อยากเริ่มวางแผนการเงินอย่างจริงๆ จังซักที ขอคำแนะนำหน่อยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 5
- ผู้ติดตาม: 0
อยากเริ่มวางแผนการเงินอย่างจริงๆ จังซักที ขอคำแนะนำหน่อยครับ
โพสต์ที่ 1
ช่วยแนะนำแนวทางวางแผนการเงินหรือ ารลงทุน เอาแบบที่ไม่มีความรู้พื้นฐานเลยน่ะครับ
เห็นข่าวแล้วก็เกิดจะสนใจบ้างน่ะครับ
เศรษฐกิจมันไม่ค่อยจะดีเลยครับ
ลงทุนก็ไม่เป็น กลัวเจ๊งครับ
เห็นข่าวแล้วก็เกิดจะสนใจบ้างน่ะครับ
เศรษฐกิจมันไม่ค่อยจะดีเลยครับ
ลงทุนก็ไม่เป็น กลัวเจ๊งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 131
- ผู้ติดตาม: 0
อยากเริ่มวางแผนการเงินอย่างจริงๆ จังซักที ขอคำแนะนำหน่อยครับ
โพสต์ที่ 6
แนะนำครับ
web ของ TSI เกี่ยวกับการวางแผนการเงิน มีหัวข้ออื่นด้วยลองดูครับ
http://edu.tsi-thailand.org/index.php?o ... &Itemid=50
สมาคมนักวางแผนการเงิน
http://www.tfpa.or.th/
web ของ TSI เกี่ยวกับการวางแผนการเงิน มีหัวข้ออื่นด้วยลองดูครับ
http://edu.tsi-thailand.org/index.php?o ... &Itemid=50
สมาคมนักวางแผนการเงิน
http://www.tfpa.or.th/
"Good judgment comes from experience, and experience comes from bad judgment" - Unknown -
-
- Verified User
- โพสต์: 1120
- ผู้ติดตาม: 0
อยากเริ่มวางแผนการเงินอย่างจริงๆ จังซักที ขอคำแนะนำหน่อยครับ
โพสต์ที่ 8
การวางแผนทางการเงิน กับการลงทุนนั้น ไม่ใช่สิ่งเดียวกันซะทีเดียวนะครับ
ดังนั้น ถ้าคุณถามถึงวิธีการวางแผนทางการเงินแล้ว การลงทุนเป็นเพียงส่วนนึงเท่านั้นครับ
ก่อนอื่นเลยเราต้องรู้จักแบ่นสันปันส่วน เงินได้ รวมถึงทรัพย์สินที่เรามีอยู่ทั้งหมดก่อน เช่นว่า เอาในกรณีที่ไม่มีหนี้ ไม่ต้องผ่อนอะไรนะครับ
เช่นเดือนนึงเรามีรายได้เท่าไหร่ โดยให้หักส่วนที่จะเก็บออม และลงทุนไว้ก่อนครับ ส่วนที่เหลือจาก 2 ส่วนนี้ คือให้ใช้ได้ครับ โดยจะใช้ยังไงก็ได้โดยไม่เกินเงินส่วนนี้เด็ดขาด แนะนำให้ใช้เงินตาม Budget ที่เราแบ่งไว้อย่างเคร่งครัดครับ
ส่วนต่อไปก็คือการออม และลงทุน บางคนอาจจะมอง 2 อย่างนี้ไม่ต่างกัน แต่ส่วนตัวแล้วการออมก็คือการเก็บเงินโดยหวังผลตอบแทนที่ความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีเรื่องประกัน ภาษี การจัดการเงินได้หลังเกษียณ นี่ยังไม่รวมการDefault ใกล้เคียง 0 ที่สุดครับ ส่วนการลงทุนนั้นก็อาจจะรวมถึงหุ้น หรือ หุ้นกู้ ต่างๆครับ ซึ่งตรงนี้ยังต้องว่ากันอีกยาว โดยในเว็บ ThaiVi นี้ สามารถรวมถึงส่วนของแค่การลงทุนในหุ้นแบบคุณค่าเท่านั้นเอง
วางแผนเพื่อการซื้อบ้าน การจัดการหนี้สิน ฯลฯ ครับ ซึ่งแน่นอนว่าการวางแผนทางการเงินของแต่ละคนนั้นไม่มีทางเหมือนกันครับ
โดยทั้งหมดนี้รวมถึงการวางแผนทางการเงินครับ ถ้าคิดจะศึกษาทั้งหมดคงต้องเริ่มที่วินัยทางการเงินของตัวเองก่อนครับ จากนั้นค่อยศึกษาเรืองการลงทุนครับ
ดังนั้น ถ้าคุณถามถึงวิธีการวางแผนทางการเงินแล้ว การลงทุนเป็นเพียงส่วนนึงเท่านั้นครับ
ก่อนอื่นเลยเราต้องรู้จักแบ่นสันปันส่วน เงินได้ รวมถึงทรัพย์สินที่เรามีอยู่ทั้งหมดก่อน เช่นว่า เอาในกรณีที่ไม่มีหนี้ ไม่ต้องผ่อนอะไรนะครับ
เช่นเดือนนึงเรามีรายได้เท่าไหร่ โดยให้หักส่วนที่จะเก็บออม และลงทุนไว้ก่อนครับ ส่วนที่เหลือจาก 2 ส่วนนี้ คือให้ใช้ได้ครับ โดยจะใช้ยังไงก็ได้โดยไม่เกินเงินส่วนนี้เด็ดขาด แนะนำให้ใช้เงินตาม Budget ที่เราแบ่งไว้อย่างเคร่งครัดครับ
ส่วนต่อไปก็คือการออม และลงทุน บางคนอาจจะมอง 2 อย่างนี้ไม่ต่างกัน แต่ส่วนตัวแล้วการออมก็คือการเก็บเงินโดยหวังผลตอบแทนที่ความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีเรื่องประกัน ภาษี การจัดการเงินได้หลังเกษียณ นี่ยังไม่รวมการDefault ใกล้เคียง 0 ที่สุดครับ ส่วนการลงทุนนั้นก็อาจจะรวมถึงหุ้น หรือ หุ้นกู้ ต่างๆครับ ซึ่งตรงนี้ยังต้องว่ากันอีกยาว โดยในเว็บ ThaiVi นี้ สามารถรวมถึงส่วนของแค่การลงทุนในหุ้นแบบคุณค่าเท่านั้นเอง
วางแผนเพื่อการซื้อบ้าน การจัดการหนี้สิน ฯลฯ ครับ ซึ่งแน่นอนว่าการวางแผนทางการเงินของแต่ละคนนั้นไม่มีทางเหมือนกันครับ
โดยทั้งหมดนี้รวมถึงการวางแผนทางการเงินครับ ถ้าคิดจะศึกษาทั้งหมดคงต้องเริ่มที่วินัยทางการเงินของตัวเองก่อนครับ จากนั้นค่อยศึกษาเรืองการลงทุนครับ
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
-
- Verified User
- โพสต์: 1120
- ผู้ติดตาม: 0
อยากเริ่มวางแผนการเงินอย่างจริงๆ จังซักที ขอคำแนะนำหน่อยครับ
โพสต์ที่ 9
ขอแก้คำผิดครับGeneraX เขียน:การวางแผนทางการเงิน กับการลงทุนนั้น ไม่ใช่สิ่งเดียวกันซะทีเดียวนะครับ
ดังนั้น ถ้าคุณถามถึงวิธีการวางแผนทางการเงินแล้ว การลงทุนเป็นเพียงส่วนนึงเท่านั้นครับ
ก่อนอื่นเลยเราต้องรู้จักแบ่นสันปันส่วน เงินได้ รวมถึงทรัพย์สินที่เรามีอยู่ทั้งหมดก่อน เช่นว่า เอาในกรณีที่ไม่มีหนี้ ไม่ต้องผ่อนอะไรนะครับ
เช่นเดือนนึงเรามีรายได้เท่าไหร่ โดยให้หักส่วนที่จะเก็บออม และลงทุนไว้ก่อนครับ ส่วนที่เหลือจาก 2 ส่วนนี้ คือให้ใช้ได้ครับ โดยจะใช้ยังไงก็ได้โดยไม่เกินเงินส่วนนี้เด็ดขาด แนะนำให้ใช้เงินตาม Budget ที่เราแบ่งไว้อย่างเคร่งครัดครับ
ส่วนต่อไปก็คือการออม และลงทุน บางคนอาจจะมอง 2 อย่างนี้ไม่ต่างกัน แต่ส่วนตัวแล้วการออมก็คือการเก็บเงินโดยหวังผลตอบแทนที่ความเสี่ยงDefault ใกล้เคียง 0 ที่สุดครับ นอกจากนี้ยังมีเรื่องประกัน ภาษี การจัดการเงินได้หลังเกษียณ ส่วนการลงทุนนั้นก็อาจจะรวมถึงหุ้น หรือ หุ้นกู้ ต่างๆครับ ซึ่งตรงนี้ยังต้องว่ากันอีกยาว โดยในเว็บ ThaiVi นี้ สามารถรวมถึงส่วนของแค่การลงทุนในหุ้นแบบคุณค่าเท่านั้นเอง
วางแผนเพื่อการซื้อบ้าน การจัดการหนี้สิน ฯลฯ ครับ ซึ่งแน่นอนว่าการวางแผนทางการเงินของแต่ละคนนั้นไม่มีทางเหมือนกันครับ
โดยทั้งหมดนี้รวมถึงการวางแผนทางการเงินครับ ถ้าคิดจะศึกษาทั้งหมดคงต้องเริ่มที่วินัยทางการเงินของตัวเองก่อนครับ จากนั้นค่อยศึกษาเรืองการลงทุนครับ
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
-
- Verified User
- โพสต์: 1120
- ผู้ติดตาม: 0
อยากเริ่มวางแผนการเงินอย่างจริงๆ จังซักที ขอคำแนะนำหน่อยครับ
โพสต์ที่ 10
เห็นด้วยอย่างยิ่งที่เมืองไทยต้องมีนักวางแผทางการเงินอาชีพครับ ซึ่งทางตลาดฯ ร่วมกับ สมาคมนัทวางแผนการเงินไทย (TFPA) ก็กำลังดำเนินการ licnese สากลอย่าง CFP (Certified Financial Planning) ในเมืองไทยอยู่ครับpavilion เขียน: น่าจะมีนะครับ เพราะเคยเห็นมีการรับสมัครพนักงานตำแหน่งนี้อยู่
ตอนผมก็ก็กำลังaim มาทางสายการวางแผนครับเพราะสายวิเคราะห์มีกันเกลื่อนแล้ว แถมผมก็ไม่ชอบครับ มันออกแนวนั่งเทียนซะมาก หาอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จับต้องไม่ค่อยได้ครับ
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 33
- ผู้ติดตาม: 0
อยากเริ่มวางแผนการเงินอย่างจริงๆ จังซักที ขอคำแนะนำหน่อยครับ
โพสต์ที่ 11
นักวางแผนทางการเงินของต่างประเทศเป็นที่แพร่หลายกว่าเมืองไทยเยอะมากครับ ผมว่า
นักวางแผนทางการเงินเก่งๆ สามารถลดความเสี่ยง ลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับลูกค้าได้อย่างมาก นักวางแผนการเงินที่ดี จะรู้จักผลิตภัณฑ์ทางการเงินทุกประเภท และรู้กฎหมายภาษี และรู้ความต้องการของลูกค้าว่าเหมาะกับการวางแผนแบบไหน
ผมเคยเรียนคอร์ส Personal Financial Planning เพราะความสนใจส่วนตัว เนื้อหาเยอะมาก เหมือนการวางแผนการเงินเหมือนบริษัทๆ หนึ่งทีเดียว ต้องนั่งทำงบดุล งบกำไรขาดทุนของบุคคล ต้องคำนวณผลประโยชน์ทางภาษี และต้องวางแผนไปถึงการจัดแบ่งมรดกเลยครับ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องรู้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าให้ละเอียดที่สุด ละเอียดไปถึงพื้นฐานครอบครัวทีเดียว
ดังนั้นผมว่า อยากวางแผนทางการเงิน อาจจะต้องให้ข้อมูลมากกว่านี้ และกำหนดเป้าหมายตัวเองว่าอยากลงทุน หรืออยากวางแผนการเงินระยะยาว พูดคุยกันในบอร์ดนี้ได้ครับ ยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ส่วนเรื่องข้อมูลนักวางแผนทางการเงินในไทย ผมไม่ค่อยมีความรู้ ต้องถามคุณ GeneraX ครับ ; )
นักวางแผนทางการเงินเก่งๆ สามารถลดความเสี่ยง ลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับลูกค้าได้อย่างมาก นักวางแผนการเงินที่ดี จะรู้จักผลิตภัณฑ์ทางการเงินทุกประเภท และรู้กฎหมายภาษี และรู้ความต้องการของลูกค้าว่าเหมาะกับการวางแผนแบบไหน
ผมเคยเรียนคอร์ส Personal Financial Planning เพราะความสนใจส่วนตัว เนื้อหาเยอะมาก เหมือนการวางแผนการเงินเหมือนบริษัทๆ หนึ่งทีเดียว ต้องนั่งทำงบดุล งบกำไรขาดทุนของบุคคล ต้องคำนวณผลประโยชน์ทางภาษี และต้องวางแผนไปถึงการจัดแบ่งมรดกเลยครับ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องรู้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าให้ละเอียดที่สุด ละเอียดไปถึงพื้นฐานครอบครัวทีเดียว
ดังนั้นผมว่า อยากวางแผนทางการเงิน อาจจะต้องให้ข้อมูลมากกว่านี้ และกำหนดเป้าหมายตัวเองว่าอยากลงทุน หรืออยากวางแผนการเงินระยะยาว พูดคุยกันในบอร์ดนี้ได้ครับ ยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ส่วนเรื่องข้อมูลนักวางแผนทางการเงินในไทย ผมไม่ค่อยมีความรู้ ต้องถามคุณ GeneraX ครับ ; )
-
- Verified User
- โพสต์: 5
- ผู้ติดตาม: 0
อยากเริ่มวางแผนการเงินอย่างจริงๆ จังซักที ขอคำแนะนำหน่อยครับ
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณครับ สำหรับคำตอบของทุกท่าน ลองไปปรึกษาของ K Bank มาครับ ชื่อบริการ K-weplan เขาให้ทำฟรีครับ พอดีไปรอคุณแม่เลยลองไปทำดูครับ ที่สาขาตรงรัชดา หากทันใดสนใจก็ลองเข้าไปดูนะครับที่เว็บไซต์ http://www.k-weplan.com/index.htm
-
- Verified User
- โพสต์: 31
- ผู้ติดตาม: 0
Financial blueprint : 1st change
โพสต์ที่ 15
สมองเงินล้าน
สมองเงินล้าน ซึ่งเป็นเรื่องราวของการเรียนรู้ว่า เศรษฐีร้อยล้านนั้นเขาคิดกันอย่างไร และถ้าเราจะอยากจะเป็นเศรษฐีร้อยล้านแบบเขาบ้างเราควรจะคิดแบบไหน งานสัมนานี้ได้รับแรงดลใจจากงานเขียนของ นักขียน T. Harv Eker ชื่อดังที่หนังสือเรื่อง Secret of the Millionaire Mind ได้เป็นหนังสือขายดีระดับชาติ จากการสำรวจของนิตยสาร นิวยอร์ค ไทม์ หนังสือพิมพ์ ยูเอสเอ ทูเดย์ และ เดอะวอลล์สตรีต เจอนัล
รวยหรือจนเริ่มที่ความคิด
T. Harv Eker ผู้แต่งซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการฝึกทักษะด้านการเงินชี้ว่า เงินเป็นเรื่องพิเศษเฉพาะ จำเป็นต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างจริงจัง จึงจะสามารถสะสมมันได้
เขาอธิบายว่า การรับรู้ของเราที่มีต่อเงิน ซึ่งถูกปลูกฝังมาจากคำสอนของพ่อแม่นั้น มีผลต่อปฏิกิริยาของเราที่มีต่อเงิน รวมทั้งส่งผลต่ออนาคตทางการเงินของเราอย่างไม่น่าเชื่อ โดย Eker เรียกการรับรู้ในระดับจิตใต้สำนึกที่แต่ละคนมีต่อเงินนี้ว่า money blueprint และอธิบายต่อไปว่า สิ่งที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับเงินมาจากพ่อแม่ตั้งแต่เรายังเด็กนั้น มีผลโดยตรงต่อความรู้สึกที่มีต่อเงินเมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
ผู้แต่งจะสอนให้ผู้อ่านปรับเปลี่ยน money blueprint หรือ financial blueprint ในสมองของคุณเสียใหม่ เพื่อให้คุณสามารถคิดได้อย่างที่เศรษฐีคิด และมีความคิดในทางบวกต่อการทำเงิน ซึ่งจะทำให้คุณกลายเป็นคนรวย
Psychology of Wealth 1 Day Millionaire Mind
-method to manage your financial assets
-financial blue print for success
-how to set the passive income
Content from the best seller book
Secrets of the Millionaire Mind
by T.Harv Eker
By
1.CU Civil engineer : income 20 M bath before 30 year old
2.General Manager of ThaiRung union car
3.A business man : income 100 M bath within 10 year
Saturday , March 28 : 8.30-17.30 : Grand Millennium Sukhumvit : 1,200 bath a ticket
More information : Sirichai : 081-659-4616. I have only 3 tickets left.
( Normally a week course : 150,000 bath at Singapore )
Pharmanex (Thailand) Ltd.
19 SCB park plaza East 15th Floor
Ratchadapisek road
Jatujak , Bangkok 10900
สมองเงินล้าน ซึ่งเป็นเรื่องราวของการเรียนรู้ว่า เศรษฐีร้อยล้านนั้นเขาคิดกันอย่างไร และถ้าเราจะอยากจะเป็นเศรษฐีร้อยล้านแบบเขาบ้างเราควรจะคิดแบบไหน งานสัมนานี้ได้รับแรงดลใจจากงานเขียนของ นักขียน T. Harv Eker ชื่อดังที่หนังสือเรื่อง Secret of the Millionaire Mind ได้เป็นหนังสือขายดีระดับชาติ จากการสำรวจของนิตยสาร นิวยอร์ค ไทม์ หนังสือพิมพ์ ยูเอสเอ ทูเดย์ และ เดอะวอลล์สตรีต เจอนัล
รวยหรือจนเริ่มที่ความคิด
T. Harv Eker ผู้แต่งซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการฝึกทักษะด้านการเงินชี้ว่า เงินเป็นเรื่องพิเศษเฉพาะ จำเป็นต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างจริงจัง จึงจะสามารถสะสมมันได้
เขาอธิบายว่า การรับรู้ของเราที่มีต่อเงิน ซึ่งถูกปลูกฝังมาจากคำสอนของพ่อแม่นั้น มีผลต่อปฏิกิริยาของเราที่มีต่อเงิน รวมทั้งส่งผลต่ออนาคตทางการเงินของเราอย่างไม่น่าเชื่อ โดย Eker เรียกการรับรู้ในระดับจิตใต้สำนึกที่แต่ละคนมีต่อเงินนี้ว่า money blueprint และอธิบายต่อไปว่า สิ่งที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับเงินมาจากพ่อแม่ตั้งแต่เรายังเด็กนั้น มีผลโดยตรงต่อความรู้สึกที่มีต่อเงินเมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
ผู้แต่งจะสอนให้ผู้อ่านปรับเปลี่ยน money blueprint หรือ financial blueprint ในสมองของคุณเสียใหม่ เพื่อให้คุณสามารถคิดได้อย่างที่เศรษฐีคิด และมีความคิดในทางบวกต่อการทำเงิน ซึ่งจะทำให้คุณกลายเป็นคนรวย
Psychology of Wealth 1 Day Millionaire Mind
-method to manage your financial assets
-financial blue print for success
-how to set the passive income
Content from the best seller book
Secrets of the Millionaire Mind
by T.Harv Eker
By
1.CU Civil engineer : income 20 M bath before 30 year old
2.General Manager of ThaiRung union car
3.A business man : income 100 M bath within 10 year
Saturday , March 28 : 8.30-17.30 : Grand Millennium Sukhumvit : 1,200 bath a ticket
More information : Sirichai : 081-659-4616. I have only 3 tickets left.
( Normally a week course : 150,000 bath at Singapore )
Pharmanex (Thailand) Ltd.
19 SCB park plaza East 15th Floor
Ratchadapisek road
Jatujak , Bangkok 10900
sirichai
-
- Verified User
- โพสต์: 361
- ผู้ติดตาม: 0
อยากเริ่มวางแผนการเงินอย่างจริงๆ จังซักที ขอคำแนะนำหน่อยครับ
โพสต์ที่ 16
จะวางแผนทางการเงินและการลงทุน
ผมคิดว่าคงต้องคิดให้ออกก่อนว่า ตัวเองมีเป้าหมายอย่างไรครับ
แล้วลองหานังสือ Know how ต่างๆ ในตลาด มาอ่านครับ ทั้งไทยและเทศครับ มีดีแยะๆ ครับ ที่ผมเคยอ่านเท่าที่นึกได้ ก็จะมี
1. พ่อรวยสอนลูก
2. the richest in babelon (ไม่แน่ใจสะกดถูกหรือเปล่า)
3. หนังสือของคุณโจ มนฑาณี ก็ดี นะครับ ผมจำชื่อไม่
4. อีกแยะเลยครับ
อ่านๆ แล้วเราก็จะคิดจะเกิดไอเดียในการวางแผนเพื่อให้ถึงเป้าหมายครับ อาจจะยังไม่ถูกต้องหรือเหมาะสมครับ แต่ก็สามารถปรับไปได้เรื่อยๆครับ ถ้าอ่านแล้วคิดอะไรออกเพิ่มขึ้น ปรับให้เห็นทางไปสู่เป้าหมายที่แจ่มชัดขึ้น
คิดว่า น่าจะมีเป้าหมายก่อน ส่วนทางที่จะไปให้ถึง (การวางแผน) สามารถปรับเปลี่ยนไปได้ ตามแต่ที่เราได้เรียนรู้มาครับ
ผมคิดว่าคงต้องคิดให้ออกก่อนว่า ตัวเองมีเป้าหมายอย่างไรครับ
แล้วลองหานังสือ Know how ต่างๆ ในตลาด มาอ่านครับ ทั้งไทยและเทศครับ มีดีแยะๆ ครับ ที่ผมเคยอ่านเท่าที่นึกได้ ก็จะมี
1. พ่อรวยสอนลูก
2. the richest in babelon (ไม่แน่ใจสะกดถูกหรือเปล่า)
3. หนังสือของคุณโจ มนฑาณี ก็ดี นะครับ ผมจำชื่อไม่
4. อีกแยะเลยครับ
อ่านๆ แล้วเราก็จะคิดจะเกิดไอเดียในการวางแผนเพื่อให้ถึงเป้าหมายครับ อาจจะยังไม่ถูกต้องหรือเหมาะสมครับ แต่ก็สามารถปรับไปได้เรื่อยๆครับ ถ้าอ่านแล้วคิดอะไรออกเพิ่มขึ้น ปรับให้เห็นทางไปสู่เป้าหมายที่แจ่มชัดขึ้น
คิดว่า น่าจะมีเป้าหมายก่อน ส่วนทางที่จะไปให้ถึง (การวางแผน) สามารถปรับเปลี่ยนไปได้ ตามแต่ที่เราได้เรียนรู้มาครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 495
- ผู้ติดตาม: 0
อยากเริ่มวางแผนการเงินอย่างจริงๆ จังซักที ขอคำแนะนำหน่อยครับ
โพสต์ที่ 18
เริ่มจากวางแผน ชีวิต ครับ
เช่นว่า การเกษียนตอนอายุ เท่าไร พอเกษียนแล้ว คิดว่า ควรมีเงินใช้จ่ายเท่าไร(รายละเอียดเยอะครับ เช่นเงินสำหรับการศึกษาของลูก ++อย่างอื่น)
ที่นี้ ก็มาประเมินว่าเรานั้นตอนนี้ อายุกับ income เท่าไรเป็นยังไง แล้วความสามารถ ทางการออมในแต่ละเดือนทำได้เท่าไร
ลอง คิดว่าควรออมเงิน เท่านี้เท่านั้น ต่อปี ต่อเดือน ว่า พอถึงปีที่เกษียน มีเงิน เท่าที่เราต้องการรึยัง
ถ้าเกิดว่าที่เราคิดไว้ มันไม่ถึงที่ต้องการ ที่นี้ ก็มาเริ่มมองหา วิธีทำให้เงินเติบโตกันครับ
แต่เรื่องนี้ผมก็ไม่ค่อยมีความรู้เหมือนกันครับ
คงเห็นภาพกว้างๆ แล้วนะครับ ที่เหลือ ก็ต้องอ่านหนังสือเพิ่ม กับมีระเบียบวินัยครับ
หมายเหตุ : โดยส่วนตัว บอยแนะนำว่า การทำประกันชีวิต หรือประกันอุบัติเหตุ สำคัญมากครับ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเราจะเป็นอะไรเมื่อไร บางครั้งค่าการรักษา อาจจะทำให้เงินที่เราพยายาม ออมมาหมดไปอย่างรวดเร็ว การทำประกันจึงมีความสำคัญถึงจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายก็ตาม
เช่นว่า การเกษียนตอนอายุ เท่าไร พอเกษียนแล้ว คิดว่า ควรมีเงินใช้จ่ายเท่าไร(รายละเอียดเยอะครับ เช่นเงินสำหรับการศึกษาของลูก ++อย่างอื่น)
ที่นี้ ก็มาประเมินว่าเรานั้นตอนนี้ อายุกับ income เท่าไรเป็นยังไง แล้วความสามารถ ทางการออมในแต่ละเดือนทำได้เท่าไร
ลอง คิดว่าควรออมเงิน เท่านี้เท่านั้น ต่อปี ต่อเดือน ว่า พอถึงปีที่เกษียน มีเงิน เท่าที่เราต้องการรึยัง
ถ้าเกิดว่าที่เราคิดไว้ มันไม่ถึงที่ต้องการ ที่นี้ ก็มาเริ่มมองหา วิธีทำให้เงินเติบโตกันครับ
แต่เรื่องนี้ผมก็ไม่ค่อยมีความรู้เหมือนกันครับ
คงเห็นภาพกว้างๆ แล้วนะครับ ที่เหลือ ก็ต้องอ่านหนังสือเพิ่ม กับมีระเบียบวินัยครับ
หมายเหตุ : โดยส่วนตัว บอยแนะนำว่า การทำประกันชีวิต หรือประกันอุบัติเหตุ สำคัญมากครับ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเราจะเป็นอะไรเมื่อไร บางครั้งค่าการรักษา อาจจะทำให้เงินที่เราพยายาม ออมมาหมดไปอย่างรวดเร็ว การทำประกันจึงมีความสำคัญถึงจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายก็ตาม
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
อยากเริ่มวางแผนการเงินอย่างจริงๆ จังซักที ขอคำแนะนำหน่อยครับ
โพสต์ที่ 19
ผมคิดว่าคงไม่ใช่เช่นนั้นครับพอดี คิดว่าtarget ของบริการนี้น่าจะเป็นคนเงินเดือนสูงๆ หรือเหลือเงินเยอะๆๆ แต่ถ้าเงินไม่ได้มากมายขนาดนั้นจะต้องทำอย่างไรครับ
จริงๆ Target ของโครงการนี้น่าจะเป็นการทำให้ลูกค้าทุกระดับ
หันมาสนใจการวางแผนทางการเงิน แล้วจึงไปเลือกใช้บริการทางการเงิน
ของธนาคารมากกว่าครับ
ดังนั้นลูกค้ารายย่อยก็ไปขอรับคำปรึกษาได้ครับ
ผมเคยลองไปครึ่งหนึ่งครับ แต่เขาไม่ปรึกษาให้ผม
เพราะเขาบอกผมว่า ผมยังไม่มีเงินเดือน
เขาวางแผนให้ไม่ได้ ผมเลยอดครับ -*-
แต่ถ้ามีเงินเดือนแล้ว ผมคิดว่าเขาน่าจะให้คำปรึกษานะครับ
ไม่ว่าเราจะได้เงินเดือนละ 8 พัน หรือ 8 แสน
[/quote]
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.