หุ้นไทยวิ่งฉลองปีฉลู ลุ้น520จุด

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
vichit
Verified User
โพสต์: 15833
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นไทยวิ่งฉลองปีฉลู ลุ้น520จุด

โพสต์ที่ 1

โพสต์

6 มกราคม 2552 08:56  
หุ้นไทยวิ่งฉลองปีฉลู ลุ้น520จุด-สอยหุ้นไวดัชนี PTTEP-BANPU-TTA-LH-QH-SCC-SCCC



--------------------------------------------------------------------------------

   ทันหุ้น-หุ้นไทยเด้งรับศักราชใหม่เฉียด 500 จุด  สถาบันทั้งในและนอกประเทศแห่เก็บหุ้นบิ๊กแคปทุกกลุ่มอุตสาหกรรม  หนุนเกิดปรากฏการณ์ January Effect เซียนหุ้นการันตีรอบนี้ดัชนีวิ่งแรงแตะ 520 จุด รับวิกฤตเศรษฐกิจผ่อนคลาย  ดอกเบี้ยเฟดถึงจุดต่ำสุด  สร้างแรงจูงใจลงทุนในหุ้นช่วยบริหารความเสี่ยง  ส่วนโบรกฝรั่งไม่กล้าฟันธงต่างชาติกลับลำซื้อของจริงหรือแค่หลอก  หลังจากวานนี้ซื้อสุทธิเฉียด 1,000 ล้านบาท   ดักทางกลยุทธ์ตลาดฟื้นสอยหุ้นไวต่อดัชนีเข้าพอร์ต PTTEP-BANPU-TTA-LH-QH-SCC-SCCC
    การเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดรับศักราชใหม่ (5 ม.ค. 52) ปรับตัวคึกคักจากการเกิด January Effect ส่งผลดัชนีมาปิดตลาดที่ระดับ 478.69 จุด เพิ่มขึ้น 28.73 จุด หรือ 6.39% มูลค่าซื้อขายรวมหนาแน่น 18,596 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อสุทธิในหุ้นขนาดใหญ่แถบทุกกลุ่ม ซึ่งนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 951 ล้านบาท และสถาบันซื้อสุทธิ 1,926 ล้านบาท ขณะที่รายย่อยขายสุทธิ 2,877 ล้านบาท
    นายกวี ชูกิจเกษม บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยรับศักราชใหม่ในวานนี้ (5 ม.ค.)มองว่า เป็นการเข้ามาเก็บหุ้นของกองทุน นักลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นการปรากฏการณ์ January Effect หลังจากในช่วงที่ผ่านมาดัชนีได้ปรับตัวลงอย่างหนัก โดยมองกรอบดัชนีรอบนี้ไว้ที่ 463-520 จุด
    ประกอบกับทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเข้ามาเก็บหุ้น หรือ January Effect ในช่วงเดือนมกราคมเช่นกัน จากความคาดหวังในการเข้ามาบริหารงานของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐ จากนโยบายสนับสนุน และการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ดีมากขึ้น
    อีกทั้งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในขณะนี้อยู่ในจุดต่ำสุด 0%  ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลในปัญหาการนำเงินสดมาลงทุน และอาจจะประสบปัญหาขาดทุนลดลง ซึ่งวิธีการบริหารความเสี่ยงดังกล่าวจึงนำเงินมาลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงที่ตลาดเปิดศักราชใหม่ และราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำ
    ส่วนสถานการณ์ในประเทศเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นด้านการลงทุนในอนาคต ซึ่งจากตังเลขเงินเฟ้อในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาลดลงมาอยู่ในระดับต่ำมา และประเมินว่าตัวเลขเงินเฟ้อในปีนี้อยู่ที่ 0-1.2% เท่านั้น จึงมองว่ามีโอกาสที่จะเห็นแบงก์ชาติปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14 มกราคมนี้ ประมาณ 0.75% เหลือ 2.00% และทั้งปีคาดว่าดอกเบี้ยจะลดเหลือ 1-1.5%ได้
    สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐ เช่น กลุ่มรับเหมา และหุ้นกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ เพราะราคาหุ้นยังปรับตัวน้อยกว่าตลาด




*ฝรั่งซื้อจริงหรือหลอก
    ด้านม.ล.ทองมกุฏ ทองใหญ่ ผู้อำนวยการฝ่ายเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ซิตี้ คอร์ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การปรับตัวคึกคักของดัชนีตลาดหุ้นไทยรับศักราชใหม่ปี 2552  มองว่าเป็นการฟื้นตัวตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ฟื้นตัวจากการเกิด January Effect ในช่วงเดือนมกราคมนี้
    อีกทั้งคาดว่านักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นบ้าง จากความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากรัฐบาลของสหรัฐมีนโยบาย และอัดเม็ดเงินเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจ ประกอบกับตัวเลขการว่างงานในช่วงเดือนที่ผ่านมาลดลงด้วย แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาต่อไปว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาเก็งกำไรเพียงช่วงสั้น หรือเพื่อการลงทุนในระยะยาวกันแน่
    ดังนั้นคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในระสั้นมีโอกาสฟื้นตัวไปทดสอบที่ระดับ 500 จุด จึงแนะนำทยอยสะสมหุ้นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น BBL, SCB เพราะราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับต่ำมากจากปัจจัยลบในช่วงที่ผ่านมา
*สอยหุ้นไวดัชนี
    นายพงศ์พันธุ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีในเดือนมกราคมนี้ มีลุ้นปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านสูงสุดที่บริเวณ 500 จุด  จึงเป็นจังหวะเหมาะลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่ไวต่อดัชนี เช่น กลุ่มพลังงาน เช่น PTTEP, BANPU และ TTA เพราะความเสี่ยงตลาดหุ้นโลกลดลง ประกอบกับราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวคาดว่าจะอยู่ในกรอบ 40-50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลได้ และยังจัดเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่นักลงทุนสถาบันนิยมเก็งกำไร โดยล่าสุดราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับ 46.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นการฟื้นตัวถึง 16%
    ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เช่น หุ้น LH และ QH ซึ่งได้รับผลดีจากมาตรการลดหย่อนภาษี และ ต้นทุนวัสดุก่อสร้างลดลง , กลุ่มที่ 3 วัสดุก่อสร้าง อาทิ SCC และ SCCC เนื่องจากได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง และต้นทุนพลังงานลดลง โดยเฉพาะ SCC คาดว่าตลาดได้สะท้อนผลขาดทุนสต๊อกในธุรกิจปิโตรเคมี ตั้งแต่ไตรมาส 4/2551 และคาดการณ์กำไรต่อหุ้นที่จะปรับตัวลง 18% ในปี 2552 ไปมากแล้ว ขณะที่ต้นทุนการผลิตปูนซีเมนต์ที่ลดลงและการขยายกำลังการผลิตในธุรกิจปิโตรเคมี รวมทั้งภาวะตลาดที่ฟื้นตัวคาดว่าจะช่วยหนุนราคาหุ้น
    และหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เช่น BAY ซึ่งมีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นสหรัฐมากบนการฟื้นตัวของหุ้นสหรัฐซึ่งไปเป็นผลดีต่อ GE ที่ถือหุ้นอยู่ในธนาคาร 33% โดย BAY มีการแกว่งตัวตามตลาดมากที่สุดในหมู่หุ้นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่คือราว 1.7 เท่า  
   


http://www.thunhoon.com/home/
 

--------------------------------------------------------------------------------
ภาพประจำตัวสมาชิก
นกน้อย
Verified User
โพสต์: 576
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นไทยวิ่งฉลองปีฉลู ลุ้น520จุด

โพสต์ที่ 2

โพสต์

:shock:
แสวงหาเสรีอิสระ
ก็ใช่จะมีใครไปหวงห้าม
แต่อย่าเพิ่งล้าละพยายาม
ก่อนจะข้ามสู่เสรีที่จินตนา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นไทยวิ่งฉลองปีฉลู ลุ้น520จุด

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ให้ 1 ตัว  :rofl:
โพสต์โพสต์