มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะครับ
- airmanza123
- Verified User
- โพสต์: 29
- ผู้ติดตาม: 0
มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะครับ
โพสต์ที่ 1
ข้อแรกเป็นเรื่องของการถือหุ้นระยะยาวครับ คือผมจำไม่ได้แล้วว่าผมไปรู้มาจากใหนว่าบัฟเฟตเขาซื้อหุ้นแล้วไม่ค่อยขาย คือถือตลอดกาลอะไรประมาณนี้ครับ ผมสงสัยว่า การถือหุ้นไว้ตอลดแล้วไม่ขายนั้น ถ้าหากเป็นหุ้นที่ไม่ปันผล เราจะไม่มีความเสี่ยงสูงไปเหรอครับ ถ้าหากว่าเราถือไปนานๆ เช่น 10 ปี แล้วปีที่11มันดันราคาตก แบบนี้ที่เราถือไว้มันก็ไม่มีประโยชน์สิครับ แล้วการที่เราถือหุ้นไว้แบบไม่ขาย(ถือไว้ตลอดกาล)จะมีข้อดียังไงมั่งครับ
ข้อสอง คือผมสงสัยเรื่อง margin of safty อยุ่นิดนึงอ่ะครับ คือสมมุติตอนที่เราซื้อมา บริษัทยังมีหนี้ไม่มาก แต่พอเราซื้อหุ้นแล้ว บริษัทอาจจะกู้เงิน หรือทำอะไรให้เป็นหนี้เพิ่มมากขึ้นจนมากกว่าสินทรัพย์มากๆก็ได้ใช่ใหมครับ แบบนี้ margin of safty จะปลอดภัยแค่ใหนเหรอครับ
ขอคำตอบให้ผมที่นะครับ ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ช่วยตอบคำถามครับ
ข้อสอง คือผมสงสัยเรื่อง margin of safty อยุ่นิดนึงอ่ะครับ คือสมมุติตอนที่เราซื้อมา บริษัทยังมีหนี้ไม่มาก แต่พอเราซื้อหุ้นแล้ว บริษัทอาจจะกู้เงิน หรือทำอะไรให้เป็นหนี้เพิ่มมากขึ้นจนมากกว่าสินทรัพย์มากๆก็ได้ใช่ใหมครับ แบบนี้ margin of safty จะปลอดภัยแค่ใหนเหรอครับ
ขอคำตอบให้ผมที่นะครับ ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ช่วยตอบคำถามครับ
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะคร
โพสต์ที่ 2
1.VIอาจไม่ได้ถือไว้ตลอดชีวิต จะขายเมื่อถึงราคาที่ควรเป็นตามมูลค่ามัน หรือพื้นฐานเปลี่ยน หุ้นที่ลงทุนมีหลายลักษณะ ถ้าพวกไม่มีปันผลน่าจะเป็นassetplay ไม่ก็ turnaroundairmanza123 เขียน:ข้อแรกเป็นเรื่องของการถือหุ้นระยะยาวครับ คือผมจำไม่ได้แล้วว่าผมไปรู้มาจากใหนว่าบัฟเฟตเขาซื้อหุ้นแล้วไม่ค่อยขาย คือถือตลอดกาลอะไรประมาณนี้ครับ ผมสงสัยว่า การถือหุ้นไว้ตอลดแล้วไม่ขายนั้น ถ้าหากเป็นหุ้นที่ไม่ปันผล เราจะไม่มีความเสี่ยงสูงไปเหรอครับ ถ้าหากว่าเราถือไปนานๆ เช่น 10 ปี แล้วปีที่11มันดันราคาตก แบบนี้ที่เราถือไว้มันก็ไม่มีประโยชน์สิครับ แล้วการที่เราถือหุ้นไว้แบบไม่ขาย(ถือไว้ตลอดกาล)จะมีข้อดียังไงมั่งครับ
ข้อสอง คือผมสงสัยเรื่อง margin of safty อยุ่นิดนึงอ่ะครับ คือสมมุติตอนที่เราซื้อมา บริษัทยังมีหนี้ไม่มาก แต่พอเราซื้อหุ้นแล้ว บริษัทอาจจะกู้เงิน หรือทำอะไรให้เป็นหนี้เพิ่มมากขึ้นจนมากกว่าสินทรัพย์มากๆก็ได้ใช่ใหมครับ แบบนี้ margin of safty จะปลอดภัยแค่ใหนเหรอครับ
ขอคำตอบให้ผมที่นะครับ ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ช่วยตอบคำถามครับ
2.ดูปริมาณหนี้ ประเภทหนี้ ความสามารถและธรรมมาภิบาลของผู้บริหาร
ลงทุนเพื่อชีวิต
- airmanza123
- Verified User
- โพสต์: 29
- ผู้ติดตาม: 0
มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะครับ
โพสต์ที่ 3
ขอบคุณมากครับผมคงต้องศึกษาหุ้นอีกเยอะๆแล้วแหละครับ 555
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะครับ
โพสต์ที่ 5
555 ใช่ ผมเพิ่งสังเกต


ลงทุนเพื่อชีวิต
- boat37564
- Verified User
- โพสต์: 105
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะคร
โพสต์ที่ 6
เห็นด้วยกับคุณthaloengsakครับthaloengsak เขียน:1.VIอาจไม่ได้ถือไว้ตลอดชีวิต จะขายเมื่อถึงราคาที่ควรเป็นตามมูลค่ามัน หรือพื้นฐานเปลี่ยน หุ้นที่ลงทุนมีหลายลักษณะ ถ้าพวกไม่มีปันผลน่าจะเป็นassetplay ไม่ก็ turnaroundairmanza123 เขียน:ข้อแรกเป็นเรื่องของการถือหุ้นระยะยาวครับ คือผมจำไม่ได้แล้วว่าผมไปรู้มาจากใหนว่าบัฟเฟตเขาซื้อหุ้นแล้วไม่ค่อยขาย คือถือตลอดกาลอะไรประมาณนี้ครับ ผมสงสัยว่า การถือหุ้นไว้ตอลดแล้วไม่ขายนั้น ถ้าหากเป็นหุ้นที่ไม่ปันผล เราจะไม่มีความเสี่ยงสูงไปเหรอครับ ถ้าหากว่าเราถือไปนานๆ เช่น 10 ปี แล้วปีที่11มันดันราคาตก แบบนี้ที่เราถือไว้มันก็ไม่มีประโยชน์สิครับ แล้วการที่เราถือหุ้นไว้แบบไม่ขาย(ถือไว้ตลอดกาล)จะมีข้อดียังไงมั่งครับ
ข้อสอง คือผมสงสัยเรื่อง margin of safty อยุ่นิดนึงอ่ะครับ คือสมมุติตอนที่เราซื้อมา บริษัทยังมีหนี้ไม่มาก แต่พอเราซื้อหุ้นแล้ว บริษัทอาจจะกู้เงิน หรือทำอะไรให้เป็นหนี้เพิ่มมากขึ้นจนมากกว่าสินทรัพย์มากๆก็ได้ใช่ใหมครับ แบบนี้ margin of safty จะปลอดภัยแค่ใหนเหรอครับ
ขอคำตอบให้ผมที่นะครับ ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ช่วยตอบคำถามครับ
2.ดูปริมาณหนี้ ประเภทหนี้ ความสามารถและธรรมมาภิบาลของผู้บริหาร
1.หุ้นไม่จำเป็นจะต้องถือไว้ตลอด เราจะต้องวิเคราะห์กิจการนั้นเรื่อยๆ ว่าจะงบดุลเป็ยอย่างไร กำไรยังไง และแนวโน้มยังไง ถ้าวิเคระห์แล้วเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบัน ยังถือว่าราคาไม่สูงอยู่ก็ควรถือต่อ ซึ่งจากที่คุณ airmanza123 บอกว่าถ้าราคาตกลงมาผม เชื่อนะครับว่าถ้าหุ้นนั้นดีจริง แม้ราคาจะตกลงมามากก็คงจะเป็นเพียงระยะสั้น และตามสถานการเท่านั้นครับ
2.ตามคุณ thaloengsak เลยครับ เพราะถ้าบริษัทมีหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากที่มีน้อย จนมีมากกว่าสินทรัพย์ บริษัทนั้นคงมีความผิดปกติแล้วละครับ
ความเห็นส่วนตัวนะครับผมก็มือใหม่เหมือนกัน (มีความรู้แบบงูๆปลาๆครับ)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 229
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะคร
โพสต์ที่ 7
ANS: เท่าที่มีความรู้นะครับ margin of safety ไม่เกี่ยวกับหนี้ครับ แต่เป็นการซื้อหุ้นในราคาที่ถูกกว่าปกติครับสัก สิบถึงยีสิบเปอร์เซ็นต์ก็เพียงพอแล้วครับairmanza123 เขียน:ข้อแรกเป็นเรื่องของการถือหุ้นระยะยาวครับ คือผมจำไม่ได้แล้วว่าผมไปรู้มาจากใหนว่าบัฟเฟตเขาซื้อหุ้นแล้วไม่ค่อยขาย คือถือตลอดกาลอะไรประมาณนี้ครับ ผมสงสัยว่า การถือหุ้นไว้ตอลดแล้วไม่ขายนั้น ถ้าหากเป็นหุ้นที่ไม่ปันผล เราจะไม่มีความเสี่ยงสูงไปเหรอครับ ถ้าหากว่าเราถือไปนานๆ เช่น 10 ปี แล้วปีที่11มันดันราคาตก แบบนี้ที่เราถือไว้มันก็ไม่มีประโยชน์สิครับ แล้วการที่เราถือหุ้นไว้แบบไม่ขาย(ถือไว้ตลอดกาล)จะมีข้อดียังไงมั่งครับ
ANS: ถ้าคุณเลือกซื้อบริษัทที่ดีที่สุดเท่าที่คุณรู้แล้ว คุณจะขายทำไมล่ะครับ บัฟเฟตต์ซื้อแล้วเขาไม่ขายครับจนกว่าเขาจะพบบริษัทที่ดีกว่า เงินก็จะต่อเงินไปเรื่อยๆครับ
ข้อสอง คือผมสงสัยเรื่อง margin of safty อยุ่นิดนึงอ่ะครับ คือสมมุติตอนที่เราซื้อมา บริษัทยังมีหนี้ไม่มาก แต่พอเราซื้อหุ้นแล้ว บริษัทอาจจะกู้เงิน หรือทำอะไรให้เป็นหนี้เพิ่มมากขึ้นจนมากกว่าสินทรัพย์มากๆก็ได้ใช่ใหมครับ แบบนี้ margin of safty จะปลอดภัยแค่ใหนเหรอครับ
ขอคำตอบให้ผมที่นะครับ ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ช่วยตอบคำถามครับ
- airmanza123
- Verified User
- โพสต์: 29
- ผู้ติดตาม: 0
มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะครับ
โพสต์ที่ 8
อืมๆ ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยชีแนะครับ อ้อ แล้วก็ชือกระทู้ขอเขียนใหม่เป็นช่วยสอนผมหน่อยนะครับ มะกี้เขียนผิด555
- getkung
- Verified User
- โพสต์: 286
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะคร
โพสต์ที่ 9
ขออนุญาตแสดงความเห็นบ้างนะครับairmanza123 เขียน:ข้อแรกเป็นเรื่องของการถือหุ้นระยะยาวครับ คือผมจำไม่ได้แล้วว่าผมไปรู้มาจากใหนว่าบัฟเฟตเขาซื้อหุ้นแล้วไม่ค่อยขาย คือถือตลอดกาลอะไรประมาณนี้ครับ ผมสงสัยว่า การถือหุ้นไว้ตอลดแล้วไม่ขายนั้น ถ้าหากเป็นหุ้นที่ไม่ปันผล เราจะไม่มีความเสี่ยงสูงไปเหรอครับ ถ้าหากว่าเราถือไปนานๆ เช่น 10 ปี แล้วปีที่11มันดันราคาตก แบบนี้ที่เราถือไว้มันก็ไม่มีประโยชน์สิครับ แล้วการที่เราถือหุ้นไว้แบบไม่ขาย(ถือไว้ตลอดกาล)จะมีข้อดียังไงมั่งครับ
ข้อสอง คือผมสงสัยเรื่อง margin of safty อยุ่นิดนึงอ่ะครับ คือสมมุติตอนที่เราซื้อมา บริษัทยังมีหนี้ไม่มาก แต่พอเราซื้อหุ้นแล้ว บริษัทอาจจะกู้เงิน หรือทำอะไรให้เป็นหนี้เพิ่มมากขึ้นจนมากกว่าสินทรัพย์มากๆก็ได้ใช่ใหมครับ แบบนี้ margin of safty จะปลอดภัยแค่ใหนเหรอครับ
ขอคำตอบให้ผมที่นะครับ ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ช่วยตอบคำถามครับ
1. ที่วอเร็นเค้าไม่ค่อยขายเพราะเค้ามั่นใจในกิจการที่เค้าลงทุนครับว่ากิจการนั้นดีเยี่ยม สามารถทำกำไรเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคงถาวร เพราะเค้าทำความรู้จักกับกิจการของเค้าเป็นอย่างดีแล้ว ถึงแม้ราคาตกตามตลาด เค้าก็ยังมั่นใจในกิจการที่เค้าลงทุน เพราะราคาหุ้นในระยะยาวจะเป็นไปตามผลประกอบการครับ
2. MOS ผมว่ามันอธิบายยากนะครับ อย่างกว้างๆมันคือส่วนเผื่อความปลอดภัยครับ มีหลักคิดหลายอย่าง ถ้าอย่างไรลองค้นหาในเว็บนี้ดูนะครับ มีการพูดถึงกันมากอยู่ รวมถึง ผมก็เคยสงสัยเหมือนกัน แต่ว่าการที่ บ.กู้เงินมาเพิ่มก็คงต้องดูด้วยครับว่าเป็นการก่อหนี้เพื่ออะไร ไม่ได้หมายความว่าก่อหนี้เพิ่มแล้วไม่ดี แต่ส่วนใหญ่ถ้าไม่ก่อหนี้เลยจะดีกว่าครับ เช่นถ้าจะขยายงานก็สามารถทำได้ด้วยกำไรสะสม อย่างนี้ก็จะดีกว่าต้องไปกู้เพื่อมาขยายงาน
พอจะเข้าใจมั๊ยครับ เพราะผมก็มือใหม่เหมือนกัน
ซักวันหนึ่ง port จะโต๊ port จะโต
-
- Verified User
- โพสต์: 138
- ผู้ติดตาม: 0
มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะครับ
โพสต์ที่ 10
ขออนุญาติครับ สำหรับ วอร์แรน เค้ามีหลายปัจจัยที่พิจารณาครับ
แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ลงทุนในธุรกิจที่ต้องการร่วมเป็นเจ้าของครับ
แล้วค่อยพิจารณาระดับราคาที่ซื้อ(ใช่ไหมนี่ มือใหม่เหมือนกันครับ)
แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ลงทุนในธุรกิจที่ต้องการร่วมเป็นเจ้าของครับ
แล้วค่อยพิจารณาระดับราคาที่ซื้อ(ใช่ไหมนี่ มือใหม่เหมือนกันครับ)

- simpleBE
- Verified User
- โพสต์: 2333
- ผู้ติดตาม: 0
มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะครับ
โพสต์ที่ 11
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะครับ
โพสต์ที่ 12
ซื้อกิจการที่ดีมาก็ไม่ใช้ปล่อยเลยตามเลยนะครับ ต้องติดตามผลการดำเนินงานเป็นระยะด้วยๆ อย่างน้อยก็ไตรมาศละครั้ง พื้นฐานมันเปลี่ยนกันได้ครับ แต่ไม่ได้เปลี่ยนในชั่วข้ามคืนแน่นอน ถ้าบริษัททำได้ดีกว่าที่เราคาดมูลค่ากิจการก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ กรณีนี้เราไม่ีจำเป็นต้องขายหุ้น แต่ถ้าพื้นฐานเปลี่ยนแย่ลงกว่าที่เราคิด มูลค่ากิจการก็จะลดต่ำลงไปด้วย กรณีนี้ต้อง ตอนทิ้งซะครับ
VI คือการลงทุนโดยการประเมินมูลค่ากิจการ แล้วเข้าซื้อในราคาที่มี MOS ครับ
VI ไม่ใช่การถือหุ้นยาว
VI คือการลงทุนโดยการประเมินมูลค่ากิจการ แล้วเข้าซื้อในราคาที่มี MOS ครับ
VI ไม่ใช่การถือหุ้นยาว
อย่ายอมแพ้
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะครับ
โพสต์ที่ 13
+1 ครับ พี่ปตอ.โหดได้ใจAnti-Aircraft เขียน:ซื้อกิจการที่ดีมาก็ไม่ใช้ปล่อยเลยตามเลยนะครับ ต้องติดตามผลการดำเนินงานเป็นระยะด้วยๆ อย่างน้อยก็ไตรมาศละครั้ง พื้นฐานมันเปลี่ยนกันได้ครับ แต่ไม่ได้เปลี่ยนในชั่วข้ามคืนแน่นอน ถ้าบริษัททำได้ดีกว่าที่เราคาดมูลค่ากิจการก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ กรณีนี้เราไม่ีจำเป็นต้องขายหุ้น แต่ถ้าพื้นฐานเปลี่ยนแย่ลงกว่าที่เราคิด มูลค่ากิจการก็จะลดต่ำลงไปด้วย กรณีนี้ต้อง ตอนทิ้งซะครับ
VI คือการลงทุนโดยการประเมินมูลค่ากิจการ แล้วเข้าซื้อในราคาที่มี MOS ครับ
VI ไม่ใช่การถือหุ้นยาว
ลงทุนเพื่อชีวิต
- airmanza123
- Verified User
- โพสต์: 29
- ผู้ติดตาม: 0
มีเรื่องมาถามพี่ๆVIหลายๆเรื่องเลยครับ ช่วยตอนผมหน่อยนะครับ
โพสต์ที่ 14
ขอบคุณคุณ Anti-Aircraft มากครับ กระจ่างเลยครับ ผมเข้าใจผิดมาตั้งนาน ขอบคุณที่ช่วยแนะนำครับ