จัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ
- garry
- Verified User
- โพสต์: 8
- ผู้ติดตาม: 0
จัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ
โพสต์ที่ 1
อยากทราบว่า การจัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ ใครมีวิธีลงทุนกันอย่างไรบ้่างครับ ช่วยเสนอแนะหน่อย อย่างเช่น ลงทุน กลุ้มอสังหา 25% สื่อสาร 25% ธนาคาร 25% พลังงานอีก 25%
แนะนำด้วยครับ อยากรู้จิงๆ ว่าแต่ละคนเล่นกันแนวไหน จะได้นำมาใช้ปรับ พอร์ทการลงทุนบ้างครับ
ขอบคุณครับ
แนะนำด้วยครับ อยากรู้จิงๆ ว่าแต่ละคนเล่นกันแนวไหน จะได้นำมาใช้ปรับ พอร์ทการลงทุนบ้างครับ
ขอบคุณครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
จัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ
โพสต์ที่ 2
ถ้าจัดพอร์ทโดยเฉลี่ยสัดส่วนตามกลุ่มอุตสาหกรรม ก็เท่ากับว่า...garry เขียน:...อย่างเช่น ลงทุน กลุ่มอสังหา 25% สื่อสาร 25% ธนาคาร 25% พลังงานอีก 25%...
เป็นการทำให้ความเสี่ยงกระจายตัวครับ เช่น ในขณะที่กลุ่มนี้เต็มไปด้วยข่าวร้าย
อีกกลุ่มนึงก็อาจจะเต็มไปด้วยข่าวดี ราคาหุ้นก็จะถัวๆ กัน ฟังแล้วดูดี
เข้าใจง่าย ทำให้การลงทุนในหุ้นฟังดูน่าสนใจ หรือเปล่า..?
สำหรับผม ไม่ได้ดูเป็นรายอุตสาหกรรมครับ แต่ดูเป็นรายกิจการ
ตัวไหนมั่นใจมากก็ซื้อมาก ตัวไหนมั่นใจน้อยก็ซื้อน้อยครับ
แบบว่าอาศัยคิดเองมั่ง ลอกการบ้านเค้าไปเรื่อยๆ มั่ง
คนแถวๆ นี้แหละ :lol:
ปล.
แต่ละคนก็คงคนละสไตล์มั้งครับ รอท่านถัดไปนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
จัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ
โพสต์ที่ 3
กระจายความเสี่ยงนะคับ แต่ความเสี่ยงอาจจะไม่ได้ลดลง
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1475
- ผู้ติดตาม: 0
จัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ
โพสต์ที่ 4
วิธีกระจายไปหลายอุตสาหกรรมเป็นวิธีที่ดีครับ แต่บริษัทที่เลือกก็ต้องทำความเข้าใจมันด้วยครับ เริ่มจากบทวิเคราะห์ของโบรคเกอร์ แล้วลงลึกไปรายงานประจำปีและรายงานผลประกอบการ อะไรที่เราเข้าใจดีจะช่วยให้ประเมินระดับความเสี่ยงได้ครับ
- baby-investor
- Verified User
- โพสต์: 312
- ผู้ติดตาม: 0
จัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ
โพสต์ที่ 5
%การจัดพอร์ตลงทุน ผมว่าต้องขึ้นกับสถานะการณ์ด้วยครับ เช่น ช่วงก่อนหน้านี้ถ้าถือหุ้น defensive จะปลอดภัย พอช่วงที่ดัชนีลงลึกๆจนหุ้นดีๆราคาถูกมากๆจึงเปลี่ยนมาถือหุ้นที่มีโอกาสดีดกลับมากหน่อย อย่างไรก็ตามในช่วงต่างๆผมว่าก็ควรกระจายหลายๆอุตสาหกรรมครับ แต่ทั้งนี้ต้องประเมินให้ออกด้วยนะครับว่าหลังเศรษฐกิจฟื้น หุ้นที่ถือไว้จะต้องกลับมา อย่างน้อยต้องเท่ากับที่เคยทำไว้ในช่วงก่อนวิกฤต
-
- Verified User
- โพสต์: 191
- ผู้ติดตาม: 0
จัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ
โพสต์ที่ 6
ผมมีความเห็นว่า
การจัดพอร์ตเพื่อเฉลี่ยความเสี่ยงนั้น ควรจะมีหลักทรัพย์ประมาณ 3-10 ตัวตามแต่ละขนาดของพอร์ตครับ ซึ่งอาจมากถึง 20 ตัวก็ได้ครับถ้าพอร์ตของคุณใหญ่ ซึ่งโดยส่วนตัวผมคิดว่าการลงทุนนั้นเราควรลงทุนแต่ในธุรกิจที่เราเข้าใจความเป็นมาของยอดขายของกิจการ ปัจจัยที่กำหนดต้นทุนของกิจการ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าเข้าใจที่มาที่ไปของกำไรของกิจการครับ และควรหลีกเลี่ยงธุรกิจ หรือ อุตสาหกรรม ที่เราไม่รู้จักที่มาที่ไปของกำไรของมันเลย เพราะถ้าเราลงทุนโดยที่ไม่รู้อะไรเลยถือเป็นความเสี่ยงมาก ส่วนการจัดพอร์ตหรือแบ่งสรรปันส่วนเงินทุนของเราลงในธุรกิจที่เราเลือกสรร เราอาจจะใช้หลักในความมั่นใจในการประเมินกำไรในอนาคตของเรา โดยถ้าหากมั่นใจมากก็อาจจะจัดสัดส่วนที่ 40% ก็ได้ครับ มั่นใจรองลงมาก็อาจจะ 30% 20% 10% ตามลำดับครับ ซึ่งในระยะแรกของการประเมินกิจการของคุณผมอยากจะแนะนำให้ลองให้สัดส่วนการลงทุนในแต่ละกิจการไม่เกิน 20% ก่อนครับ เพื่อเป็นการฝึกฝนฝีมือจนช่ำชองในการประเมินแล้วถึงเพิ่มสัดส่วนขึ้นครับ
ข้อแนะนำหลักของผมคือ มั่นใจมากที่สุดก็ให้สัดส่วนมากสุด และ ก็ลดสัดส่วนไปตามความมั่นใจครับ และข้อที่สำคัญที่สุดถ้าคุณไม่มั่นใจในหลักทรัพย์ไหนเลย ก็ไม่ควรลงทุนในเวลานั้นครับ และ จงลงทุนในหลักทรัพย์ที่คุณมั่นใจมากกว่า 70% เท่านั้น
ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการลงทุนนะครับ โชคดีครับ.........!!!
การจัดพอร์ตเพื่อเฉลี่ยความเสี่ยงนั้น ควรจะมีหลักทรัพย์ประมาณ 3-10 ตัวตามแต่ละขนาดของพอร์ตครับ ซึ่งอาจมากถึง 20 ตัวก็ได้ครับถ้าพอร์ตของคุณใหญ่ ซึ่งโดยส่วนตัวผมคิดว่าการลงทุนนั้นเราควรลงทุนแต่ในธุรกิจที่เราเข้าใจความเป็นมาของยอดขายของกิจการ ปัจจัยที่กำหนดต้นทุนของกิจการ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าเข้าใจที่มาที่ไปของกำไรของกิจการครับ และควรหลีกเลี่ยงธุรกิจ หรือ อุตสาหกรรม ที่เราไม่รู้จักที่มาที่ไปของกำไรของมันเลย เพราะถ้าเราลงทุนโดยที่ไม่รู้อะไรเลยถือเป็นความเสี่ยงมาก ส่วนการจัดพอร์ตหรือแบ่งสรรปันส่วนเงินทุนของเราลงในธุรกิจที่เราเลือกสรร เราอาจจะใช้หลักในความมั่นใจในการประเมินกำไรในอนาคตของเรา โดยถ้าหากมั่นใจมากก็อาจจะจัดสัดส่วนที่ 40% ก็ได้ครับ มั่นใจรองลงมาก็อาจจะ 30% 20% 10% ตามลำดับครับ ซึ่งในระยะแรกของการประเมินกิจการของคุณผมอยากจะแนะนำให้ลองให้สัดส่วนการลงทุนในแต่ละกิจการไม่เกิน 20% ก่อนครับ เพื่อเป็นการฝึกฝนฝีมือจนช่ำชองในการประเมินแล้วถึงเพิ่มสัดส่วนขึ้นครับ
ข้อแนะนำหลักของผมคือ มั่นใจมากที่สุดก็ให้สัดส่วนมากสุด และ ก็ลดสัดส่วนไปตามความมั่นใจครับ และข้อที่สำคัญที่สุดถ้าคุณไม่มั่นใจในหลักทรัพย์ไหนเลย ก็ไม่ควรลงทุนในเวลานั้นครับ และ จงลงทุนในหลักทรัพย์ที่คุณมั่นใจมากกว่า 70% เท่านั้น
ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการลงทุนนะครับ โชคดีครับ.........!!!
- krisy
- Verified User
- โพสต์: 736
- ผู้ติดตาม: 0
จัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ
โพสต์ที่ 7
ให้ดูกับพอร์ตทั้งหมดด้วย ในกรณีที่เงินของคุณบางส่วนอยู่ในกองทุน พันธบัตร หรือ เงินฝาก ที่ดิน แม้กระทั่ง ทองคำ
ถ้าเงินส่วนใหญ่กองในแหล่งที่ safe เช่นพันธบัตร พอร์ตหุ้นก็น่าจะจัดในอุตสาหกรรมที่ราคาสวิงได้ หรือเห็นอนาคตที่ดีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าอ่านกิจการขาดหรือเปล่า คือรับความเสี่ยงได้พอควรเลย
แต่ถ้าเงินเกือบทั้งหมดอยู่ในหุ้น คุณจัดพอร์ตสวิงแบบข้างต้นไม่ได้อยู่แล้ว อาจจะกระจายความเสี่ยงให้ครอบคลุม
ถ้าเงินกองในทองคำ คุณก็อาจ hedge บางส่วนกับกลุ่มน้ำมันก็ได้ (บางทีมันก็สัมพันธ์กันนะ)
สรุป แล้วแต่ชอบ เงินใครก็ต้องตามใจคนนั้นจ้า
ถ้าเงินส่วนใหญ่กองในแหล่งที่ safe เช่นพันธบัตร พอร์ตหุ้นก็น่าจะจัดในอุตสาหกรรมที่ราคาสวิงได้ หรือเห็นอนาคตที่ดีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าอ่านกิจการขาดหรือเปล่า คือรับความเสี่ยงได้พอควรเลย
แต่ถ้าเงินเกือบทั้งหมดอยู่ในหุ้น คุณจัดพอร์ตสวิงแบบข้างต้นไม่ได้อยู่แล้ว อาจจะกระจายความเสี่ยงให้ครอบคลุม
ถ้าเงินกองในทองคำ คุณก็อาจ hedge บางส่วนกับกลุ่มน้ำมันก็ได้ (บางทีมันก็สัมพันธ์กันนะ)
สรุป แล้วแต่ชอบ เงินใครก็ต้องตามใจคนนั้นจ้า
.....Give Everything but not Give Up.....
-
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
จัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ
โพสต์ที่ 8
ผมดูเป็นรายตัวครับ ไม่เจาะจงว่าต้องกลุ่มนี้ กลุ่มนั้นแบ่งเป็น % และก็ถือไม่เกินครั้งละ 4 ตัวครับ
พอร์ตยังไม่ใหญ่เลยต้องถือน้อยตัวหน่อยครับ แต่ตอนคัดหุ้นนี่จะลำบากใจนิดนึงเพราะเลือกตัวนี้ก็เสียดายอีกตัว
พอร์ตยังไม่ใหญ่เลยต้องถือน้อยตัวหน่อยครับ แต่ตอนคัดหุ้นนี่จะลำบากใจนิดนึงเพราะเลือกตัวนี้ก็เสียดายอีกตัว
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
จัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ
โพสต์ที่ 9
จัดอย่างไงก็ไม่ถูกใจซักที
หากใจมันยังวุ่นวายว่า ต้องได้ทำนั้นเท่านี้
มันคือกิเลสที่อยากมีอยากได้
ตามมาด้วย ความอิจฉา ทำไมคนอื่นถึงทำได้
เนี่ยคือคิดคิดปรุงแต่งขึ้นมา
ถ้าหากคิดกลับ แล้วสงสัยว่า
เอ๋ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ เขียนไว้แบบนี้ เอามาลองบ้างเป็นอย่างไง
เอ๋ แบบนี้เหมาะสมกับเราหรือไม่ แบบนี้คือสิ่งที่ดี แต่ยังไม่สุด
ก็ต้องดูว่า สิ่งที่ทำไปแล้วนั้น มีตัวเปรียบเทียบหรือไม่
ไม่ต้องเปรียบเทียบคนอื่นหรอก เปรียบเทียบกับ ดัชนีของตลาดก็พอรู้แล้วว่าอะไรคืออะไร และเปรียบกับของเดิมที่ทำไว้ ว่าดีหรือเลวลงอย่างไง
แค่นี้ก็สอบผ่านแล้ว
ส่วนเรื่องจัดพอร์ตอย่างไงให้เหมาะสมนั้น
ผมขอเปรียบเทียบกับการทำต้มยำกุ้งหนึ่งหม้อ
บ้างเจ้าบอกว่าต้องใส่น้ำปลายี่ห้อ A มากหน่อยรสชาติดี
บ้างเจ้าบอกว่า ต้องใช้มะนาวแป้นเท่านั้นถึงอะไร
บ้างเจ้าบอกว่า ใส่นมสดยี่ห้อ ก ถึงอร่อยกล่มกล่อม
บ้างเจ้าบอกว่า ใส่กระทิ ถึงหอมมัน
แล้วอย่างคือสิ่งที่ดีที่สุด สำหรับคนทานต้มยำกุ้งล่ะ
บอกไม่ได้ นอกจากคนทานต้มยำกุ้ง เอารสชาติไหน
แค่นี้ล่ะ
หากใจมันยังวุ่นวายว่า ต้องได้ทำนั้นเท่านี้
มันคือกิเลสที่อยากมีอยากได้
ตามมาด้วย ความอิจฉา ทำไมคนอื่นถึงทำได้
เนี่ยคือคิดคิดปรุงแต่งขึ้นมา
ถ้าหากคิดกลับ แล้วสงสัยว่า
เอ๋ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ เขียนไว้แบบนี้ เอามาลองบ้างเป็นอย่างไง
เอ๋ แบบนี้เหมาะสมกับเราหรือไม่ แบบนี้คือสิ่งที่ดี แต่ยังไม่สุด
ก็ต้องดูว่า สิ่งที่ทำไปแล้วนั้น มีตัวเปรียบเทียบหรือไม่
ไม่ต้องเปรียบเทียบคนอื่นหรอก เปรียบเทียบกับ ดัชนีของตลาดก็พอรู้แล้วว่าอะไรคืออะไร และเปรียบกับของเดิมที่ทำไว้ ว่าดีหรือเลวลงอย่างไง
แค่นี้ก็สอบผ่านแล้ว
ส่วนเรื่องจัดพอร์ตอย่างไงให้เหมาะสมนั้น
ผมขอเปรียบเทียบกับการทำต้มยำกุ้งหนึ่งหม้อ
บ้างเจ้าบอกว่าต้องใส่น้ำปลายี่ห้อ A มากหน่อยรสชาติดี
บ้างเจ้าบอกว่า ต้องใช้มะนาวแป้นเท่านั้นถึงอะไร
บ้างเจ้าบอกว่า ใส่นมสดยี่ห้อ ก ถึงอร่อยกล่มกล่อม
บ้างเจ้าบอกว่า ใส่กระทิ ถึงหอมมัน
แล้วอย่างคือสิ่งที่ดีที่สุด สำหรับคนทานต้มยำกุ้งล่ะ
บอกไม่ได้ นอกจากคนทานต้มยำกุ้ง เอารสชาติไหน
แค่นี้ล่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 251
- ผู้ติดตาม: 0
จัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ
โพสต์ที่ 11
จัดตามความเข้าใจกับประสบการณ์ผมเองนะครับ
ถ้าคิดว่าเป็นหุ้นเสี่ยงต่ำแต่นานๆไปมันกลายเป็นเสี่ยงมากๆก็คงค่อยปรับตามประสบการณ์ครับ
หุ้นเสี่ยงต่ำ สักสองสามตัว
หุ้นเสี่ยงปานกลาง สัก หนึ่งถึงสองตัว
หุ้นเสี่ยงสูง แล้วแต่ความมันส์
ถ้าอายุมากๆขึ้นก็คงจะถือสักสี่ห้าตัวครับ
ที่มีประวัติ จ่ายปันผลสม่ำเสมอหลายๆๆๆปี มีหนี้ไม่สูงมาก มีเงินสดสูง กิจการดี
ขอแค่ปันผลเฉลี่ยแต่ละปีของหุ้นในพอร์ตทั้งหมดที่จะได้ มากกว่า ห้าหกเปอร์เซ็นต์หรือมากกว่าดอกเบี้ยฝากประจำธนาคารหรือสหกรณ์ต่างๆก็พอแล้วครับ
ถ้าคิดว่าเป็นหุ้นเสี่ยงต่ำแต่นานๆไปมันกลายเป็นเสี่ยงมากๆก็คงค่อยปรับตามประสบการณ์ครับ
หุ้นเสี่ยงต่ำ สักสองสามตัว
หุ้นเสี่ยงปานกลาง สัก หนึ่งถึงสองตัว
หุ้นเสี่ยงสูง แล้วแต่ความมันส์
ถ้าอายุมากๆขึ้นก็คงจะถือสักสี่ห้าตัวครับ
ที่มีประวัติ จ่ายปันผลสม่ำเสมอหลายๆๆๆปี มีหนี้ไม่สูงมาก มีเงินสดสูง กิจการดี
ขอแค่ปันผลเฉลี่ยแต่ละปีของหุ้นในพอร์ตทั้งหมดที่จะได้ มากกว่า ห้าหกเปอร์เซ็นต์หรือมากกว่าดอกเบี้ยฝากประจำธนาคารหรือสหกรณ์ต่างๆก็พอแล้วครับ
Life is a lot like Jazz, it's best when you improvise
- ATimeHost.com
- Verified User
- โพสต์: 4
- ผู้ติดตาม: 0
จัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ
โพสต์ที่ 12
เลือกหุ้นปันผลเป็นหลักในพอร์ต
ส่วนที่เหลือ มีหุ้นวัฏจักร เพื่อให้พอได้ติดตาม
แล้วก็หุ้นรอวันฟื้นตัว อันนี้ติดตามใกล้ชิดหน่อย เพราะหนี้ค่อนข้างเยอะ แต่ปัญหาที่มากระทบ ไม่รุนแรงเท่าไหร่
ส่วนที่เหลือ มีหุ้นวัฏจักร เพื่อให้พอได้ติดตาม
แล้วก็หุ้นรอวันฟื้นตัว อันนี้ติดตามใกล้ชิดหน่อย เพราะหนี้ค่อนข้างเยอะ แต่ปัญหาที่มากระทบ ไม่รุนแรงเท่าไหร่
-
- Verified User
- โพสต์: 395
- ผู้ติดตาม: 0
จัดพอร์ท การเล่นหุ้นกันยังไงบ้างครับ
โพสต์ที่ 13
[/quote]miracle Posted: Tue Jun 16, 2009 10:15 pm Post subject:
--------------------------------------------------------------------------------
จัดอย่างไงก็ไม่ถูกใจซักที
หากใจมันยังวุ่นวายว่า ต้องได้ทำนั้นเท่านี้
มันคือกิเลสที่อยากมีอยากได้
ตามมาด้วย ความอิจฉา ทำไมคนอื่นถึงทำได้
เนี่ยคือคิดคิดปรุงแต่งขึ้นมา
ถ้าหากคิดกลับ แล้วสงสัยว่า
เอ๋ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ เขียนไว้แบบนี้ เอามาลองบ้างเป็นอย่างไง
เอ๋ แบบนี้เหมาะสมกับเราหรือไม่ แบบนี้คือสิ่งที่ดี แต่ยังไม่สุด
ก็ต้องดูว่า สิ่งที่ทำไปแล้วนั้น มีตัวเปรียบเทียบหรือไม่
ไม่ต้องเปรียบเทียบคนอื่นหรอก เปรียบเทียบกับ ดัชนีของตลาดก็พอรู้แล้วว่าอะไรคืออะไร และเปรียบกับของเดิมที่ทำไว้ ว่าดีหรือเลวลงอย่างไง
แค่นี้ก็สอบผ่านแล้ว
ส่วนเรื่องจัดพอร์ตอย่างไงให้เหมาะสมนั้น
ผมขอเปรียบเทียบกับการทำต้มยำกุ้งหนึ่งหม้อ
บ้างเจ้าบอกว่าต้องใส่น้ำปลายี่ห้อ A มากหน่อยรสชาติดี
บ้างเจ้าบอกว่า ต้องใช้มะนาวแป้นเท่านั้นถึงอะไร
บ้างเจ้าบอกว่า ใส่นมสดยี่ห้อ ก ถึงอร่อยกล่มกล่อม
บ้างเจ้าบอกว่า ใส่กระทิ ถึงหอมมัน
แล้วอย่างคือสิ่งที่ดีที่สุด สำหรับคนทานต้มยำกุ้งล่ะ
บอกไม่ได้ นอกจากคนทานต้มยำกุ้ง เอารสชาติไหน
แค่นี้ล่ะ
--------------------------------------------------------------------------------
จัดอย่างไงก็ไม่ถูกใจซักที
หากใจมันยังวุ่นวายว่า ต้องได้ทำนั้นเท่านี้
มันคือกิเลสที่อยากมีอยากได้
ตามมาด้วย ความอิจฉา ทำไมคนอื่นถึงทำได้
เนี่ยคือคิดคิดปรุงแต่งขึ้นมา
ถ้าหากคิดกลับ แล้วสงสัยว่า
เอ๋ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ เขียนไว้แบบนี้ เอามาลองบ้างเป็นอย่างไง
เอ๋ แบบนี้เหมาะสมกับเราหรือไม่ แบบนี้คือสิ่งที่ดี แต่ยังไม่สุด
ก็ต้องดูว่า สิ่งที่ทำไปแล้วนั้น มีตัวเปรียบเทียบหรือไม่
ไม่ต้องเปรียบเทียบคนอื่นหรอก เปรียบเทียบกับ ดัชนีของตลาดก็พอรู้แล้วว่าอะไรคืออะไร และเปรียบกับของเดิมที่ทำไว้ ว่าดีหรือเลวลงอย่างไง
แค่นี้ก็สอบผ่านแล้ว
ส่วนเรื่องจัดพอร์ตอย่างไงให้เหมาะสมนั้น
ผมขอเปรียบเทียบกับการทำต้มยำกุ้งหนึ่งหม้อ
บ้างเจ้าบอกว่าต้องใส่น้ำปลายี่ห้อ A มากหน่อยรสชาติดี
บ้างเจ้าบอกว่า ต้องใช้มะนาวแป้นเท่านั้นถึงอะไร
บ้างเจ้าบอกว่า ใส่นมสดยี่ห้อ ก ถึงอร่อยกล่มกล่อม
บ้างเจ้าบอกว่า ใส่กระทิ ถึงหอมมัน
แล้วอย่างคือสิ่งที่ดีที่สุด สำหรับคนทานต้มยำกุ้งล่ะ
บอกไม่ได้ นอกจากคนทานต้มยำกุ้ง เอารสชาติไหน
แค่นี้ล่ะ
ผมเหมือนพี่เลยแต่ไม่เคยจัดสุดท้ายเลยไม่ได้จัดแต่ถือน้อยตัว ดูแลทั่วถึง