สมาคมฯแถลงข่าวกรณี secc โกงนักลงทุน

[สามัญชน]

สมาคมส่งเสริมนักลงทุนไทย
จะแถลงข่าว 14.30 น. วันนี้ (17 ธค. 51)
ที่ตลาดหลักทรัพย์
คุณวิชัย นายกแถลงเองครับ

มีประเด็นฉาวโฉ่เด็ดๆเพียบ
ครั้งนี้นับว่าเหนือเมฆจริงๆ

มือใหม่มือเก่า
ที่เคยเจอประสบการณ์การโกงในอดีต
และเชื่อว่าไม่น่าจะมีมุขใหม่ๆมาโกงได้อีกแล้วในสมัยนี้และพศ.นี้
ลองไปฟังดูครับว่า

[น้ำครึ่งแก้ว]

ใครได้-ใครเสีย ??? กับเสี่ยรถหรู  
วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551

รถหรู เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (SECC) มหกรรมกลโกง หลอกลวงคนเล่นหุ้นส่งท้ายปี 2551 เป็นบทเรียนที่ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกกับนักลงทุน

และทุกกรณีที่เคยเกิดขึ้น มีบทสรุปเดียวกันคือ เจ้าของ ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โจรในคราบสูท ปล้นบริษัทและผู้ถือหุ้น

กรณีของรถหรูก็เช่นกัน ใครเลยจะคิดว่า ตี๋หน้าขาว ใจคด อย่าง สมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ร่วมกับ เสี่ยแก๊สระเบิด กล้าหักแม้กระทั่งผู้มีบุญคุณ หรือเพื่อนที่รู้จักกันมา 20 กว่าปีอย่าง ไพบูลย์ สุขสุธรรมวงศ์ จะถูก สมพงษ์ ที่หลงใช้คำว่าเพื่อนรักมานาน ทำได้ขนาดนี้

หลังจากเสี่ยรถหรู หลบๆ ซ่อนๆ ไม่เปิดเผยที่อยู่ขณะนี้ ได้ปล่อยให้ ไพบูลย์ เผชิญชะตากรรมถูกหิ้ว-ถูกหาม ถึงแม้ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเขาร่วมกันก่อกรรมที่ได้ทำนี้หรือไม่ก็ตาม ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท แต่ขอรับรองว่าการดำเนินชีวิตหลังจากนี้ของ ไพบูลย์ ไม่สุขนัก จะด้วยรับกรรมที่ทำของตนเองหรือของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดก็ตาม

ตัวละครแต่ละคนที่หลงเข้ามาอยู่ในวิบากกรรมของ เสี่ยรถหรู มีไม่น้อยซึ่งแต่ละคนล้วนขึ้นระดับบิ๊กของทุกวงการตั้งแต่วงการ สีกากี สีเทาขุ่นๆ หรือสีนักธุรกิจ สีนักลงทุน รายใหญ่ เป็นทั้งเจ้าหนี้นอกระบบ แฟนคลับลงทุนหุ้น SECC

บางคนที่ได้กลิ่นตุๆ ของ สมพงษ์ ก็ออกตัวขายหุ้นทัน แต่บางคนที่ถลำเชื่อไม่ทันฉุกคิด เสียหายกันไม่น้อยหลายร้อยบาททีเดียว

พฤติกรรมของ สมพงษ์-เพื่อนซี้ ที่เข้าถึงบุคคลเหล่านี้ได้ จะใช้วิธีการขายตรงส่งตรงถึงบ้าน เมื่อรู้ว่าใครเป็นใคร จะตามโทร. จิกไม่ปล่อยจึงไม่แปลกที่มีชื่อนักธุรกิจ การเมือง คนมีสี เข้ามาซื้อหุ้น บางคนเปิดเผยชื่อ บางคนใช้ตัวแทน (นอมินี)

เริ่มกันตั้งแต่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้การกองปราบปราม ที่สนิทชิดเชื้อกับ เสี่ยแก๊สระเบิด ถูกชักชวนเข้ามาลงทุนหุ้นหลายๆ ตัวที่ เสี่ยแก๊สฯ เข้าทำ ซึ่งตัวสุดท้ายก่อนที่ ผู้การกองปราบปราม จะถอนตัวก็คือ SECC คนนี้โชคดีที่ถอนทุนออกไปก่อน


จากผู้การกองปราบ มาถึง เสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้กว้างขวางเส้นรัชดาภิเษก ถูกหลอกให้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่นำเสนอขายนักลงทุนเจาะจง (PP) จ่ายเงินไปแล้ว 10.5 ล้านบาท แลกกับหุ้น 5 ล้านหุ้น เป็นอีกคนหนึ่งที่ สมพงษ์ เกรงกลัวและมีส่วนทำให้เผ่นหนี

ถัดมา สุคนธ์ กาญจนหัตถกิจ นักลงทุนรายใหญ่ เครือญาติ โอฬาร คูหาเปรมกิจ เสี่ยธุรกิจค้าทองคำรายใหญ่ เจ้าของ บล.โกเบล็ก ถูกหว่านล้อมซื้อหุ้น PP ลักษณะเดียวกับเสี่ย กำพล แต่รายนี้ไหวตัวทัน ตั้งแต่หุ้นปลอมระบาด ขายทิ้งเกลี้ยงออกบนกระดาน

ส่วนคนที่ยอมไม่ได้ ว่ากันว่า คือ พล.ต.อ. ช ที่คุณหญิงภรรยา โดนหนัก ว่ากันว่าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ถึงขนาดส่งคนเข้าคุมรถในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป และคอยหิ้ว-คอยตามผู้บริหาร SECC อยู่ในขณะนี้ให้สาสมกับความแค้นที่ฝากไว้ ถึงแม้ว่าคุณหญิงภรรยา จะซื้อขายโยนหุ้น SECC เข้าออกวันสุดท้ายก่อน สมพงษ์ หนีก็ตาม

นอกจากนี้ ยังมี เฮียตือ เจ้าของน้ำมันคอสโม่ และเจ้าของบ่อนปอยเปต พ่อ นักการเมืองชื่อดัง ถูกหลอกเข้ามาซื้อหุ้น คนนี้โดนไปไม่น้อย แต่เงินก็ไม่สำคัญเท่ากับถูก เด็กรุ่นลูก ตุ๋นจนเปื่อย ถึงไม่แปลกที่ เฮียตือ จะสบถล่าข้ามโลกเอา สมพงษ์ กลับมารับโทษกรรมที่ทำไว้

อีกคนที่เป็นทั้งเจ้าหนี้ส่วนตัวและผู้ถือหุ้นใหญ่ โดนไปหลายร้อยล้านบาท คือ ชาญ เลิศประเสริฐภากร เสี่ยใหญ่นักธุรกิจเจ้าของอสังหาริมทรัพย์, เจ้าของโชว์รูมขายรถฯ ซึ่งเป็นอีกคนที่ เจ็บไม่น้อย ไปกว่าคนอื่นๆ เพราะ ลำพังปล่อยกู้ให้ สมพงษ์ หรือจะพ่วงเพื่อนร่วมก๊วนสมพงษ์ เสียเงินได้ถือหุ้นใหญ่ SECC ไปแล้วก็ตาม วินาทีสุดท้ายก่อนจาก ยังถูกเจาะไข่แดงฝากรักเต็มเปา ให้ช่วยซื้อหุ้นอีกหลาย สิบล้านบาท

ส่วน โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ เครือญาติกลุ่มไทยซัมมิท และซัมมิท ออโต้พาร์ท เจ้าหนี้รายใหญ่ของ เสี่ยซันนี่ คนนี้ฉลาดจ่ายเงิน (กู้) ต้องแลกกับหุ้น หรือหุ้นมาเงินไป เงิน (ดอก) ไม่จ่าย มีหุ้นในมือให้ขาย ได้เงินชัวร์ๆๆๆๆ จึงได้เห็นเสี่ยโกมล ซื้อๆ ขายๆ หุ้นในกลุ่มเสี่ยซันนี่เป็นประจำ

และคนที่รอดจากการตามล่าของ สมพงษ์ มาได้หวุดหวิดคือ ชนะชัย ลีนะบรรจง เสี่ยใหญ่นักลงทุนเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นอีกคนที่อยู่ในเป้าหมายให้ซื้อหุ้นเพิ่มทุน PP ราคา 2.10 บาท รอบเดียวกับ สุคนธ์และ กำพล จะด้วยดวงไม่เสียตังค์ ช่วงสับเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ ทำให้ สมพงษ์ ติดต่อโดยตรงไม่ได้ แต่ส่งผ่านไปยังน้องชาย ชนะชัย แต่ ชนะชัย ไหวตัวทัน ไม่ยอมให้เจอ เลยรอดตัวได้หวุดหวิด

จุดจบของเกมรถหรู SECC นี้ ไม่ได้อยู่ที่ใครได้-ใครเสีย แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่จะบอกได้อยู่ที่กรรมที่กระทำไว้ต่างหาก เร็วหรือช้า ได้รับเหมือนกัน เพราะทุกคนมีกรรมเป็นทายาท และขอฝากความหวังไว้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ต้องสาวให้ลึกและลากคนในขบวนการไซฟอนเงินออกจากบริษัทมาลงโทษตามกฎหมายทั้งหมด!!!

พวกเก๋าๆ  ทั้ง เก๋าจริง และ เก๋า.... (ไม่จริง)  โดนกันเพียบครับ

ขอบคุณครับ

[น้ำครึ่งแก้ว]

ลืมที่มาแหล่งข่าวครับ

www.posttoday.com

ขอบคุณครับ

[ปรัชญา]

ส.ส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ชี้กรณี SECC กระทบด้านลบต่อธรรมาภิบาล บจ.
         

นายวิชัย พูลวรลักษณ์ นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เปิดเผยว่า กรณี
ของบริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC
กระทบกับภาพลักษณ์ของบริษัทจดทะเบียนและการดูแลกิจการ ตลอดจนธรรมาภิ
บาลของบริษัทจดทะเบียนโดยตรง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันรักษา
ภาพลักษณ์ให้เห็นว่าเป็นเรื่องของแกะดำเพียงตัวเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ ทางสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยมีความเห็นว่าในเบื้องต้นน่าจะ
ใช้เวลาประมาณ 5 วันเพื่อรวบรวมรายชื่อของผู้ถือหุ้นที่ได้รับความเสียหายให้ได้มาก
ที่สุด จากนั้นจะนำรายชื่อดังกล่าวไปดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับ
หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) ต่อไป
ขณะเดียวกัน ต้องการให้นักลงทุนที่ได้รับความเสียหายรีบติดต่อมายัง
สมาคมฯ โดยเร็วที่สุด เพราะเรื่องนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นผู้
บริหารระดับสูงและอาจรวมถึงคณะกรรมการบริษัท กรรมการอิสระ กรรมการตรวจ
สอบ ของบริษัทอาจจะกระทบกับภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทจดทะเบียนได้
'เรื่องของ SECC เป็นเรื่องใหญ่มีทั้งการให้กู้ยืมนอกระบบ รถหาย ใบหุ้น
ปลอม ป้ายทะเบียนซ้ำซ้อน การเกี่ยวพันกับบุคคลหลายกลุ่ม ทั้งเจ้าหนี้บริษัท
ลูกค้า คณะกรรมการ ผู้สอบบัญชี และนักลงทุน จึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการ
ตรวจสอบพอสมควร' นายวิชัย กล่าว



ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   17/12/08   เวลา   16:42:41

[charnengi]

ข้อแก้ตัว เอ้ย ข้อชี้แจง ตามกันต่อ ระวังเป็นแมงเม่านะครับ อตร จริงๆ

เรื่อง ขอขยายระยะเวลาชี้แจงข้อมูล
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
      ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

            ตามที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ขอให้บริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด
(มหาชน)(SECC) ดำเนินการชี้แจงความคืบหน้าเรื่องต่างๆ ดังนี้
            1. ความคืบหน้าการรับชำระหนี้คืนเงินให้กู้ยืม 240 ล้านบาท
            2. ความคืบหน้าการจัดให้มีการตรวจสอบพิเศษ(Special Audit) ตามคำสั่งของสำนักงาน ก.ล.ต.นั้น
             ขอเรียนว่าบริษัทมิได้นิ่งนอนใจและไม่มีเจตนาที่จะไม่ดำเนินการเรื่องต่างๆเพื่อรายงานต่อตลาด
หลักทรัพย์และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) แต่อย่างใด ภายหลังที่
บริษัทได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบแล้วนั้นคณะกรรมการตรวจสอบแต่งตั้งและมอบหมาย
ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการในการตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆของบริษัทและขณะนี้อยู่ระหว่างที่คณะทำงานซึ่ง
ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการตรวจสอบ ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆของบริษัท ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ
ประเด็นการชำระนี้เงินให้กู้ยืม บริษัท เอสอีซีซี โฮลดิ้ง จำกัด นั้นอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามทวงถามการชำระ
หนี้ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จเช่นกัน
            ส่วนประเด็นการจัดหาผู้สอบบัญชี เพื่อดำเนินการตรวจสอบบัญชีกรณีพิเศษ (Special Audit) นั้น
บริษัทได้ดำเนินการติดต่อบริษัทและสำนักงานตรวจสอบบัญชีตามรายชื่อผู้ตรวจสอบบัญชีที่ได้รับความ
เห็นชอบจาก กลต. เพื่อขอให้สำนักงานบัญชีต่างๆ รับเป็นผู้ตรวจสอบตามคำสั่งของ กลต. แล้วแต่ปรากฏว่า
ได้รับการปฎิเสธ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขอให้ บริษัท เอส.เค.แอคเค้าน์แต้นท์ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นผู้ตรวจสอบ
บัญชีของบริษัทแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ
            ด้วยเหตุจำเป็นดังกล่าวข้างต้น บริษัทจึงขอขยายระยะเวลาในการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อตลาดหลักทรัพย์
เพื่อให้คณะทำงานได้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินและดำเนินการติดตามเรื่องต่างๆแล้วเสร็จ

       จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

                                                 ขอแสดงความนับถือ



                                           ( นายไพบูลย์ สุขสุธรรมวงศ์ )
                                         ประธานกรรมการ/กรรมการผู้จัดการ

[แผ่วเบา]

SECC ใช้บริการบริษัท  เอส.เค. แอคเคาน์แต้นท์  เซอร์วิสเซส  จำกัด
เป็นผู้สอบบัญชี  ไม่รู้มีอะไรดี
ลองไปดูเวปไซด์ของบริษัทนี้กัน
http://www.skaccountant.com/person_th.html

นอกจากนี้บริษัทที่ดังๆในอดีตก็ชอบเช่นกัน ได้แก่


POMPUI ที่โด่งดังทะลุฟ้าเมื่อหลายปีก่อน
http://www.thaiset.com/thaiset/set/290347/set05.jsp
ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไข


และนี่ที่ดังเป็นพลุแตก PICNI
ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นและมีข้อสังเกต  
บรรทัดนี้สืบค้นเจอหลังจากบริษัทมีปัญหาปรากฎชัดต่อสาธารณไปแล้ว
ไม่ทราบเหมือนกันว่าตอนที่เรื่องไม่ดัง  แสดงความเห็นอย่างไรเพราะค้นไม่เจอ

อ้อ.......เจอแล้วครับ
หมายเหตุยาวเหยียดเหมือนกันครับ
ก่อนหน้านั้นก็ เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด (ชื่อเดิม) ซึ่งมีหมายเหตุยาวเหยียดเช่นกัน


และเมื่อสืบค้นต่อก็พบอีกหลายบริษัทที่ใช้บริการผู้สอบบัญชีบริษัทนี้ เช่น

อ้อ.......ไม่ได้บอกว่าเอส.เค. แอคเคาน์แต้นท์  ดีหรือไม่ดีนะครับ สมาชิกพิจารณาและตัดสินเอง

เขาอาจจะปฎิบัติหน้าที่ถูกต้องแล้วก็ได้ หรือมีลับลมคมในผมก็ไม่สามารถบอกได้เช่นกัน

STEEL
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=24105

DEMCO
http://www.thailistedcompany.com/ir/dem ... 146&cat=3&

SFP
http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=45286

APURE
http://www.apureholdings.com/th/news/070419_001.html

CPL
http://www.dbsvitrade.com/brokerpage/SE ... 90/70.html

CSP
http://www.cspsteel.com/meeting01.html

PAE
http://www.bangkokbiznews.com/2007/04/3 ... wsid=66652

MLINK
http://www.settrade.com/simsImg/news/2008/08014914.t08

SMM

RICH

MATI

LNH

[แผ่วเบา]

เหลือแต่ซาก?

http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2006q ... ne07p5.htm

เท่าที่ตรวจสอบจากรายงานผู้ตรวจสอบบัญชีของบริษัท เอส.เค.แอคเคาน์แต้นท์ เซอร์วิสเซส จำกัด (เดิมเป็นสำนักงาน เอิสท์ แอนด์ ยัง) พบว่าประเด็นสำคัญที่มีความซับซ้อนอย่างมากมี 3 ประการคือ

1.หนี้สินมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท ระหว่างปิคนิคกับกลุ่มบริษัทโรงบรรจุก๊าซ 18 บริษัทที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตผู้บริหารและกลุ่มผู้ถือหุ้นบางกลุ่ม

2.การจัดซื้อถังก๊าซขนาดเล็กจากบริษัทแสงทองไทยผลิตถัง มูลค่า 2,166 ล้านบาท ที่มีการตัดออกจากบัญชีถึง 1,000 ล้านบาท และผู้ตรวจสอบบัญชียังไม่สามารถสอบทานถึงปริมาณถังที่อ้างว่ามีอยู่ในบัญชีอีก 1,100 ล้านบาท ได้ว่ามีอยู่จริงหรือไม่

3.การจัดซื้อถังก๊าซขนาดใหญ่จาก หจก.แห่งหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตผู้บริหารมูลค่า 963 ล้านบาท มีการจ่ายมัดจำล่วงหน้าไปแล้ว แต่ยังมิได้รับมอบถังก๊าซ

ประเด็นต่างๆ เหล่านี้ถ้าพิจารณาข้อมูลพยานหลักฐาน และปัจจัยแวดล้อมอย่างละเอียดแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการจัดซื้อถังก๊าซ มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาทแล้ว ทำให้เชื่อว่าถังก๊าซจำนวนดังกล่าว มิได้มีการผลิตจริง ซึ่งการตรวจสอบหลักฐาน ทำได้ง่ายมาก เช่น การตรวจสอบวัตถุดิบในการผลิต การตรวจสอบความสามารถในการผลิต ของโรงงานผู้ผลิต (เป็นเพียงโรงงานขนาดเล็ก) ซึ่งประเด็นเหล่านี้โยงกับการเสียภาษี (การออกใบกำกับภาษีปลอม?) ความฉ้อฉลของผู้ตรวจสอบบัญชีซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ควรประสานงานกับกรมสรรพากร และสภาวิชาชีพนักบัญชีเข้าตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นระบบ

สีน้ำเงินที่ระบายไว้
ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับกรณี SECC จริงๆ
มีสต็อครถหรูมหาศาล
แต่ไม่มีตัวตนจริง

[naris]

ดูชื่อแต่ละบริษัทที่ตรวจสอบ ได้บอกอะไรๆเป็นเลาๆบ้างนะครับ มีการสืบสวนอย่างแผ่วเบาอย่างนี้ ขอlinkไปกระทู้โพยลับนะครับ :lol:
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... sc&start=0

[oatty]

ขอบพระคุณอย่างสูงสำหรับข้อมูล

[miracle]

โจรผิดแล้วให้โจรตรวจมีที่ไหน

แล้วอีกอย่าง
เอาขี้ไปให้คนอื่นตรวจ ใครเขาทำกัน

กลต น่าสั่งไปเลยว่า บริษัทไหนเป็นหน่วยกล้าตาย
ขอแบบว่า ถือดาบอาญาสิทธิ์ ว่าไม่ให้ข้อมูลถึงว่า ผิด
แบบนี้ เรียบร้อยเร็วไว้แน่นอน

เหมือนตอนที่จิวยี่ได้รับดาบอาญาสิทธิ์จากซุนกวน
สามารถประหารใครก็ได้โดยไม่ต้องบอกซุนกวน
(ประหารก่อนทูลที่หลัง)

[nasathit]

โจรผิดน่ะใช่ครับ แต่รู้ได้อย่างไรครับว่าให้"โจร"ตรวจ ผมว่ากรณีนี้อย่าเพิ่งกล่าวหาผู้สอบบัญชีเลยนะครับ (พูดในฐานะเพื่อนร่วมวิชาชีพด้วยกัน) ผมคิดว่าเป็นไปได้น้อยมากที่ผู้สอบบัญชีจะรู้เห็นเป็นใจกับผู้บริหารครับ (ผลตอบแทนมันไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงหรอกครับ) และผมก็ไม่เชื่อด้วยว่าในโลกแห่งความเป็นจริงควรให้ใครคนใดคนหนึ่งถือดาบอาญาสิทธิ์ครับ

[krisy]

งบไตรมาสนั้นเป็นการสอบทานล้วนๆ ไม่ได้ตรวจเลย (หน้ารายงานกับหมายเหตุบอกไว้ชัดเจน) สินค้าจะนับก็กรณีสิ้นปี ทำให้การยกรถหายไปทั้งโกดังทำได้ ถ้าระบบควบคุมภายในไม่ดี + ผู้บริหารทุจริต

กรณี SECC เป็นงบไตรมาสสามแล้ว ผู้สอบไม่ได้เห็นของมา 9 เดือน จะเหมาว่าผู้สอบเป็นโจร อันนี้เห็นจะตัดสินจากความไม่เข้าใจมากไปสักนิด ถ้าเป็นงบปลายปีแล้วออกมารูปนี้ นั่นแหละโจร

ทางแก้ ก็ตรวจ full audit กันมันทุกไตรมาส audit firm จะรวยอื้อซ่าเลย หรือไม่ก็ใช้วิจารณญาณในการดูงบไตรมาสสักหน่อยว่ามันสอบทานเท่านั้น

[miracle]

มันไม่ควรครับ
เพราะ บริษัทนี้ตรวจสอบบัญชีของ SECC มาตลอดตั้งแต่เข้าตลาด
ในเมื่อบริษัทมีปัญหาต้องโดยตรวจสอบบัญชีกรณีพิเศษ
คุณในฐานะผู้ตรวจสอบก็โดนต้องสงสัยว่าสมรู้ร่วมคิดในการกระทำด้วยกล่าวด้วย แม้นว่า คุณเขียนไว้ชัดเจนว่า แค่ตรวจทานเท่านั้น

ผมขออ้างอิงหนังสือ"แกะเงื่อนงบการเงิน โดย ดร. ภาพร เอกอรรถพร"
ลองไปอ่านดูอีกรอบครับในตอนต้นของหนังสือที่บอกเกี่ยวกับการอ่านความเห็นของผู้ตรวจสอบบัญชี (หน้าแรกว่าให้นับ 3 วรรค ถ้ามีสี่วรรค เริ่มต้องสงสัยมีอะไรไม่ชอบมาแล้ว)

[miracle]

ผมเข้าใจความคิดของคุณnasathit และ krisy
แต่ในเมื่อเป็นผู้ต้องสงสัยแล้ว ถ้าอย่าให้พ้นผิดต้องให้คนอื่นมาตรวจสอบ
ไม่ใช่คุณมาตรวจสอบตัวเองแล้วให้พ้นผิด

[terati20]

บล ไหนเป็นคนนำ  SECC  เข้าตลาดครับ

[krisy]

อืม krisy ไม่ได้รู้จัก SECC มาแต่ต้นค่ะว่า มีรายการหรือกลโกงมาตั้งแต่แรกหรือเปล่า

จากข่าว ก็ทราบเพียงแต่สินค้าที่หายไปหมดโกดังเลยมั้ง ก็เลยดูเป็น one time event มากกว่า recurring event แต่ของแบบนี้ ถ้ามีการปลอมเอกสารกรรมสิทธิ์ของรถมาหลายปีแล้ว ผู้สอบก็มีหน้าที่จะต้องตรวจให้เจอค่ะ

ตราบใดที่บริษัทเลือกผู้สอบได้เอง ก็จะยังมีแบบนี้อีกเรื่อยๆ

[121]

แล้ว picnic ด้วยครับ โบรคไหนเอากลับมาเข้าตลาด...

[เก็ตถวา]

แล้วจากข่าว"เสี่ยแก้สระเบิด" หมายถึงใครคะ ใครพอจะบอกได้บ้าง

[chode]

ดูแล้วการลงทุนคงหวังพึ่งตลท.กับกลต.ไม่ได้เลย
คงต้องใช้วิธีอ่านโพยลับเอา

[chode]

แล้ว picnic ด้วยครับ โบรคไหนเอากลับมาเข้าตลาด...

http://www.settrade.com/C13_StockIpo.jsp#ipo เลือกปี 2006

หนังสือชี้ชวน
http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fi ... mp_id=0968

[lieu]

อ้อ.......เจอแล้วครับ
หมายเหตุยาวเหยียดเหมือนกันครับ
ก่อนหน้านั้นก็ เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด (ชื่อเดิม) ซึ่งมีหมายเหตุยาวเหยียดเช่นกัน

หมายความว่า เอินส์ท แอนด์ ยัง เปลี่ยนเป็น S K Accountant อย่างนั้นหรือคะ
แต่ทำไมยังมีชื่ออยู่ ทั้ง 2 บริษัทเลยล่ะคะ
PB ก็ใช้ของเอินส์ท แอนด์ยัง เหมือนกัน
ชักเสียวสันหลังแล้วล่ะสิ
ขอความกระจ่างเพิ่มเติมด้วยค่ะ

[investment biker]

หมายความว่า เอินส์ท แอนด์ ยัง เปลี่ยนเป็น S K Accountant อย่างนั้นหรือคะ
แต่ทำไมยังมีชื่ออยู่ ทั้ง 2 บริษัทเลยล่ะคะ
PB ก็ใช้ของเอินส์ท แอนด์ยัง เหมือนกัน
ชักเสียวสันหลังแล้วล่ะสิ
ขอความกระจ่างเพิ่มเติมด้วยค่ะ

ไม่ใช่ครับ น่าจะเป็นเดิม E&Y เป็นคนตรวจ picnic เข้าใจว่าพอเริ่มมีกลิ่นไม่ดี (เรื่องเริ่มแดง) E&Y ก็เผ่นออก เอาตัวรอด คงกลัวเสียภาพพจน์

จากนั้น picnic ก็ต้องหาผู้สอบบัญชีคนใหม่ ก็ได้ S K Accountant มาตรวจสอบแทน

สรุป เป็นคนละบริษัทกันครับ แต่อย่าเหมาว่าเป็น big 4 แล้วจะปลอดภัยกว่านะครับ เพราะอย่างกรณี picnic เนี่ย การนับถังแก็สไม่ถูก (หายไปหลายพันล้านบาท  :lol: ) น่าจะเกิดมาตั้งแต่สมัย E&Y ตรวจ

แต่เท่าที่ผมอ่านมาเรื่องนี้กลับกลายมาเป็นการหาแพะรับบาป อันที่จริงแล้วน่าจะเล็งไปที่คนทำผิดโดยตรงมากกว่ามาเน้นจับผิด auditors

ผู้บริหารที่ฉ้อโกงมีมามากมายนับไม่ถ้วน ไม่ทราบว่ามีท่านใดเคยโดนลงโทษเป็นคดีอาญา (เข้าคุกไปเลย) บ้างครับ โจรปล้นธนาคารโดนจับเข้าคุก แต่ผู้บริหารขโมยเงินจากบริษัทมหาชน ไม่เห็นโดนจับเข้าคุกบ้างเลย

ถามว่าทำไมทำไม่ได้ ผมว่าน่าจะเกิดจากพอเป็นคดีอาญาต้องส่งเรื่องให้ตำรวจและอัยการฟ้อง ซึ่ง กลต ทำอะไรมากไม่ได้ ผู้บริหารก็แค่ยัดเงินให้ตำรวจกะอัยการ เรื่องก็จบ

ถามว่าทำไมที่อเมริกาทำได้ คือผู้บริหาร Enron โดนจับเข้าคุกได้ อันนี้ กลต คงต้องไปศึกษาดูครับว่าทำกันอย่างไร แต่จะโทษ กลต ก็ไม่ได้ครับ เพราะ กลต ก็เป็นแค่ลูกจ้างรัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง พอรัฐมนตรีคลังเข้าเยี่ยมก็มาต้อนรับกันเป็นการใหญ่  :lol:

ถ้าผู้บริหารสนิทกับนักการเมือง ก็น่าจะรอดอยู่ดี คงต้องเห็นใจทุก ๆ ฝ่ายครับ กลต ก็เป็นแค่คนธรรมดา มีลูกเมีย ถ้าเป็นเราโดนนักการเมืองส่งคนมาโทรถามว่าลูกเมียสบายดีไหม ยังจะกล้าฟ้องไหม หาทางลงโทษ auditors (พวกที่ไม่มีอำนาจ) น่าจะปลอดภัยกว่ากันเยอะเลย  :lol:

[Ryuga]

[quote="พี่ terati20"]บล ไหนเป็นคนนำ

[lieu]

ขอขอบคุณ คุณ investment biker ค่ะ
สำหรับคำตอบเรื่อง auditor
ช่วยให้ยิ้มออกได้อีกครั้ง

[miracle]

กลต เป็นองค์กรอิสระน่าครับ
ไม่ขึ้นกับใคร เหมือน คปภ
ต้นแบบของ คปภ คือ กลต เนี่ยละ

ถ้าการเมืองมาวุ่นวายในองค์กรอิสระ ก็ตัวใครตัวมันน่าครับ
แสดงว่าไม้บรรทัดไม่ตรงไปตรงมา
(ไม่เอาการเมืองมาพูดดีกว่า เดี๋ยว board เป็นน้ำร้อนเดือด)

เมืองไทยเสียอย่างคือ องค์กรอิสระไม่อิสระจริง
คนทีตรวจสอบดันเคยทำงานนั้นมา มันเท่ากับตรวจสอบตัวเอง ในสิ่งที่ตัวเองเคยทำมีที่ไหนเขาทำกับแบบนี้บ้าง

[miracle]

ไม่เคยเห็น กลต มีต่อทางว่า ในสังกัดกระทรวงการคลัง น่าครับ
ในหน้าหนังสือพิมพ์
พนักงานของ กลต ก็ไม่ได้เป็น ราชการด้วย
เช้าชามเย็นชามคงไม่มีด้วยล่ะครับ

[chode]

ไม่เคยเห็น กลต มีต่อทางว่า ในสังกัดกระทรวงการคลัง น่าครับ
ในหน้าหนังสือพิมพ์
พนักงานของ กลต ก็ไม่ได้เป็น ราชการด้วย
เช้าชามเย็นชามคงไม่มีด้วยล่ะครับ

ตลท. กลต.และแบงก์ชาติของไทยปัญหาคล้ายกันครับเป็นอิสระ  แต่ไม่มีองค์กรใดเข้าไปตรวจสอบ

ทุกๆปีจะเห็นกลต.ลงโทษปลาซิวอย่างตัวอย่างนี้
http://capital.sec.or.th/webapp/webnews ... te=&edate=


ถ้าเป็นที่สหรัฐก็จะจะถูกตรวจสอบโดยรัฐสภา ก็จะเห็นผู้ว่าการFEDต้องไปให้ถ้อยคำอยู่บ่อยๆ


ผู้บริหารบริษัทในตลาดโกง  -> รวย -> ถูกจับไดเสียแต่ชื่อเสี่ยง -> เข้าคุกไม่มีทางหรอกหน่วยงานตรวจสอบไม่เคยกล้า

[investment biker]

ไม่เคยเห็น กลต มีต่อทางว่า ในสังกัดกระทรวงการคลัง น่าครับ
ในหน้าหนังสือพิมพ์
พนักงานของ กลต ก็ไม่ได้เป็น ราชการด้วย
เช้าชามเย็นชามคงไม่มีด้วยล่ะครับ

เข้ามาแก้ไขข้อมูลหน่อยครับ

กลต เป็นองกรค์อิสระก็จริง แต่คณะกรรมการของ กลต ส่วนใหญ่จะได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีนะครับ มีความเป็นไปได้ว่าคณะรัฐมนตรีอาจจะเอาคนสนิทมานั่งใน board กลต

ส่วนกระทรวงการคลังก็มีหน้าที่ดูแลระบบการเงิน และตลาดทุนในประเทศ ทำให้หลายครั้งกระทรวงการคลังอาจจะสั่งให้องกรค์อิสระเหล่านี้ปฏิบัติตามในสิ่งที่รัฐมนตรีคลังต้องการ เช่น เร็ว ๆ นี้ Bank of Thailand ก็บอกว่าธนาคารในประเทศไทยพร้อมสำหรับการเข้าสู่ระบบบาเซิล II แต่รัฐมนตรีคลัง และนายกกลับมาออกข่าวว่าจะเลื่อนการใช้ระบบบาเซิล II ไปอีก 2-3 ปี

อย่างนี้มันก็ไม่อิสระเท่าไหร่นะครับ

องกรค์อิสระในประเทศไทย เป็นอิสระจริงหรือไม่ ผมก็อยากให้เป็นอิสระจริง ๆ และมีคนเก่ง คนดีเป็นคนทำงาน แต่ที่อดสงสัยไม่ได้คือ

ตัวอย่าง เช่น
ระบบศาลยุติธรรมควรจะเป็นองกรค์ที่อิสระที่สุดแล้ว แต่......  ทำไมผู้พิพากษาบ้านเราส่วนใหญ่จะรวย มีบ้านหลังใหญ่ ๆ อยู่กัน  :lol:

เลิก post ดีกว่า เดี๋ยวจะซวยเอา  :lol:

[investment biker]

เพิ่มอีกนิด ปกติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ กลต ด้วยครับผม

ตอนนี้รัฐบาลเพิ่งเปลี่ยนขั้ว ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย Board กลต หลังรัฐบาลเปลี่ยนขั้วอีกละก็..........

แสดงว่านักการเมืองมี say นะครับ  :lol: