จะสรุปความคิดเห็นของแต่ละท่านแยกกันเป็นคนละตอนนะครับ เพราะค่อนข้างยาว ^^"
เนื่องจากว่าชั่วโมงบินของผมเรื่องเศรษฐกิจและการลงทุน อาจจะยังไม่เยอะมาก หากมีส่วนไหนของข้อมูลที่สรุปมาผิดพลาด หรือ ทะแม่งๆ ... comment มาได้เลยนะครับ จะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ
ดร. ก้องเกียรติ
* สิ่งที่ต้องจับตามองในปีหน้า เงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และ ตัวเลขการว่างงานของ US
- มีโอกาสที่เงินเฟ้อสูง อัตราดอกเบี้ยจะขึ้น (AUS ขึ้นไปแล้วสองครั้ง) ระวังว่า US จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า นอกจากนั้นให้ดูตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 10.2x% สูงสุดในรอบ 20 กว่าปี
- ภาพรวมในปีหน้ามีแนวโน้มว่าไม่สดใสเท่ากับปีนี้ ไม่ทรง ก็ ทรุด
* Competitive Advantage ระยะยาวของไทยน่าเป็นห่วง
- มีการคาดคะเนว่าไทยจะมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในปีหน้าอยู่ที่ 3-4% ซึ่งพอๆกับค่าเฉลี่ยการเติบโตเศรษฐกิจของโลก (สังเกตุว่าเวลาหุ้นต่างประเทศปรับตัวไปในทิศทางไหนเราก้อจะปรับตามเค้า) ซึ่ง ถ้าดูประเทศที่สำคัญๆ เช่น จีน (9%) อินเดีย และ อินโดนีเซีย (> 5%) (ประเทศอินโดนีเซียมีทรัพยากรทางธรรมชาติที่สมบูรณ์มากในประเทศหนึ่งในย่านอาเซียน นอกจากนั้น การเมืองของเค้ามีเสถียรภาพ หลังจากล้มลุกคลุกคลานมาสักพักใหญ่ๆ) แสดงให้เห็นว่าเม็ดเงินที่เข้ามาในประเทศเราไม่มากเท่าที่ควรจะเป็น ทั้งๆที่เรามีจุดแข็ง เช่นเรื่องอาหาร การท่องเที่ยว เป็นต้น ตัวเลขการเติบโตของประเทศที่พัฒนาแล้วเค้าโตน้อยๆได้เพราะเม็ดเงินที่ต้องใช้มีมูลค่าที่สูงมาก
* เราควรได้ประโยชน์จากการเติบโตของจีนมากกว่านี้
- ปัจจุบันจีนมีมาตรการทางการเงินคือ ควบคุมค่าเงินหยวนให้ไปในทิศทางเดียวกันกับUSD ไม่ได้ยอมปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งเหมือนกับประเทศอื่นๆ ผลพลอยได้คือทำให้ตัวเลขการส่งออกของจีนดี (เพราะเงินสกุลอื่นแข็งค่ากัน)
- เรื่องที่จะมีพูดคุยในประชุม APEC เรื่องนึงคือ เสถียรภาพของ USD ซึ่งทำให้หลายๆประเทศกำลังประสบกับปัญหาการส่งออกอยู่ในขณะนี้
- จีน อินเดีย และพวก Emerging Market จะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังไม่ได้ความช่วยเหลือจากจีนมากเท่าที่ควรจะเป็น เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน ที่เกาะตามจีนไปแล้ว เช่น สิงคโปร์ หรือ มาเลเซีย (ในช่วงที่บ้านเรามีปัญหามาบตาพุต มาเลเซียมีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ คล้ายๆกับ BOI บ้านเรา มีการลดหย่อนสิทธิทางภาษี 10%) ข้อต่อภายในของประเทศไทยเองควรมีการขับเคลื่อนให้เป็นขบวนเดียวกันมากกว่านี้
* Sector ที่น่าสนใจในปีหน้า
- High Yield/Dividend คุณโอภาสให้มุมมองที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ สาเหตุที่หุ้นไทยมีการปันผลมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านเนื่องจาก หุ้นส่วนใหญ่ของไทยยังมีเจ้าของเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่

- เริ่มสังเกตุได้ว่ามีการควบรวมกิจการมากขึ้น ราคาหุ้นตัวที่จะถูกควบรวมก็มีโอกาสสูงที่ราคาจะเพิ่มขึ้น
- บริษัทที่มีความเป็นสากลมากขึ้น มีการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ช่วยลดความเสี่ยงปัจจัยภายในประเทศ
- กลุ่มค้าปลีก/เกี่ยวกับการใช้สอยภายในประเทศ
ตอนต่อไปจะแชร์มุมมองของคุณไพบูลย์นะครับ ส่วนตัวผมชอบมาก แกอธิบายที่มาที่ไปของนโยบายการเงินและการคลังของสหรัฐว่าทำอย่างไรถึงทำให้ USD อ่อนและส่งผลถึงตลาดทุน และ commodityได้มากถึงขนาดนี้