หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 5
พี่หมอ มามุกนี้น้องเขาก็ผวาหรอmprandy เขียน:คำว่าหุ้นพื้นฐาน มีนิยามว่าอย่างไร รบกวนช่วยอธิบายผู้รู้น้อยอย่างผมหน่อยครับ ?
แต่ผมเห็นด้วยกับพี่หมอนะที่จะถามกลับ
หลายๆคนที่ชอบพูด
"ผมเล่นแต่หุ้นพื้นฐาน หุ้นปั่นไม่เล่น"
ผมก็มีความรู้น้อยเหมือนกันครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาให้นิยาม
"หุ้นพื้นฐาน"ว่าอย่างไรกัน
ปล. พี่หมอตื่นเช้าจังครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 6
สงสัยเหมือนกันครับmprandy เขียน:คำว่าหุ้นพื้นฐาน มีนิยามว่าอย่างไร รบกวนช่วยอธิบายผู้รู้น้อยอย่างผมหน่อยครับ ?
ได้ยินบ่อย
พูดแล้วฟังดูดี
"ผมลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี"
ว่าแต่หุ้นพื้นฐานดีหน้าตาเป็นยังไง..?
ส่วนตัวเคยมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
กับนักลงทุนรุ่นใหญ่ท่านนึง
"ผมลงทุนแต่หุ้นพื้นฐานดี"
"..."
"ในพอร์ตของผมมีหุ้นอยู่ 80 ตัว"
"!?"
-
- Verified User
- โพสต์: 6427
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 7
ลอกมาจากของคุณสุมาอี้ครับ
อยากเตือนเพื่อนนักลงทุนทุกคนว่า ไม่มีหุ้นส่วนหนึ่งในตลาดหุ้นที่เรียกว่า หุ้นพื้นฐาน ซึ่งจะปลอดภัยจากภาวะฟองสบู่ หรือการสร้างราคาใดๆ หรอกครับ (จะมีก็แต่แนวการลงทุนแบบวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเท่านั้น) หุ้นทุกตัวในตลาดสามารถกลายเป็น หุ้นปั่น หรือเกิดภาวะฟองสบู่ได้ทั้งสิ้นถ้าหากมีคนสนใจหุ้นตัวนั้นมากๆ
ฉบับเต็มดูได้ที่นี่ครับ http://dekisugi.net/archives/7638
อยากเตือนเพื่อนนักลงทุนทุกคนว่า ไม่มีหุ้นส่วนหนึ่งในตลาดหุ้นที่เรียกว่า หุ้นพื้นฐาน ซึ่งจะปลอดภัยจากภาวะฟองสบู่ หรือการสร้างราคาใดๆ หรอกครับ (จะมีก็แต่แนวการลงทุนแบบวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเท่านั้น) หุ้นทุกตัวในตลาดสามารถกลายเป็น หุ้นปั่น หรือเกิดภาวะฟองสบู่ได้ทั้งสิ้นถ้าหากมีคนสนใจหุ้นตัวนั้นมากๆ
ฉบับเต็มดูได้ที่นี่ครับ http://dekisugi.net/archives/7638
คนที่รู้ว่าตัวเองยังไม่รู้ ย่อมมีโอกาสเรียนรู้
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 8
ผมว่าแก่นจริงๆของการลงทุนแนวเน้นคุณค่า คือการซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่า
หุ้นพื้นฐานดี ณ บางราคา ก็ไม่จัดเป็นการลงทุนแนวนี้
หุ้นพื้นฐานดี ณ บางราคา ก็ไม่จัดเป็นการลงทุนแนวนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 1160
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 9
พื้นฐาน สำหรับผม มีความแตกต่างจากวิมานในอากาศ คือราคามันลอย ตุ๊บป่องตุ๊บป่อง ไม่มีอะไรมารอง เวลาร่วงจะร่วงแรง
ฐาน คืออะไรที่ต้องจับได้ คลำได้
นั่นคือ Book Value นั่นเอง โดยส่วนตัว หากซื้อหุ้นของบริษัทที่มีหนี้น้อยหรือไม่มีหนี้ได้ ในราคาต่ำกว่า book value ผมจะถือว่า มีฐานมารองรับ 1 ชั้น
ยิ่งถ้าซื้อได้ต่ำกว่า 2/3 ของ Net current asset - total debt หรือหุ้น netnet ผมจะถือว่า ราคาขาย ตั้งอยู่บนฐานขนาดมหึมา
หากมองแบบนี้ จะไม่มีหุ้นดีหรือหุ้นแย่ มีแต่หุ้นถูกกับหุ้นแพง อย่างเช่น cpall ที่ราคาพุ่งไป จน p/bv เกิน 9 ระยะยาวจะกำไรไม่กำไรผมไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ มันลอยขึ้นไปเหนือฐานมากแล้ว (ถ้ามองแต่ bookนะ)
ฐาน คืออะไรที่ต้องจับได้ คลำได้
นั่นคือ Book Value นั่นเอง โดยส่วนตัว หากซื้อหุ้นของบริษัทที่มีหนี้น้อยหรือไม่มีหนี้ได้ ในราคาต่ำกว่า book value ผมจะถือว่า มีฐานมารองรับ 1 ชั้น
ยิ่งถ้าซื้อได้ต่ำกว่า 2/3 ของ Net current asset - total debt หรือหุ้น netnet ผมจะถือว่า ราคาขาย ตั้งอยู่บนฐานขนาดมหึมา
หากมองแบบนี้ จะไม่มีหุ้นดีหรือหุ้นแย่ มีแต่หุ้นถูกกับหุ้นแพง อย่างเช่น cpall ที่ราคาพุ่งไป จน p/bv เกิน 9 ระยะยาวจะกำไรไม่กำไรผมไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ มันลอยขึ้นไปเหนือฐานมากแล้ว (ถ้ามองแต่ bookนะ)
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 10
การกำหนดฐานนั้นต้องระวังให้ดี เพราะถ้าจับเอาอะไรเปนสิ่งยึดเหนี่ยวที่ผิดแล้ว ใช่ว่ามีฐานแล้วจะปลอดภัย
BV ดูดี เข้าใจง่าย จับต้องง่าย แต่มีที่ใช้น้อยมาก เพราะการคำนวณมูลค่าอาจประเมินได้ต่างกัน มูลค่าแท้จริงอาจสูงหรือต่ำกว่าที่ปรากฎจนน่าตกใจได้เหมือนกัน นอกจากนั้นการบอกว่ากิจการใดมีทรัพย์มาก หนี้น้อย ไม่ได้บอกว่ามันจะทำรายได้และกำไรได้ดีเลย ยิ่งถ้ากิจการขาดทุนสุดท้ายตัว BV นี่แหละที่จะลดลงเรื่อย ๆ
ความเห็นของผม ผมมองว่า BV จับต้องได้น้อยกว่า E อีกนะครับ
ปล อย่าถือเปนการแย้งนะครับ เห็นต่างกันยังไงช่วยสอนผมด้วยก็จะเปนพระคุณอย่างสูง เพราะผมมีความรู้ไม่มากนัก
BV ดูดี เข้าใจง่าย จับต้องง่าย แต่มีที่ใช้น้อยมาก เพราะการคำนวณมูลค่าอาจประเมินได้ต่างกัน มูลค่าแท้จริงอาจสูงหรือต่ำกว่าที่ปรากฎจนน่าตกใจได้เหมือนกัน นอกจากนั้นการบอกว่ากิจการใดมีทรัพย์มาก หนี้น้อย ไม่ได้บอกว่ามันจะทำรายได้และกำไรได้ดีเลย ยิ่งถ้ากิจการขาดทุนสุดท้ายตัว BV นี่แหละที่จะลดลงเรื่อย ๆ
ความเห็นของผม ผมมองว่า BV จับต้องได้น้อยกว่า E อีกนะครับ
ปล อย่าถือเปนการแย้งนะครับ เห็นต่างกันยังไงช่วยสอนผมด้วยก็จะเปนพระคุณอย่างสูง เพราะผมมีความรู้ไม่มากนัก
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 237
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 12
หาหนังสือ one up on the wall street ของ Peter Lynch มาอ่าน
แล้วแยกแยะหุ้นในรูปแบบ โตเร็ว โตช้า วัฎจักร ฯลฯ
มันสื่อความหมายให้วีไอ และ มีความหลากหลาย ตามแต่สไตล์ความชอบของแต่ละคนได้ดีกว่า "หุ้นพื้นฐาน"เยอะเลยครับ
แล้วแยกแยะหุ้นในรูปแบบ โตเร็ว โตช้า วัฎจักร ฯลฯ
มันสื่อความหมายให้วีไอ และ มีความหลากหลาย ตามแต่สไตล์ความชอบของแต่ละคนได้ดีกว่า "หุ้นพื้นฐาน"เยอะเลยครับ
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 13
หุ้นทุกตัวมีพื้นฐานหมด พื้นใคร พื้นมัน :D
แต่หุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี มีแน่นอน แล้วแต่นิยาม และมุมมองของแต่ละคน มันมีความเป็น subjective พอสมควร
Graham อาจมองว่าหุ้น net-net คือหุ้นพื้นฐานดี
Lynch อาจจะบอกว่า หุ้นพื้นฐานดี คือหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเติบโต
ฺีBuffett อาจจะบอกว่า หุ้นพื้นฐานดี คือหุ้นที่เขาเข้าใจได้ง่าย ผู้บริหารมีธรรมาภิบาล
บางคนอาจบอกว่า หุ้นที่พื้นฐานดี คือหุ้นที่ให้ปันผลได้สูงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผม หุ้นพื้นฐานดี อาจหมายถึง บริษัทที่ผมสามารถเข้าใจได้ มี growth story ในอนาคต ผู้บริหารไม่เอาเปรียบและใ่ส่ใจผลประโยชน์นักลงทุนรายย่อย
แต่ผมชอบได้ยินคนบ่นในเวปบ่อยว่า "หุ้น VI ปั่นได้ด้วยเหรอ" ก็เลยสงสัยอยู่ว่า หุ้น VI มัีนเป็นยังงัย ??
หุ้นสมัยนี้ยิ่งเป็นหุ้นที่ว่า "พื้นฐานดี" เจ้าชอบกันนักแล :lol:
แต่หุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี มีแน่นอน แล้วแต่นิยาม และมุมมองของแต่ละคน มันมีความเป็น subjective พอสมควร
Graham อาจมองว่าหุ้น net-net คือหุ้นพื้นฐานดี
Lynch อาจจะบอกว่า หุ้นพื้นฐานดี คือหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเติบโต
ฺีBuffett อาจจะบอกว่า หุ้นพื้นฐานดี คือหุ้นที่เขาเข้าใจได้ง่าย ผู้บริหารมีธรรมาภิบาล
บางคนอาจบอกว่า หุ้นที่พื้นฐานดี คือหุ้นที่ให้ปันผลได้สูงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผม หุ้นพื้นฐานดี อาจหมายถึง บริษัทที่ผมสามารถเข้าใจได้ มี growth story ในอนาคต ผู้บริหารไม่เอาเปรียบและใ่ส่ใจผลประโยชน์นักลงทุนรายย่อย
แต่ผมชอบได้ยินคนบ่นในเวปบ่อยว่า "หุ้น VI ปั่นได้ด้วยเหรอ" ก็เลยสงสัยอยู่ว่า หุ้น VI มัีนเป็นยังงัย ??
หุ้นสมัยนี้ยิ่งเป็นหุ้นที่ว่า "พื้นฐานดี" เจ้าชอบกันนักแล :lol:
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 14
หุ้นเสาเข็มเป็นไงครับ :B
อย่ายอมแพ้
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 15
ผมว่านั่นคือ หุ้นราคาถูกนะ ไม่เกี่ยวกับพื้นฐานดีหรือไม่ดีWarantact เขียน:พื้นฐาน สำหรับผม มีความแตกต่างจากวิมานในอากาศ คือราคามันลอย ตุ๊บป่องตุ๊บป่อง ไม่มีอะไรมารอง เวลาร่วงจะร่วงแรง
ฐาน คืออะไรที่ต้องจับได้ คลำได้
นั่นคือ Book Value นั่นเอง โดยส่วนตัว หากซื้อหุ้นของบริษัทที่มีหนี้น้อยหรือไม่มีหนี้ได้ ในราคาต่ำกว่า book value ผมจะถือว่า มีฐานมารองรับ 1 ชั้น
ยิ่งถ้าซื้อได้ต่ำกว่า 2/3 ของ Net current asset - total debt หรือหุ้น netnet ผมจะถือว่า ราคาขาย ตั้งอยู่บนฐานขนาดมหึมา
หากมองแบบนี้ จะไม่มีหุ้นดีหรือหุ้นแย่ มีแต่หุ้นถูกกับหุ้นแพง อย่างเช่น cpall ที่ราคาพุ่งไป จน p/bv เกิน 9 ระยะยาวจะกำไรไม่กำไรผมไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ มันลอยขึ้นไปเหนือฐานมากแล้ว (ถ้ามองแต่ bookนะ)
ถ้าหากเอาราคามากำหนดความเป็นหุ้นพื้นฐาน ก็แทบจะว่าได้ว่า หุ้นทุกตัวไม่ใช่หุ้นพื้นฐาน เพราะทุกครั้งที่มีเหตุร้ายพานิค ราคาหุ้นทุกตัวก็ลงไปกองอยู่ข้างล่าง scc 9x, hmpro 1.50, cpf 3, bbl 7x, ราคาพวกนี้เพิ่งเกิดในช่วงน้อยกว่าสองปีที่ผ่านมานี้เอง
หุ้นพื้นฐานกับราคาไม่ควรจะเกี่ยวกัน หุ้นที่พื้นฐานดี ก็คงเหมือนหลายคนว่าไว้ ดำเนินธุรกิจจริง ขายของจริง หรือบริการจริง มีกำไร ไม่มีชื่อเสียงทางร้ายมากนัก มีกำไรก็ปันผล ในแต่ละช่วงเวลาที่แย่ๆก็อาจจะขาดทุนได้ แต่ก็รู้จักปรับตัวปรับสภาพ และในช่วงเวลาดีๆ ก็กลับมาแข็งแรงกว่าเดิม ซึ่งแต่ละอย่างก็ทำให้ดีกรีความเป็นหุ้นพื้นฐานที่ดี ดีมากว่า หรือ ดีที่สุด เมื่อเทียบๆกัน
ขณะที่หุ้นพื้นฐานไม่ดี ก็อาจจะเป็นพวก ทำธุรกิจยังไงก็ขาดทุน หรือธุรกิจที่ลุ่มๆดอนๆมากชนิดกำไรปีเดียวขาดทุนอีกสามปี
เหมือนพวกขายตรง ที่ขายของเป็นหลัก ขายสมาชิกเป็นรอง พวกหุ้นพื้นฐานไม่ดี มักจะทำธุรกิจเป็นรอง ขายหุ้นโปรโมตหุ้นเป็นหลัก
แต่ราคาที่เราจะเข้าซื้อหรือไม่ ก็คงเป็นอีกเรื่องนึง ในตลาดในหลายๆช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็มีหุ้นบ้าๆบอๆที่ราคาต่ำกว่าบุ๊คตั้งเยอะแยะ หลายครั้งหลายคราว แต่พื้นฐานในการดำเนินธุรกิจนั้นๆมันดูไม่ดีซะเลย
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 16
[quote="Anti-Aircraft"]หุ้นเสาเข็มเป็นไงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1160
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 17
ผมมองว่าพื้นฐานกับราคามันเกี่ยวกัน ถ้าราคาแพงไปก็ไม่ใช่หุ้นพื้นฐาน ผมอาจเข้าใจคำถามผิด
ประเด็นคือ เขาถามว่าหุ้นพื้นฐานดี ไม่ใช่ธุรกิจพื้นฐานดี หุ้นพื้นฐานดีมันต้องถูกกกกกก 55555
ส่วนตัว E นั่นผมเห็นด้วย เรื่องการทำกำไร ไม่ควรดู BV ตัวเดียว
แต่การจับต้องได้นี่ต้องขอออกความเห็นตรงข้ามว่า BV จับได้มากกว่า E แน่นอน เพราะ BV มาจากของจริง ไปลูบๆคลำๆได้
ธุรกิจที่กำลังจะแย่ลง ถามว่า อะไรลดก่อน E? หรือ BV? แน่นอนว่า E นั้นย่อมลดก่อน
BV ถึงลดตาม สุดท้าย ถ้าธุรกิจไปไม่รอดจริงๆ ต้องประกาศปิดกิจการ สิ่งที่เหลือถึงผู้ถือหุ้นก็คือ BV แบบราคาขายเลหลัง เพราะ E มันหายไปก่อนแล้ว
ประเด็นคือ เขาถามว่าหุ้นพื้นฐานดี ไม่ใช่ธุรกิจพื้นฐานดี หุ้นพื้นฐานดีมันต้องถูกกกกกก 55555
ส่วนตัว E นั่นผมเห็นด้วย เรื่องการทำกำไร ไม่ควรดู BV ตัวเดียว
แต่การจับต้องได้นี่ต้องขอออกความเห็นตรงข้ามว่า BV จับได้มากกว่า E แน่นอน เพราะ BV มาจากของจริง ไปลูบๆคลำๆได้
ธุรกิจที่กำลังจะแย่ลง ถามว่า อะไรลดก่อน E? หรือ BV? แน่นอนว่า E นั้นย่อมลดก่อน
BV ถึงลดตาม สุดท้าย ถ้าธุรกิจไปไม่รอดจริงๆ ต้องประกาศปิดกิจการ สิ่งที่เหลือถึงผู้ถือหุ้นก็คือ BV แบบราคาขายเลหลัง เพราะ E มันหายไปก่อนแล้ว
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 18
มานั่งอภิปรายกันยืดยาว ผมว่า จขกท ก็ยังไม่รู้ตัวเองหรอกครับว่าคำจำกัดความของคำว่า "หุ้นพื้นฐาน" คืออะไร (แต่คงรู้ชื่อหุ้นในใจ ไหนลองเฉลยมาซิ) heck... ผมว่าแม้แต่คนที่เริ่มใช้คำนี้ครั้งแรกในทีวีหรือหนังสือพิมพ์ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แบบว่าไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าอะไรที่ตรงกันข้ามกับคำว่า"หุ้นปั่น"ดี คือจะพูดว่า "หุ้นไม่ปั่น" ออกทีวีก็คงไม่ได้
อย่างนี้ SABINA ก็เป็นหุ้นพื้นฐานได้ ?หุ้นพื้นฐานกับราคาไม่ควรจะเกี่ยวกัน หุ้นที่พื้นฐานดี ก็คงเหมือนหลายคนว่าไว้ ดำเนินธุรกิจจริง ขายของจริง หรือบริการจริง มีกำไร ไม่มีชื่อเสียงทางร้ายมากนัก มีกำไรก็ปันผล
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 19
ดีครับ ถกกัน มันส์ดีsimplelife เขียน:มานั่งอภิปรายกันยืดยาว ผมว่า จขกท ก็ยังไม่รู้ตัวเองหรอกครับว่าคำจำกัดความของคำว่า "หุ้นพื้นฐาน" คืออะไร (แต่คงรู้ชื่อหุ้นในใจ ไหนลองเฉลยมาซิ) ?
ผมว่า คุณ BOOM เจ้าของกระทู้ ลองมาให้ความเห็น หน่อยสิครับ ว่า คำว่า พื้นฐาน ของคุณ บูม เป็นยังไง
ผิดถูกไม่เป็นไรครับ แลกเปลี่ยนความรู้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 400
- ผู้ติดตาม: 0
ดีใจจัง
โพสต์ที่ 20
เพิงได้มาเปิดกระทู้ที่ตัวเองตั้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน มีเพื่อนๆ พี่ๆ มาร่วม jam idea มากเลย ตัวเองได้ความรู้และมุมมองกว้างขึ้น ในสวนตัวแล้ว ผมก็ยังไม่แน่ใจ ระหว่าง หุ้นพื้นฐาน กับ หุ้นคุณค่า มันต่างกันไหม หรือมันเหมือนกันอย่างไร สำหรับความเข้าใจของผม หุ้นพื้นฐาน คือ หุ้นที่ถือแล้วสบายใจ ไม่มีเจ้ามือ แต่ จะต้องซื้อในราคาที่อยู่ในพื้นฐาน หมายความว่า สมเหตุผลในขณะนั้น แตเมื่อพื้นฐานเปลี่ยนไป หุ้นก็จะปรับตัวไปตามพื้นฐาน
ไปๆมาๆ ก็งง เอง ที่ตั้งกระทู้ ก็ เพื่ออยากฟังความคิดของทุทกท่าน ครับ ไม่ได้ เข้ามาหาหุ้น
ไปๆมาๆ ก็งง เอง ที่ตั้งกระทู้ ก็ เพื่ออยากฟังความคิดของทุทกท่าน ครับ ไม่ได้ เข้ามาหาหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 21
ขอบคุณ คุณพี่ Warantact สำหรับคำชี้แนะครับWarantact เขียน:ผมมองว่าพื้นฐานกับราคามันเกี่ยวกัน ถ้าราคาแพงไปก็ไม่ใช่หุ้นพื้นฐาน ผมอาจเข้าใจคำถามผิด
ประเด็นคือ เขาถามว่าหุ้นพื้นฐานดี ไม่ใช่ธุรกิจพื้นฐานดี หุ้นพื้นฐานดีมันต้องถูกกกกกก 55555
ส่วนตัว E นั่นผมเห็นด้วย เรื่องการทำกำไร ไม่ควรดู BV ตัวเดียว
แต่การจับต้องได้นี่ต้องขอออกความเห็นตรงข้ามว่า BV จับได้มากกว่า E แน่นอน เพราะ BV มาจากของจริง ไปลูบๆคลำๆได้
ธุรกิจที่กำลังจะแย่ลง ถามว่า อะไรลดก่อน E? หรือ BV? แน่นอนว่า E นั้นย่อมลดก่อน
BV ถึงลดตาม สุดท้าย ถ้าธุรกิจไปไม่รอดจริงๆ ต้องประกาศปิดกิจการ สิ่งที่เหลือถึงผู้ถือหุ้นก็คือ BV แบบราคาขายเลหลัง เพราะ E มันหายไปก่อนแล้ว
เปนมุมมองที่น่าสนใจมาก ... ผมไม่ขอ comment ต่อแล้วครับ
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 1922
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 22
ถ้าหุ้นมันจะลง มันไม่คำนึงหรอกว่าพื้นฐานกิจการเป็นอย่างไร :8)
-
- Verified User
- โพสต์: 1311
- ผู้ติดตาม: 0
My House
โพสต์ที่ 23
หุ้นพื้นฐานดีคือหุ้นที่ตัวเราเองถืออยู่(ผมถือผมว่าของผมพื้นฐานดี, คุณถือคุณก็ว่าดี) อิอิ ล้อล่นเดี๋ยวบรรยากาศจะเครียดไป (เอ...หรือผมทำให้เครียด)
ส่วนตัวผมหุ้นพื้นฐานดีคือหุ้นของบริษัทที่มีกำไรเติบโตต่อเนื่องทุกปีและมีแนวโน้มกำไรเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ(หรือมี growth storyที่ดี) มียอดขายที่เพิ่มขึ้นทุกปี มีค่าROEสูงๆๆๆๆ(เพราะเป็นตัวบอกอัตรากำไรเติบโตได้) มีแบรนด์(ซุปไก่)แจ่มๆและเป็นธุรกิจที่มี demand trend มาแรงๆ ส่วนจะถือสั้นหรือยาวๆๆๆๆๆไป ก็ขึ้นกับว่าธุรกิจของบริษัทนั้นเป็นดังที่กล่าวหรือไม่ หากธุรกิจเริ่มตะวันตกดินแล้วคงต้องโบกมือลาจาก แค่นั้นล่ะครับ
ส่วนตัวผมหุ้นพื้นฐานดีคือหุ้นของบริษัทที่มีกำไรเติบโตต่อเนื่องทุกปีและมีแนวโน้มกำไรเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ(หรือมี growth storyที่ดี) มียอดขายที่เพิ่มขึ้นทุกปี มีค่าROEสูงๆๆๆๆ(เพราะเป็นตัวบอกอัตรากำไรเติบโตได้) มีแบรนด์(ซุปไก่)แจ่มๆและเป็นธุรกิจที่มี demand trend มาแรงๆ ส่วนจะถือสั้นหรือยาวๆๆๆๆๆไป ก็ขึ้นกับว่าธุรกิจของบริษัทนั้นเป็นดังที่กล่าวหรือไม่ หากธุรกิจเริ่มตะวันตกดินแล้วคงต้องโบกมือลาจาก แค่นั้นล่ะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1160
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 24
-__-a ผมไม่ใช่พี่ครับ ผมอายุน้อยกว่าชัวร์
แต่น่าสนนะคนที่บอกว่าซาบิน่าเป็นหุ้นพื้นฐานดี เป็นเคสที่น่าสนมาก
กำไรมี หนี้น้อย ไม่หวือหวา มีเจ้ามาเลี้ยงราคาให้(5555)
แต่พอมาดูราคา.......
55555 ไม่อยู่บนฐานแล้ว
แต่น่าสนนะคนที่บอกว่าซาบิน่าเป็นหุ้นพื้นฐานดี เป็นเคสที่น่าสนมาก
กำไรมี หนี้น้อย ไม่หวือหวา มีเจ้ามาเลี้ยงราคาให้(5555)
แต่พอมาดูราคา.......
55555 ไม่อยู่บนฐานแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 26
ราคากับพื้นฐานมันคนละส่วนกันนะไหมครับ
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 27
My House เขียน:หุ้นพื้นฐานดีคือหุ้นที่ตัวเราเองถืออยู่(ผมถือผมว่าของผมพื้นฐานดี, คุณถือคุณก็ว่าดี) อิอิ ล้อล่นเดี๋ยวบรรยากาศจะเครียดไป (เอ...หรือผมทำให้เครียด)
พี่ My House คิดเฉียบคมมาก
แต่ก่อนฝนเป็นนะ ตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
หุ้นฝนถือพื้นฐานดีทั้งนั้น เพราะฝนถืออยู่ไง เหมือนพี่ My House บอกเลยค่ะ :lovl:
พอลงทุนนานๆ เริ่มรู้ว่าตัวเองว่าไม่รู้อีกเยอะ
ขอโทษทีนะคะ ทำกระทู้เลอะ ^^"
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 2
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 28
หุ้นพื้นฐาน ผมเข้าใจว่าหมายถึง หุ้นพื้นฐานดี หุ้นพื้นฐานดีในความคิดเห็นของผมคือ
1.หุ้นที่ มี รายได้ - ค่าใช้จ่าย = กำไร
โดยมีแนวโน้มว่ารายได้นั้นนั้นเป็นรายได้ที่มั่นคงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอ(อันนี้ก็ต้องมองเทรนด์อนาคตของธรุกิจนั้นนั้นได้ชัดเจนประมาณหนึ่งนะครับ ไม่ใช่คิดเอาเอง ) และ สามารถควบคุมรายจ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม(ถ้าสามารถลดลงได้เรื่อยเรื่อยเมื่อเทียบกับการเติบโตของยอดขายยิ่งดีครับ ) เพราะสองอย่างข้างต้น จะทำให้หุ้นตัวนี้ มีกำไรเพิ่มขึ้นเรื่อยเรื่อย
2.มีผู้บริหารที่เชื่อถือได้ จะรู้ได้ไงว่าเชื่อถือได้ ก็ต้องลองเช็คประวัติย้อนหลังว่าเคยพูด เคยทำอะไรไว้บ้าง และ เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ผลลัพท์เป็นอย่างไร (หลายคนอาจใช้หลักไสยศาสตร์ ฮวงจุ้ย หรือ เวลาตกฟากก็แล้วแต่ถนัดครับ ผมล้อเล่นนะครับ )
3.สามารถเพิ่มรายได้ได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่ม หรือหากต้องลงทุนเพิ่มก็ควรลงทุนเพิ่มน้อยเมื่อเป็นสัดส่วนเทียบกับรายได้
4.เงินทุนหมุนเวียนเป็นบวก
5.มีหนี้ระยะยาวน้อย หรือ ไม่มากจนเกินไป
6.กำไรต่อยอดขาย (net profit margin ) สูงพอสมควร
7.ROE สูง (อันนี้ควรดูหนี้ประกอบด้วยนะครับ เพราะถ้ามีการกู้หนี้สูง อาจทำให้ roe สูงด้วย )
8.มีปันผลสม่ำเสมอ
9.เมียกับลูกผมชอบ
แต่หุ้นพื้นฐานดีอย่างเดียวอาจยังไม่พอนะครับ ต้องซื้อตอนราคาเหมาะสมด้วยครับ เพราะหากเราซื้อหุ้นพื้นฐานดีแต่ราคาแพง อาจได้ผลตอบแทนน้อย หรือ ขาดทุนได้ครับ :lol:
1.หุ้นที่ มี รายได้ - ค่าใช้จ่าย = กำไร
โดยมีแนวโน้มว่ารายได้นั้นนั้นเป็นรายได้ที่มั่นคงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอ(อันนี้ก็ต้องมองเทรนด์อนาคตของธรุกิจนั้นนั้นได้ชัดเจนประมาณหนึ่งนะครับ ไม่ใช่คิดเอาเอง ) และ สามารถควบคุมรายจ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม(ถ้าสามารถลดลงได้เรื่อยเรื่อยเมื่อเทียบกับการเติบโตของยอดขายยิ่งดีครับ ) เพราะสองอย่างข้างต้น จะทำให้หุ้นตัวนี้ มีกำไรเพิ่มขึ้นเรื่อยเรื่อย
2.มีผู้บริหารที่เชื่อถือได้ จะรู้ได้ไงว่าเชื่อถือได้ ก็ต้องลองเช็คประวัติย้อนหลังว่าเคยพูด เคยทำอะไรไว้บ้าง และ เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ผลลัพท์เป็นอย่างไร (หลายคนอาจใช้หลักไสยศาสตร์ ฮวงจุ้ย หรือ เวลาตกฟากก็แล้วแต่ถนัดครับ ผมล้อเล่นนะครับ )
3.สามารถเพิ่มรายได้ได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่ม หรือหากต้องลงทุนเพิ่มก็ควรลงทุนเพิ่มน้อยเมื่อเป็นสัดส่วนเทียบกับรายได้
4.เงินทุนหมุนเวียนเป็นบวก
5.มีหนี้ระยะยาวน้อย หรือ ไม่มากจนเกินไป
6.กำไรต่อยอดขาย (net profit margin ) สูงพอสมควร
7.ROE สูง (อันนี้ควรดูหนี้ประกอบด้วยนะครับ เพราะถ้ามีการกู้หนี้สูง อาจทำให้ roe สูงด้วย )
8.มีปันผลสม่ำเสมอ
9.เมียกับลูกผมชอบ
แต่หุ้นพื้นฐานดีอย่างเดียวอาจยังไม่พอนะครับ ต้องซื้อตอนราคาเหมาะสมด้วยครับ เพราะหากเราซื้อหุ้นพื้นฐานดีแต่ราคาแพง อาจได้ผลตอบแทนน้อย หรือ ขาดทุนได้ครับ :lol:
Small Details Make a Big Difference
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 29
ในความเห็นของผม เงินสด เท่านั้นที่จับต้องได้จริง สัมผัสได้จริง มากกว่าทั้ง กำไร และ ส่วนของผู้ถือหุ้น
แต่มูลค่าของสินทรัพย์ในงบดุลนั้นไม่ใช่ อาจจะสูงกว่า หรือ ต่ำกว่า ได้อย่างมากมาย
ในขณะที่ กำไรสุทธิก็เช่นกัน มาตรฐานบัญชีมีส่วนอย่างมากมายในบางครั้ง ทั้งๆที่บริษัทก็ยังค้าขายได้เหมือนเดิม แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ทางบัญชี ตัวเลขกำไรสุทธิในงบกำไรขาดทุนก็เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมากมาย รวมทั้งยังสามารถที่จะตกแต่งตัวเลขกำไรสุทธิได้อย่างง่ายดาย
เงินสด 500 ล้านบาท ในงบดุล ยังไงก็มีมูลค่า 500 ล้านบาท ไม่ว่าจะมีหลักเกณฑ์ทางบัญชีอย่างไร
แต่มูลค่าของสินทรัพย์ในงบดุลนั้นไม่ใช่ อาจจะสูงกว่า หรือ ต่ำกว่า ได้อย่างมากมาย
ในขณะที่ กำไรสุทธิก็เช่นกัน มาตรฐานบัญชีมีส่วนอย่างมากมายในบางครั้ง ทั้งๆที่บริษัทก็ยังค้าขายได้เหมือนเดิม แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ทางบัญชี ตัวเลขกำไรสุทธิในงบกำไรขาดทุนก็เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมากมาย รวมทั้งยังสามารถที่จะตกแต่งตัวเลขกำไรสุทธิได้อย่างง่ายดาย
เงินสด 500 ล้านบาท ในงบดุล ยังไงก็มีมูลค่า 500 ล้านบาท ไม่ว่าจะมีหลักเกณฑ์ทางบัญชีอย่างไร
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI
โพสต์ที่ 30
ลักษณะของบริษัทที่ผมชอบลงทุน
1. มีคูเมืองที่แข็งแกร่ง หรือเรียกว่ามี Compatitive Advantage
2. เป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนค่อนข้างน้อย
3. มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
4. มีความผันผวนของยอดขาย และ กำไรน้อย
5. ผู้บริหาร และ ผู้ถือหุ้นใหญ่ มีธรรมาภิบาล
6. มีการบริหารทางการเงินอย่างรอบคอบ และ เหมาะสม
1. มีคูเมืองที่แข็งแกร่ง หรือเรียกว่ามี Compatitive Advantage
2. เป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนค่อนข้างน้อย
3. มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
4. มีความผันผวนของยอดขาย และ กำไรน้อย
5. ผู้บริหาร และ ผู้ถือหุ้นใหญ่ มีธรรมาภิบาล
6. มีการบริหารทางการเงินอย่างรอบคอบ และ เหมาะสม
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี