http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 70988.html
(กดไปดู ตามลิ้งนี้จะมีภาพประกอบนะครับ)
ถ้าจะถามว่าประเด็นใดเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ร้อนที่สุด ในตอนนี้ คงหนีไม่พ้นหนี้สาธารณะ หรือ Sovereign Debt ซึ่งกำลังมีโอกาสเกิดเป็นวิกฤตการณ์หนี้ (Debt Crisis) ได้ทุกเมื่อ ผมเลยขอ share ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ซักเล็กน้อย เพื่อให้เห็นภาพรวม
คำ ว่า Sovereign Debt หรือหนี้ในตราสารที่รัฐบาลเป็นประกันซึ่งส่วนใหญ่ก็คือพันธบัตร และเงินกู้โดยตรงนั่นเอง กลายเป็นคำที่ปรากฏอยู่ในข่าวของสำนักต่างประเทศทุกวัน กำลังเป็นระเบิดลูกใหม่ของเศรษฐกิจโลก แต่เป็นระเบิดที่มีการคาดการณ์กันมาก่อนแล้วเนื่องจากรัฐบาลก่อหนี้ต่างๆ ก่อนหนี้เพื่อนำมาใช้จ่ายประจำและกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก
นับตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 1970 เป็นต้นมา รัฐบาลต่างประเทศต่างๆ มีหนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนใหญ่รัฐบาลจะหาเงินมาใช้ด้วยการออกพันธบัตรซึ่งมีการครบกำหนดอายุใน ช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เช่น 2 ปี 5 ปี 10 ปี 30 ปี พอถึงกำหนดหากยังไม่มีเงินมาจ่ายเงินต้น ก็หาเงินเพิ่มโดยการออกพันธบัตรขึ้นมาทดแทนและนำเงินไปจ่ายของเก่าที่หมด อายุ หรือเราอาจจะเรียกว่าการ Refinance ก็ได้
ถ้าเศรษฐกิจดีเก็บ ภาษีได้มาก เค้าก็จะทยอยๆคืนเงินซึ่งก็มักจะไม่เร็วนัก [ของไทยที่ใช้หนี้ IMF หมดเร็วเพราะเราไม่ได้เบิกเงินจริงๆมามากเท่าไหร่ครับ อย่ามาคุยว่ารัฐบาลสมัยนั้นหาเงินเก่ง] เศรษฐกิจไม่ดี เงินไม่พอใช้ หรือขาดดุลงบประมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีต้องกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย ก็ต้องกู้โดยการออกพันธบัตรเพิ่ม ทำให้หนี้เพิ่มขึ้นอีก วงจรอุบาทว์นี้ทำให้หนี้ของประเทศต่างๆพอกพูนขึ้นอย่างมากจนอยู่ในระดับใกล้ เคียงกับหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ลองดูรูปหนี้ของกลุ่มประเทศ G7
ปล. ไม่รู้ว่าแปะภาพยังไง แต่แนะนำว่าถ้าอยากดูฉบับเต็ม (มีกราฟประกอบ ดูเข้าใจง่าย ชัดเจน) แนะนำให้ดูตามลิ้งที่ต้นฉบับนะครับในบางกรณี ที่น่าเป็นห่วงมาก IMF ก็เข้ามาช่วยเหลือเพราะถ้าปล่อยให้ไปออกพันธบัตรเองคงจะสู้ดอกเบี้ยไม่ไหว เพราะในสถานการณ์อย่างนั้น ประเทศใกล้ล้มละลายแล้ว ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจะสูงมากเพราะถ้าไม่ให้สูงใครจะยอมซื้อพันธบัตร ช่วงสองสามปีมานี้ IMF ช่วยประเทศต่างๆไปเยอะมาจนปลายปีก่อนประเทศยักษ์ใหญ่ต้องลงขันกันเพิ่มอีก นอกจากนี้ IMF เองยังขายทรัพย์สินของตนเองบางส่วน เช่นทอง เพื่อเตรียมเงินไว้ใช้ ตอนนี้คงได้ใช้ไปแล้ว
การที่ประเทศล้มละลาย นั้นจริงๆไม่มี มีแต่คำว่า Default หมายถึงการผิดนัดชำระหนี้ เจ้าหนี้จะไปฟ้องร้องที่ไหนให้จ่าย หรือให้เอาทรัพย์สินของประเทศไปขายชำระหนี้ก็ไม่ได้ ทางสหประชาชาติก็ไม่มีศาลประเภทนี้ เพราะเป็นที่ยอมรับว่า การที่ประเทศเป็นหนี้อาจจะเกิดจากความผิดพลาดในการดำเนินนโยบาลของนักการ เมืองไม่กี่คน จะให้คนทั้งประเทศต้องรับผิดชอบนั้นไม่ถูกต้อง
ดอกเบี้ย ที่ต้องจ่ายนี้ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือเป็นสำคัญ ซึ่งในโลกก็มีอยู่ 2-3 บริษัทที่ผูกขาด[จากผลงาน] ในการจัดอันดับ ก็คือ S&P , Moodys [ของป๋า Buffet นี่แหละ] และ Fitch การจัดคะแนนความน่าเชื่อถือของประเทศหรือ Sovereign Credit Rating ก็คือการประเมินโอกาสที่ประเทศต่างๆจะผิดนัดชำระหนี้นั่นเอง
มาดู กันว่า ถ้า rating ไม่ดีต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงกว่า ประเทศความเชื่อถือได้สูง AAA อย่างสหรัฐ เท่าไร เป็นการศึกษาพฤติกรรมตลาดจริงๆนะครับ ไม่ใช่ Moodys หรือ S&P กำหนด
ทาง IMF ได้ทำให้ดูว่า หนี้ในช่วง วิกฤติเพิ่มขึ้นมากเกิดจากอะไร หลายท่านก็เดาว่า มันอาจจะเกิดจากกระตุ้นเศรษฐกิจ (ด้วยนโยบายการคลัง) แต่ถ้าดูตามรายงานนี้ ในช่วงปี 2008-2015 หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ (19.2%) เกิดจากรายได้ของรัฐลดลง ส่วนที่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีเพียง 4.5% เท่านั้น
จุดนี้ทำให้ Krugman วิจารณ์รายงานนี้พอสมควร ว่ามันส่งสัญญาณที่ผิด หาก IMF บอกว่า หนี้ที่พุ่งขึ้นหลังวิกฤตส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการอัดฉีดของรัฐ ดังนั้นนี่น่าจะเป็นปัญหาที่รัฐบาลประเทศต่างๆมีรายได้ลดลงเนื่องจาก เศรษฐกิจตกต่ำ มี GDP Gap เกิดขึ้น หากไม่แก้ไข วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้จะทำให้ความมั่งคั่งของชาวโลกลดลงกว่าที่ควรจะเป็น เป็นการถาวร
ความคิดเห็นที่ 7 [ถูกใจ] [แจ้งลบ]
ปัญหาหนี้สาธารณะนี้มีความรุนแรงเพียงใด เมื่อเทียบกับปัญหาอื่นๆในโลก ดูได้จากราฟในรายงาน Global Risk 2010 ของ World Economic Forum นะครับ ออกมาตั้งแต่เดือนมกราแล้ว มากถึงตอนนี้ถ้าทำใหม่อาจไม่เหมือนเดิม ในกราฟบอกว่าปัญหา 3 ด้านของเศรษฐกิจนี้มีโอกาสเกิดขึ้นสูงพอสมควร (~20%) และสร้างความเสียหายได้มาก
1. Asset Price Collapse หรือการลดค่าของทรัพย์สินอย่างรวดเร็ว เช่น หุ้นตกอย่างมาก
2. เศรษฐกิจจีนขยายตัวไม่ถึง 6%
3. Fiscal Crisis วิกฤติการคลัง หรือปัญหาหนี้สาธารณะที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี่เอง
หมายเหตุ : เศรษฐกิจจีนอยู่ในรายการ top list มาหลายปีแล้วครับ ยังไม่จริงซักปี แต่คงใกล้แล้ว
นั่นคือการพยากรณ์ของ WEF แน่นอนว่า ตลาดไปไกลกว่านั้นแล้ว โดยมี S&P Moodys นักลงทุน และล่าสุดนักเก็งกำไรค่าเงินเป็นตัวเร่ง
สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP นั้น IMF ได้ทำนายไว้ตามกราฟนี้นะครับ จะเห็นได้ว่า สำหรับประเทศที่มีเศรษฐกิจก้าวหน้าทั้งหลายหนี้จะยังเพิ่มขึ้นต่อไป ส่วนประเทศที่กำลังพัฒนากลับมีหนี้อยู่ในระดับต่ำ เช่นของไทยอยู่ที่ราวๆ 40% ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติของประเทศเหล่านี้
มีเรื่องนึงที่ควรทำความเข้าใจ คือ Primary Deficit หรือการขาดดุลงบประในส่วนที่เป็นการใช้จ่ายปกติไม่ใช่ภาระหนี้ ในส่วนของ Greece ผมเห็นตัวเลขหนึ่งคือ 8.5% ซึ่งนับว่าสูงมาก ดังนั้นถึงแม้ Greece จะได้รับการให้ยืมเงินมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ตราสาร ต่างๆ แต่ตัว Primary Deficit นี้ก็ยังอยู่ และการหั่นงบประมาณเพื่อให้หนี้ลดลงมาให้อยู่ในข้อกำหนดของ Eurozone มีแต่ทำให้เศรษฐกิจแย่ลงไปอีก
ทีนี่ทำไงต่อดี ก็ต้องทำให้เศรษฐกิจฟื้น วิธีการที่เร็วที่สุดคือ ลดค่าเงินเพื่อให้ส่งออกได้ มิฉะนั้น Greece Spain Portugal นี่ไม่มีทางสู้ German ได้เลย แต่มันลดไม่ได้ถ้าไม่ออกจาก Euro วิธีการอื่นคือลดค่าจ้าง ที่เค้ากำลังทำอยู่
แต่ Krugman บอกว่า ประเทศเหล่านี้ต้องลดค่าจ้างถึง 20-30% จึงจะสู้เค้าได้ ซึ่งการลดขนาดนี้เป็นไปได้ยากมากที่จะทำโดยไม่เกิดความวุ่นวายทางสังคมและ การเมือง
วิธีการดูว่าวิกฤตหนี้สาธารณะตอนนี้ตลาดรู้สึกอย่าง ไร ง่ายสุดคือดูผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล (Treasury Yield) ผมก็ไม่ติดตามเรื่องนี้ในตอนแรกเหมือนกัน ถ้าตามก็จะเห็นได้ว่า Greece นั้นส่อแววร่อแร่มาตั้งแต่เดือน 11 ปีก่อนแล้ว หากต้องการดู 10yr Bond Yield ของ Greece วันต่อวัน ให้เข้าไปที่ link ข้างล่างนี้นะครับ (CDS Spread ก็เป็นอีกตัวนึง แต่หาข้อมูลยาก)
จะเห็นได้ว่า ตอนนี้ Yield อยู่ที่ต่ำกว่า 8% ยังสูงมากอยู่ แต่ดีกว่าก่อนหน้านี้มาก ผมจึงเชื่อว่า Greece จะไม่ default หนี้งวดแรกในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ (เขียนตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้วครับ แต่บ้านเมืองวุ่นวายเลยไม่ได้ลง)
แล้วโลกจะแตกหรือ คนที่เล่นทองอาจจะสนใจ ผมไม่ได้เขียนว่ารัฐบาลจะล้มละลายกันเป็นแถบๆ ทั้งโลก (http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 450.html#3) แต่ผมให้ข้อมูลเพื่อติดตามต่อเท่านั้นจริงๆผมชอบโลกที่ไม่แตกมากกว่านะครับ
ในส่วนของ IMF ได้ forecast ว่า มีโอกาสที่หนี้สาธารณะจะขึ้นไป peak ราวๆ ปี 2017 ก่อนจะลดลงในที่สุด ผมจึงได้เตือนไว้ในนี้ว่า หากทองพุ่งกระฉูดจากปัญหาหนี้สาธารณะจริงๆ ระวังท่านจะติดดอยตลอดชีวิต อีก 20 ปี ลูกหลานอาจจะบ่นว่า ท่านเอาก้อนอะไรไม่รู้เหลืองๆ มาให้เป็นมรดก (http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 450.html#5)
คนที่เล่นทองในระยะยาว โปรดจำกราฟนี้ไว้ในใจ และคอยพิสูจน์ว่า จริงๆแล้ว มันดีกว่า หรือแยกว่านี้
สนใจเรื่อง Sovereign Default ต้องอ่าน This time is Different หรือ คราวนี้ไม่เหมือนกันหรอกน่า ซึ่งผู้เขียนซึ่งเป็นอดีตนักเศรษฐศาสตร์ IMF ทำการศึกษาประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจในรอบ 700-800 ปี ได้ข้อสรุปว่า ครั้งนี้ก็เหมือนเดิมแหละ
ขอบคุณข้อมูลจาก IMF WEF Bloomberg S&P และ Moody's ครับ
บางท่านอาจจะงงๆ ว่า ผมไม่สนใจการเมืองเลยหรือ ผมไม่ค่อยมีหุ้นหรอกครับ
คนเราต้องชั่งน้ำหนัก ให้ได้ว่า ความโลภกับความเสี่ยง อะไรเป็นคุณแก่ชีวิตมากกว่ากัน ในบางช่วงเวลา อยู่เฉยๆดีกว่าครับ
บ้านเมืองเรามาถึงจุดนี้ได้ก็ ช่วยๆ กันพามาแหละครับ
ผมไม่เคย Forward Email หรือ Post กระทู้อะไรให้ใครเกลียดใครเลย
อยากให้มันจบอย่างเสียหายน้อยสุด แต่คงจะไม่แล้ว
ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองทุกท่าน
เงินน่ะ ไม่ตายก็หาใหม่ได้
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 70988.html