ภาวะหุ้นไทยเริ่มฟื้น

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
vichit
Verified User
โพสต์: 15833
ผู้ติดตาม: 0

ภาวะหุ้นไทยเริ่มฟื้น

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ภาวะหุ้นไทยเริ่มฟื้น
สัญญาณระยะสั้นสวย
กูรูเชื่อสถานการณ์การลงทุนระยะสั้นของหุ้นไทยเริ่มดีขึ้น แต่ยืนยันตลาดฯยังผันผวนอยู่ ตั้งแนวรับเลวร้ายสุดไว้ที่ 300-360 จุด แต่ถ้าหากดัชนีร่วงลงมาต่ำกว่า 400 จุดถือเป็นโอกาสที่จะเข้าซื้อ เชื่อดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวที่ระดับ 480-530 จุด แนะซื้อหุ้นที่เป็นเบอร์ 1-2 ของอุตสาหกรรมที่ร่วงหนัก และมีสภาพคล่องสูง TOP LH SCC ADVANC RATCH PTT BANPUCPALL CPN TUF MINT TTW KBANK BGH IRP ส่วนหุ้นขนาดเล็กมี UMS GFM TPACและ TRT

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยในงานสัมมนา "ข่าวหุ้นธุรกิจสัญจร" ในหัวข้อ "หุ้นเล็กพื้นฐานแกร่ง ผลตอบแทนสูง หุ้นเด่นปลายปี หุ้นดีหุ้นเด็ดรับปีวัว" ณ โรงแรมโนโวเทล เซนทาร่า หาดใหญ่ว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัว ภายหลังจากที่ธนาคารกลางทั่วโลกต่างพร้อมใจกันปรับลดอัตราดอกเบี้ย

"เราเริ่มเห็นมาตรการการช่วยเหลือทางด้านการเงิน การลดดอกเบี้ย การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงการบันทึกสินทรัพย์ในการลงบัญชีรูปแบบใหม่ เพื่อการชะลอความเสียหายของสถาบันการเงินที่เข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ" นายสุกิจ กล่าว

ทั้งนี้ในระยะสั้นสถานการณ์การลงทุนเริ่มดีขึ้น ทำให้เห็นแรงซื้อกลับมาของนักลงทุนต่างชาติในบางวัน แต่ก็ยังไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ได้เลยว่าเงินต่างชาติจะไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องอีก เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวยังไม่นิ่ง ประกอบกับเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลออกไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้วถึงปัจจุบันมีมูลค่ารวม 2 แสนล้านบาท การคาดหวังว่าเม็ดเงินต่างชาติจะไหลกลับเข้ามา คงยังไม่เห็นในช่วงนี้ ส่วนในระยะยาวอาจจะมีการไหลกลับมา แต่ไม่ถึง 50% ของที่ไหลออกไป

นายสุกิจ กล่าวว่า ได้ประเมินระดับดัชนีตลาดหุ้นไทยที่เลวร้ายที่สุดไว้ที่ 300-360 จุด บนสมมติฐานว่าผลการดำเนินงานปี 2552 ลดลง 20% ส่วน ในกรณีปกติ คาดว่า ดัชนีจะมีการเคลื่อนไหวในกรอบ 480-530 จุด ทั้งนี้ตลาดหุ้น ฉะนั้นแนะนำให้ทยอยซื้อที่ระดับดัชนีต่ำกว่า 400 จุด เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีความผันผวนต่อไป โดยวัดจาก CBOE VIX Index ซึ่งอยู่ในระดับสูงผิดปกติ คาดว่าจะส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ยังคงผันผวน

ฉะนั้นยังมองว่าการลงทุนในช่วงนี้ยังสามารถเข้าลงทุนได้ โดยเฉพาะหุ้นที่เป็นแนวหน้าของแต่ละอุตสาหกรรม ซึ่งมีโอกาสดีดกลับ เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาแรงมากแล้ว อาทิ หุ้น TOP ถือเป็นหุ้นโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุด ถึงแม้แนวโน้มพื้นฐานของธุรกิจจะเปลี่ยนไป ทำให้ไม่เป็นทางเลือกแรกของการลงทุน แต่ในแง่ของการซื้อระยะสั้น เพื่อรอการดีดกลับภายหลังจากที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาต่ำมาก ก็ถือเป็นหุ้นที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ยังมีหุ้น LH ที่มีโอกาสดีดตัวขึ้นได้ โดยเฉพาะจากชื่อชั้นดีดำเนินธุรกิจที่อยู่อาศัย และเป็นที่ยอมรับในเรื่องของแบรนด์บริษัท ทำให้เป็นหุ้นที่น่าสนใจเช่นกัน ส่วนหุ้น SCC ที่แนะนำ เพราะราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาแรงมาก ในขณะที่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปีนี้ยังสูงเกิน 10% ทำให้เป็นจุดสนใจของเราถึงแม้ธุรกิจปิโตรเคมีจะเป็นขาลง แต่ในแง่ของโครงสร้างธุรกิจยังแข็งแกร่ง และสามารถสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทได้อย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ยังมี หุ้น ADVANC ที่เป็นผู้นำในธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ส่วนหุ้น RATCH มีจุดเด่นจากความมั่นคงของผลประกอบการ ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าขั้นต่ำระยะเวลา 25 ปี กับEGAT รองรับ สำหรับหุ้นPTT เปรียบเสมือนหุ้นของประเทศไทย บวกกับสถานะทางการเงินยังดีอยู่ ทำให้เป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่แนะนำ นอกจากนี้ ยังมีหุ้น BANPU ที่มีเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ ประกอบกับกระแสเงินสดยังแข็งแกร่งอยู่

ส่วนหุ้น CPALL ,CPN และMINT ก็เป็นหุ้นที่น่าสนใจ ในเรื่องของการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับผู้ บริโภครายย่อย และมีการกระจายความเสี่ยงในธุรกิจที่ดำเนินอยู่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีหุ้นTPAC ที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าบรรจุภัณฑ์ที่เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต ประจำวัน โดยที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ซึ่งมีผลทำให้ดีมานด์ในแต่ละปีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หุ้น UMS เป็นหุ้น Growth Stock ที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีระดับ Interest BearingDebt/Equity ในระดับต่ำเพียง 0.56 เท่า มีสภาพคล่องทางการเงินสูง โดยมีEBITDA ต่อปีสูงกว่า 720 ล้านบาท ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าเงินปันผลปีนี้จะจ่ายที่ 2.36 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 20.5%

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด กล่าวว่า ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยขณะนี้ ให้หาจังหวะการลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวลง และมองว่าดัชนีปีนี้คงไม่ต่ำกว่า 300 จุด แต่ถ้าหากหลุด 300 จุด ถือเป็นโอกาสของการลงทุน

"ความเป็นไปได้ที่จะเห็นดัชนีตลาดหุ้นไทยลงไปที่ระดับ ต่ำกว่า 300 จุดคงยาก เพราะสถานการณ์ตอนนี้กับเมื่อตอนปี 2541 ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ตอนนั้นผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)มีปัญหา  แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ผลประกอบการของบจ.ยังดีอยู่ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง" นายพิชัย กล่าว

สำหรับดัชนีที่ปรับตัวลงมาที่ระดับ 380 จุด ค่า P/BV อยู่ที่ 0.8เท่า ส่วนค่า P/E อยู่ที่ 6 เท่า ทั้งที่ผลประกอบการของบจ.ปีนี้มีการประเมินกันว่าจะมีกำไร 3 แสนล้านบาท ทำให้เห็นว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังต่ำมาก และเป็นจุดที่ไม่สมควรจะต่ำขนาดนี้

"ค่า P/BV ของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 0.8 เท่า เหมือนเป็นการเทรดหุ้นที่ใกล้เจ๊ง เหมือนเมื่อปี 2541 ซึ่งตอนนั้นบจ.มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานประมาณ 5 แสนล้านบาท แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่ ผลประกอบการอะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือราคาหุ้นตกหนัก" นายพิชัย กล่าว

การลงทุนในช่วงนี้แนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่ทนแรงเสียดทานของตลาด และเน้นการลงทุนในหุ้นที่เป็นอันดับ 1-2 ของแต่ละอุตสาหกรรม รวมทั้งต้องเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง อาทิ หุ้น TUF,ADVANC, TTW, CPALL, KBANK, BGH, IRP, ส่วนหุ้นขนาดเล็ก มีหุ้น UMS,GFM และTRT

---------------------------------------
วันที่ 03 พ.ย. 2551 แสดงข่าวมาแล้ว -1วัน 17ช.ม. 7นาที
 





TOP Price %Change High Low P/E BV
22.20 7.77 % 22.30 21.50 1.95 0.55
LH Price %Change High Low P/E BV
3.96 8.20 % 4.08 3.86 9.86 1.43
SCC Price %Change High Low P/E BV
109.00 6.86 % 110.00 105.00 4.43 1.33
ADVANC Price %Change High Low P/E BV
79.50 8.90 % 80.00 76.00 10.76 2.81
RATCH Price %Change High Low P/E BV
30.75 -0.81 % 31.75 30.00 9.75 1.15
PTT Price %Change High Low P/E BV
178.00 11.95 % 178.00 167.00 4.28 1.11
CPN Price %Change High Low P/E BV
10.10 9.19 % 10.10 9.65 9.74 1.50
TUF Price %Change High Low P/E BV
17.30 4.85 % 17.30 16.50 7.89 1.07
MINT Price %Change High Low P/E BV
7.85 3.97 % 7.90 7.75 13.44 2.33
TTW Price %Change High Low P/E BV
3.92 5.38 % 3.92 3.80 13.77 1.82
KBANK Price %Change High Low P/E BV
53.50 7.00 % 53.50 51.50 7.60 1.13
BGH Price %Change High Low P/E BV
20.00 0.00 % 20.20 19.80 14.01 2.10
IRP Price %Change High Low P/E BV
4.42 4.74 % 4.50 4.40 2.71 0.85
UMS Price %Change High Low P/E BV
15.30 9.29 % 15.30 14.40 4.36 2.74
GFM Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 5.57 1.73
TPAC Price %Change High Low P/E BV
3.44 0.58 % 3.80 3.44 4.49 1.12
TRT Price %Change High Low P/E BV
7.25 0.69 % 7.25 7.25 4.13 1.38
BANPU Price %Change High Low P/E BV
190.00 18.01 % 191.00 171.00 5.42 1.17
CPALL Price %Change High Low P/E BV
9.20 19.48 % 9.50 8.55 13.52 3.60


http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/fir ... ?cid=20282
ภาพประจำตัวสมาชิก
songwit
Verified User
โพสต์: 279
ผู้ติดตาม: 0

ภาวะหุ้นไทยเริ่มฟื้น

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขายอย่าเดียวไม่มีใครซื้อแน่
ก็เลย...ลากขึ้นไป   :twisted:
แล้วเชีอด... ถอนเงินกลับ ก่อนคริสมัส

ไม่ใช่แมงเม่าครับ :shock:
wisut
Verified User
โพสต์: 470
ผู้ติดตาม: 0

ภาวะหุ้นไทยเริ่มฟื้น

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เร็วไปหน่อย

รอให้ตลาดแห้งเหือดก่อนน่าจะดี

volume ต่ำๆ  ผู้คนออกไปจากตลาด  

เราจะได้เดินช้อปปิ้งสบายๆ  ไม่ต้องแย่งกะใคร
ภาพประจำตัวสมาชิก
satantuey
Verified User
โพสต์: 743
ผู้ติดตาม: 0

ภาวะหุ้นไทยเริ่มฟื้น

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ระวัง รอหวังขนาดนั้น  อาจจะไม่ได้ซื้อเลยนะงับ  

มีรอบให้เล่นแล้ว  โกยได้โกยครับ  :twisted:
nw108
Verified User
โพสต์: 503
ผู้ติดตาม: 0

ภาวะหุ้นไทยเริ่มฟื้น

โพสต์ที่ 5

โพสต์

:D


      เล่นรอบเพื่อได้เงินสดมาซื้อหุ้นเพิ่มครับ  ขอบคุณครับพี่ จะได้หุ้นดีๆมา จ้องหาจังหวะเข้ารับ
โพสต์โพสต์