นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
กล้วยไม้ขาว
Verified User
โพสต์: 1074
ผู้ติดตาม: 0

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมเป็นพนักงานกินเงินเดือน

ที่เพิ่งจะลงทุนไม่นานครับ (ไม่กี่เดือน)

ช่วงที่ผ่านมาผมว้าวุ่นใจกับพอร์ตมาก

จนบางทีก็แทบไม่มีสมาธิทำงาน



วันนี้มานั่งนึก ว่าเงินที่เราลงทุนไปก็ยังนิดเดียว

เทียบกับเงินในอนาคตที่เราจะลงทุนเพิ่ม

ถึงจะซื้อแล้วมันตกเราก็ยังแน่ใจว่าซื้อมาุถูกแล้ว

และถ้าตกไปอีกก็ยังมีเงินมาเก็บเพิ่มเรื่อย ๆ ในราคาทีู่ถูกกว่าเดิม

บริษัทเราก็วิเคราะห์ดีเท่าที่จะทำได้แล้ว




แล้วจะมาคิดมากทำไมให้วุ่นวายสมอง

เสียงานเสียการ

เอาเวลาไปตั้งใจทำงานดีก่า

เศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ทำงานไม่ดีเดี๋ยวโดนไล่ออก

จะไม่แย่กว่าเหรอ

เงินเดือนออกแต่ทีค่อยมาคิดดีกว่า

:?
kvit
Verified User
โพสต์: 92
ผู้ติดตาม: 0

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ลองมองย้อนไป ณ วันที่ตัดสินใจซื้อหุ้น  ทุกคนคิดว่า เลือกหุ้นดีแล้ว
คาดหวังผลตอบแทนเงินลงทุนขั้นต่ำ มากกว่าฝากเงินธนาคารมิใช่หรือ?

จากวันนั้น ถึงวันนี้ ถ้าสมมุติว่า ธุรกิจที่เราร่วมเป็นเจ้าของอยู่นอกตลาดล่ะ
แตกต่างกันตรงไหน ?

ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไป ยังคงมีกำไร สามารถจ่ายเงินปันผลตามปกติ
มิใช่หรือ ?

ราคาตลาดไม่ได้ทำให้จำนวนสิทธิการเป็นเจ้าของธุรกิจลดลงไป
ไม่ได้ทำให้ผลตอบแทนเงินลงทุนขั้นต่ำลดลงมากมายมิใช่หรือ ?

ถึงแม้อนาคตอาจมีผล  เราได้ยอมรับความเสี่ยงนั้นตั้งแต่ต้นแล้วมิใช่หรือ?

ราคาตลาด เราไม่สามารถควบคุมได้  ณ วันนี้ นักลงทุน หลังปี 2545
99 %  ล้วนมีพอร์ตติดลบ  แต่ตลาดหลักทรัพย์ยังอยู่  
มีการซื้อขายทุกวันตามปกติ

การติดตามราคาตลาด และวิตกกับ ราคาขึ้นลง มากเกินไป
ทำให้เสียสุขภาพจิต
คิดจะลงทุนกับความเสี่ยง ต้องยอมรับ ทำใจให้เป็นปกติ

การเปลี่ยนแปลงย่อมมีอยู่เป็นนิจนิรันดร์
kvit
TPH
Verified User
โพสต์: 347
ผู้ติดตาม: 0

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 3

โพสต์

Great and agreed with khun kvit :cool:
aot
Verified User
โพสต์: 53
ผู้ติดตาม: 0

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 4

โพสต์

1 คิดมากทำไมให้วุ่นวายสมอง = คิดถูกทาง
แยกความคิดกับอารมย์ได้
2 ถึงจะซื้อแล้วมันตกเราก็ยังแน่ใจว่าซื้อมาุถูกแล้ว = คิดผิดทาง
เดี๋ยวจะมองไม่เห็นข้อบกพร่องในการตัดสินใจในการซื้อหุ้น  
หากยังแน่ใจในสิ่งที่ผลออกมาแล้วมันปรากฎว่าผิด เดี๋ยวจะผิดอีก

ดูอย่างอุเบกขาสิ
หากคิดจะแก้แค้นหุ้น  ให้ขุดหลุมไว้สองหลุม
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ไม่คิดเลย คิดมากไป คิดน้อยไป ไม่ดีทั้งนั้นแหละ

แค่ค่อยๆคิด คิดเรื่อยๆ แบบมีความสุขในการคิดนั่นคิดนี่ พอประมาณ ตามกำลังสมอง น่าจะดีที่สุดครับ

สถานการณ์ช่วงนี้เหมาะกับการเรียนรู้มาก

เหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย หลายปัจจัย

การคิดน้อยในช่วงนี้ ไม่น่าจะดีครับ

แต่เห็นด้วยครับ ถ้าคิดมากแล้วเครียด ก็ไม่ต้องไปคิดมาก แต่ควรเรียนรู้ให้มากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
sai
Verified User
โพสต์: 4090
ผู้ติดตาม: 2

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 6

โพสต์

Jeng เขียน:ไม่คิดเลย คิดมากไป คิดน้อยไป ไม่ดีทั้งนั้นแหละ

แค่ค่อยๆคิด คิดเรื่อยๆ แบบมีความสุขในการคิดนั่นคิดนี่ พอประมาณ ตามกำลังสมอง น่าจะดีที่สุดครับ

สถานการณ์ช่วงนี้เหมาะกับการเรียนรู้มาก

เหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย หลายปัจจัย

การคิดน้อยในช่วงนี้ ไม่น่าจะดีครับ

แต่เห็นด้วยครับ ถ้าคิดมากแล้วเครียด ก็ไม่ต้องไปคิดมาก แต่ควรเรียนรู้ให้มากครับ
:cheers:
Small Details Make a Big Difference
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เห็นด้วยกะเฮียเจ๋งค่ะ

ช่วงเวลาและสถานการณ์แบบนี้ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเรียนรู้แล้ว

:D
ภาพประจำตัวสมาชิก
กล้วยไม้ขาว
Verified User
โพสต์: 1074
ผู้ติดตาม: 0

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำดี ๆ  :bow:

คือตอนนี้ผมกำลังคิดว่า

ผมเรียงลำดับความสำคัญของแต่ละอย่างผิดไปน่ะครับ

พอรู้ตัวเลยได้รู้ว่า ใจเรายังไม่มั่นคงพอ

ตอนนี้เลยคิดว่า จะฝึกใจก่อนครับ

แล้วก็บริหารเวลาให้ดี ไม่เอาเวลางานมาใช้นอกงานจนเกินไป (ไม่อู้มากแต่อู้มั่งเป็นบางที :twisted: )

ผมอยากลงทุนให้มีความสุขกว่านี้ครับ  :cheers:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Little Boy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1318
ผู้ติดตาม: 0

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 9

โพสต์

[quote="kvit"]

จากวันนั้น ถึงวันนี้ ถ้าสมมุติว่า ธุรกิจที่เราร่วมเป็นเจ้าของอยู่นอกตลาดล่ะ
แตกต่างกันตรงไหน ?

ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไป ยังคงมีกำไร สามารถจ่ายเงินปันผลตามปกติ
มิใช่หรือ ?

ราคาตลาดไม่ได้ทำให้จำนวนสิทธิการเป็นเจ้าของธุรกิจลดลงไป
ไม่ได้ทำให้ผลตอบแทนเงินลงทุนขั้นต่ำลดลงมากมายมิใช่หรือ ?

ถึงแม้อนาคตอาจมีผล
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Amadeus
Verified User
โพสต์: 372
ผู้ติดตาม: 0

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ขอให้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยดีทุกคนแล้วกันนะครับ

สถานการณ์แบบนี้ ใครถือเงินก็ เครียดกับจังหวะเข้าซื้อ กลุ้มใจเวลาหุ้นขึ้น

ใครถือหุ้นก็ไม่อยากให้หุ้นของตัวเอง โดนลดกระหน่ำมากๆ

ดูเครียดๆกันทุกคนแต่ขออย่าทำอะไรแย่ๆกับ ตัวเองและคนรอบๆข้างแล้วกันนะครับ ...ยิ้มไว้ๆ  :D
เตือนตัวเอง
1.ลดต้นทุน 2.ขึ้นราคา 3.ขยายตลาด
4.เพิ่ม same store sale  5.ขาย บ.เน่าๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
pavilion
Verified User
โพสต์: 1766
ผู้ติดตาม: 0

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ใช่ครับ จะไปคิดมากไปทำไมให้ปวดหัว เอาสมองไปคิดในเรื่องที่สมควรคิดดีกว่า เรื่องบางเรื่องเราควบคุมไม่ได้คิดไปก็เท่านั้นครับ  :8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
charnengi
Verified User
โพสต์: 2388
ผู้ติดตาม: 0

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 12

โพสต์

อดีตคือสิ่งที่ดับไปแล้ว อนาคตคือความกลวง ซึ่งไม่แน่นอน

ขอให้อยู่กับปัจจุบัน หาหุ้นดีๆ เข้าพอร์ตเหมือนเดิมนะครับ

ความเสี่ยง VS ผลตอบแทน ชั่งน้ำหนักดีๆ ในระดับที่คุณพอใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
SunShine@Night
Verified User
โพสต์: 2196
ผู้ติดตาม: 0

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 13

โพสต์

เยี่ยมครับ :)
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์

หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี :)
GeneraX
Verified User
โพสต์: 1120
ผู้ติดตาม: 0

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ผมเองพึ่งเริ่มทำงานครับ เงินที่ลงทุนไปก็คือเงินเกบทั้งหมดที่ผมเก็บมาตั้งแต่เด็ก รวมแล้วก็พอๆกับเงินเดือนตอนนี้ที่ได้2 ปีรวมกัน

ตอนนี้ก็หายไปกว่า 30%แล้วครับ

แต่ด้วยหุ้นที่เลือก รวมถึงต้นทุนที่ซื้อจริงๆนั้น คิดดูจริงๆแล้วก็ไม่ได้ถือว่าแพงมากอะไรครับ พื้นฐานธุรกิจในระยะยาวก็ไม่เห็นว่าจะถูกกระทบอะไรเลยจากวิกฤตที่ทุกคนกลัวกันอยู่ ไม่มีเหตผลอะไรที่ต้องกังวลครับ ถ้าเรารู้ดีกว่าเรากำลังทำอะไรอยู่

แรกๆยอมรับว่าเห็นพอร์ตรวมลบแค่ 1% ก็เครียดแล้วครับ แต่จากวันนั้นถึงวันนี้ 6 เดือนผ่านไป ผมได้เรียนรู้อะไรจาก MKT crash ครั้งนี้ได้มากมายจริงๆครับ

หนังสือ Buffett, Lynch, ดร.นิเวศน์ ต่างๆที่ผมพึ่งอ่านมาก่อนที่จะเกิด crash ไม่นึกไม่ฝันครับว่าสิ่งเหล่านั้นในหนังสือมันเกิดขึ้นได้จริงๆครับ ถ้าเราสามารถแยกแยะมูลค่าหุ้นที่แท้จริงออกจากมูลค่าหุ้นที่ได้จากนายตลาดได้ ไม่มีอะไรที่ต้องเครียดครับ

ตอนนี้ผมพูดได้เต็มปากเลยว่า ทุกวันนี้ผมยังมีความสุขกับการลงทุนมากกว่าวันที่พอร์ตขาดทุนไป 1% เสียอีกครับครับ
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
โพสต์โพสต์