ช้างไม่หวั่นเสียงต้าน เข้าเทรดก่อนสิ้นปี51

[vichit]

ช้างไม่หวั่นเสียงต้าน
เข้าเทรดก่อนสิ้นปี51
*ตลาดฯยืนยันไม่เลื่อน
*ชำระเงินค่าหุ้น21พ.ย.
"ไทยเบฟเวอเรจ"(TBEV)ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ช้าง สุราแสงโสม เตรียมเข้าเทรดในตลาดหุ้นไทยเดือนธันวาคมนี้แน่นอน  หลังรอไฟลิ่งครบกำหนดระยะเวลา  30 วันในวันที่21พ.ย.นี้ ทางด้าน"วิเชฐ" มั่นใจเข้าเทรดได้หลังจากที่บริษัทซื้อขายหุ้นและชำระเงินเสร็จเรียบร้อยสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้  ส่วนตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังยืนยันไม่ได้สนับสนุนการดื่มหรือขายสุรา-แอลกฮอล์ให้กับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการสายงานการตลาดศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการนำบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน)หรือ TBEV เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย คาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายได้ภายในเดือนธันวาคม 2551

การเข้าซื้อขายหุ้นTBEV  คงต้องรอให้แบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง) ครบกำหนดระยะเวลาตามเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้กำหนดว่า  การจะขายหุ้นให้กับบุคคลทั่วไป  ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างน้อย 30 วัน ก่อนที่จะมีการขายหุ้น

"เกณฑ์ของก.ล.ต.ต้องให้บริษัทจดทะเบียนที่ต้องการขายหุ้นเปิดเผยข้อมูลตามไฟลิ่งเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน ก่อนที่จะมีการขายหุ้น ซึ่งบมจ.ไทยเบฟฯ ได้ยื่นไฟลิ่งวันแรกเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม และหากนับไปอีก 30 วัน ก็จะครบกำหนดภายในวันที่ 21 พฤศจิกายน นี้"นายวิเชฐกล่าว

ภายหลังจากที่ครบกำหนดระยะเวลาการยื่นไฟลิ่งแล้ว บริษัทสามารถทำการขายหุ้นได้ทันที และ หลังจากที่มีการชำระเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางตลาดหลักทรัพย์ฯก็จะดูว่ามีความพร้อมที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้หรือยัง ถ้าหากไม่มีอุปสรรคใดๆ ก็พร้อมที่จะให้เข้าเทรดในตลาดหุ้นได้ภายในเดือนหน้า

"ตลาดหลักทรัพย์ฯยังคงเดินหน้าต่อไป  ในระหว่างนั้นก็คงยังมีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย แต่ทางตลาดฯคิดว่าคงไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไร  เพราะทุกอย่างก็เดินตามกฎเกณฑ์ที่เคยมีไว้ก่อนหน้านี้ว่าถ้าหากร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ผ่านความเห็นชอบแล้วผ่านก็สามารถที่จะเข้าเทรดได้"นายวิเชฐ กล่าว

นายวิเชฐกล่าวว่า ขอยืนยันว่าตลาดหลักทรัพย์ฯไม่สนับสนุนให้มีการขายหรือส่งเสริมให้มีการดื่มสุรา-เครื่องดื่มแอลกฮอล์ให้กับเยาวชนที่อายุไม่เกิน18ปีแต่สำหรับประเด็นการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นก็เป็นเรื่องของการนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนซึ่งทั้งสองเรื่องไม่มีความเกี่ยวข้องกัน

ทั้งนี้  ไทยเบฟเวอเรจฯ  ได้ยื่นคำขอจดทะเบียน เพื่อกระจายหุ้น(ไฟลิ่ง)ในตลท.จำนวน 80 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 0.3% ของทุนจดทะเบียน 25,511 ล้านบาท ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ซึ่งถ้าก.ล.ต.มีความเห็นชอบให้ดำเนินการได้ ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับนักลงทุนเนื่องจาก TBEV เป็นหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป)ขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง

ก่อนหน้านี้นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง ระบุว่า หากบริษัทไทยเบฟฯเข้าจดทะเบียนในตลท.จะทำให้เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปสูงติดอันดับ  1 ใน 10 ของตลาดหุ้นไทย และทำให้เป็นแรงดึงดูดนักลงทุนเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า หุ้นบริษัทไทยเบฟฯจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะทำธุรกิจหลากหลายไม่ใช่เฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้นและหากเข้าจดทะเบียนทันภายในปีนี้ จะทำให้ตลาดหุ้นไทยมีสินค้าเพิ่มขึ้นและมีขนาดมาร์เก็ตแคปโตขึ้น 1.3 แสนล้านบาท

ขณะที่แหล่งข่าววงการหุ้น ประเมินราคาหุ้น TBEV ที่จะเสนอขายหุ้นสามัญเดิม 80ล้านหุ้นว่าราคาจะอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 5.18 บาท(เทียบอัตราแลกเปลี่ยน 23 บาทต่อดอลลาร์สิงคโปร์)โดยคำนวณจากราคาปิด TBEV ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ณ วันที่ 22 ต.ค.51ที่0.23 ดอลลาร์สิงคโปร์

ประเด็นดังกล่าวจึงถือว่า TBEV จะเป็นหุ้นบูลชิพที่มีราคาต่ำสุดในตลาดและเชื่อว่าจะกลายเป็นหุ้นยอดนิยมของนักลงทุนรายย่อยอีกตัว และเชื่อว่าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือแรงกดดันจากบางกลุ่มหุ้น TBEV น่าจะซื้อขายได้ไม่เกินสิ้นปีนี้
วันที่ 07 พ.ย. 2551 แสดงข่าวมาแล้ว -1วัน 13ช.ม. 6นาที
 

http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/fir ... ?cid=20473