เศรษฐกิจจีนหดเหลือตัวเลขหลักเดียว ชี้ผลกระทบวิกฤตงินเริ่มสำแ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

เศรษฐกิจจีนหดเหลือตัวเลขหลักเดียว ชี้ผลกระทบวิกฤตงินเริ่มสำแ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เศรษฐกิจจีนหดเหลือตัวเลขหลักเดียว ชี้ผลกระทบวิกฤตงินเริ่มสำแดงอาการ

คนเร่ขายอาหารในเหอเฝย มณฑลอันฮุยกำลังเสริฟอาการให้ลูกค้า เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ขณะที่จีนประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคช่วง 9 เดือนแรกของปี เพิ่มสูงร้อยละ 7.0 ขณะที่เงินเฟ้อในเดือนกันยายนเพียงเดือนเดียว อยู่ที่ร้อยละ 4.6 เอเอฟพี
 
      เอเจนซี่ เศรษฐกิจจีนไตรมาสสาม ลดลงเหลือ 9.9% นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 5ปีของเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 ของโลกแห่งนี้ ตกลงเหลือเลขหลักเดียว ด้านจีนชี้วิกฤตการเงินโลกเริ่มส่งผลกระทบ พร้อมเตรียมมาตรการรับมือ ได้แก่ ส่งเสริมการปล่อยสินเชื่อ เพิ่มเงินคืนภาษีส่งออก และหั่นภาษีในการทำธุรกรรมบ้าน
     
      การเติบโตของเศรษฐกิจโลกลดลงอย่างชัดเจน ทำให้จีนต้องรับผลจากความไม่แน่นอนด้วย และปัจจัยทุกอย่างเริ่มส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจจีนแล้ว หลี่ เสี่ยวเชา โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ระบุเมื่อวันจันทร์(20 ต.ค.)
     
      ตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจจีนช่วง 9 เดือนแรก อยู่ที่ 9.9% ลดลงจากครึ่งแรกของปีที่เติบโตอยู่ที่ 10.4% นับเป็นอัตราชะลอตัวมากที่สุด นับจากไตรมาส 2 ของปี 2003 ซึ่งตอนนั้น จีนโดยวิกฤตโรคซาร์ส พ่นพิษ จนเศรษฐกิจตกลงไปที่ร้อยละ 6.7
     
      คณะรัฐมนตรีจีนได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันศุกร์(17 ต.ค.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าเป็นประธาน พร้อมเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่าง เป็นต้นว่า ให้เงินสนับสนุนการซื้อบ้าน และลดภาษีซื้อขายบ้าน เพื่อกระตุ้นให้คนซื้อบ้านมากขึ้น รวมทั้งจะเพิ่มเงินคืนภาษีส่งออกในหมวดเสื้อผ้า อีกด้วย
     
      นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งด้วย โดยการลงทุนภาครัฐได้เพิ่มขึ้นถึง 27% ในสามไตรมาสแรกของปีนี้
     
      แนวโน้มการชะลอตัวในอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ ชี้ว่าผลกำไรภาคบริษัท และรายได้จากการจัดเก็บภาษีของรัฐบาล จะหดตัวลง ส่วนตลาดทุนก็ยังแกว่งไปมา ที่ประชุมสรุปในวันอาทิตย์(19 ต.ค.)
     
      ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ปรับเปลี่ยนนโยบายคุมเข้มภาคการเงินเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อจากช่วงต้นปี มาเป็นการอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อลดลง
     
      หลิน อี้ฟู อดีตนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของจีน ซึ่งขณะนี้ไปรับตำแหน่งหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารโลก แสดงความมั่นใจว่าเศรษฐกิจจีนยังแข็งแกร่ง โดยบอกว่ารัฐบาลจีนจะลดดอกเบี้ย เพื่อเพิ่มสภาพคล่องภายในประเทศ
     
      ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงขาลงจะส่งผลกระทบต่อจีนบ้าง แต่ด้วยเงินสำรองที่สูงมาก อัตราการออมก็สูง รวมทั้งการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ยังขยายตัวได้อีกมากจะช่วยให้ จีนรับมือกับปัญหาได้ดี หลิน อี้ฟู กล่าว
     
      หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารโลกชาวจีนผู้นี้ บอกว่า เราต้องเตรียมรับกับและความท้าทายที่เกิดขึ้น แต่ในขณะเดียวกับเราก็มั่นใจว่าจะข้ามผ่านความยากลำบากไปได้
     
      ยอดเกินดุลการค้าจีนในช่วง 9 เดือนแรก เท่ากับ 180,900 ล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นอัตราที่ลดลงร้อยละ 2.6 นอกจากนี้ สำนักสถิติยังระบุว่า อัตราเติบโตในภาคผลผลิตอุตสาหกรรมในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2008 อยู่ที่ร้อยละ 15.2 ลดลงจากระดับร้อยละ 16.3 ของครึ่งปีแรก และเฉพาะเดือนกันยายนเดียวกัน อัตราเติบโตผลผลิตอุตสาหกรรม ขยับเพียงร้อยละ 11.4 ตัวเลขในภาคเหล่านี้ ยืนยันถึงแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ที่พึ่งพิงภาคส่งออกอยู่สูงมาก
     
      สำหรับการลงทุนภาคสินทรัพย์ถาวร มาตรวัดสำคัญของการใช้จ่ายรัฐบาลในภาคโครงสร้างพื้นฐานและโรงงาน ทะยานขึ้นที่ร้อยละ 27.0 ในช่วง 3 ไตรมาสแรกนี้ เทียบกับร้อยละ 26.3 ในช่วงครึ่งปีแรก
     
      ส่วนยอดค้าปลีก เครื่องชี้วัดตัวหลักของการใช้จ่ายผู้บริโภค เพิ่มขึ้นมาที่ร้อยละ 22.0 ในช่วง 3 ไตรมาสแรกนี้ เทียบกับปีก่อนหน้า
     
      ตัวเลขที่เผยในวันจันทร์ ระบุว่าเงินเฟ้อจีนยังคงบ่ายหน้าลงไป อยู่ที่ร้อยละ 7.0 ในช่วง 3 ไตรมาสแรก เทียบกับร้อยละ 7.9 ในช่วงครึ่งปีแรก โดยในเฉพาะเดือนกันยายน เท่ากับร้อยละ 4.6 ทั้งนี้ เงินเฟ้อแดนมังกร พุ่งทะยานสูงสุดในรอบเกือบ 12 ปี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ที่ร้อยละ 8.7.
http://www.manager.co.th/China/ViewNews ... 0000124713
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
โพสต์โพสต์