อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
- green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 1
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบันหน่อยครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง พอดีไปอ่านเจอคุณ ส.สลึง (ขออนุญาติพาดพิงหน่อยนะครับพี่ ถ้าจะดีพี่ช่วยแชร์หน่อยครับ) บอกไว้ว่าขาดทุน 52% แล้วไม่ cut loss และซื้อเพิ่ม เลยอยากให้มาแชร์ประสบการ์ณกับน้องๆ มือใหม่ (ผมด้วย) เพิ่อรับมือกับอนาคตที่อาจจะเกิดหน่อยครับ ว่าทำอะไรยังไงกัน บ้าง แล้ว ผลตอบแทนเป็นอย่างไร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 2
ขออนุญาตใช้สิทธิ์ถูกพาดพิง 
ปกติผมเป็นนักลงทุนที่ bias ค่อนข้างมาก
ระวัง ! อาจจะต้องมานั่งเก็กซิมเหมือนผม :lol: ...
ปกติผมเป็นนักลงทุนที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาครับ
พอร์ตก็ค่อนข้างเล็ก เพิ่งลงทุนแบบนี้มาแค่ 4 ปีเอง
ไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากมายครับ :lol:
ในปี 51 ตอนนั้นผมคิดอย่างนี้ครับ
ประเด็นแรกผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หุ้นจะขึ้น
ประเด็นที่สอง หุ้นในมือผมมั่นใจว่ามัน Undervalue
แต่ปัญหาก็คือ หุ้นในมือในลงมามากกว่าตลาด
ผมก็เลยปรับพอร์ตไปถือหุ้นตัวอื่นที่คิดว่าปลอดภัยมากกว่า
และเป็นหุ้นที่แข็งแกร่งมากกว่า แค่นั้นเองครับ
ผลตอบแทนในปี 52 ของผมจึงค่อนข้างธรรมดา
เพราะหุ้นพวกนี้ตอนกลับมา ขึ้นมาไม่ค่อยเยอะ
แต่ชนะตลาด ผมก็คือว่าโอเคแล้วครับ
แค่ชนะตลาดไปเรื่อยๆ หลายๆ ปี ผมว่า ก็เท่มากแล้วครับ
ไม่ต้องถึงขั้นเทพก็ได้ :lol:
ช่วงที่หัดทำใจใหม่ๆ ผมคิดอย่างนี้ครับ
เวลาดูหุ้นในพอร์ตตัวเอง ผมก็จะถามตัวเองครับ
ว่าราคานี้ คุณจะขายมั๊ย..? ในเมื่อมันแดงซะขนาด
(ก่อนจะลงไปตั้ง -52%)
คำตอบของผมในตอนนั้นคือ ซื้อครับ ไม่ใช่ขาย
ผมก็เลยทยอยซื้อและถือมาเรื่อย ไม่ได้คิดอะไรครับ
ประเด็นคือ เราต้องรู้ว่า หุ้นที่เรามี
ราคามันลงเพราะอะไร
เงินก็เหมือนหุ้นครับ ตรงที่ตายไปแล้วเอาติดตัวไปด้วยไม่ได้
หุ้นตกที่ตลาด แต่ใจอยู่กับตัว หุ้นจะขึ้นจะลง
ใจก็อยู่กับตัว จะให้ใจไปขึ้นไปลงตามหุ้นทำไม ?
ส่วนตัว ผมเป็นแค่นักลงทุน part time ครับ
เวลาส่วนใหญ่ยังไปอยู่ในงานประจำ แต่ก็เจียดเวลาติดตามข่าวสาร
วันละ 1-2 ชม. แค่นั้น
ปล.
วิกฤติไม่รู้จะยาวนานแค่ไหน แต่ที่ผ่านมา หุ้นตกแรงๆ แค่ปีเดียว
ไม่มีผลกับการลงทุนของผมเท่าไหร่ครับ และนี่คือสถิติ 4 ปีของผม
ที่พอไปวัดไปวาได้ :lol:
'49 +29.45%
'50 +29.22%
'51 -52.04%
'52 +77.02% (ยังไม่ทันหมดปีก็นับภรรยาเสียแล้ว :lol: )
สถิติบอกว่ายิ่งลงทุนให้ยาว เราจะไม่ขาดทุน
และผมก็เจออย่างนั้นมากับตัวเหมือนกัน
...
มีความสุขกับการลงทุนครับ
...

ปกติผมเป็นนักลงทุนที่ bias ค่อนข้างมาก
ระวัง ! อาจจะต้องมานั่งเก็กซิมเหมือนผม :lol: ...
ปกติผมเป็นนักลงทุนที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาครับ
พอร์ตก็ค่อนข้างเล็ก เพิ่งลงทุนแบบนี้มาแค่ 4 ปีเอง
ไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากมายครับ :lol:
ในปี 51 ตอนนั้นผมคิดอย่างนี้ครับ
ประเด็นแรกผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หุ้นจะขึ้น
ประเด็นที่สอง หุ้นในมือผมมั่นใจว่ามัน Undervalue
แต่ปัญหาก็คือ หุ้นในมือในลงมามากกว่าตลาด
ผมก็เลยปรับพอร์ตไปถือหุ้นตัวอื่นที่คิดว่าปลอดภัยมากกว่า
และเป็นหุ้นที่แข็งแกร่งมากกว่า แค่นั้นเองครับ
ผลตอบแทนในปี 52 ของผมจึงค่อนข้างธรรมดา
เพราะหุ้นพวกนี้ตอนกลับมา ขึ้นมาไม่ค่อยเยอะ
แต่ชนะตลาด ผมก็คือว่าโอเคแล้วครับ
แค่ชนะตลาดไปเรื่อยๆ หลายๆ ปี ผมว่า ก็เท่มากแล้วครับ
ไม่ต้องถึงขั้นเทพก็ได้ :lol:
ช่วงที่หัดทำใจใหม่ๆ ผมคิดอย่างนี้ครับ
เวลาดูหุ้นในพอร์ตตัวเอง ผมก็จะถามตัวเองครับ
ว่าราคานี้ คุณจะขายมั๊ย..? ในเมื่อมันแดงซะขนาด
(ก่อนจะลงไปตั้ง -52%)
คำตอบของผมในตอนนั้นคือ ซื้อครับ ไม่ใช่ขาย
ผมก็เลยทยอยซื้อและถือมาเรื่อย ไม่ได้คิดอะไรครับ
ประเด็นคือ เราต้องรู้ว่า หุ้นที่เรามี
ราคามันลงเพราะอะไร
เงินก็เหมือนหุ้นครับ ตรงที่ตายไปแล้วเอาติดตัวไปด้วยไม่ได้
หุ้นตกที่ตลาด แต่ใจอยู่กับตัว หุ้นจะขึ้นจะลง
ใจก็อยู่กับตัว จะให้ใจไปขึ้นไปลงตามหุ้นทำไม ?
ส่วนตัว ผมเป็นแค่นักลงทุน part time ครับ

เวลาส่วนใหญ่ยังไปอยู่ในงานประจำ แต่ก็เจียดเวลาติดตามข่าวสาร
วันละ 1-2 ชม. แค่นั้น
ปล.
วิกฤติไม่รู้จะยาวนานแค่ไหน แต่ที่ผ่านมา หุ้นตกแรงๆ แค่ปีเดียว
ไม่มีผลกับการลงทุนของผมเท่าไหร่ครับ และนี่คือสถิติ 4 ปีของผม
ที่พอไปวัดไปวาได้ :lol:
'49 +29.45%
'50 +29.22%
'51 -52.04%
'52 +77.02% (ยังไม่ทันหมดปีก็นับภรรยาเสียแล้ว :lol: )
สถิติบอกว่ายิ่งลงทุนให้ยาว เราจะไม่ขาดทุน
และผมก็เจออย่างนั้นมากับตัวเหมือนกัน

มีความสุขกับการลงทุนครับ

-
- Verified User
- โพสต์: 1088
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 3
ช่วงนั้นซัดแหลกครับคิดว่ายังไงก็ไม่ขาดทุนนานเลยซื้อเฉลี่ยขาลงไปเรื่อยๆ
แต่ตอนนั้นความรู้เกี่ยวกับหุ้นน้อยยังไม่ค่อยรู้จักหุ้นเลยพลาดโอกาสเก็บหุ้นดีๆไปหลายตัวเช่น DCC, PR, PB, SAT
หุ้นบางตัวช่วงวิกฤติดูเหมือนแพงแต่จริงๆถูกเช่น CPALL ตอนวิกฤตินี่ P/E สูงกว่าชาวบ้านเค้าเพื่อนรู้สึกตอนผมดูมัน 8-9 บาท p/e 14 นึกว่าแพงเลยอดเป็นเจ้าของเลย
มี surprise หลายอย่างเช่นธุรกิจอสังหา คิดว่าคนไม่น่าซื้อบ้านซื้อคอนโดช่วงที่ ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจยังมีอยู่ แต่ดันกลายเป็นยุคทองอสังหาไปซะนี่
ธุรกิจหมวดเกษตร นี่ก็เกินคาดเห็นมันเดี้ยงๆมาตลอดไม่คิดว่ามันจะดีได้
:lol:
แต่ตอนนั้นความรู้เกี่ยวกับหุ้นน้อยยังไม่ค่อยรู้จักหุ้นเลยพลาดโอกาสเก็บหุ้นดีๆไปหลายตัวเช่น DCC, PR, PB, SAT
หุ้นบางตัวช่วงวิกฤติดูเหมือนแพงแต่จริงๆถูกเช่น CPALL ตอนวิกฤตินี่ P/E สูงกว่าชาวบ้านเค้าเพื่อนรู้สึกตอนผมดูมัน 8-9 บาท p/e 14 นึกว่าแพงเลยอดเป็นเจ้าของเลย
มี surprise หลายอย่างเช่นธุรกิจอสังหา คิดว่าคนไม่น่าซื้อบ้านซื้อคอนโดช่วงที่ ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจยังมีอยู่ แต่ดันกลายเป็นยุคทองอสังหาไปซะนี่
ธุรกิจหมวดเกษตร นี่ก็เกินคาดเห็นมันเดี้ยงๆมาตลอดไม่คิดว่ามันจะดีได้
:lol:
เล่นหุ้นคนแก่ แต่แอบเปรี้ยวเป็นบางเวลา
- green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 4
โห ถ้าผมได้แค่ 20-30% ทุกปี ผมก็พอใจแล้วครับ ( ไม่ขาดทุนเป็นพอ ) เพราะจริงๆ ผมตั้งเป้าไว้แค่ 10% ต่อปีแค่นั้นเองครับ ไม่อยากคาดหวังมาก เพราะปีนี้ ใครเข้าถูกจังหวะ จิ่มตัวไหนยังไง ก็โดนครับ'49 +29.45%
'50 +29.22%
'51 -52.04%
'52 +77.02% (ยังไม่ทันหมดปีก็นับภรรยาเสียแล้ว :lol: )
ส่วนประสบการ์ณส่วนตัวของผมเริ่มลงทุนมาแค่ปีกว่าๆ เอง เริ่มครั้งแรกเดือน กพ ปีที่แล้วครับ แต่ยังไม่ได้ซื้อทันทีหรอกครับ มาซื้อเอาตอนหุ้นใกล้ตกแล้ว ตอนนั้นไม่รู้ทำไงก็อ่านบทวิเคราะห์ของโบรก และก็ซื้อเฉพาะหุ้นที่โบรกวิเคราะห์ เพราะไม่มีความรุ้เรื่องงบการเงิน เริ่มไม่ถูกครับ ซื้อหุ้นได้ไม่นานปรากฏว่าขาดทุน (แบบว่าไม่ยอมตัดใจขาย เพราะยึดหลักไม่ขายไม่ขาดทุน555) แต่ก็ไม่มีตังซื้อเพิ่ม ขาดทุนไป 50+% ใจตอนตั้งซื้อ ใจงี้สั่นครับ เห็นราคาหุ้นมันวิ่งขี้นวิ่งลง (แบบว่าคนมันไม่เคย) เพราะครอบครัวไม่เคยซื้อหุ้นและมองว่าเป็นการพนัน แต่พอได้มาศึกษาจริงๆ มันไม่ใช่ หวังว่าปีต่อๆไปจะไม่ขาดทุน 555 ก็เลยอยากเตรียมตัวรับกับความผันผวนในอนาคตข้างหน้าครับ และคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะมือใหม่เหมือนผม อิอิ
ขอบคุณสำหรับประสบการ์ณอันมีค่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 5
หลักการง่ายของผมคือมองหุ้นที่เราต้องการ(ที่เราถืออยู่) ว่าราคานี้ถ้าเราไม่มีหุ้นเราจะซื้อไหม
:D

อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 7
ขอบคุณพี่ส้มเขียวหวานครับ
ทำให้ผมพบว่าข้อมูลของผมผิดไป
'49 +78.06%
'50 +29.24%
'51 -51.99%
'52 +77.12%
สำหรับเทคนิดของผม ไม่มีอะไรพิเศษครับ
2 ปีแรก แนวคิดของ ปีเตอรํลินช์ กับ
อ.นิเวศน์ ค่อนข้างมีอิทธิพลกับผมมาก
ส่วนงบ ผมอ่านก็ไม่ค่อยเป็นหรอกครับ
แต่ใช่ว่าไม่ดูเลย
ขอเป็นกำลังใจให้มือใหม่ครับ
และคิดว่าคงพบแนวทางของตัวเองสักวัน
อย่าลืมว่าเงินปันผลสามารถเอามาต่อยอดได้
ทำให้การชนะตลาดไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป
ทำให้ผมพบว่าข้อมูลของผมผิดไป
'49 +78.06%
'50 +29.24%
'51 -51.99%
'52 +77.12%
สำหรับเทคนิดของผม ไม่มีอะไรพิเศษครับ
2 ปีแรก แนวคิดของ ปีเตอรํลินช์ กับ
อ.นิเวศน์ ค่อนข้างมีอิทธิพลกับผมมาก
ส่วนงบ ผมอ่านก็ไม่ค่อยเป็นหรอกครับ
แต่ใช่ว่าไม่ดูเลย
ขอเป็นกำลังใจให้มือใหม่ครับ
และคิดว่าคงพบแนวทางของตัวเองสักวัน
อย่าลืมว่าเงินปันผลสามารถเอามาต่อยอดได้
ทำให้การชนะตลาดไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป
- green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 8
แล้วคุณ ส สลึง มีแนวการลงทุนอย่างไรครับจากตอนนี้เป็นต้นไป ส่วนผมเอง ก็คงจะเน้นแนวปลอดภัยหน่อยครับ กลยุทธคือรักษาเงินต้น ส่วนความเสี่ยงก็คงต้องดูผลตอบแทนเปรียบเทียบสักหน่อย ได้สัก 20% ก็หรูแล้วครับ ไม่อยากโลภมาก แต่ถ้าได้ก็ดีครับ 555ส.สลึง เขียน:ขอบคุณพี่ส้มเขียวหวานครับ
ทำให้ผมพบว่าข้อมูลของผมผิดไป
'49 +78.06%
'50 +29.24%
'51 -51.99%
'52 +77.12%
สำหรับเทคนิดของผม ไม่มีอะไรพิเศษครับ
2 ปีแรก แนวคิดของ ปีเตอรํลินช์ กับ
อ.นิเวศน์ ค่อนข้างมีอิทธิพลกับผมมาก
ส่วนงบ ผมอ่านก็ไม่ค่อยเป็นหรอกครับ
แต่ใช่ว่าไม่ดูเลย
ขอเป็นกำลังใจให้มือใหม่ครับ
และคิดว่าคงพบแนวทางของตัวเองสักวัน
อย่าลืมว่าเงินปันผลสามารถเอามาต่อยอดได้
ทำให้การชนะตลาดไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2455
- ผู้ติดตาม: 1
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 9
ประสบการณ์เหมือนคุณ ส.สลึง แต่ผลตอบแทนน้อยกว่าพอสมควร :oops: :oops: :oops:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 10
แนวทางของผมไม่ค่อยนิ่งครับพี่ส้มเขียวหวานgreen-orange เขียน:แล้วคุณ ส สลึง มีแนวการลงทุนอย่างไรครับจากตอนนี้เป็นต้นไป ส่วนผมเอง ก็คงจะเน้นแนวปลอดภัยหน่อยครับ กลยุทธคือรักษาเงินต้น ส่วนความเสี่ยงก็คงต้องดูผลตอบแทนเปรียบเทียบสักหน่อย ได้สัก 20% ก็หรูแล้วครับ ไม่อยากโลภมาก แต่ถ้าได้ก็ดีครับ 555

ก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ครับ
แค่เคยได้รับประโยชน์จากบอร์ดวันนี้ก็เลยอยากทำอะไรคืนให้บอร์ดบ้าง
แต่ออกแนวป่วนสักหน่อย :lol:
ส่วนตัวผมไม่ค่อยติดกับเงินต้นมากนักครับ
ซื้อหุ้นมาขาดทุน วิเคราะห์แล้วเราพลาด ผมก็ขายๆๆ ครับ หาซื้อตัวใหม่
ในขณะเดียวกัน หุ้นราคาขึ้นมาเยอะแล้ว แต่เราวิเคราะห์แล้วว่าใช่ๆๆ
ผมก็ขายตัวที่คิดว่าด้อยกว่าออกไป แล้วก็ซื้อๆๆ ตัวใหม่เข้ามาครับ แค่นั่น...
แต่ก็ใช่ว่าผมจะทำได้ซะทุกครั้งครับ
หลายครั้งผมก็ซื้อเพราะอารมณ์
และหลายครั้งที่ถือหุ้นเพราะมี bias :lol: ...
ในขณะเดียวกัน
ผมก็เคยรอดปลอดภัยจากหุ้นที่ผมว่าไม่เข้าใจ แต่คนอื่นบอกว่าดี
และก็มีหลายครั้งครับ ที่ผมพลาดหุ้นดีๆ ไป เพราะคิดว่าราคามันแพงเกินไป

ปล.
แนวคิดไม่ได้มีอะไรพิเศษครับ ทั้ง อ.นิเวศน์ , Perter Lynch
แล้วก็ความคิดจากพี่ๆ ใน thaivi ที่นี่ หาอ่านได้ทั่วไปนี่แหละ

- green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 12
[quote="ส.สลึง"][quote="sorawut"]ประสบการณ์เหมือนคุณ ส.สลึง แต่ผลตอบแทนน้อยกว่าพอสมควร
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2455
- ผู้ติดตาม: 1
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 13
[quote="ส.สลึง"][quote="sorawut"]ประสบการณ์เหมือนคุณ ส.สลึง แต่ผลตอบแทนน้อยกว่าพอสมควร
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 772
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 14
[quote="sorawut"][quote="ส.สลึง"][quote="sorawut"]
เสร็จเลยครับ ลบไป 40% ของต้นที่มากขึ้น 4 เท่า
ค่าเล่าเรียนแพงจริงๆ (เป็น UMS ไปซัก 20%)
เสร็จเลยครับ ลบไป 40% ของต้นที่มากขึ้น 4 เท่า
ค่าเล่าเรียนแพงจริงๆ (เป็น UMS ไปซัก 20%)

ร็อคกี้ บัลโบว : ชีวิตไม่สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่าเรารับการโดนต่อยได้แค่ไหน (ชีวิตจุดสำคัญอยู่ที่การทนทุกข์ มากกว่าการประสบสุข)
- green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 15
[quote="sorawut"][quote="ส.สลึง"][quote="sorawut"]ประสบการณ์เหมือนคุณ ส.สลึง แต่ผลตอบแทนน้อยกว่าพอสมควร
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2455
- ผู้ติดตาม: 1
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 16
ของผม -20% ของ port นะครับ แต่มี UMS แค่ 35% ของ portJimmy เขียน:หวัดดีครับพี่ sorawut ตั้งแต่โดน คุณ ชัยวัตน์ สับขาหลอกตอนนั้นของผมเจอไป 13% ก็ซิ่งแล้วเพราะ port เล็ก หลังจากตอนนั้นก็ไม่ค่อยได้คุยกับพี่เลยแอบนึกถึง 555

เจอกับดัก VI ไปหามูลค่าจากผลประกอบการณ์สุดหรู (แต่ไม่ใช่เพราะความสามารถที่ยั่งยืนของบริษัท)
รู้ raw info แต่ไม่ค่อยประมวลผล เชื่อลมปากผู้บริหาร มั่นใจเกินเหตุ แล้วปกติเป็นคนถือทน ถือนานด้วย

แถมยังมี tender offer ให้เจ็บใจอีก เพราะถ้าไม่ตัดใจขายออกไปเพราะงบ Q2 ก็จะสามารถล้างขาดทุนของ UMS ได้หมด แถมกำไรอีกต่างหาก

พอเห็นงบ Q3 แล้วก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า เราคิดถูกแล้ว ที่ไม่ซื้อ lottery (เพราะไม่มีโชค) :lol: :lol: :lol:
ศิษย์สำนักเดียวกันนี่เอง :lol: :lol: :lol:Jimmy เขียน: ของผมแรก ๆ ก็ลงทุนหุ้น big cap ต่าง ๆ ครับ มาเจอ AR 28% หลังจากนั้นไปอบรมคอร์ส biz model กับอ. มน รู้สึกจะรุ่นเดี๋ยวกันพี่ Sorawut ครับ แล้วก็พยายาวิเคราะห์ธุรกิจตามmodel มันอยู่ เคยวิะเคราะห์ lanna ตาม 5 force ส่ง อ. มน แกบอกว่ายังใช่ไม่ได้ ก็เลยหาหนังสือทบทวนอยู่ว่าจะวิเคราะห์ 5 force ส่งแกอีกครั้ง
ทำไมถึงเลือก LANNA ล่ะครับ

ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2455
- ผู้ติดตาม: 1
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 17
ซื้อแล้วไม่มีจังหวะให้ขายเลยครับ ทรงกับทรุดยาวเกือบครึ่งปี ถ้าดูแต่จังหวะ ซื้อจังหวะไหนก็มีแต่เสียgreen-orange เขียน:ผมคิดว่าจังหวะในการเข้าลงทุนก็มีผลพอสมควรเลยนะครับ ซึ่งโดยปกติแล้วก็ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าหุ้นจะขี้นหรือลงตอนไหน แต่เซียนๆมักจะบอกว่าให้ลงหุ้นตลอดเวลา ส่วนตัวผมไม่เชื่อหรอกครับ ถ้าวิกฤตมันมาแล้ว มันก็มักจะลงทั้งกระดานอย่างรอบที่เพิ่งผ่านมา แต่ที่เค้าบอกอย่างนั้นผมคิดว่าเป็นเพราะพวกเค้าไม่รู้มากกว่ารวมทั้งพวกเราด้วย ปีที่แล้วผมก็โดนเหมือนคุณ SORAWUT เหมือนกันครับ 555 (บทเรียนราคาแสนแพง)
แต่ถ้าผมพิจารณาที่มาที่ไป และความมั่นคงของกำไรก่อนซื้อแล้วลองคำนวณมูลค่าดู
ผมจะไม่ซื้อที่ราคานั้นตั้งแต่แรกเลยครับ อาจจะมาซื้ออีกทีก็ 13 บาท (ในตอนนั้น) ซึ่งก็ยังกำไรอยู่เพราะขายไป 15 บาท

ผมคิดว่า ผมยังมีโชคอยู่บ้างไม่ซื้อหุ้นแบบนี้ตอนตลาดปกติ แล้วมีปัญหาเฉพาะ sector นี้
เพราะหมดโอกาสเปลี่ยนไปซื้อตัวอื่น และล้างขาดทุนได้เร็วขนาดนี้ (แม้ว่าจะช้ากว่าท่านอื่นๆหลายขุมก็ตาม :lol: :lol: :lol:)
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 18
คล้ายกันครับgreen-orange เขียน:ตอนแรกๆ ผมเลื่อกลงทุนเฉพาะหุ้นปันผลครับ ตัวไหนปันผลน้อย ไม่ซื้อ แต่ตอนนี้ไม่แล้วครับ ดูผลประกอบการเป็นหลัก อันไหนไม่รู้ก็ไม่ซื้อครับ แล้วก็เคยมีแบบว่าแอบหวงหรือ bias หุ้นด้วยครับ แบบว่าชอบตัวนี้ไม่อยากขายแม้ว่าราคาจะขี้นมาเยอะมากแล้ว แต่ตอนนี้คิดว่าไม่เป็นแล้วครับ แล้วปกติคุณ ส สลึง ชอบลงทุนหุ้นกลุ่มไหนเหรอครับ
สมัยที่ผมลงทุนช่วงแรกๆ ประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว
ผมจะเลือกลงทุนเพราะดูปันผลเป็นหลัก
(เพราะก่อนหน้านั้นกล้าๆ กลัวๆ จนมีแต่หน่วยลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ครับ

ต่อมา พอเริ่มทำความรู้จักกับแนวคิดอย่าง VI
จึงเริ่มเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้น จนกระทั่งใส่เต็มพอร์ตมา 4 ปีนี่แหละครับ

สำหรับเรื่องกลุ่มลงทุน ผมไม่มีรักใครชอบใครพิเศษ
บางครั้งอ่านข่าว นสพ. อยู่ก็บิงโก จากนั้นก็หาข้อมูลเพิ่มนิดหน่อย
อะไรประมาณนั้นครับ แต่ระยะหลัง พยายามเลี่ยงธุรกิจที่ตัวเองไม่รู้เรื่องมากกว่า
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 20
ไม่ใช่เซียน แต่ในฐานะที่ผมถือหุ้นเต็มพอร์ต ผมว่าแนวคิดนี้green-orange เขียน:ผมคิดว่าจังหวะในการเข้าลงทุนก็มีผลพอสมควรเลยนะครับ ซึ่งโดยปกติแล้วก็ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าหุ้นจะขี้นหรือลงตอนไหน แต่เซียนๆมักจะบอกว่าให้ลงหุ้นตลอดเวลา ส่วนตัวผมไม่เชื่อหรอกครับ ถ้าวิกฤตมันมาแล้ว มันก็มักจะลงทั้งกระดานอย่างรอบที่เพิ่งผ่านมา แต่ที่เค้าบอกอย่างนั้นผมคิดว่าเป็นเพราะพวกเค้าไม่รู้มากกว่ารวมทั้งพวกเราด้วย ปีที่แล้วผมก็โดนเหมือนคุณ SORAWUT เหมือนกันครับ 555 (บทเรียนราคาแสนแพง)
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร คือผมมีความคิดอย่างนี้นะครับ

ว่าผมซื้อหุ้น คือการเอาเงินไปแลกหุ้น สิ่งที่ผมมีอยู่ในมือคือหุ้น
เงินที่อยู่ในมือผมคือเงินสดต่อหุ้น กำไรต่อหุ้น
แล้วก็ความสามารถในการหาเงินสดต่อหุ้นในปีต่อๆ ไป
ไม่ใช่เงินจำนวนเท่ากับมูลค่าหุ้นที่อยู่ในกระดานนะขณะนั้นครับ

และเพราะผมคิดอย่างนี้ เหตุการณ์ในปีที่แล้ว
ผมจึงไม่ใคร่ใส่ใจว่าผมโดนอะไร แต่เป็นบทเรียนล้ำค่าที่สุด
ที่ได้ทดสอบว่าแนวคิดที่เรากำลังสนใจ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

สิ่งที่ผมสนใจคือมูลค่าที่เป็นต่อหุ้นในมือ
และแสวงหาหุ้นที่ให้มูลค่าสูงกว่า หรือปลอดภัยกว่าหุ้นที่อยู่ในมือ
มากกว่า..ที่จะคิดว่าหุ้นมีมูลค่าเท่ากับเงินสดตามราคาตลาด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 21
ไม่มีโอกาสไปเรียนหนังสือกะเขาครับJimmy เขียน:ของผมแรก ๆ ก็ลงทุนหุ้น big cap ต่าง ๆ ครับ มาเจอ AR 28% หลังจากนั้นไปอบรมคอร์ส biz model กับอ. มน รู้สึกจะรุ่นเดี๋ยวกันพี่ Sorawut ครับ แล้วก็พยายาวิเคราะห์ธุรกิจตามmodel มันอยู่ เคยวิะเคราะห์ lanna ตาม 5 force ส่ง อ. มน แกบอกว่ายังใช่ไม่ได้ ก็เลยหาหนังสือทบทวนอยู่ว่าจะวิเคราะห์ 5 force ส่งแกอีกครั้ง
ป.ล. แอบชอบLogo พี่ ส สลึง พี่หาภาพนี้ได้ยังไงครับ
แต่ก็ติดตามผลงาน พี่มนฯ ตลอดครับ
เล่มล่าสุดของพี่เรื่องทองๆ ผมอ่านไปหลับไป :lol:...
ปล.
Logo หาไม่อยากครับ เพราะเจอโดยบังเอิญ :lol:
แต่ข้อความ เอามาแปะเองครับ

- romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 22
แชร์บ้างช่วงปีที่ผ่านมานี้ ผมติดหุ้นในช่วงต้นปี แดงเถือก เกือบ 50% ของพอร์ต เพราะไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ซื้อตามการกรองหุ้นจากไฟล์พี่ครรชิต
เงินก็ไม่มีจะซื้อเพิ่ม ก็เลยสวิตซ์ตัว ตามที่หลายๆท่านแนะนำ...
และก็มีบางตัว ทนถือ ติดไว้งั้น...จนสิ้นปีนี้ ปรากฎว่า พอร์ตผม กลับมาบวกได้แล้วทั้งพอร์ต สาเหตุหลักๆ ที่ผมมานั่งคิดๆดู เพราะ !!!
1. หุ้นที่ผมถือ และทนถือ ตอนแรกตลาดไม่ตอบรับ พอตลาดหลักทรัพย์ และตลาด Thaivi ตอบรับด้วย ก็ยิ่งวิ่งไปใหญ่เลย (โดนจังๆ มาสามตัวละ ณ ตอนนี้ พอร์ตผมเขียวแว้ว )
2.ไม่หนีออกจากตลาด ในตอนที่ต่ำเตี้ยสุดๆ เพราะยังเชื่อในธุรกิจของหุ้นตัวเอง (แต่ก็มีขายทิ้ง กับตัวที่ไม่แน่ใจกับมัน)
ถ้าถือหุ้น ก่อนที่ตลาด thaivi จะฮิตด้วยนะ รับรอง วิ่งยาวค๊าบ แบบผมนี้แหละ :oops:
เงินก็ไม่มีจะซื้อเพิ่ม ก็เลยสวิตซ์ตัว ตามที่หลายๆท่านแนะนำ...
และก็มีบางตัว ทนถือ ติดไว้งั้น...จนสิ้นปีนี้ ปรากฎว่า พอร์ตผม กลับมาบวกได้แล้วทั้งพอร์ต สาเหตุหลักๆ ที่ผมมานั่งคิดๆดู เพราะ !!!
1. หุ้นที่ผมถือ และทนถือ ตอนแรกตลาดไม่ตอบรับ พอตลาดหลักทรัพย์ และตลาด Thaivi ตอบรับด้วย ก็ยิ่งวิ่งไปใหญ่เลย (โดนจังๆ มาสามตัวละ ณ ตอนนี้ พอร์ตผมเขียวแว้ว )
2.ไม่หนีออกจากตลาด ในตอนที่ต่ำเตี้ยสุดๆ เพราะยังเชื่อในธุรกิจของหุ้นตัวเอง (แต่ก็มีขายทิ้ง กับตัวที่ไม่แน่ใจกับมัน)
ถ้าถือหุ้น ก่อนที่ตลาด thaivi จะฮิตด้วยนะ รับรอง วิ่งยาวค๊าบ แบบผมนี้แหละ :oops:
-
- Verified User
- โพสต์: 237
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 23
ผมใช้โอกาสครึ่งปีหลังของปี 51 ปรับเปลี่ยนพอร์ตครั้งใหญ่ครับ
แต่พอร์ตผมค่อนข้างใหญ่ จึงปรับได้แค่ 30%ของมูลค่าเท่านั้น
แนวคิดในการปรับพอร์ตของผมเป็นอย่างนี้ครับ
ขั้นแรกขายหุ้นในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบตรง(แน่ๆ)ออกจากพอร์ตหมด ได้แก่ UMS,MINT,MAJOR,SAT,STANLY
ขาดทุนไป 20-40% ของราคาตอนต้นปี แต่หลายตัวที่ถือมานาน ก้อยังมีกำไร (เทียบกับราคาซื้อ)เหลือเยอะ อย่าง UMS(2 ปี),MINT(4ปี),
-ขั้นต่อไป หาซื้อหุ้นดีๆที่ศึกษาไว้ แล้วราคาตกลงมามาก ทั้งๆที่ธุรกิจไม่ได้ถูกกระทบจากวิกฤต(มากนัก) อย่างไม่รีบร้อน เพราะมีเวลา ทะยอยตั้งซื้อก้อได้ อย่าง DSGT PATO KSL TUF etc. สองตัวแรกจ่ายปันผลเกิน 10% ของราคาตอนซื้อครับ
แต่พอร์ตผมค่อนข้างใหญ่ จึงปรับได้แค่ 30%ของมูลค่าเท่านั้น
แนวคิดในการปรับพอร์ตของผมเป็นอย่างนี้ครับ
ขั้นแรกขายหุ้นในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบตรง(แน่ๆ)ออกจากพอร์ตหมด ได้แก่ UMS,MINT,MAJOR,SAT,STANLY
ขาดทุนไป 20-40% ของราคาตอนต้นปี แต่หลายตัวที่ถือมานาน ก้อยังมีกำไร (เทียบกับราคาซื้อ)เหลือเยอะ อย่าง UMS(2 ปี),MINT(4ปี),
-ขั้นต่อไป หาซื้อหุ้นดีๆที่ศึกษาไว้ แล้วราคาตกลงมามาก ทั้งๆที่ธุรกิจไม่ได้ถูกกระทบจากวิกฤต(มากนัก) อย่างไม่รีบร้อน เพราะมีเวลา ทะยอยตั้งซื้อก้อได้ อย่าง DSGT PATO KSL TUF etc. สองตัวแรกจ่ายปันผลเกิน 10% ของราคาตอนซื้อครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 237
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 24
ลืมบอกไป ผมก้อเหมือนคุญ ส.สลึง ,ดอกเตอร์ และหลายคนในห้องนี้ที่ถือหุ้นเกิน 95% ของเงินทีมี ผมไม่มีเงินฝากประจำ ไม่มีพันธบัตร มีกองทุน RMF/LTF
การปรับเปลี่ยนพอร์ต ครั้งใหญ่อย่างนี้ ตัดใจทำได้ ก้อเมื่อมีวิกฤตเท่านั้น
การปรับเปลี่ยนพอร์ต ครั้งใหญ่อย่างนี้ ตัดใจทำได้ ก้อเมื่อมีวิกฤตเท่านั้น
- green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 25
ไม่ทราบว่าพอปรับพอร์ตแล้ว ผลตอบแทนเป็นยังไงบ้างครับ ถ้าเที่ยบกับผลขาดทุนที่เกิดขี้นครับharn เขียน:ลืมบอกไป ผมก้อเหมือนคุญ ส.สลึง ,ดอกเตอร์ และหลายคนในห้องนี้ที่ถือหุ้นเกิน 95% ของเงินทีมี ผมไม่มีเงินฝากประจำ ไม่มีพันธบัตร มีกองทุน RMF/LTF
การปรับเปลี่ยนพอร์ต ครั้งใหญ่อย่างนี้ ตัดใจทำได้ ก้อเมื่อมีวิกฤตเท่านั้น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 26
ปีที่แล้วผมโดนหนักจาก SAT กับ STANLY ครับharn เขียน:...ขั้นแรกขายหุ้นในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบตรง(แน่ๆ)ออกจากพอร์ตหมด ได้แก่ UMS,MINT,MAJOR,SAT,STANLY
ขาดทุนไป 20-40% ของราคาตอนต้นปี แต่หลายตัวที่ถือมานาน ก้อยังมีกำไร (เทียบกับราคาซื้อ)เหลือเยอะ อย่าง UMS(2 ปี),MINT(4ปี)...
แต่ผมพอร์ตเล็ก ปรับตัวง่าย

-
- Verified User
- โพสต์: 237
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 27
ถ้าคิดเทียบมูลค่าพอร์ตหุ้นต้นปี กับปลายปี 51 สรุปผลเป็นขาดทุน 10.72% โดยไม่คิดเงินปันผล ถ้าเอาปันผลกับเครดิตภาษีมาคิด ก้อคงขาดทุนนิดหน่อยgreen-orange เขียน: ไม่ทราบว่าพอปรับพอร์ตแล้ว ผลตอบแทนเป็นยังไงบ้างครับ ถ้าเที่ยบกับผลขาดทุนที่เกิดขี้นครับ
พอคิดเทียบมูลค่าพอร์ตหุ้นต้นปี 52 กับตอนนี้ ได้กำไร 53.02% แล้วครับ
แต่ถ้าเทียบย้อนไปถึงต้นปี 51 ได้กำไรแค่ 36.71% คิดเป็นทบต้น ก้อ 16.xxน้อยกว่าค่าเฉลี่ยที่ทำไว้ 4-5 ปีครับ
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 29
พอดีอ่านที่พี่หมอโพสในกระทู้ ทฤษฎี ปลูกพืช ตามที่ขอครับ ครับ แล้วผมก็คิดถึงกระทู้ที่ขึ้นมา... ขอร่วมแชร์หน่อยนะครับ
[quote="สามัญชน"]อ้อ.......มีเรื่องแปลกๆเรื่องหนึ่ง
สมมติว่ามี 100 คน
[quote="สามัญชน"]อ้อ.......มีเรื่องแปลกๆเรื่องหนึ่ง
สมมติว่ามี 100 คน
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
อยากให้คนมีประสบการ์ณมาแชร์เรื่องราวก่อนวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
โพสต์ที่ 30

การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com