เมื่อมังกรเริ่มช้อปปิ้ง
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
เมื่อมังกรเริ่มช้อปปิ้ง
โพสต์ที่ 1
การที่จีนปล่อยค่าเงินแข็งขึ้น น่าจะเป็นประโยชน์ในฐานะผู้ซื้อสินค้านำเข้า เพื่อการบริโภคในประเทศ หลังจากที่กดให้ค่าเงินอ่อนในฐานะผู้ส่งออกมายาวนาน
อเมริกาและยุโรป ก็ดูเหมือนจะยังไม่พอใจกับค่าเงินในปัจจุบัน ต่างก็คาดหวังให้ปล่อยค่าเงินหยวนให้ปรับตัวแข็งขึ้นอีก เรียกว่าเตรียมตัวขายสินค้าให้กับจีนเป็นการเอาคืนอย่างเต็มที่ ซึ่งการค้าขายกับจีน จะเป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกาและยุโรปอย่างยั่งยืนต่อไป
ล่าสุดแนวโน้มยิ่งชัดเจน จากการขึ้นค่าแรงของแรงงานจีนอย่างมโหฬาร นอกจากจะแก้ปัญหาเรื่องความกดดันในหมู่ผู้ใช้แรงงานแล้ว ก็น่าจะเป็นแรงกระตุ้นการบริโภคอย่างมาก ซึ่งแรงงานจีนที่กัดฟันทำงานมานานด้วยค่าแรงถูกๆ จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที
คำถามคือ คนจีนที่มีเงินมากขึ้นและแข็งค่าขึ้น จะซื้ออะไร จากใคร?
อเมริกาและยุโรป ก็ดูเหมือนจะยังไม่พอใจกับค่าเงินในปัจจุบัน ต่างก็คาดหวังให้ปล่อยค่าเงินหยวนให้ปรับตัวแข็งขึ้นอีก เรียกว่าเตรียมตัวขายสินค้าให้กับจีนเป็นการเอาคืนอย่างเต็มที่ ซึ่งการค้าขายกับจีน จะเป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกาและยุโรปอย่างยั่งยืนต่อไป
ล่าสุดแนวโน้มยิ่งชัดเจน จากการขึ้นค่าแรงของแรงงานจีนอย่างมโหฬาร นอกจากจะแก้ปัญหาเรื่องความกดดันในหมู่ผู้ใช้แรงงานแล้ว ก็น่าจะเป็นแรงกระตุ้นการบริโภคอย่างมาก ซึ่งแรงงานจีนที่กัดฟันทำงานมานานด้วยค่าแรงถูกๆ จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที
คำถามคือ คนจีนที่มีเงินมากขึ้นและแข็งค่าขึ้น จะซื้ออะไร จากใคร?
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
-จีรนุช เปรมชัยพร
- Linzhi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1464
- ผู้ติดตาม: 1
เมื่อมังกรเริ่มช้อปปิ้ง
โพสต์ที่ 3
พี่ปรัชญาครับปรัชญา เขียน:คนจีนชอบเที่ยว
เมืองไทยคงเป็นที่เลือกอันดับต้นๆ
ท่องเที่ยวเมืองไทยในสายตา หรือที่คนจีนเรียกทัวร์นี้ว่า หม่า ซิง ไท่ (แพคเกจเที่ยวมาเลย์ สิงค์โปร์ ไทย 3 ประเทศ) ค่อนข้างเป็นอดีตเหมือนกัน
คนจีนปัจจุบันเน้นไปเที่ยวยุโรปหรือแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ
ไทยถือว่าได้รับความสนใจน้อยลง
และตลาดจีนก็เป็นตลาดที่เล่นด้วยยากครับ อย่างดิสนีย์ไปฮ่องกงนี่ ปีแรก ๆ คนจีนเพียบ
แต่เปิดไปเปิดมา แพ้สาขาญี่ปุ่น เพราะคนจีนชอบเที่ยวแบบถ่ายรูปว่ากูถึงแล้ว (อันนี้เหมือนพี่ไทยสมัยก่อน)
ไม่ใช่เที่ยวเพื่อเอาประสบการณ์หรือความทรงจำดี ๆ ครับ การเที่ยวซ้ำที่เดิมจึงน้อย
ถ้าจะหวัง ผมหวัง medical tourism มากกว่า Healthcare จีนผมว่าแพงมากก และ service ห่วยแบบจีน ๆ
สรุปคือ BH, BGH น่าจะได้ประโยชน์จากจีนในระยะยาวมากกว่า MINT หรือ Centel ประมาณนี้น่ะครับ
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
There is no secret ingredient. It's just you.
- Amadeus
- Verified User
- โพสต์: 372
- ผู้ติดตาม: 0
เมื่อมังกรเริ่มช้อปปิ้ง
โพสต์ที่ 4
จีนนี่มีศักยภาพในการบริหารหรือเปล่าครับ
เป็นไปได้ไหมที่จีนจะซื้อ แหล่งวัตถุดิบ หรือพวกสถาบันการเงิน
อีกหน่อยจีดีพีของพี่จีน อาจจะโตจากการใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุน
การบริโภค แทนที่การลดลงของพวกส่งออก
อย่างนี้ ไชน่าฟันด์จะได้ประโยชน์มาไหมน้อ :?
เป็นไปได้ไหมที่จีนจะซื้อ แหล่งวัตถุดิบ หรือพวกสถาบันการเงิน
อีกหน่อยจีดีพีของพี่จีน อาจจะโตจากการใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุน
การบริโภค แทนที่การลดลงของพวกส่งออก
อย่างนี้ ไชน่าฟันด์จะได้ประโยชน์มาไหมน้อ :?
เตือนตัวเอง
1.ลดต้นทุน 2.ขึ้นราคา 3.ขยายตลาด
4.เพิ่ม same store sale 5.ขาย บ.เน่าๆ
1.ลดต้นทุน 2.ขึ้นราคา 3.ขยายตลาด
4.เพิ่ม same store sale 5.ขาย บ.เน่าๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 64
- ผู้ติดตาม: 0
เมื่อมังกรเริ่มช้อปปิ้ง
โพสต์ที่ 5
ผมมองว่า การแข็งค่าของเงินหยวนในครั้งนี้ รัฐบาลคงไม่ปล่อยให้แข็งจนไม่มีความสามารถในการแข่งขันการส่งออกในตลาดโลก
แต่มองว่า การแข็งค่าคราวนี้จะเป็นโอกาสในการนำเข้าสินค้าทุนที่ราคาถูก เช่น น้ำมัน เหล็ก เป็นต้น
ซึ่งก็มองได้ว่า โอกาสในการแข่งขันในตลาดโลกของจีน อาจไม่ได้ลดลง และ ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นก็ได้ เนื่องจากค่าเงินที่แข็งขึ้น และ ค่าแรงภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น มัน Compensate ซึ่งกันและกันพอดี
แต่สิ่งที่จีนจะได้จากนโยบายการแข็งค่าของเงินหยวน ผมคิดว่า มีข้อดีทางอ้อม 2 ประการ คือ
1. ลดแรงเสียดทานจากนานาประเทศ
2. เป็นโอกาสที่จะยกระดับค่าแรงในประเทศได้ เพื่อให้ประชาชนมีความสุข ( เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง จึงมีเงินเหลือมาให้ลูกจ้างเพิ่มขึ้นได้ )
แต่มองว่า การแข็งค่าคราวนี้จะเป็นโอกาสในการนำเข้าสินค้าทุนที่ราคาถูก เช่น น้ำมัน เหล็ก เป็นต้น
ซึ่งก็มองได้ว่า โอกาสในการแข่งขันในตลาดโลกของจีน อาจไม่ได้ลดลง และ ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นก็ได้ เนื่องจากค่าเงินที่แข็งขึ้น และ ค่าแรงภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น มัน Compensate ซึ่งกันและกันพอดี
แต่สิ่งที่จีนจะได้จากนโยบายการแข็งค่าของเงินหยวน ผมคิดว่า มีข้อดีทางอ้อม 2 ประการ คือ
1. ลดแรงเสียดทานจากนานาประเทศ
2. เป็นโอกาสที่จะยกระดับค่าแรงในประเทศได้ เพื่อให้ประชาชนมีความสุข ( เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง จึงมีเงินเหลือมาให้ลูกจ้างเพิ่มขึ้นได้ )
- abscisic
- Verified User
- โพสต์: 180
- ผู้ติดตาม: 0
เมื่อมังกรเริ่มช้อปปิ้ง
โพสต์ที่ 6
pradchayat เขียน:ผมมองว่า การแข็งค่าของเงินหยวนในครั้งนี้ รัฐบาลคงไม่ปล่อยให้แข็งจนไม่มีความสามารถในการแข่งขันการส่งออกในตลาดโลก
แต่มองว่า การแข็งค่าคราวนี้จะเป็นโอกาสในการนำเข้าสินค้าทุนที่ราคาถูก เช่น น้ำมัน เหล็ก เป็นต้น
ซึ่งก็มองได้ว่า โอกาสในการแข่งขันในตลาดโลกของจีน อาจไม่ได้ลดลง และ ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นก็ได้ เนื่องจากค่าเงินที่แข็งขึ้น และ ค่าแรงภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น มัน Compensate ซึ่งกันและกันพอดี
แต่สิ่งที่จีนจะได้จากนโยบายการแข็งค่าของเงินหยวน ผมคิดว่า มีข้อดีทางอ้อม 2 ประการ คือ
1. ลดแรงเสียดทานจากนานาประเทศ
2. เป็นโอกาสที่จะยกระดับค่าแรงในประเทศได้ เพื่อให้ประชาชนมีความสุข ( เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง จึงมีเงินเหลือมาให้ลูกจ้างเพิ่มขึ้นได้ )
:?: มันจะชดเชยกันยังไงครับ เงินแข็งบวกกับค่าแรงเพิ่ม ก็ยิ่งทำให้ Production cost ของสินค้าจีนสูงขึ้น ความสามารถในการแข่งขันของจีนในตลาดโลกก็ยิ่งจะลดลงไม่ใช่เหรอครับ ส่วนการที่จีนซื้อสินค้าทุนได้ในราคาที่ถูกลงเนื่องจากการแข็งค่าของหยวน ซื้อเข้ามาเป็นUS Dollar สุดท้ายผลิตก็ต้องส่งออกเป็นUS Dollar มันก็ offset กันอยู่ดี ไม่ได้ช่วยอะไร
มีแต่ช่่วยกระตุ้น การบริโภคภายในประเทศเท่านั้น เพราะซื้อของนอกได้ราคาถูกลง