= มาดูำภาวะตลาดสัปดาห์นี้กันครับ =

[Quadrifoglio Verde]

ได้เมล์มาจาก กองทุนอยุธยา ayf คิดว่าสรุปได้ดีพอควร เลยอยากเอามาแบ่งกัันอ่านน่ะครับ สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ติดตามข่าว


ภาวะเศรษฐกิจ

สหรัฐอเมริกา:    
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 0 0.25 ตามคาด พร้อมทั้งเปิดเผยว่า เฟดเตรียมซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี  สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบเป็นรายปี  ในขณะที่ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ลดลงสู่ 1.328 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2546  ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.2 สู่ 583,000 ยูนิต ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2533 ส่งผลให้นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯอาจจะเริ่มมีเสถียรภาพบ้างแล้ว  อย่างไรก็ดี ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐฯในเดือนกุมภาพันธ์ ลดลงร้อยละ 0.4  ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะยังคงถดถอยต่อไปในระยะสั้น  

ยุโรป:                
อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 จากเดือนมกราคม และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุจากราคาแก๊ส ค่าไฟ และราคาอาหาร ปรับตัวสูงขึ้น  อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ต่างคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวลงในเดือนนี้ และธนาคารกลางจะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมในเดือนเมษายน  สำหรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนลดลงร้อยละ 17.3 เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่มีการเริ่มจัดทำข้อมูลในปี 2533  ในเยอรมนี ดัชนีความเชื่อมั่นของนักวิเคราะห์และนักลงทุนของเยอรมนีในเดือนมีนาคม ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ครึ่ง  เนื่องจากผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่คาดว่า เศรษฐกิจในปัจจุบันอยู่ใกล้จุดต่ำสุดแล้ว และน่าจะเริ่มฟื้นตัวในไม่ช้า

อังกฤษ:            
จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานของอังกฤษในเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 138,400 ราย จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2514 และส่งผลให้จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงกว่า 2 ล้านราย

ญี่ปุ่น:                    
ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 0.1 ตามคาด และประกาศซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 29 สู่ 21.6 ล้านล้านเยน (2.19 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)  ผลสำรวจรอยเตอร์ ทังกัน ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ผลิตลดลงสู่ -78 ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคบริการอยู่ที่ -37 ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ -39 ที่ทำไว้ในเดือนกุมภาพันธ์

จีน:                        
ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ลงจากเดิมคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 7.5 เป็นขยายตัวร้อยละ 6.5  ในขณะที่ ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 26.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 สู่ 1.337 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ไทย:                      
กระทรวงพาณิชย์รายงานการส่งออกของไทยลดลงร้อยละ 11.3 ในเดือนกุมภาพันธ์ มีมูลค่า 11,736 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การนำเข้าลดลงร้อยละ 40.3 มีมูลค่า 8,159 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 3,577 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  โดยการส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ ลดลงน้อยกว่าเดือนมกราคม ที่ลดลงร้อยละ 26.5 และมีมูลค่า 10,496 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  สำหรับสาเหตุหลักที่ตัวเลขส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ ปรับตัวดีขึ้น มาจากการส่งออกทองคำที่มีมูลค่า 1,864 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1100 จากเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2551  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้อาจจะลดลงในอัตราที่น้อยกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าว่าจะลดลงร้อยละ 18 20 โดยประมาณการณ์ใหม่คาดว่าจะลดลงร้อยละ 11  ในขณะที่ภาษีอาจจะเก็บได้ต่ำกว่าเป้าราว 1.5 แสนล้านบาท  สำหรับยอดขายรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ระบุว่าลดลงร้อยละ 30.7 สู่ 34,361 คัน โดยนอกจากจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงแล้ว การชะลอการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเพื่อรอดูความชัดเจนเรื่องภาษีสรรพสามิต และฐานการคำนวณปีที่แล้วซึ่งอยู่ในระดับสูงจากยอดขายอีโคคาร์ ก็มีส่วนทำให้ยอดขายลดลงอย่างมาก แต่แนวโน้มในเดือนมีนาคม อยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากจะมีงานมอเตอร์โชว์