำหรือลำธาร ตอบคำถามง่าย ๆ 3 ข้อเกี่ยวกับภาพดังกล่าว และข้อมูลนั้น ก็จะถูกจัดส่งให้แก่หน่วยงานประปาในท้องถิ่นโดยอัตโนมัติ
ส่วนนวัตกรรมที่สี่ คือ “ระบบการเดินทาง หรือจราจรอัจฉริยะ ที่จะแนะนำการเดินทางให้ถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด”
ลองนึกถึงการเดินทางด้วยรถยนต์บนทางหลวงที่ปราศจากปัญหาจราจรติดขัด หรือรถไฟใต้ดินที่มีผู้โดยสารเบาบาง ไม่มีปัญหาการเดินทางล่าช้าเนื่องจากการก่อสร้างสะพาน และไม่ต้องห่วงว่าจะไปถึงที่ทำงานสายเกินกว่าเวลาเข้างาน
ในอีก 5 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลจะให้คำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อ ให้ผู้เดินทางไปถึงจุดหมายได้เร็วที่สุด ระบบจราจรอัจฉริยะจะเรียนรู้แบบแผนของผู้เดินทาง รวมถึงพฤติกรรม และจะจัดส่งข้อมูลเส้นทางและความปลอดภัยในการเดินทางให้แก่ผู้เดินทางได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม นักวิจัยของไอบีเอ็มกำลังพัฒนาแบบจำลองใหม่ ๆ ที่จะคาดการณ์ผลลัพธ์ของการเดินทางที่หลากหลาย เพื่อนำเสนอข้อมูลที่ดีกว่าการรายงานสภาพการจราจรแบบเดิม ๆ เช่นที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน หรืออุปกรณ์ที่บอกได้แค่ว่าคุณอยู่ตรงจุดไหนท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด หรือแอพพลิเคชั่นบนเว็บที่ระบุระยะเวลาการเดินทางโดยประมาณในสภาพจราจร ปัจจุบัน
การใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ในรูปแบบใหม่ ๆ พร้อมด้วยเทคโนโลยีการวิเคราะห์และคาดการณ์ของไอบีเอ็ม จะช่วยให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์และผสานรวมสถานการณ์สมมุติที่เป็นไปได้ หลายสถาน การณ์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้เดินทาง เพื่อนำเสนอข้อมูลเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางในแต่ละวัน
และนวัตกรรมสุดท้าย คือ “การนำพลังงานความร้อนจากชิพคอมพิวเตอร์มารีไซเคิลเป็นพลังงานที่ใช้ในเมืองใหญ่”
นวัตกรรมในคอมพิวเตอร์และดาต้าเซ็นเตอร์จะทำให้เราสามารถนำเอาความร้อนและ พลังงานส่วนเกินจากระบบเหล่านี้มาใช้ในการทำสิ่งต่าง ๆ เช่น การเพิ่มความอบอุ่นให้กับอาคารในช่วงฤดูหนาว และการทำความเย็นในช่วงฤดูร้อน แล้วลองนึกดูสิว่าจะเป็นอย่างไรหากเราสามารถนำเอาพลังงานที่หลั่งไหลเข้าสู่ ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกมารีไซเคิลเพื่อรองรับการใช้พลังงานในเมืองใหญ่ ปัจจุบัน ราว 50 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์ถูกใช้ในระบบระบายความร้อน และพลังงานความร้อนส่วนใหญ่ก็ถูกปล่อยสู่บรรยากาศอย่างเปล่าประโยชน์
เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำบนชิพคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นผลงานการพัฒนาของไอบีเอ็ม ช่วยให้เราสามารถนำเอาพลังงานความร้อนจากชิพคอมพิวเตอร์มารีไซเคิลอย่างมี ประสิทธิภาพ เพื่อทำน้ำร้อนภายในอาคารสำนักงานและบ้านเรือนต่าง ๆ
โครงการนำร่องในสวิตเซอร์แลนด์เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเทคโนโลยีนี้ คาดว่าจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 30 ตันต่อปี หรือลดลง 85 เปอร์เซ็นต์ เครือข่ายท่อนำส่ง ของเหลวขนาดจิ๋ว (Microfluidic Capil-laries) ภายในฮีทซิงค์ ถูกเชื่อมต่อไว้บนพื้นผิวของชิพแต่ละตัวในคอมพิวเตอร์คลัสเตอร์ ซึ่งช่วยให้สามารถส่งน้ำเข้าไปภายในไมครอนของเซมิคอนดักเตอร์ได้โดยตรง การส่งกระแสน้ำผ่านชิพแต่ละตัวอย่างใกล้ชิดเช่นนี้จะช่วยถ่ายเทความร้อนได้ อย่างมีประสิทธิ ภาพ โดยน้ำที่ระบายออกมาจะมีอุณหภูมิสูงถึง 60 องศาเซลเซียส และถูกส่งผ่านเครื่องถ่ายเทความร้อนเพื่อจัดส่งพลังงานความร้อนที่ได้ไปยัง ที่อื่น
ทึ่งไหม...กับ 5 นวัตกรรมล้ำยุคที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราใน 5 ปีข้างหน้า!!!!.
ทางที่ไม่มีไฟ ใช่ว่าไม่มีทาง เพียงแค่การก้าวไปข้างหน้าต้องใช้มากกว่าการหวังพึ่งแค่ดวงตา
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 5 นวัตกรรมล้ำยุค น่าอ่านมากทีเดียวครับ
โพสต์ที่ 2
Thank you so much.
ลงทุนเพื่อชีวิต
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 5 นวัตกรรมล้ำยุค น่าอ่านมากทีเดียวครับ
โพสต์ที่ 3
หุหุ เมื่อไรจะได้ใช้จริงๆนะ อยากเป็นคนยุคใหม่ซะแล้วสิ
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 5 นวัตกรรมล้ำยุค น่าอ่านมากทีเดียวครับ
โพสต์ที่ 4
วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์นี่ รวดเร็วจริงๆ
โปรแกรมสั่งซื้อสั่งขายหุ้นอัตโนมัติ. ก็มีคนทำได้แล้ว
โปรแกรมค้นหาหุ้นโดยอิงจากเทคนิคอล. ก็มีคนทำได้แล้ว
เมื่อไหร่หนอจะมีคนคิดค้นโปรแกรมค้นหาหุ้นโดยอิงจากปัจจัยพื้นฐานบ้าง
โปรแกรมสั่งซื้อสั่งขายหุ้นอัตโนมัติ. ก็มีคนทำได้แล้ว
โปรแกรมค้นหาหุ้นโดยอิงจากเทคนิคอล. ก็มีคนทำได้แล้ว
เมื่อไหร่หนอจะมีคนคิดค้นโปรแกรมค้นหาหุ้นโดยอิงจากปัจจัยพื้นฐานบ้าง
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 5 นวัตกรรมล้ำยุค น่าอ่านมากทีเดียวครับ
โพสต์ที่ 5
เทคโนโลยีใหม่ๆราคาแพงเสมอ ก็เหมือนโทรศัพท์มือถือในยุคแรกที่แพงมาก
ผมจะรอซัก3-4ปีให้ถูกแล้วค่อยซื้อ ขอยอมเป็นคนโบราณไปก่อนครับ
ผมจะรอซัก3-4ปีให้ถูกแล้วค่อยซื้อ ขอยอมเป็นคนโบราณไปก่อนครับ
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1131
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 5 นวัตกรรมล้ำยุค น่าอ่านมากทีเดียวครับ
โพสต์ที่ 7
จ่ายไฟด้วยสัญญาณคลื่น จริงๆ นิโคลา เทสลา เคยคิดและทำไว้แล้ว แต่การสานต่องานของท่านยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมมากนักครับkopoko เขียน:เจ๋งครับ
อยากให้ทำเพิ่มอีกจังเช่น จ่ายไฟผ่านสัญญาณคลื่น เอาเหมือนไวเลสเลยเทพโครต
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment