เรื่องราวของกาแฟแพงกับขี้ชะมดและความสุดยอดของร้านกาแฟในไทย!!
-
- Verified User
- โพสต์: 38
- ผู้ติดตาม: 0
เรื่องราวของกาแฟแพงกับขี้ชะมดและความสุดยอดของร้านกาแฟในไทย!!
โพสต์ที่ 1
เฮอะๆ!! โชคดีที่ผมยังไม่ ไฮโซพอ ..มิเช่นนั้นคงต้องไปซื้อกาแฟ กิโลละ 4 หมื่นกว่าบาท(ของอินโด) มาลิ้มลองเป็นแน่แท้ --จริงๆ ผมเคยดูหนังเรื่องนึงที่มัน ล้อเลียนคนกินกาแฟแพง มันบอก "แร๊คคูณ Shit!!" แต่ตอนนี้มารู้ข้อเท็จจริงว่า กาแฟที่แพงที่สุดในโลก มันคือ "ขี้ชะมด...แหวะ!! จะอวกครับพี่" ..(ไม่ใช่แค่รวยอย่างเดียวนะ จึงจะสามารถกินได้ (ต้องโง่ด้วย ..หุ หุ)!!)
มาย้อนดู ประวัติความเป็นมาของกาแฟ ถือกำเนิดในศตวรรษที่ 6 ในดินแดนเอทิโอเปีย ถือเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้ "เราใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น" เพราะสมันนั้น นักบวชกิน ทำให้สามารถสวดมนต์ได้ทนนาน...หุ หุ (สมัยนั้นวัดความสำเร็จที่ปริมาณ ไม่ใช่คุณภาพ ..หุ หุ งง เลย)
ย้อนใกล้เข้ามาก่อนที่จะมี Starbucks Revolution (มีด้วยรึฟะ Starbucks Revolution เอาเป็นว่ามีละกัน!!)..ก่อนหน้านั้น อเมริกามองกาแฟเป็นของถูก หากินได้จาก ขวด Nescafe เท่านั้น "เครื่องดื่มที่คนขับรถสิบล้อ กินแก้ง่วง ราคาต่ำ" ..สมัยนั้นตาม Diner ต่างๆจะใช้กาแฟเป็น Lost Leader คือ"ถูกแก้วละไม่กี่ เซ็นต์ เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาซื้ออย่างอื่นด้วย" --ในที่สุด Starbucks Revolution ก็ถือกำเนิดขึ้น
โดยนาย Howard Schultz พนักงานร้าน Starbucks(เดิมเป็นร้านขายแค่เมล็ดกาแฟคุณภาพ เป็น Niche Market ไม่ได้ขายเครื่องดื่มเหมือนอย่างตอนนี้) คือนาย Schultz เดินทางไป Italy แล้วไปเห็นวัฒนธรรมการกิน Espresso คือเป็น Shotๆ แรงๆ คือ เป็นกาแฟคุณภาพ ไม่ใช่อย่างน้ำล้างเท้า ที่ชาวอเมริกากินกันอยู่ในเวลานั้น --"และแล้ว!! ร้านกาแฟที่เลียนแบบอิตาลีก็เกิดขึ้นในชื่อ เอลจินเจอเนล!!(บ้าบอ..คือชื่อมัน Italy มาก) แต่แปลก .."มันสำเร็จอย่างน่าทึ่ง"
จากนั้นไม่นาน นาย Howard Schultz ก็ระดมทุน ผ่านด่านอุปสรรคต่างๆ จนสามารถซื้อกิจการร้านเมล็ดกาแฟที่ชื่อ Starbucks แล้วก็เปลี่ยนจาก "ร้านขายเมล็ดกาแฟ" มาเป็น "ร้านขายเครื่องดื่ม" ที่ฮิตติดตลาด อย่างในปัจจุบัน
หลายคนถามว่า Starbucks เป็น Innovation Product รึเปล่า!! ..เปล่าเลย!! มันคือ Me too Product ที่ผันตัวมาเป็น Value Added โดยการ "ใส่ราคาเข้าไป 100 เท่า!!ของกาแฟสิบล้อ" ---ถึงจุดนี้หลายคน งง ต่อว่า แล้ว Value โดดเด่นอะไรที่สร้างให้ Starbucks กลายเป็นร้านกาแฟที่โด่งดังอย่างทุกวันนี้
"ราคาแพง" ...อย่างเดียวเลย!!-- บางคนนึกว่า Starbucks โด่งดังเพราะคุณภาพ แต่มันไม่ใช่เลย (ช่วงผมอยู่ Australia ผมถามคน Aussie ว่าทำไมที่นี่ Starbucks ไม่รุ่งเลย --เขาบอก"Duck Shit!!" ..คือ "ห่วยชิบหาย" หลังจากนั้นไม่นานผมก็เริ่มรู้จักกับ Gloria Jean's Coffee ซึ่งเป็น Brand ร้านกาแฟอันดับหนึ่งใน Australia "ร้านกาแฟที่จ้าง Barista ระดับโลกไว้มากจริงๆ")
ความบ้าในคุณภาพ กาแฟของคน Australia ทำให้ทุกๆ หนึ่งตรารางกิโลเมตรใน Sydney ต้องมีไม่ต่ำกว่า 5 ร้านกาแฟ (คุณลองไปนับดู ว่าร้านกาแฟใน Sydney มันเยอะขนาดไหน "เอาเป็นว่า 7-11 บ้านเราอาย คุณคิดดูละกัน!!") ..ดังนั้น ถ้าคุณสามารถเปิดร้านกาแฟแล้วอยู่รอดได้ใน Australia คุณจะต้อง เจ๋ง จริงๆ
ช่วงนึงผมบ้ากาแฟ จนไปเรียนเป็น Barista และก็รับเอา Brand "LAVAZZA" เข้่ามาขายในร้านอาหารของผม (โอเค..กลับมาที่เมืองไทย) พอผมมาเมืองไทย ผมสั่ง Espresso มันใส่นม น้ำตาล นมข้น เสร็จ "Espresso บ้านป้า คุณหรือใส่นม !!!" แต่มันก็เกิดจริงๆแล้วที่เมืองไทย ..ฮ่า ฮ่า (คิดในแง่ดีคือเรา Think Globally,Act Locally น่ะ เท่ห์โคตร!!)
"คอกาแฟจริงเขาไม่กินกาแฟเย็น" แต่อยู่เมืองไทย ผมแทบไม่กินกาแฟร้อนเลย "คุณรู้ไหมทำไม" -- กาแฟนี่ต้องตีฟองโดยใช้ Stream --เขาให้ต้องมี เทอร์โมมิเตอร์มาวัด คือความร้อนห้ามเกิน 60 องศา (แต่ขนาด Starbucks บ้านเรามันตีฟองที 100 กว่าองศา "มันจะเอาไปต้มมาม่าหรือ !!" ) สรุปทางเลือกของคอกาแฟ ในบ้านเราจึงต้องปิดประตูแล้วแล้วสั่งไปว่า "เอากาแฟเย็นแก้วนึง!!" เพราะคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ไอ้ Espresso , Latte , Americano ที่คุณสั่งในเมืองไทย "มันจะมีหน้าเป็นอย่างที่ ทั่วโลกเขาเข้าใจหรือเปล่า"
(ทุกวันนี้ผมก็ยังคงกิน Starbucks เพราะยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสุด ตอนนี้ในไทย..จำยอมละกัน!!) --- ("แต่!!")
คราวหน้าอย่าลืมนะครับ สั่งว่า "กาแฟเย็นแก้วนึง" ....ฮ่า ฮ่า
เขียนโดย pawawit ที่ http://pawawit.blogspot.com
มาย้อนดู ประวัติความเป็นมาของกาแฟ ถือกำเนิดในศตวรรษที่ 6 ในดินแดนเอทิโอเปีย ถือเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้ "เราใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น" เพราะสมันนั้น นักบวชกิน ทำให้สามารถสวดมนต์ได้ทนนาน...หุ หุ (สมัยนั้นวัดความสำเร็จที่ปริมาณ ไม่ใช่คุณภาพ ..หุ หุ งง เลย)
ย้อนใกล้เข้ามาก่อนที่จะมี Starbucks Revolution (มีด้วยรึฟะ Starbucks Revolution เอาเป็นว่ามีละกัน!!)..ก่อนหน้านั้น อเมริกามองกาแฟเป็นของถูก หากินได้จาก ขวด Nescafe เท่านั้น "เครื่องดื่มที่คนขับรถสิบล้อ กินแก้ง่วง ราคาต่ำ" ..สมัยนั้นตาม Diner ต่างๆจะใช้กาแฟเป็น Lost Leader คือ"ถูกแก้วละไม่กี่ เซ็นต์ เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาซื้ออย่างอื่นด้วย" --ในที่สุด Starbucks Revolution ก็ถือกำเนิดขึ้น
โดยนาย Howard Schultz พนักงานร้าน Starbucks(เดิมเป็นร้านขายแค่เมล็ดกาแฟคุณภาพ เป็น Niche Market ไม่ได้ขายเครื่องดื่มเหมือนอย่างตอนนี้) คือนาย Schultz เดินทางไป Italy แล้วไปเห็นวัฒนธรรมการกิน Espresso คือเป็น Shotๆ แรงๆ คือ เป็นกาแฟคุณภาพ ไม่ใช่อย่างน้ำล้างเท้า ที่ชาวอเมริกากินกันอยู่ในเวลานั้น --"และแล้ว!! ร้านกาแฟที่เลียนแบบอิตาลีก็เกิดขึ้นในชื่อ เอลจินเจอเนล!!(บ้าบอ..คือชื่อมัน Italy มาก) แต่แปลก .."มันสำเร็จอย่างน่าทึ่ง"
จากนั้นไม่นาน นาย Howard Schultz ก็ระดมทุน ผ่านด่านอุปสรรคต่างๆ จนสามารถซื้อกิจการร้านเมล็ดกาแฟที่ชื่อ Starbucks แล้วก็เปลี่ยนจาก "ร้านขายเมล็ดกาแฟ" มาเป็น "ร้านขายเครื่องดื่ม" ที่ฮิตติดตลาด อย่างในปัจจุบัน
หลายคนถามว่า Starbucks เป็น Innovation Product รึเปล่า!! ..เปล่าเลย!! มันคือ Me too Product ที่ผันตัวมาเป็น Value Added โดยการ "ใส่ราคาเข้าไป 100 เท่า!!ของกาแฟสิบล้อ" ---ถึงจุดนี้หลายคน งง ต่อว่า แล้ว Value โดดเด่นอะไรที่สร้างให้ Starbucks กลายเป็นร้านกาแฟที่โด่งดังอย่างทุกวันนี้
"ราคาแพง" ...อย่างเดียวเลย!!-- บางคนนึกว่า Starbucks โด่งดังเพราะคุณภาพ แต่มันไม่ใช่เลย (ช่วงผมอยู่ Australia ผมถามคน Aussie ว่าทำไมที่นี่ Starbucks ไม่รุ่งเลย --เขาบอก"Duck Shit!!" ..คือ "ห่วยชิบหาย" หลังจากนั้นไม่นานผมก็เริ่มรู้จักกับ Gloria Jean's Coffee ซึ่งเป็น Brand ร้านกาแฟอันดับหนึ่งใน Australia "ร้านกาแฟที่จ้าง Barista ระดับโลกไว้มากจริงๆ")
ความบ้าในคุณภาพ กาแฟของคน Australia ทำให้ทุกๆ หนึ่งตรารางกิโลเมตรใน Sydney ต้องมีไม่ต่ำกว่า 5 ร้านกาแฟ (คุณลองไปนับดู ว่าร้านกาแฟใน Sydney มันเยอะขนาดไหน "เอาเป็นว่า 7-11 บ้านเราอาย คุณคิดดูละกัน!!") ..ดังนั้น ถ้าคุณสามารถเปิดร้านกาแฟแล้วอยู่รอดได้ใน Australia คุณจะต้อง เจ๋ง จริงๆ
ช่วงนึงผมบ้ากาแฟ จนไปเรียนเป็น Barista และก็รับเอา Brand "LAVAZZA" เข้่ามาขายในร้านอาหารของผม (โอเค..กลับมาที่เมืองไทย) พอผมมาเมืองไทย ผมสั่ง Espresso มันใส่นม น้ำตาล นมข้น เสร็จ "Espresso บ้านป้า คุณหรือใส่นม !!!" แต่มันก็เกิดจริงๆแล้วที่เมืองไทย ..ฮ่า ฮ่า (คิดในแง่ดีคือเรา Think Globally,Act Locally น่ะ เท่ห์โคตร!!)
"คอกาแฟจริงเขาไม่กินกาแฟเย็น" แต่อยู่เมืองไทย ผมแทบไม่กินกาแฟร้อนเลย "คุณรู้ไหมทำไม" -- กาแฟนี่ต้องตีฟองโดยใช้ Stream --เขาให้ต้องมี เทอร์โมมิเตอร์มาวัด คือความร้อนห้ามเกิน 60 องศา (แต่ขนาด Starbucks บ้านเรามันตีฟองที 100 กว่าองศา "มันจะเอาไปต้มมาม่าหรือ !!" ) สรุปทางเลือกของคอกาแฟ ในบ้านเราจึงต้องปิดประตูแล้วแล้วสั่งไปว่า "เอากาแฟเย็นแก้วนึง!!" เพราะคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ไอ้ Espresso , Latte , Americano ที่คุณสั่งในเมืองไทย "มันจะมีหน้าเป็นอย่างที่ ทั่วโลกเขาเข้าใจหรือเปล่า"
(ทุกวันนี้ผมก็ยังคงกิน Starbucks เพราะยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสุด ตอนนี้ในไทย..จำยอมละกัน!!) --- ("แต่!!")
คราวหน้าอย่าลืมนะครับ สั่งว่า "กาแฟเย็นแก้วนึง" ....ฮ่า ฮ่า
เขียนโดย pawawit ที่ http://pawawit.blogspot.com
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
เรื่องราวของกาแฟแพงกับขี้ชะมดและความสุดยอดของร้านกาแฟในไทย!!
โพสต์ที่ 2
And your point being?
ผมทราบดีครับ ว่าผมเขียนตอบไปก็เท่านั้น เพราะพี่แกคงเข้ามา cut/paste blog ที่นี่เฉยๆ เหมือนที่เขาทำหลายๆบอร์ด แต่ขอ comment ดังต่อไปนี้
- เรื่องกาแฟ ไฮโซ เรื่องของใครของมันครับ ฝรั่งมันคงขำเหมือนกันที่เราเอาปลามาหมักจนเน่าทำน้ำปลา หรือเอาปูม้าดิบๆมายำกิน แบบเห็นเป็นตัวๆบนจาน มันเรื่องของ culture ไม่ใช่ ความฉลาดหรือโง่ในการเลือกที่จะใช้เงินซื้อของอะไรกินอะไรครับ
- กาแฟแบบ drip ไม่ใช่น้ำล้างเท้่า กินกาแฟแบบใส่นมทุกครั้ง ก็อาจจะชอบแบบแต่ชอตเล็กๆใส่นม ก็เชิญเถอะครับ กาแฟดีๆกินแบบ drip ดำๆ อร่อย หอม ไม่เห็นจะเสียหายอะไรครับ เขากินกันมาหลายปี (ที่บ้าน) ทุกวันนี้ก็ยังกินกันแบบนั้นครับ
- ผมกินกาแฟร้อน (ชงกินแบบ drip ซะส่วนใหญ่) นานๆทีกิน espresso base มั่ง อยู่เมืองไทยหลายปี ก็กินแต่กาแฟร้อนนี่แหละครับ กาแฟเย็นมันโค่ดหวานครับ จะกินกาแฟเย็นกินไอติมกาแฟไปเลยดีกว่าครับ
- กาแฟข้างถนน espresso shot มันทำมาจาก robusta ถูกคั่วไหม้ๆครับ ต่อให้ "barista" เก่งแค่ไหนชงยังไงก็ขยะครับ ไปเรียนที่ไหนก็ชงให้อร่อยไม่ได้หรอกครับ บางคนอาจจะชอบ แต่ผมหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงครับ
- ประเทศเขตหนาวๆ กินกาแฟกันมากที่สุดในโลกครับ http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_co ... per_capita ออสเตรเลีย ไม่ได้กินกันเยอะขนาดนั้นครับ
- ที่สำคัญ จะโพสต์ทั้งที โพสต์ให้มันถูกๆห้องหน่อยครับ
ขอบคุณครับ
ผมทราบดีครับ ว่าผมเขียนตอบไปก็เท่านั้น เพราะพี่แกคงเข้ามา cut/paste blog ที่นี่เฉยๆ เหมือนที่เขาทำหลายๆบอร์ด แต่ขอ comment ดังต่อไปนี้
- เรื่องกาแฟ ไฮโซ เรื่องของใครของมันครับ ฝรั่งมันคงขำเหมือนกันที่เราเอาปลามาหมักจนเน่าทำน้ำปลา หรือเอาปูม้าดิบๆมายำกิน แบบเห็นเป็นตัวๆบนจาน มันเรื่องของ culture ไม่ใช่ ความฉลาดหรือโง่ในการเลือกที่จะใช้เงินซื้อของอะไรกินอะไรครับ
- กาแฟแบบ drip ไม่ใช่น้ำล้างเท้่า กินกาแฟแบบใส่นมทุกครั้ง ก็อาจจะชอบแบบแต่ชอตเล็กๆใส่นม ก็เชิญเถอะครับ กาแฟดีๆกินแบบ drip ดำๆ อร่อย หอม ไม่เห็นจะเสียหายอะไรครับ เขากินกันมาหลายปี (ที่บ้าน) ทุกวันนี้ก็ยังกินกันแบบนั้นครับ
- ผมกินกาแฟร้อน (ชงกินแบบ drip ซะส่วนใหญ่) นานๆทีกิน espresso base มั่ง อยู่เมืองไทยหลายปี ก็กินแต่กาแฟร้อนนี่แหละครับ กาแฟเย็นมันโค่ดหวานครับ จะกินกาแฟเย็นกินไอติมกาแฟไปเลยดีกว่าครับ
- กาแฟข้างถนน espresso shot มันทำมาจาก robusta ถูกคั่วไหม้ๆครับ ต่อให้ "barista" เก่งแค่ไหนชงยังไงก็ขยะครับ ไปเรียนที่ไหนก็ชงให้อร่อยไม่ได้หรอกครับ บางคนอาจจะชอบ แต่ผมหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงครับ
- ประเทศเขตหนาวๆ กินกาแฟกันมากที่สุดในโลกครับ http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_co ... per_capita ออสเตรเลีย ไม่ได้กินกันเยอะขนาดนั้นครับ
- ที่สำคัญ จะโพสต์ทั้งที โพสต์ให้มันถูกๆห้องหน่อยครับ
ขอบคุณครับ
- NoiSNC
- Verified User
- โพสต์: 288
- ผู้ติดตาม: 0
เรื่องราวของกาแฟแพงกับขี้ชะมดและความสุดยอดของร้านกาแฟในไทย!!
โพสต์ที่ 3
ที่บอกว่า "ผมเคยดูหนังเรื่องนึงที่มัน ล้อเลียนคนกินกาแฟแพง มันบอก แร๊คคูณ Shit!! นี่ใช่เรื่อง "The Bucket List" หรือเปล่าครับ?
ผมเพิ่งได้ดู และประทับใจมากครับ อยากให้ได้ดูกัน :)
ผมเพิ่งได้ดู และประทับใจมากครับ อยากให้ได้ดูกัน :)
SNC ท้ายชื่อผม มาจาก Speed Net Club ร้านอินเตอร์เน็ตที่ผมเคยเปิดครับ ^ ^ (ไม่ใช่ชื่อหุ้นนะ แหะๆ)
อนุญาต ... โอกาส ... สังเกต = [อยากให้คนไทยใช้ภาษาไทยถูกต้อง] :)
อนุญาต ... โอกาส ... สังเกต = [อยากให้คนไทยใช้ภาษาไทยถูกต้อง] :)
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
เรื่องราวของกาแฟแพงกับขี้ชะมดและความสุดยอดของร้านกาแฟในไทย!!
โพสต์ที่ 4
หนังดีมากNoiSNC เขียน:ที่บอกว่า "ผมเคยดูหนังเรื่องนึงที่มัน ล้อเลียนคนกินกาแฟแพง มันบอก แร๊คคูณ Shit!! นี่ใช่เรื่อง "The Bucket List" หรือเปล่าครับ?
ผมเพิ่งได้ดู และประทับใจมากครับ อยากให้ได้ดูกัน
กาแฟตัวนี้เลยครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Kopi_Luwak
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
- NoiSNC
- Verified User
- โพสต์: 288
- ผู้ติดตาม: 0
เรื่องราวของกาแฟแพงกับขี้ชะมดและความสุดยอดของร้านกาแฟในไทย!!
โพสต์ที่ 5
โอ้โห ขอบคุณมากครับ กำลังว่าจะหาข้อมูลอยู่พอดี ... :D
(หนังเรื่องนี้ดีมากจริง ๆ นะครับ) :)
(หนังเรื่องนี้ดีมากจริง ๆ นะครับ) :)
SNC ท้ายชื่อผม มาจาก Speed Net Club ร้านอินเตอร์เน็ตที่ผมเคยเปิดครับ ^ ^ (ไม่ใช่ชื่อหุ้นนะ แหะๆ)
อนุญาต ... โอกาส ... สังเกต = [อยากให้คนไทยใช้ภาษาไทยถูกต้อง] :)
อนุญาต ... โอกาส ... สังเกต = [อยากให้คนไทยใช้ภาษาไทยถูกต้อง] :)