ตัวอย่างการทำอาบิทราจ LST VS UFC

[Amorna]

TiTle Of News: กำหนดระยะเวลาการเสนอซื้อหลักทรัพย์ (UFC)
Date: 26/04/2004 08:14
Description:

เรียน ผู้ถือหลักทรัพย์



ข้าพเจ้าขอเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท อาหารสากล จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้



ส่วนที่ 1

สาระสำคัญของคำเสนอซื้อหลักทรัพย์



1. วันที่ยื่นคำเสนอซื้อ

23 เมษายน 2547



2. ชื่อผู้ทำคำเสนอซื้อ

บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ("ผู้ทำคำเสนอซื้อ" หรือ "บริษัทฯ")



3. ชื่อผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อ

บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด ("ผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อ")



4. วัตถุประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อ

4.1 เนื่องจากผู้ทำคำเสนอซื้อได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อาหารสากล จำกัด (มหาชน) ("UFC" หรือ "กิจ

การ") จากผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งมีการส่งมอบหุ้นและชำระราคากันในวันที่ 8 เมษายน 2547 จำนวน

22,582,907 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 64.52 ของทุนเรียกชำระแล้วทั้งหมดของกิจการ และภายหลังได้

เข้าซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมอีกจำนวน 3,375,602 หุ้น อันเป็นผลให้ผู้ทำคำเสนอซื้อถือหุ้นในบริษัท

อาหารสากล จำกัด (มหาชน) จำนวน 25,958,509 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 74.17 ของทุนเรียกชำระ

แล้วทั้งหมด ทั้งนี้การส่งมอบหุ้นและชำระราคาหุ้นในวันที่ 8 เมษายน 2547 เป็นผลให้ผู้ทำคำเสนอซื้อ

ต้องดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท อาหารสากล จำกัด (มหาชน) เพื่อให้เป็นไป

ตามประกาศ ที่ กจ. 53/2545 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำ

กิจการ ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2545 และภายหลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในครั้งนี้แล้ว ผู้ทำคำ

เสนอซื้อมีความประสงค์จะดำเนินการเพิกถอนหุ้นสามัญของกิจการออกจากการเป็นหลักทรัพย์จด

ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามขั้นตอนและวิธีการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับ

หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป



4.2 ผู้ทำคำเสนอซื้อมีความเห็นว่าธุรกิจผลิตและจำหน่าย ผัก ผลไม้ และเครื่องดื่ม เป็นธุรกิจที่มีอนาคตที่ดี

และเป็นธุรกิจหนึ่งที่บริษัทให้ความสนใจในการลงทุน ประกอบกับราคาที่บริษัทเสนอซื้อเป็นราคาที่

บริษัทเห็นว่าเหมาะสมกับการลงทุน



5. ประเภทหลักทรัพย์ และรุ่นที่เสนอซื้อ

หุ้นสามัญ ของบริษัท อาหารสากล จำกัด (มหาชน) ("UFC" หรือ "กิจการ") จำนวน 9,041,491 หุ้น หรือ คิด

เป็นร้อยละ 25.83 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วและมีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ







6. ราคาเสนอซื้อ

ราคาเสนอซื้อหุ้นละ 12.00 บาท (สิบสองบาทถ้วน) โดยที่ผู้แสดงเจตนาขายมีภาระค่านายหน้าในการซื้อขาย

หลักทรัพย์ร้อยละ 0.25 ของราคาที่เสนอซื้อ และภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 ของค่านายหน้าในการซื้อขายหลัก

ทรัพย์ รวมเป็นร้อยละ 0.2675 ของราคาเสนอซื้อ ดังนั้นราคาหุ้นสุทธิที่ผู้แสดงเจตนาขายจะได้รับจึงเท่ากับ

หุ้นละ 11.9679 บาท (สิบเอ็ดจุดเก้าหกเจ็ดเก้าบาท) ทั้งนี้ราคาดังกล่าวได้รวมสิทธิในการรับเงินปันผลที่อาจ

จะมีขึ้น

ซึ่งราคาดังกล่าว

( / ) เป็นราคาเสนอซื้อสุดท้ายที่จะไม่เปลี่ยนแปลงอีก (final offer) (เว้นแต่เข้าเงื่อนไขที่แจ้งตามข้อ 8)

( ) ไม่ใช่ราคาเสนอซื้อสุดท้าย ผู้ทำคำเสนอซื้ออาจมีการเปลี่ยนแปลงราคาเสนอซื้อได้



ตามบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร ในกรณีที่ผู้แสดงเจตนาขายเป็นนิติบุคคลสัญชาติต่างด้าวที่ไม่ได้

ประกอบกิจการในประเทศไทย และมีถิ่นฐานอยู่ในประเทศที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งอนุสัญญาภาษีซ้อนกับ

ประเทศไทยในเรื่องการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับผลกำไรจากการขายหุ้น จะต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

โดยที่ผู้แสดงเจตนาขายจะต้องแจ้งต้นทุนของหุ้นแก่ตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ โดยใช้แบบแจ้งต้นทุน

ของหลักทรัพย์ที่นำมาเสนอขาย (เอกสารแนบ 4)



หากผู้แสดงเจตนาขายมิได้แจ้งต้นทุนของหลักทรัพย์ และ/หรือมิได้แนบหลักฐานแสดงต้นทุนซื้อดังกล่าว

มาพร้อมแบบแจ้งต้นทุนของหลักทรัพย์ ตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์จะทำการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

จากจำนวนเงินค่าขายหุ้นทั้งจำนวนที่ผู้แสดงเจตนาขายจะได้รับ



7. ระยะเวลารับซื้อ

ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ของวันที่ 26 เมษายน 2547 ถึง เวลา 16.00 น. ของวันที่ 1 มิถุนายน 2547 เฉพาะวันและ

เวลาทำการของบริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด รวมทั้งสิ้น 25 วันทำการ

ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวเป็น

( / ) ระยะเวลารับซื้อสุดท้ายที่จะไม่ขยายระยะเวลารับซื้ออีก (final period) (เว้นแต่เข้าเงื่อนไขที่แจ้ง

ตามข้อ 8)

( ) ไม่ใช่ระยะเวลารับซื้อสุดท้าย ผู้ทำคำเสนอซื้ออาจขยายระยะเวลารับซื้อได้



8. เงื่อนไขในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำเสนอซื้อ

( ) ไม่มีเงื่อนไข

( / ) มีเงื่อนไขในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำเสนอซื้อ ดังนี้

( / ) ผู้ทำคำเสนอซื้ออาจลดราคาเสนอซื้อหรือขยายระยะเวลาในการเสนอซื้อ หากมีเหตุการณ์ร้ายแรง

ต่อฐานะหรือทรัพย์สินของกิจการในระหว่างระยะเวลารับซื้อ

( / ) ผู้ทำคำเสนอซื้ออาจแก้ไขข้อเสนอหรือขยายระยะเวลาในการเสนอซื้อเพื่อแข่งขันกับบุคคลอื่นนั้น

หากมีบุคคลอื่นยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการในระหว่างระยะเวลารับซื้อ





9. เงื่อนไขในการยกเลิกคำเสนอซื้อ

ผู้ทำคำเสนอซื้ออาจยกเลิกคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ได้ในกรณีดังต่อไปนี้

9.1 เกิดเหตุการณ์หรือการกระทำใดๆขึ้นภายหลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด

หลักทรัพย์รับคำเสนอซื้อและยังไม่พ้นระยะเวลารับซื้อ และเหตุการณ์หรือการกระทำใดๆ นั้นเป็น

เหตุหรืออาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อฐานะหรือทรัพย์สินของกิจการที่ถูกเสนอซื้อ

โดยที่เหตุการณ์หรือการกระทำดังกล่าวมิได้เกิดจากการกระทำของผู้ทำคำเสนอซื้อ หรือการกระทำที่

ผู้ทำคำเสนอซื้อต้องรับผิดชอบ หรือ

9.2 กิจการที่ถูกเสนอซื้อกระทำการใดๆ ภายหลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด

หลักทรัพย์รับคำเสนอซื้อ และยังไม่พ้นระยะเวลารับซื้อ อันส่งผลให้มูลค่าของหุ้นลดลงอย่างมีนัย

สำคัญ



10. ระยะเวลารับซื้อที่ผู้ถือหลักทรัพย์สามารถยกเลิกการแสดงเจตนาขาย

ภายในวันที่ 25 พฤษภาคม 2547 ซึ่งเป็นวันทำการที่ 20 ของระยะเวลารับซื้อ (ใช้แบบยกเลิกการเสนอขาย

ตามเอกสารแนบ 3)



11. การจัดสรรการรับซื้อกรณีมีผู้แสดงเจตนาขายมากกว่าหรือน้อยกว่าจำนวนที่เสนอซื้อ (เฉพาะกรณี

การเสนอซื้อหุ้นบางส่วนตามหมวด 5 ของประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ. 53/2545)

ไม่มี เนื่องจากผู้ทำคำเสนอซื้อจะรับซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดที่มีผู้มาเสนอขาย



12. แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการเสนอซื้อ

ผู้ทำคำเสนอซื้อจะได้รับเงินทุนสำหรับการทำคำเสนอซื้อในครั้งนี้จากธนาคารซิตี้แบงก์ เป็นวงเงินกู้ยืมเพื่อ

ใช้ในการทำคำเสนอซื้อ จำนวน 109 ล้านบาท โดยมีหนังสือรับรองการสนับสนุนเงินทุนตามเอกสารแนบ 1

ซึ่งพอเพียงต่อการรับซื้อหุ้นของกิจการ

บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด ในฐานะผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อได้พิจารณาแหล่งเงินทุนของผู้ทำคำเสนอซื้อ

แล้วมีความเห็นว่า ผู้ทำคำเสนอซื้อมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอสำหรับการทำคำเสนอซื้อครั้งนี้



13. ชื่อตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์



ชื่อ: บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด

สถานที่ติดต่อในการรับ และยื่น ชั้น 22 อาคารกรุงเทพประกันภัย เลขที่ 25 ถนนสาทรใต้

แบบตอบรับคำเสนอซื้อ: แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120

โทรศัพท์: 0-2677-4330 ต่อ 408

โทรสาร: 0-2677-4395

วันชำระราคา: 7 มิถุนายน 2547

[Amorna]

สมมุติว่า เราได้ทราบข่าวในวันที่ 2 เมษายน
และสามารถซื้อหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 5 ที่ 11.50 บาทรวมค่านายหน้าและภาษีเป็น 11.5258

และขายหลักทรัพย์ออกในวันที่ 26 ที่ราคา 11.9679 หักค่านายหน้าและภาษีออกแล้ว

PV= -11.5258 FV=11.9679 n=1/12*20/30=0.0556

นั่นคือ ผลตอบแทนต่อปีของเราจะอยู่ที่ 96.90 % ใช่หรือไม่คะ
ไม่ทราบว่าคำนวณผิดตรงไหนบ้างคะ ทำไมตัวเลขเยอะจัง

ปล. อ่านวิธีการทำอาบิทราจจาก The New Buffettology มาค่ะ เลยมาลองปรับใช้กับหุ้นจริงดูค่ะ

[CK]

นั่นคือ ผลตอบแทนต่อปีของเราจะอยู่ที่ 96.90 % ใช่หรือไม่คะ
ไม่ทราบว่าคำนวณผิดตรงไหนบ้างคะ ทำไมตัวเลขเยอะจัง

คิดว่าใช่ครับ คงไม่ได้คำนวณผิดหรอกครับ
ที่ตัวเลขเยอะเพราะช่วงสั้นครับ แค่ 21 วัน

แต่ทั้งปีจะทำให้ไดเท่านี้จริงๆ ทุกๆ 21 วันจะต้องซื้อขายได้แบบนี้ทุกครั้ง
ครับ ไม่ขาดทุนแม้แต่ครั้งเดียว

[Amorna]

ขอบคุณคุณ CK มากค่ะ

ดิฉันว่า การทำอาบิทราจในเมืองไทย โอกาสทำได้กำไรได้มากมีน้อยกว่าโอกาสขาดทุนนะคะ เพราะหากไม่ใช่วงในแล้ว จังหวะซื้อในราคาช่วงต้นๆ มีน้อยเหลือเกิน

[ลูกอิสาน]

การใช้สมการข้างต้น คิดผลตอบแทนในกรณีนี้คงไม่เหมาะสมครับ
เพราะกรณีนี้เกิดเพียงครั้งเดียวแล้วก็จบครับ ไม่ได้เกิดหลายๆ ครั้ง

หากซื้อ ufc ได้ที่ 11.5 ลงไป คงมีผลตอบแทน 2-3 % ครับ
แต่ต้องรออีกพอสมควรกว่าจะได้เงิน คงต้องดูว่าจะคุ้มหรือเปล่า
เพราะช่วงนี้มีความเสี่ยงค่อนข้างมาก แต่หากซื้อที่ราคาสูงกว่า 11.5
ผลตอบแทนค่อนข้างน้อยครับ ผมคิดว่าไม่คุ้มที่จะเสี่ยง

ผมเคยลองบิดที่ 11.5 แต่ไม่ได้ก็เลยไม่ได้สนใจอีกเลยครับ