engy ที่เพิ่งเข้ามาเทรดมันคืออะไรหรอครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 368
- ผู้ติดตาม: 0
engy ที่เพิ่งเข้ามาเทรดมันคืออะไรหรอครับ
โพสต์ที่ 1
กองทุนแบบ MTrack Energy ETF อันนี้มันไปลงทุนในอะไรครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
engy ที่เพิ่งเข้ามาเทรดมันคืออะไรหรอครับ
โพสต์ที่ 2
เปิดโฉม 'MTrack Energy ETF' ลงทุนเพียงหนึ่งเพื่อ 10 หุ้นพลังงานชั้นยอด
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2551 08:03 น.
บางคนคงได้ข่าวแล้วว่าตอนนี้จากความร่วมมือของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด และคณะผู้ร่วมจัดตั้ง ประเทศไทยกำลังจะมีกองทุนรวมดัชนี (Exchange Traded Fund) หรือที่เรียกกันติดปากว่า "อีทีเอฟ" อีก 1 กองทุน หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาตลท.ได้มีการเพิ่มสินค้าใหม่ คือ กองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟที่อิงกับดัชนี SET 50 แล้วปรากฎว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก จนล่าสุดบลจ.วรรณ ในฐานะบริษัทจัดการต้องออกมาประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนของ TDEX เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของนักลงทุนได้อย่างพอเพียง
อย่างไรก็ตามคงจะมีหลายคนเช่นเดียวกันที่ยังไม่เข้าใจว่า Exchange Traded Fund คืออะไร? และกองทุน ETF กองใหม่ของประเทศไทย ที่ชื่อว่า MTrack Energy ETF ลงทุนในไหน? มีข้อดีอย่างไรบ้าง? วันนี้ "ผู้จัดการกองทุนรวม" จึงอยากขอเสริมรายละเอียดเกี่ยวกับ กองทุน Exchange Traded Fund และ MTrack Energy ETF ให้แก่ท่านผู้อ่านที่อาจจะยังไม่ทราบอีกครั้งหนึ่ง
กองทุนอีทีเอฟ หรือ Exchange Traded Fund เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่ง มีลักษณะเป็นกองทุนเปิดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และสามารถซื้อขายกันเหมือนหลักทรัพย์ โดยมีนโยบายการลงทุนที่คล้ายคลึงกับ Index Fund ด้วยการอ้างอิงกับดัชนีต่างๆ เช่น S&P 500 Index , หุ้นรายอุตสาหกรรม หรือทองคำ เป็นต้น ซึ่งในต่างประเทศกองทุนในลักษณะของ ETF ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีมูลค่าของขนาดสินทรัพย์มากกว่า 8 แสนล้านล้านบาท โดยกองทุน ETF ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ Standard & Poor's- 500 Depositary Receipts (SPDRs) มีมูลค่าโครงการมากกว่า 6-7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และในต่างประเทศนั้นการลงทุนใน กองทุน ETF มีรูปแบบที่หลากหลายเป็นอย่างมาก
ขณะที่ MTrack Energy ETF เป็นกองทุนที่มีสไตล์การลงทุนเชิงอนุรักษ์ หรือ passive management มุ่งหมายให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีกลุ่มพลังงาน หรือที่เรียกในภาษาเทคนิคว่า ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนจากดัชนีหรือ tracking error น้อยที่สุด โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนอ้างอิงกับดัชนีหมวดพลังงาน และหน่วยลงทุนของ กองทุน MTrack Energy ETF ยังเป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Listed Securities)
ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจะเข้าลงทุนในหุ้นพลังงานที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง 10 บริษัทแรก ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT , บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) , บมจ. ไทยออยล์ (TOP) , บมจ. บ้านปู (BANPU) , บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC) , บมจ. ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) , บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) , บมจ. ผลิตไฟฟ้า (EGCO), บมจ. โกลว์พลังงาน (GLOW) และ บมจ. เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) โดยกลุ่มหุ้นนี้คิดเป็น 97%ของดัชนีหมวดธุรกิจพลังงาน อย่างไรก็ตามกลุ่มหุ้นดังกล่าวสามารถจะเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับภาวะดัชนี ในช่วงนั้น
นอกจากนี้กองทุน MTrack Energy ETF ยังถือเป็นการลงทุนที่มีคุณสมบัติโดดเด่นคือ การเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ที่รวมเอาคุณสมบัติเด่นของหุ้นพลังงานและกองทุนเปิดไว้ด้วยกัน อธิบายง่าย ๆ ก็คือ เป็นกองทุนเปิดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซื้อขายสะดวกเหมือนหุ้น แต่กระจายความเสี่ยงเหมือนกองทุนรวม ที่เสียค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเพียงร้อยละ 0.10
ด้านจุดเด่นเหมือนหุ้น คือ สามารถซื้อขายได้ตลอดทั้งวัน ซื้อขายได้ตลอดเวลา (real time) มีสภาพคล่องสูง (high liquidity) และสามารถทำรายการซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ได้อย่างสะดวก ผลตอบแทนของกองทุนก็จะเป็นไปตามผลตอบแทนของดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ซึ่งตามปกติแล้วมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนทั่วไปจะออกในทุก ๆ สิ้นวันทำการ และจะทราบมูลค่าหน่วยลงทุนได้ในวันรุ่งขึ้น แต่กองทุน MTrack Energy ETF จะคิดมูลค่าหน่วยลงทุนทุก 15 วินาที (Real Time) โดยมี Market Maker คอยจัดให้ราคาเสนอซื้อขายใกล้เคียงกับมูลค่าหน่วยลงทุนที่แท้จริง ทำให้นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนของ ETF ได้ในราคาใกล้เคียงกับราคาที่แท้จริงตลอดเวลา
ส่วนจุดเด่นเหมือนกองทุนรวม คือ การลงทุนผ่านกองทุน Exchange Traded Fund (ETF ) หุ้นพลังงาน จะใช้เงินลงทุนน้อยกว่า และมีหุ้นที่ครอบคลุมกว่า ซึ่งในต่างประเทศกองทุน ETF ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะใช้เงินจำนวนไม่มาก สามารถกระจายการลงทุนในได้จำนวนมาก
เรียกได้ว่าการจัดตั้งกองทุน MTrack Energy ETF ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนในเชิงการเพิ่มความหลากหลายและทางเลือกในการลงทุน เนื่องจากจะเป็นกองทุนที่ซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานไว้รวมกัน ทำให้นักลงทุน สามารถกระจายความเสี่ยงจากการมีสถานะเสมือนถือครองหุ้นหลายตัวไว้ในคราวเดียว ซึ่งโดยทั่วไปจะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบมูลค่าหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น (Capital Gain) และ การเงินปันผล (Dividend) แล้วยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและมีสภาพคล่องเช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
โชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย กล่าวแนะนำกองทุน MTrack Energy ETF ที่อ้างอิงกับดัชนีหมวดพลังงานว่า กองทุนดังกล่าวจะเป็นทางเลือกที่ดีให้กับนักลงทุนไม่แพ้การลงทุนโดยตรงในหุ้นพลังงานที่ ได้รับความนิยมอย่างมากเหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท ทั้งนักลงทุนระยะสั้นหรือเก็งกำไร หรือแม้แต่นักลงทุนระยะยาว ก็สามารถลงทุนได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากหุ้นในดัชนีพลังงาน ที่ETF อ้างอิง เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงและมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ประมาณ 2.01 ล้านล้านบาท (35% ของมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทุกตัวรวมกัน) จึงทำให้นักลงทุนรายย่อย สามารถกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนได้ดีขึ้น เมื่อลงทุนผ่านกองทุน MTrack Energy ETF เนื่องจากใช้เงินลงทุนในจำนวนน้อย แต่สามารถลงทุนในหุ้นได้มากกว่า และยังมีผลตอบแทนถัวเฉลี่ยกันไป
กองทุน MTrack Energy ETF จะช่วยนักลงทุนรายย่อยลดความเสี่ยง ไม่ว่าเป็นนักลงทุนแบบเก็งกำไรหรือชอบลงทุนระยะยาวก็ลงทุนได้ คนที่อยากลงทุนในธุรกิจพลังงานก็มีทางเลือกมากขึ้น แทนที่จะเลือกลงทุนเป็นรายหลักทรัพย์ก็สามารถเลือกทั้งกลุ่มได้เพื่อกระจาย ความเสี่ยง สามารถครอบคลุมราคาความเคลื่อนไหวของหลักทรัพย์ในกลุ่มพลังงานได้ทั้งกลุ่ม น่าจะเป็นที่น่าสนใจ เพราะว่าปัจจุบันมาร์เก็ตแคปของกลุ่มพลังงานอยู่ที่ประมาณ 35% มูลค่าการซื้อขายก็มีสภาพคล่องมาก ก็เชื่อว่าจะเป็นกลุ่มที่ผู้ลงทุนอยากจะเลือกลงทุน และเห็นอนาคตของกลุ่มพลังงาน
สำหรับผู้ที่สนใจขณะนี้กองทุน MTrack Energy ETF กำลังเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 21 - 28 กรกฎาคม 2551 และจดทะเบียนเริ่มการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 7 สิงหาคม 2551 ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ บลจ. ทหารไทยโทร.1725
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2551 08:03 น.
บางคนคงได้ข่าวแล้วว่าตอนนี้จากความร่วมมือของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด และคณะผู้ร่วมจัดตั้ง ประเทศไทยกำลังจะมีกองทุนรวมดัชนี (Exchange Traded Fund) หรือที่เรียกกันติดปากว่า "อีทีเอฟ" อีก 1 กองทุน หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาตลท.ได้มีการเพิ่มสินค้าใหม่ คือ กองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟที่อิงกับดัชนี SET 50 แล้วปรากฎว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก จนล่าสุดบลจ.วรรณ ในฐานะบริษัทจัดการต้องออกมาประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนของ TDEX เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของนักลงทุนได้อย่างพอเพียง
อย่างไรก็ตามคงจะมีหลายคนเช่นเดียวกันที่ยังไม่เข้าใจว่า Exchange Traded Fund คืออะไร? และกองทุน ETF กองใหม่ของประเทศไทย ที่ชื่อว่า MTrack Energy ETF ลงทุนในไหน? มีข้อดีอย่างไรบ้าง? วันนี้ "ผู้จัดการกองทุนรวม" จึงอยากขอเสริมรายละเอียดเกี่ยวกับ กองทุน Exchange Traded Fund และ MTrack Energy ETF ให้แก่ท่านผู้อ่านที่อาจจะยังไม่ทราบอีกครั้งหนึ่ง
กองทุนอีทีเอฟ หรือ Exchange Traded Fund เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่ง มีลักษณะเป็นกองทุนเปิดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และสามารถซื้อขายกันเหมือนหลักทรัพย์ โดยมีนโยบายการลงทุนที่คล้ายคลึงกับ Index Fund ด้วยการอ้างอิงกับดัชนีต่างๆ เช่น S&P 500 Index , หุ้นรายอุตสาหกรรม หรือทองคำ เป็นต้น ซึ่งในต่างประเทศกองทุนในลักษณะของ ETF ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีมูลค่าของขนาดสินทรัพย์มากกว่า 8 แสนล้านล้านบาท โดยกองทุน ETF ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ Standard & Poor's- 500 Depositary Receipts (SPDRs) มีมูลค่าโครงการมากกว่า 6-7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และในต่างประเทศนั้นการลงทุนใน กองทุน ETF มีรูปแบบที่หลากหลายเป็นอย่างมาก
ขณะที่ MTrack Energy ETF เป็นกองทุนที่มีสไตล์การลงทุนเชิงอนุรักษ์ หรือ passive management มุ่งหมายให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีกลุ่มพลังงาน หรือที่เรียกในภาษาเทคนิคว่า ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนจากดัชนีหรือ tracking error น้อยที่สุด โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนอ้างอิงกับดัชนีหมวดพลังงาน และหน่วยลงทุนของ กองทุน MTrack Energy ETF ยังเป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Listed Securities)
ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจะเข้าลงทุนในหุ้นพลังงานที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง 10 บริษัทแรก ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT , บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) , บมจ. ไทยออยล์ (TOP) , บมจ. บ้านปู (BANPU) , บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC) , บมจ. ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) , บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) , บมจ. ผลิตไฟฟ้า (EGCO), บมจ. โกลว์พลังงาน (GLOW) และ บมจ. เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) โดยกลุ่มหุ้นนี้คิดเป็น 97%ของดัชนีหมวดธุรกิจพลังงาน อย่างไรก็ตามกลุ่มหุ้นดังกล่าวสามารถจะเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับภาวะดัชนี ในช่วงนั้น
นอกจากนี้กองทุน MTrack Energy ETF ยังถือเป็นการลงทุนที่มีคุณสมบัติโดดเด่นคือ การเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ที่รวมเอาคุณสมบัติเด่นของหุ้นพลังงานและกองทุนเปิดไว้ด้วยกัน อธิบายง่าย ๆ ก็คือ เป็นกองทุนเปิดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซื้อขายสะดวกเหมือนหุ้น แต่กระจายความเสี่ยงเหมือนกองทุนรวม ที่เสียค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเพียงร้อยละ 0.10
ด้านจุดเด่นเหมือนหุ้น คือ สามารถซื้อขายได้ตลอดทั้งวัน ซื้อขายได้ตลอดเวลา (real time) มีสภาพคล่องสูง (high liquidity) และสามารถทำรายการซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ได้อย่างสะดวก ผลตอบแทนของกองทุนก็จะเป็นไปตามผลตอบแทนของดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ซึ่งตามปกติแล้วมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนทั่วไปจะออกในทุก ๆ สิ้นวันทำการ และจะทราบมูลค่าหน่วยลงทุนได้ในวันรุ่งขึ้น แต่กองทุน MTrack Energy ETF จะคิดมูลค่าหน่วยลงทุนทุก 15 วินาที (Real Time) โดยมี Market Maker คอยจัดให้ราคาเสนอซื้อขายใกล้เคียงกับมูลค่าหน่วยลงทุนที่แท้จริง ทำให้นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนของ ETF ได้ในราคาใกล้เคียงกับราคาที่แท้จริงตลอดเวลา
ส่วนจุดเด่นเหมือนกองทุนรวม คือ การลงทุนผ่านกองทุน Exchange Traded Fund (ETF ) หุ้นพลังงาน จะใช้เงินลงทุนน้อยกว่า และมีหุ้นที่ครอบคลุมกว่า ซึ่งในต่างประเทศกองทุน ETF ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะใช้เงินจำนวนไม่มาก สามารถกระจายการลงทุนในได้จำนวนมาก
เรียกได้ว่าการจัดตั้งกองทุน MTrack Energy ETF ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนในเชิงการเพิ่มความหลากหลายและทางเลือกในการลงทุน เนื่องจากจะเป็นกองทุนที่ซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานไว้รวมกัน ทำให้นักลงทุน สามารถกระจายความเสี่ยงจากการมีสถานะเสมือนถือครองหุ้นหลายตัวไว้ในคราวเดียว ซึ่งโดยทั่วไปจะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบมูลค่าหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น (Capital Gain) และ การเงินปันผล (Dividend) แล้วยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและมีสภาพคล่องเช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
โชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย กล่าวแนะนำกองทุน MTrack Energy ETF ที่อ้างอิงกับดัชนีหมวดพลังงานว่า กองทุนดังกล่าวจะเป็นทางเลือกที่ดีให้กับนักลงทุนไม่แพ้การลงทุนโดยตรงในหุ้นพลังงานที่ ได้รับความนิยมอย่างมากเหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท ทั้งนักลงทุนระยะสั้นหรือเก็งกำไร หรือแม้แต่นักลงทุนระยะยาว ก็สามารถลงทุนได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากหุ้นในดัชนีพลังงาน ที่ETF อ้างอิง เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงและมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ประมาณ 2.01 ล้านล้านบาท (35% ของมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทุกตัวรวมกัน) จึงทำให้นักลงทุนรายย่อย สามารถกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนได้ดีขึ้น เมื่อลงทุนผ่านกองทุน MTrack Energy ETF เนื่องจากใช้เงินลงทุนในจำนวนน้อย แต่สามารถลงทุนในหุ้นได้มากกว่า และยังมีผลตอบแทนถัวเฉลี่ยกันไป
กองทุน MTrack Energy ETF จะช่วยนักลงทุนรายย่อยลดความเสี่ยง ไม่ว่าเป็นนักลงทุนแบบเก็งกำไรหรือชอบลงทุนระยะยาวก็ลงทุนได้ คนที่อยากลงทุนในธุรกิจพลังงานก็มีทางเลือกมากขึ้น แทนที่จะเลือกลงทุนเป็นรายหลักทรัพย์ก็สามารถเลือกทั้งกลุ่มได้เพื่อกระจาย ความเสี่ยง สามารถครอบคลุมราคาความเคลื่อนไหวของหลักทรัพย์ในกลุ่มพลังงานได้ทั้งกลุ่ม น่าจะเป็นที่น่าสนใจ เพราะว่าปัจจุบันมาร์เก็ตแคปของกลุ่มพลังงานอยู่ที่ประมาณ 35% มูลค่าการซื้อขายก็มีสภาพคล่องมาก ก็เชื่อว่าจะเป็นกลุ่มที่ผู้ลงทุนอยากจะเลือกลงทุน และเห็นอนาคตของกลุ่มพลังงาน
สำหรับผู้ที่สนใจขณะนี้กองทุน MTrack Energy ETF กำลังเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 21 - 28 กรกฎาคม 2551 และจดทะเบียนเริ่มการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 7 สิงหาคม 2551 ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ บลจ. ทหารไทยโทร.1725
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/