IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 1
ตามหาไอพีโอไตรมาส 1 จับตา บจ.กล้าไม่กลัวไฟ
เปิดศักราชปีเสือ หุ้นไอพีโอตลาดหุ้นไทยเงียบเหงาพอสมควร นับถอยหลังอีกไม่กี่วัน ก็จะหมดเดือน มี.ค.หรือ สิ้นสุดงวดไตรมาส 1/2553 แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววหุ้นน้องใหม่ไตรมาส 1 /2553 จะเข้ามาซื้อขายในกระดานหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น โดยไตรมาส 1/2553 มีการเข้ามาระดมทุนในรูปแบบการเข้าจดทะเบียนใหม่ของ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ IVL เป็นการระดมทุนในตลาดแรกมูลค่า 4,692 ล้านบาทเท่านั้น
และแม้ว่าหลายหน่วยงานทางเศรษฐกิจจะโหมข่าวว่าในปีนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว ประเมินจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ Gross Domestic Product (GDP) ทั้งปีมั่นใจว่าเป็นบวก แต่ภาพรวมของตลาดไอพีโอในไตรมาสแรกนี้ ก็ยังดูเงียบเหงา
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงต้นปี 2553 อยู่ที่ 677.22 จุด และในวันที่ 18 มี.ค. 2553 ดัชนีฯ ขยับขึ้นมาปิดที่ 759.02 จุด โดยมูลค่าการซื้อขายรวมทั้ง SET Index และ ตลาดหลักทรัพย์ mai แยกตามประเภทนักลงทุนพบว่า ในเดือน ก.พ. 2553 นักลงทุนต่างชาติมีบทบาทในการซื้อขายมากขึ้น โดยสัดส่วนของมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้น 21.95% ในเดือน ม.ค.2553 เป็น 23.62% ในเดือน ก.พ. 2553 และเปลี่ยนสถานะจากขายสุทธิต่อเนื่อง 3 เดือน เป็นซื้อสุทธิอยู่ที่ 5,410.87 ล้านบาท และหากประเมินจากแรงซื้อนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ 1 มี.ค. - 18 มี.ค. 2553 ซื้อสุทธิแล้วกว่า 27,810.76 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันต่างชาติ ก็ยังเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ หนุนให้ดัชนีฯ ขยับเพิ่มขึ้นควบคู่กับปริมาณการซื้อขายหนาแน่น
อย่างไรก็ดี คงจะปฎิเสธไม่ได้ปัญหาการเมืองภายในประเทศไทยที่วุ่นวาย โดยเฉพาะกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศกร้าวตั้งแต่ปลายปี ถึงแผนในการกระจายชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ด้วยการเคลื่อนไหวกดดันให้รัฐบาลลาออก ไม่เช่นนั้นจะกระจายการชุมนุมไปยังที่สถานที่ต่างๆ ที่สำคัญๆ ถือเป็นปัจจัยหลักที่กดดันต่อความมั่นใจการลงทุน ทำเอาหุ้นน้องใหม่ไอพีโอ ขยาดในการก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ย้อนรอยหุ้นไอพีโอ ในปี 2552 มีไอพีโอ 18 บริษัทเข้าซื้อขาย โดยในจำนวนนี้เข้าระดมทุนใน SET 7 บริษัท คือ BLA, GLOBAL, JMART, SENA, SMT, TTCL และ TISCO ส่วนตลาด mai มีจำนวน 11 บริษัท คือ AGE, AIM, HTECH, JUBILE, KIAT, MOONG, NBC, QLT, S2, THANA และ TPOLY
การเมืองที่พ่นพิษดังกล่าว ส่งผลกระทบกระเทือนถึงแผนระดมทุน โดยหลายบริษัทฯ เริ่มถอดใจ เลื่อนแผนระดม และบางบริษัทฯ ถึงขั้นเลื่อนแบบไม่มีกำหนด รายล่าสุด บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (มหาชน) ออกมายืดอกยอมรับว่าเลื่อนการขายหุ้นออกไปจากเดิมมีแผนที่จะเสนอขายหุ้นไอพีโอในช่วงเดือน ม.ค. 2553 ซึ่งไซเบอร์แพลนเน็ตฯ ทำธุรกิจพัฒนาซอฟท์แวร์เกม จะเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 60 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท โดยก่อนหน้านี้ได้กำหนดช่วงราคาขายไว้ที่หุ้นละ1.60-2.00 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ
รายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่มีแผนระดมทุนปี 2553 คือ บริษัทไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด(มหาชน) , บริษัท ธีระมงคลอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน), บริษัท โมทีฟ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน), บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน), บริษัท เซียร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน), บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน), บริษัท เอพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท บีทีเอส จำกัด (มหาชน) , บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก เวชกรรม จำกัด (มหาชน), บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอลฯ จำกัด (มหาชน), บริษัท สาลี่คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน)
รวมถึง บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนลฯ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน) , บริษัท บล.โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน), บริษัท บัณฑิต เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามโกลบอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน), บริษัท ซี.พี.แลนด์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท นิลโกศล จำกัด (มหาชน) , บริษัท แอล เอช ไฟแนนเชียลฯ จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีแมช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท คาร์ลตันอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน), บริษัท แม่น้ำสแตนเลสไวร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท รพ.เปาโล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ราชธานีบ้านและที่ดิน จำกัด (มหาชน)
ผู้เชี่ยวชาญด้านวงการหลักทรัพย์ต่างให้ความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ในช่วงไตรมาสแรกบรรยากาศหุ้นไอพีโอค่อนข้างเงียบเหงา กว่าจะเริ่มเห็น น้องใหม่หาญกล้าเข้าลงเทรดในกระดาน น่าจะประมาณกลางไตรมาส 2/2553 ซึ่งปัจจัยที่ยังมีผลต่อการตัดสินใจนำหุ้นเข้าเทรด อาทิ ปัจจัยการเมือง และภาวะเศรษฐกิจทั้งไทยและเทศ
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) กล่าวกับ eFinanceThai.com ว่าสาเหตุที่ในช่วงไตรมาส 1/2552 ไม่มีหุ้นไอพีโอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะบรรยากาศการลงทุนในไตรมาสแรกปีนี้ ไม่ค่อยเอื้ออำนวย ประกอบกับงบงวดปีของทุกๆ บริษัทฯ มักจะปิดช่วงเดือนมี.ค. ผนวกกับประเด็นการเมืองภายในประเทศ ที่ไม่มีความแน่นอน ทั้งการชุนนุมและการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ เป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันต่อภาพรวมของหุ้นไอพีโอในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแนวโน้มในไตรมาส 2/2553 บรรยากาศการลงทุนในตลาดฯ น่าจะดีขึ้น และประมาณการว่าในไตรมาส 3/2553 ทิศทางน่าจะดีขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งปัญหาการเมืองภายในประเทศ บวกภาพรวมตลาดฯ น่าจะดีขึ้น ส่งผลให้หุ้นไอพีโอ ในช่วงครึ่งปีหลังกลับเข้ามาเทรดในตลาดหุ้นไทยอย่างคึกคัก
สำหรับบริษัทฯ มีดีลไอพีโอ 3-4 ดีล มูลค่ารวมไม่ถึง 1 พันล้านบาท มีกลุ่ม เทเลคอม เอ็นจิเนียริ่ง ยานยนต์ บันเทิง โดยน่าจะได้เห็นเร็วสุดในไตรมาส 3/2553 ซึ่งขั้นตอนของลูกค้านั้น อยู่ในระหว่างการปิดงบงวดปี 2552 โดยเชื่อว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมี.ค. 2553 ทำให้ขั้นตอนน่าจะสรุปและเสร็จสมบูรณ์พร้อมเสนอขายหุ้นไอพีโอ ประมาณไตรมาส 3/2553
'มั่นใจว่า 3 - 4 ดีล จะสามารถเข้าในปีนี้ได้ทั้งหมด แต่ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา และภาวะตลาดฯ ที่เหมาะสม ซึ่งเข้าจดทะเบียนใน SET 2 แห่ง และ ตลาดหลักทรัพย์ mai 2 แห่ง'
ด้านนายวิชา โตมานะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวกับ eFinanceThai.com ว่ายอมรับว่าปัญหาการเมืองภายในประเทศ มีผลต่อการตัดสินใจนำหุ้นไอพีโอ เข้าเทรดในกระดานหลักทรัพย์ไทยที่โดยรวมแล้วบรรยากาศค่อนข้างที่จะซบเซา
'ถ้าภาวะเศรษฐกิจเติบโตดีในปีนี้ อาจจะได้เห็นการเข้ามาซื้อขายในกระดานมากขึ้น เพราะในช่วงปีที่ผ่านมามีหลายบริษัทฯ ที่อั้นเอาไว้ ไม่ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดฯ เพราะภาวะไม่ค่อยเอื้ออำนวย 'นายวิชา กล่าว
เขากล่าวว่า ในช่วงกลางปี 2553 น่าจะเริ่มเห็นการทยอยเข้ามาจดทะเบียนในกระดานหุ้นได้บ้าง เพราะหลายๆ บริษัทฯ เตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่ปีก่อนแล้ว ซึ่งหวังว่าให้สถานการณ์การเมืองไม่ยืดเยื้อ เพราะจะได้ทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นดีขึ้น
ดังนั้น น่าจะเห็นสัญญาณต่างๆ ที่ชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ทั้งความมั่นใจการลงทุนที่อาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจเข้ามาในกระดานหุ้น แต่ที่แน่ๆ ปัจจุบันที่ปรึกษาทางการเงินต่างเตรียมความพร้อมให้กับบริษัทจดทะเบียน เพื่อรอฟ้าเปิด แถมรอโอกาสที่บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งแต่ละค่ายก็มีลูกค้าตุนในมือเพียบ แต่ก็ยังกังวลว่า หากนำหุ้นใหม่เข้าเทรดในช่วงแรกอาจได้รับปัจจัยกดดันจากปัญหาการเมือง และทำให้หุ้นน้องใหม่ ที่จะเข้ามาโลดแล่นในกระดานไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร มุมมองของที่ปรึกษามือโปรแห่งวงการตลาดทุน ยังหวังลึกๆ ว่าในช่วงปลายไตรมาส2/2553 และในช่วงครึ่งปีหลัง น่าจะได้เห็นบรรยากาศของตลาดไอพีโอ กลับมาคึกคักกว่าในช่วงต้นปีแรก
ฟากของตลาดหลักทรัพย์ วาดแผนงานในปี 2553 ตั้งแต่ปลายปีก่อน ด้วยการเปิดเผยถึง 4 กลยุทธ์ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ บรรลุเป้าหมายที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาตลาดทุนไทยในระยะ 5 ปี โดยการตั้งเป้ามาร์เก็ตแคปหุ้นเข้าใหม่แสนล้าน ซึ่งตามแผนมีรัฐวิสาหกิจ 10 แห่ง มูลค่าระดมทุน 3,000 - 10,000 ล้านบาทต่อราย หวังเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยเช่นกัน
โดยนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่าในปี 2553 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินงานผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย 1. การเพิ่มคุณภาพ และยกระดับความน่าเชื่อถือของตลาดหุ้นไทย 2. การเพิ่มสภาพคล่อง 3. การสร้างฐานสำหรับอนาคต และ 4. การเตรียมความพร้อมรับกระบวนการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์ฯ
ทั้ง 4 กลยุทธ์ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ บรรลุเป้าหมายที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาตลาดทุนไทยในระยะ 5 ปี (2552-2555) คือ การมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดฯ หรือ มาร์เก็ตแคป จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 130% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ภายในระยะเวลา 5 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 76% นอกจากนี้ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ลงทุนเป็น 5% ของจำนวนประชากรทั้งหมด จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.5% อีกทั้งต้องการเพิ่มศักยภาพของตลาดทุนไทย เพื่อเพิ่มน้ำหนักในดัชนีเอ็มเอสซีไอ (MSCI Asia Ex-Japan) จากปัจจุบันที่ถูกปรับลดลงเหลือ 1.9% จากอดีตที่เคยอยู่ในระดับ 3-4%
ขณะที่นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์ และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตั้งเป้าปี 2553 มาร์เก็ตแคปตลาดฯ จะเพิ่มขึ้นจากบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ หรือหุ้นไอพีโอ ประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าดังกล่าวยังไม่รวมบริษัทฯ ที่จะเข้ามาจดทะเบียนแบบ 2 ตลาดฯ หรือดูอัล ลิสท์ติ้ง (Dual Listing) โดยเพิ่มจากปีนี้ 30,000-40,000 ล้านบาท จากบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ทั้งสิ้น 16 บริษัท
เขากล่าวว่า เพื่อให้สอดรับกับแผนกลยุทธ์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเน้นให้บริษัทขนาดใหญ่เข้าจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น และจากการทำงานร่วมกับภาครัฐ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ส่งผลให้มีบริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจที่จะเข้าจดทะเบียนในปีนี้มากถึง 10 ราย ซึ่งแต่ละบริษัทฯ มีมูลค่าการระดมทุนตั้งแต่ 3,000 -10,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นของผู้ลงทุนสถาบันในประเทศเป็น 12-15% (ณ มิ.ย. 2552 มีประมาณ 9.85%) ของมูลค่าตลาดรวม เพื่อเพิ่ม
เสถียรภาพตลาดทุนไทย และตั้งเป้าหมายมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ย 17,500-22,000 ล้านบาทต่อวัน และจำนวนสัญญา SET50 Index Futures ซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มเป็น 10,000-12,000 สัญญา
เมื่อภาวะตลาดไอพีโออยู่ในช่วงเงียบเหงาจากหลายปัจจัยที่บั่นทอนความเชื่อมั่น จากนี้ไปต้องจับตาดูการทำงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะต้องทำงานหนักขึ้นอย่างไร เพื่อให้ตลาดไอพีโอกลับมาคึกคัก และผลักดันให้แผนกลยุทธ์ทั้ง 4 ของตลาดฯ บรรลุเป้าหมายที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาตลาดทุนไทยในระยะ 5 ปี และที่สำคัญต้องรอลุ้นว่า 'ไอพีโอรายต่อไปคือใคร??' .....
http://www.efinancethai.com/SpReport/fr ... =r_190310r
เปิดศักราชปีเสือ หุ้นไอพีโอตลาดหุ้นไทยเงียบเหงาพอสมควร นับถอยหลังอีกไม่กี่วัน ก็จะหมดเดือน มี.ค.หรือ สิ้นสุดงวดไตรมาส 1/2553 แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววหุ้นน้องใหม่ไตรมาส 1 /2553 จะเข้ามาซื้อขายในกระดานหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น โดยไตรมาส 1/2553 มีการเข้ามาระดมทุนในรูปแบบการเข้าจดทะเบียนใหม่ของ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ IVL เป็นการระดมทุนในตลาดแรกมูลค่า 4,692 ล้านบาทเท่านั้น
และแม้ว่าหลายหน่วยงานทางเศรษฐกิจจะโหมข่าวว่าในปีนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว ประเมินจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ Gross Domestic Product (GDP) ทั้งปีมั่นใจว่าเป็นบวก แต่ภาพรวมของตลาดไอพีโอในไตรมาสแรกนี้ ก็ยังดูเงียบเหงา
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงต้นปี 2553 อยู่ที่ 677.22 จุด และในวันที่ 18 มี.ค. 2553 ดัชนีฯ ขยับขึ้นมาปิดที่ 759.02 จุด โดยมูลค่าการซื้อขายรวมทั้ง SET Index และ ตลาดหลักทรัพย์ mai แยกตามประเภทนักลงทุนพบว่า ในเดือน ก.พ. 2553 นักลงทุนต่างชาติมีบทบาทในการซื้อขายมากขึ้น โดยสัดส่วนของมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้น 21.95% ในเดือน ม.ค.2553 เป็น 23.62% ในเดือน ก.พ. 2553 และเปลี่ยนสถานะจากขายสุทธิต่อเนื่อง 3 เดือน เป็นซื้อสุทธิอยู่ที่ 5,410.87 ล้านบาท และหากประเมินจากแรงซื้อนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ 1 มี.ค. - 18 มี.ค. 2553 ซื้อสุทธิแล้วกว่า 27,810.76 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันต่างชาติ ก็ยังเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ หนุนให้ดัชนีฯ ขยับเพิ่มขึ้นควบคู่กับปริมาณการซื้อขายหนาแน่น
อย่างไรก็ดี คงจะปฎิเสธไม่ได้ปัญหาการเมืองภายในประเทศไทยที่วุ่นวาย โดยเฉพาะกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศกร้าวตั้งแต่ปลายปี ถึงแผนในการกระจายชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ด้วยการเคลื่อนไหวกดดันให้รัฐบาลลาออก ไม่เช่นนั้นจะกระจายการชุมนุมไปยังที่สถานที่ต่างๆ ที่สำคัญๆ ถือเป็นปัจจัยหลักที่กดดันต่อความมั่นใจการลงทุน ทำเอาหุ้นน้องใหม่ไอพีโอ ขยาดในการก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ย้อนรอยหุ้นไอพีโอ ในปี 2552 มีไอพีโอ 18 บริษัทเข้าซื้อขาย โดยในจำนวนนี้เข้าระดมทุนใน SET 7 บริษัท คือ BLA, GLOBAL, JMART, SENA, SMT, TTCL และ TISCO ส่วนตลาด mai มีจำนวน 11 บริษัท คือ AGE, AIM, HTECH, JUBILE, KIAT, MOONG, NBC, QLT, S2, THANA และ TPOLY
การเมืองที่พ่นพิษดังกล่าว ส่งผลกระทบกระเทือนถึงแผนระดมทุน โดยหลายบริษัทฯ เริ่มถอดใจ เลื่อนแผนระดม และบางบริษัทฯ ถึงขั้นเลื่อนแบบไม่มีกำหนด รายล่าสุด บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (มหาชน) ออกมายืดอกยอมรับว่าเลื่อนการขายหุ้นออกไปจากเดิมมีแผนที่จะเสนอขายหุ้นไอพีโอในช่วงเดือน ม.ค. 2553 ซึ่งไซเบอร์แพลนเน็ตฯ ทำธุรกิจพัฒนาซอฟท์แวร์เกม จะเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 60 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท โดยก่อนหน้านี้ได้กำหนดช่วงราคาขายไว้ที่หุ้นละ1.60-2.00 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ
รายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่มีแผนระดมทุนปี 2553 คือ บริษัทไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด(มหาชน) , บริษัท ธีระมงคลอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน), บริษัท โมทีฟ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน), บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน), บริษัท เซียร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน), บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน), บริษัท เอพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท บีทีเอส จำกัด (มหาชน) , บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก เวชกรรม จำกัด (มหาชน), บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอลฯ จำกัด (มหาชน), บริษัท สาลี่คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน)
รวมถึง บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนลฯ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน) , บริษัท บล.โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน), บริษัท บัณฑิต เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามโกลบอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน), บริษัท ซี.พี.แลนด์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท นิลโกศล จำกัด (มหาชน) , บริษัท แอล เอช ไฟแนนเชียลฯ จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีแมช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท คาร์ลตันอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน), บริษัท แม่น้ำสแตนเลสไวร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท รพ.เปาโล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ราชธานีบ้านและที่ดิน จำกัด (มหาชน)
ผู้เชี่ยวชาญด้านวงการหลักทรัพย์ต่างให้ความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ในช่วงไตรมาสแรกบรรยากาศหุ้นไอพีโอค่อนข้างเงียบเหงา กว่าจะเริ่มเห็น น้องใหม่หาญกล้าเข้าลงเทรดในกระดาน น่าจะประมาณกลางไตรมาส 2/2553 ซึ่งปัจจัยที่ยังมีผลต่อการตัดสินใจนำหุ้นเข้าเทรด อาทิ ปัจจัยการเมือง และภาวะเศรษฐกิจทั้งไทยและเทศ
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) กล่าวกับ eFinanceThai.com ว่าสาเหตุที่ในช่วงไตรมาส 1/2552 ไม่มีหุ้นไอพีโอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะบรรยากาศการลงทุนในไตรมาสแรกปีนี้ ไม่ค่อยเอื้ออำนวย ประกอบกับงบงวดปีของทุกๆ บริษัทฯ มักจะปิดช่วงเดือนมี.ค. ผนวกกับประเด็นการเมืองภายในประเทศ ที่ไม่มีความแน่นอน ทั้งการชุนนุมและการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ เป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันต่อภาพรวมของหุ้นไอพีโอในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแนวโน้มในไตรมาส 2/2553 บรรยากาศการลงทุนในตลาดฯ น่าจะดีขึ้น และประมาณการว่าในไตรมาส 3/2553 ทิศทางน่าจะดีขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งปัญหาการเมืองภายในประเทศ บวกภาพรวมตลาดฯ น่าจะดีขึ้น ส่งผลให้หุ้นไอพีโอ ในช่วงครึ่งปีหลังกลับเข้ามาเทรดในตลาดหุ้นไทยอย่างคึกคัก
สำหรับบริษัทฯ มีดีลไอพีโอ 3-4 ดีล มูลค่ารวมไม่ถึง 1 พันล้านบาท มีกลุ่ม เทเลคอม เอ็นจิเนียริ่ง ยานยนต์ บันเทิง โดยน่าจะได้เห็นเร็วสุดในไตรมาส 3/2553 ซึ่งขั้นตอนของลูกค้านั้น อยู่ในระหว่างการปิดงบงวดปี 2552 โดยเชื่อว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมี.ค. 2553 ทำให้ขั้นตอนน่าจะสรุปและเสร็จสมบูรณ์พร้อมเสนอขายหุ้นไอพีโอ ประมาณไตรมาส 3/2553
'มั่นใจว่า 3 - 4 ดีล จะสามารถเข้าในปีนี้ได้ทั้งหมด แต่ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา และภาวะตลาดฯ ที่เหมาะสม ซึ่งเข้าจดทะเบียนใน SET 2 แห่ง และ ตลาดหลักทรัพย์ mai 2 แห่ง'
ด้านนายวิชา โตมานะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวกับ eFinanceThai.com ว่ายอมรับว่าปัญหาการเมืองภายในประเทศ มีผลต่อการตัดสินใจนำหุ้นไอพีโอ เข้าเทรดในกระดานหลักทรัพย์ไทยที่โดยรวมแล้วบรรยากาศค่อนข้างที่จะซบเซา
'ถ้าภาวะเศรษฐกิจเติบโตดีในปีนี้ อาจจะได้เห็นการเข้ามาซื้อขายในกระดานมากขึ้น เพราะในช่วงปีที่ผ่านมามีหลายบริษัทฯ ที่อั้นเอาไว้ ไม่ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดฯ เพราะภาวะไม่ค่อยเอื้ออำนวย 'นายวิชา กล่าว
เขากล่าวว่า ในช่วงกลางปี 2553 น่าจะเริ่มเห็นการทยอยเข้ามาจดทะเบียนในกระดานหุ้นได้บ้าง เพราะหลายๆ บริษัทฯ เตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่ปีก่อนแล้ว ซึ่งหวังว่าให้สถานการณ์การเมืองไม่ยืดเยื้อ เพราะจะได้ทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นดีขึ้น
ดังนั้น น่าจะเห็นสัญญาณต่างๆ ที่ชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ทั้งความมั่นใจการลงทุนที่อาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจเข้ามาในกระดานหุ้น แต่ที่แน่ๆ ปัจจุบันที่ปรึกษาทางการเงินต่างเตรียมความพร้อมให้กับบริษัทจดทะเบียน เพื่อรอฟ้าเปิด แถมรอโอกาสที่บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งแต่ละค่ายก็มีลูกค้าตุนในมือเพียบ แต่ก็ยังกังวลว่า หากนำหุ้นใหม่เข้าเทรดในช่วงแรกอาจได้รับปัจจัยกดดันจากปัญหาการเมือง และทำให้หุ้นน้องใหม่ ที่จะเข้ามาโลดแล่นในกระดานไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร มุมมองของที่ปรึกษามือโปรแห่งวงการตลาดทุน ยังหวังลึกๆ ว่าในช่วงปลายไตรมาส2/2553 และในช่วงครึ่งปีหลัง น่าจะได้เห็นบรรยากาศของตลาดไอพีโอ กลับมาคึกคักกว่าในช่วงต้นปีแรก
ฟากของตลาดหลักทรัพย์ วาดแผนงานในปี 2553 ตั้งแต่ปลายปีก่อน ด้วยการเปิดเผยถึง 4 กลยุทธ์ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ บรรลุเป้าหมายที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาตลาดทุนไทยในระยะ 5 ปี โดยการตั้งเป้ามาร์เก็ตแคปหุ้นเข้าใหม่แสนล้าน ซึ่งตามแผนมีรัฐวิสาหกิจ 10 แห่ง มูลค่าระดมทุน 3,000 - 10,000 ล้านบาทต่อราย หวังเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยเช่นกัน
โดยนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่าในปี 2553 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินงานผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย 1. การเพิ่มคุณภาพ และยกระดับความน่าเชื่อถือของตลาดหุ้นไทย 2. การเพิ่มสภาพคล่อง 3. การสร้างฐานสำหรับอนาคต และ 4. การเตรียมความพร้อมรับกระบวนการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์ฯ
ทั้ง 4 กลยุทธ์ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ บรรลุเป้าหมายที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาตลาดทุนไทยในระยะ 5 ปี (2552-2555) คือ การมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดฯ หรือ มาร์เก็ตแคป จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 130% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ภายในระยะเวลา 5 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 76% นอกจากนี้ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ลงทุนเป็น 5% ของจำนวนประชากรทั้งหมด จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.5% อีกทั้งต้องการเพิ่มศักยภาพของตลาดทุนไทย เพื่อเพิ่มน้ำหนักในดัชนีเอ็มเอสซีไอ (MSCI Asia Ex-Japan) จากปัจจุบันที่ถูกปรับลดลงเหลือ 1.9% จากอดีตที่เคยอยู่ในระดับ 3-4%
ขณะที่นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์ และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตั้งเป้าปี 2553 มาร์เก็ตแคปตลาดฯ จะเพิ่มขึ้นจากบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ หรือหุ้นไอพีโอ ประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าดังกล่าวยังไม่รวมบริษัทฯ ที่จะเข้ามาจดทะเบียนแบบ 2 ตลาดฯ หรือดูอัล ลิสท์ติ้ง (Dual Listing) โดยเพิ่มจากปีนี้ 30,000-40,000 ล้านบาท จากบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ทั้งสิ้น 16 บริษัท
เขากล่าวว่า เพื่อให้สอดรับกับแผนกลยุทธ์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเน้นให้บริษัทขนาดใหญ่เข้าจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น และจากการทำงานร่วมกับภาครัฐ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ส่งผลให้มีบริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจที่จะเข้าจดทะเบียนในปีนี้มากถึง 10 ราย ซึ่งแต่ละบริษัทฯ มีมูลค่าการระดมทุนตั้งแต่ 3,000 -10,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นของผู้ลงทุนสถาบันในประเทศเป็น 12-15% (ณ มิ.ย. 2552 มีประมาณ 9.85%) ของมูลค่าตลาดรวม เพื่อเพิ่ม
เสถียรภาพตลาดทุนไทย และตั้งเป้าหมายมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ย 17,500-22,000 ล้านบาทต่อวัน และจำนวนสัญญา SET50 Index Futures ซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มเป็น 10,000-12,000 สัญญา
เมื่อภาวะตลาดไอพีโออยู่ในช่วงเงียบเหงาจากหลายปัจจัยที่บั่นทอนความเชื่อมั่น จากนี้ไปต้องจับตาดูการทำงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะต้องทำงานหนักขึ้นอย่างไร เพื่อให้ตลาดไอพีโอกลับมาคึกคัก และผลักดันให้แผนกลยุทธ์ทั้ง 4 ของตลาดฯ บรรลุเป้าหมายที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาตลาดทุนไทยในระยะ 5 ปี และที่สำคัญต้องรอลุ้นว่า 'ไอพีโอรายต่อไปคือใคร??' .....
http://www.efinancethai.com/SpReport/fr ... =r_190310r
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1588
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 2
cyber นี่ยึกยักๆอยู่นานไม่เข้าซะที :lol:
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 6
จะได้เข้าหรือตัวนี้
บริษัท บีทีเอส จำกัด (มหาชน)
เข้ามาก็ดีจะได้ถามว่า เมื่อไร สถานีสะพานตากสินขยายเป็น รางคู่ซักที
เพราะยืนคอยรถ BTS เกือบ 10 นาทีกว่าออกได้ที่สถานีวงเวียนใหญ่
รอวันนั้นอยู่น่า รีบเข้ามาถือ จะได้หายคาใจ
บริษัท บีทีเอส จำกัด (มหาชน)
เข้ามาก็ดีจะได้ถามว่า เมื่อไร สถานีสะพานตากสินขยายเป็น รางคู่ซักที
เพราะยืนคอยรถ BTS เกือบ 10 นาทีกว่าออกได้ที่สถานีวงเวียนใหญ่
รอวันนั้นอยู่น่า รีบเข้ามาถือ จะได้หายคาใจ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1588
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 7
1ทุ่มนี่กลับบ้านไม่ได้เลยนะครับ-_-"miracle เขียน:จะได้เข้าหรือตัวนี้
บริษัท บีทีเอส จำกัด (มหาชน)
เข้ามาก็ดีจะได้ถามว่า เมื่อไร สถานีสะพานตากสินขยายเป็น รางคู่ซักที
เพราะยืนคอยรถ BTS เกือบ 10 นาทีกว่าออกได้ที่สถานีวงเวียนใหญ่
รอวันนั้นอยู่น่า รีบเข้ามาถือ จะได้หายคาใจ
สายสุขุมวิทดีกว่าเยอะ
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
- Lu Xun
- Verified User
- โพสต์: 242
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 8
ผมว่า OfficeMate กับ วุฒิศักดิ์ คลินิก น่าสนใจนะครับเป็นธุรกิจต้นทุนต่ำทำกำไรสูง ผมสังเกตุว่าช่วง 1-2 ปีมานี่ขยายสาขาเยอะมาก เวลาผ่านไปแต่ละสาขาจะเห็นลูกค้านั่งรอคิวตลอดไม่ค่อยเห็นว่าง สมัยนี้ใครๆก็รักสวยรักงาม อยากหน้าเกาหลีกันทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้ชายนี่ตัวดีเลย อิอิ..
คู่แข่งที่เห็นๆก็มี
นิติพล
พรเกษม <<< มาตรฐานดีมากครับ (เคยแอบไปใช้บริการ) คนเยอะสุดๆ แน่นทุกสาขา เสียดายไม่เข้าตลาด :P
อยากฟังความเห็นพี่ neo ครับ
คู่แข่งที่เห็นๆก็มี
นิติพล
พรเกษม <<< มาตรฐานดีมากครับ (เคยแอบไปใช้บริการ) คนเยอะสุดๆ แน่นทุกสาขา เสียดายไม่เข้าตลาด :P
อยากฟังความเห็นพี่ neo ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 9
สองขบวนสายสุขุมวิท ต่อ หนึ่งขบวนของสายวงเวียนใหญ่neo_potato_Th เขียน: 1ทุ่มนี่กลับบ้านไม่ได้เลยนะครับ-_-"
สายสุขุมวิทดีกว่าเยอะ
ณ ชั้น สอง ของ สถานีสยาม
แถมมีวิ่งขบวนเปล่าอีกต่างหาก
ตัวที่น่าสนใจคือ เปาโล
วุฒิศักดิ์
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1588
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 10
[quote="Lu Xun"]ผมว่า OfficeMate กับ วุฒิศักดิ์ คลินิก น่าสนใจนะครับเป็นธุรกิจต้นทุนต่ำทำกำไรสูง ผมสังเกตุว่าช่วง 1-2 ปีมานี่ขยายสาขาเยอะมาก เวลาผ่านไปแต่ละสาขาจะเห็นลูกค้านั่งรอคิวตลอดไม่ค่อยเห็นว่าง สมัยนี้ใครๆก็รักสวยรักงาม อยากหน้าเกาหลีกันทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้ชายนี่ตัวดีเลย อิอิ..
คู่แข่งที่เห็นๆก็มี
นิติพล
พรเกษม <<< มาตรฐานดีมากครับ (เคยแอบไปใช้บริการ) คนเยอะสุดๆ แน่นทุกสาขา เสียดายไม่เข้าตลาด
คู่แข่งที่เห็นๆก็มี
นิติพล
พรเกษม <<< มาตรฐานดีมากครับ (เคยแอบไปใช้บริการ) คนเยอะสุดๆ แน่นทุกสาขา เสียดายไม่เข้าตลาด
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
-
- Verified User
- โพสต์: 983
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 11
วุฒิศักดิ์ คลินิก น่าสนใจดีครับ
เดินๆผ่านขนานผู้ชาย ยังมาใช้เยอะเลยแฮะ
แล้วร้านพวกนี้ที่เห็น คนเยอะทุกร้าน คงต้องรอดูต่อไป
เดินๆผ่านขนานผู้ชาย ยังมาใช้เยอะเลยแฮะ
แล้วร้านพวกนี้ที่เห็น คนเยอะทุกร้าน คงต้องรอดูต่อไป
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1588
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 12
ผู้ชายเป็นห่วงเรื่องสิว เยอะกว่าที่ผู้หญิงคิดนะครับ :lol:
แต่ผมหน้าใส
แต่ผมหน้าใส
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
-
- Verified User
- โพสต์: 608
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 14
ผมก็สนใจวุฒิศักดิ์ คลินิก ครับ(แฟนผมเป็นคนประหยัดครับ...แต่ทุกเดือนต้องกันงบไปทำหน้าเสมอครับ ) จริงอยากให้พี่หมอPaul VI ช่วยขยายคำพูดที่ว่า"ผมว่า สิ่งสำคัญ คือเรื่อง ธรรมาภิบาล นะครับ ดูกันให้ดีๆ" ไม่รู้ว่าพี่หมอจะสะดวกตอบห้องนี้หรือย้ายไปตอบที่ห้องwcm ก็ได้ครับ
เด็กสระบุรี
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 15
ใสจริงอ่ะ 555Lu Xun เขียน:
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1588
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 17
ใสจริงอ่ะ 555dome@perth เขียน:
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 18
นั่นนะซิครับ ควรจะเป็นรางคู่ได้แล้วนะ...ที่จริงมันไม่ควรจะเป็นรางเดี่ยวต้องแต่แรกแล้วละ ผมว่านะ555+miracle เขียน:จะได้เข้าหรือตัวนี้
บริษัท บีทีเอส จำกัด (มหาชน)
เข้ามาก็ดีจะได้ถามว่า เมื่อไร สถานีสะพานตากสินขยายเป็น รางคู่ซักที
เพราะยืนคอยรถ BTS เกือบ 10 นาทีกว่าออกได้ที่สถานีวงเวียนใหญ่
รอวันนั้นอยู่น่า รีบเข้ามาถือ จะได้หายคาใจ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 19
พี่พอล กับ นีโอ นี่ไปไหนไปกันเป็นคู่เลยแฮะ...
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 21
น้อง นีโอ เค้าขยันกว่าผมเยอะครับ เค้าไปทั่วครับ ของผม มีแค่เข้ามาดู ร้อยหุ้น แล้วก็ดูแค่ 3-4 ตัวเองครับ แล้วก็ห้องนั่งเล่น ผมมีเวลาได้แค่นี้เองครับSEHJU เขียน:พี่พอล กับ นีโอ นี่ไปไหนไปกันเป็นคู่เลยแฮะ...
- Nikkei kung
- Verified User
- โพสต์: 50
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 22
นั่นนะซิครับpicklife เขียน:
-
- Verified User
- โพสต์: 358
- ผู้ติดตาม: 0
IPO ทีเตรียมจะเข้า ตลท.
โพสต์ที่ 25
หลายตัวไม่มีข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เลย ไม่รู้ว่าข้อมูลเรื่องนี้หาได้จากไหนอีกครับ :?