อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับ PL

[สามัญชน]

พอดีได้ยินข่าวมาเลยเอามาเล่าสู่กันฟัง
เป็นข่าวเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ประจำตำแหน่งของข้าราชการซี 9 - 11 ของทุกระทรวง
โดยนับจาก 1 ตค.47นี้เป็นต้นไป รัฐบาลจะหันมาใช้วิธีเหมาจ่ายค่ารถยนต์ประจำตำแหน่งให้คนละสามหมื่นบาทต่อเดือน

จากเดิมซึ่งรัฐบาล ( หน่วยงานราชการ ) จะจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์ประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการซี 9 - 11 ซึ่งพบว่า มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นไปทุกปีเนื่องจากเกิดความสิ้นเปลืองจากกรณีต่อไปนี้
1. ต้องมีพนักงานขับรถ ซึ่งมักจะเป็นตำแหน่งลูกจ้างประจำ โดยเงินเดือนเมื่อเริ่มทำงานใหม่ ๆอาจจะอยู่ที่ 4,100 บาท แต่เมื่อทำงานไปนานๆเป็นสิบๆปีและได้เลื่อนขั้นเงินเดือนทุกปี พบว่าคนขับรถจำนวนมากมีเงินเดือนเพิ่มขึ้นเป็นหมื่นกว่าบาทต่อเดือน ซึ่งจำนวนเงินหมื่นกว่าบาทหากให้คนขับรถเดิมออกจากราชการจะสามารถนำมาจ้างคนขับรถคนใหม่ได้ถึง 2 3 คน แต่ในทางปฏิบัติในระบบราชการนั้น ไม่สามารถที่จะทำอย่างนี้ได้ ถ้าบุคคลนั้นไม่มีความผิด ทำให้ค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้สูงขึ้นทุกปี

[สามัญชน]

2. ค่าซ่อมบำรุงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากทุกคนมีความรู้สึกว่ารถเป็นของหลวงไม่ใช่ของตนเองทำให้การดูแลบำรุงรักษาขาดการเอาใจใส่ ประสบปัญหาค่าซ่อมบำรุงสูงขึ้นเรื่อยๆ

3. สิ้นเปลืองในเรื่องค่าน้ำมัน เนื่องจากหน่วยราชการเป็นผู้จ่าย จึงไม่ก่อให้เกิดการประหยัดเท่าที่ควร

4. ราชการต้องเสียเงินจำนวนมากในการจัดซื้อรถยนต์ในแต่ละปีถ้าสามารถลดเงินในส่วนนี้ได้ ก็จะมีเงินงบประมาณสำหรับการลงทุนหรือการพัฒนามากขึ้น

5. กรณีประสบอุบัติเหตุ หรือรถเสีย มักจะไม่สามารถหารถมาใช้ทดแทนได้

[สามัญชน]

รัฐบาลจึงต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพโดยใช้วิธีเหมาจ่ายให้เดือนละสามหมื่นบาทต่อเดือนแล้วให้ไปหาซื้อรถเอง หาคนขับรถเอง ซ่อมบำรุงเอง เติมน้ำมันเอง ตั้งแต่ ตค. 47 เป็นต้นไป

ซึ่ง ณ จุดนี้ข้าราชการก็จะมีทางเลือกหลายทางเช่น
1. ใช้วิธีเช่ารถจากบริษัทที่ให้เช่าดำเนินงาน
2. ใช้วิธีเช่าซื้อ
3. หาเงินมาดาวน์รถเองแล้วใช้เงินสามหมื่นเป็นค่าผ่อนรถ+ค่าน้ำมัน+ค่าซ่อมบำรุง+ค่าคนขับรถ ( หรืออาจจะประหยัดโดยการขับรถเอง ) เมื่อผ่อนครบแล้วก็จะได้รถมาเป็นกรรมสิทธ์ ดังนั้นการดูแลรถน่าจะดีขึ้น
4. ใช้รถส่วนตัวซึ่งมีอยู่แล้ว เก็บเงินสามหมื่นไว้เป็นค่าน้ำมัน ที่เหลือจะเป็นค่าอะไรก็ตามใจ

วิธีใหม่นี้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ข้าราชการ Happy หน่วยราชการเองก็ประหยัดเงินได้จำนวนมาก

ซึ่งถ้าเป็นวิธีที่ 1.ก็น่าจะเกี่ยวกับ PL ถ้าใช้วิธีอื่นก็ไม่เกี่ยวกับ PL ครับ

[นักดูดาว]

ผมไม่ค่อยห่วงว่า PL จะไม่มีลูกค้าอะ ถ้าปูนใหญ่เจ้าเดียวเกิดติดใจ ผมว่ารับเละอยู่แล้ว... ห่วงว่าจะหาเงินต้นทุนถูกๆ จากไหนมาซื้อรถมาให้เช่ามากกว่า จะออกหุ้นกู้ B/E หรือ P/N ได้หรือเปล่านะ

ถ้าคุณลูกหมอตำแยโทรไปคุยเรื่องรถราชการ ผมฝากถามเรื่องเงินด้วยนะครับ นึกว่าจะไม่มาตอบกันแล้ว หุๆๆๆ

[สามัญชน]

เรื่องเงินต้นถูกๆ ผมคิดว่าเขาใช้วิธีออกหุ้นกู้ตามที่ขอมติจากที่ประชุมใหญ่ไปแล้วนะครับ ไม่น่าจะใช้วิธีอื่นที่นอกเหนือจากนี้เพราะว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก การทำอะไรที่ผิดเพี้ยนไปจากมติเดิมมากๆ เขาไม่น่าจะทำนะครับ ( หวังว่า )

ส่วนปัญหาที่ว่าจะขายหุ้นกู้ให้ใครและดอกเบี้ยเป็นเท่าไหร่ ในสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเริ่มขยับขึ้นนั้น ผมคิดว่าดอกเบี้ยคงยังไม่ขยับขึ้นมากนัก เนื่องจากเงินฝากยังล้นระบบอยู่มาก ( ดอกเบี้ยไม่น่าจะเพิ่มขึ้นเกิน 0.5 บาท )

ส่วนที่ว่าจะขายให้ใครได้ ก็คงจะต้องรอลุ้นนะครับ แต่ดูจากหุ้นกู้ที่ออกขายเมื่องวดที่แล้ว ซึ่งมีคนจองมากกว่าที่หุ้นที่ออกขายถึง 15 เท่า งวดนี้ก็น่าจะพอมีหวังอยู่บ้างนะครับ

[นักดูดาว]

ผมเห็นรายการหนี้สินมีตั๋วแลกเงิน (B/E : Bill of Exchange) ด้วยอะครับเลยสงสัย เข้าใจว่าตั๋ว B/E ออกได้โดยไม่ต้องผ่าน กลต. ตอนที่ กลต.จะเข้ามาดูแล B/E ก็มีเสียงโวยกันใหญ่ ไม่ทราบเรื่องไปถึงไหนแล้ว

กลับมาเรื่องรถราชการ ดูข้อดีข้อเสียนะ ถ้าเปิดตลาดการเช่าดำเนินการในข้อ 1. ตลาดนี้น่าจะโตขึ้นมาก... บริษัทที่ทำเช่าซื้อต้องกระโดดมาลุยกับงานเช่าดำเนินการกันจนฝุ่นตลบเป็นแน่ PL คงต้องมีป้อมค่ายคูเมืองที่จะป้องกันไหน้ำผึ้งจากศัตรูล่ะครับ ตอนนี้รอดูไปก่อน