ดัชนีชี้วัดเศรฐกิจของสหรัฐชี้ว่าผ่านจุดตำ่สุดไปแล้ว (แบบแปลก

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
Tlk
Verified User
โพสต์: 395
ผู้ติดตาม: 0

ดัชนีชี้วัดเศรฐกิจของสหรัฐชี้ว่าผ่านจุดตำ่สุดไปแล้ว (แบบแปลก

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ในสหรัฐอเมริกามีการพูดถึงตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจแปลกๆ เช่น กางเกงในชาย ความสั้นของกระโปรง ลิปสติก และยาแก้ปวดแอสไพริน

ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย กางเกงในจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่ผู้คนหยุดซื้อเพราะว่า เป็นสิ่งที่ถึงใส่แล้วก็ไม่มีใครอื่นเห็น (ยกเว้นคนใกล้ชิดบางคนเท่านั้น) การหยุดซื้อของประชาชนทำให้เกิดความต้องการในกางเกงในที่จะทะลักเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในอนาคต เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น (Pent-up Demand) ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่ยอดขายกางเกงในชายเพิ่มสูงขึ้น ก็น่าจะแสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังปรับตัวสูงขึ้น

Alan Greenspan อดีตประธานธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาเคยอ้างถึงตัวชี้วัดกางเกงในชายนี้ว่า ถ้ายอดขายเพิ่มขึ้น 2-3% ต่อปี จะชี้ให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตาม สำนักวิจัยทางธุรกิจแห่งหนึ่งในอเมริกาทำนายว่ายอดขายกางเกงในปีนี้จะลดลง 2.3% ต่อปี และยอดขายอาจไม่ฟื้นจนกระทั่งปี 2556 ส่วนยอดขายในปีที่ผ่านมาจนถึงเดือนมกราคมปีนี้พบว่า ยอดขายตก 12% ต่อปีแต่มีสัญญาณดีขึ้น ยอดขายเริ่มทรงตัวในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจ

ตัวชี้วัดที่ 2 ได้มาจากทฤษฎีที่ว่า ทิศทางของเศรษฐกิจสามารถทำนายได้โดยอิงกับแฟชั่นความยาวของกระโปรงในปีนั้นๆ ถ้ากระโปรงสั้นเป็นที่นิยมแสดงว่าตลาดหุ้นกำลังขึ้น ในทางตรงข้าม หากคนนิยมใส่กระโปรงยาวแสดงว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงขาลง
เหตุผลของทฤษฎีนี้ก็คือ คนมักใส่กระโปรงยาวเมื่อระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่ำซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกลัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและคนขาดกำลังซื้อ ในขณะที่เมื่อกระโปรงสั้นเป็นที่นิยมแสดงให้เห็นถึง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาวะตลาดหุ้นในช่วงขาขึ้น ทฤษฎีนี้อยู่บนสมมุติฐานที่ว่าการออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้าได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรม และภาวะเศรษฐกิจที่อยู่รอบๆ ตัวผู้ออกแบบและผู้บริโภค

ตัวชี้วัดที่ 3 อ้างอิงกับแนวคิดที่ว่า เมื่อคนรู้สึกไม่มั่นใจกับอนาคต เขาจะเปลี่ยนไปซื้อของฟุ่มเฟือยที่มีราคาไม่แพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งลิปสติก ความเชื่อนี้บ่งบอกว่ายอดขายลิปสติกจะเพิ่มขึ้นในภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจสูงเหตุผลหนึ่งของการใช้ลิปสติกก็เพื่อช่วยปรับความรู้สึกให้ดีขึ้น (mood enhancer) ซึ่งสามารถยกระดับความรู้สึกให้ดีขึ้นในช่วงที่รู้สึกหดหู่ มีเหตุการณ์จริงที่สนับสนุนทฤษฎีนี้ก็คือ ในช่วงต้นปลายปีที่แล้วที่เศรษฐกิจแย่มาก ยอดขายของลิปสติกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 ต่อปี และในช่วงเศรษฐกิจขาลงภายหลังเหตุการณ์หายนะตึกถล่ม 11 กันยายน ยอดขายลิปสติกก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน

ตัวชี้วัดสุดท้ายคือ ยาแก้ปวดหัว (Aspirin) เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี ผู้คนก็มักปวดหัวง่าย ทำให้ยอดขายยาแก้ปวดหัวเพิ่มขึ้น ตัวชี้วัดยาแก้ปวดหัวจึงมีความผกผันกับทิศทางของตลาดหุ้นกล่าวคือ ยอดขายยาแก้ปวดหัวเพิ่มขึ้นเมื่อตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาลง ในสหรัฐยอดขายของยาแก้ปวดหัวยี่ห้อ (Advil) ในปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ต่อปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ต่อปี ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐปั่นป่วนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
kin
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 0

ดัชนีชี้วัดเศรฐกิจของสหรัฐชี้ว่าผ่านจุดตำ่สุดไปแล้ว (แบบแปลก

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ตัวชี้วัดที่2 กับ 3 นี่ผมว่าเป็นเหตุมากจากคนตกงานมากขึ้นรึเปล่าคับ

เมื่อคนตกงาน ก็ต้องหางานใหม่ เวลาไปสัมภาษณ์งานต้องแต่งตัวสุภาพหน่อย เน้นกระโปรงยาว และแน่นอนว่าต้องแต่งหน้าทุกครั้ง สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือลิปสติก  :wink:
mrgoodtime
Verified User
โพสต์: 115
ผู้ติดตาม: 0

ดัชนีชี้วัดเศรฐกิจของสหรัฐชี้ว่าผ่านจุดตำ่สุดไปแล้ว (แบบแปลก

โพสต์ที่ 3

โพสต์

แล้วกางเกงสั้นๆที่นิยมมากในประเทศสารขันธ์หละครับ :oops:
ภาพประจำตัวสมาชิก
baby-investor
Verified User
โพสต์: 312
ผู้ติดตาม: 0

ดัชนีชี้วัดเศรฐกิจของสหรัฐชี้ว่าผ่านจุดตำ่สุดไปแล้ว (แบบแปลก

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ตัวชี้วัดที่ 2 กับ 3 นี่แปลกจริงๆครับ ส่วนตัวชี้วัดที่ 1 นี่ล้ำลึกมากครับ  :wink:
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

ดัชนีชี้วัดเศรฐกิจของสหรัฐชี้ว่าผ่านจุดตำ่สุดไปแล้ว (แบบแปลก

โพสต์ที่ 5

โพสต์

แล้วเมืองไทยล่ะ
:)
:)
Tlk
Verified User
โพสต์: 395
ผู้ติดตาม: 0

ดัชนีชี้วัดเศรฐกิจของสหรัฐชี้ว่าผ่านจุดตำ่สุดไปแล้ว (แบบแปลก

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมว่าตัวชี้วัดบางตัวอาจใช้ไม่ได้เลยเพราะ ชายไทยจำนวนหนึ่งไม่นิยมนุ่งกางเกงใน
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

ดัชนีชี้วัดเศรฐกิจของสหรัฐชี้ว่าผ่านจุดตำ่สุดไปแล้ว (แบบแปลก

โพสต์ที่ 7

โพสต์

กูรูขอเพิ่มบ้าง ดัชนีไส้อั่ว
วันไหนไปช้อปปิ้งตามศูนย์ประชุม
ถ้าอยากรู้ว่าจะขอต่อรองสินค้าข้าวของได้หรือเปล่า
ก็ต้องรู้ต้นทุนของการเช่าพื้นที่

ว่าแล้วก็ต้องเดินไปบริเวณซุ้มขายอาหาร ซึ่งมักมีอยู่ทุกงาน
ไปที่ซุ้มน้ำพริกหนุ่ม แหนม ไส้อั่ว
ถ้ามีไส้อั่วหั่นเป็นชิ้นๆให้ชิม
แสดงว่า ค่าเช่าบู้ท แม่ค้ายังพอรับไหว
ถึงพอเจียดกำไรเอาไส้อั่วราคาแพงมาให้ชิมได้

ถ้ามีแต่แคบหมูจิ้มน้ำพริกหนุ่ม ให้ชิมล่ะก้อ
แพงหูฉี่แน่ๆ ข้าวของในงานจะต่อรองได้ยากมาก
เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็จงเดินกลับบ้านเสีย แห่ะ แห่ะ :roll:


รูปภาพ
โพสต์โพสต์