แต่ดู ROA(%) ROE(%) Profit Margin ยังสูงอยู่
ปี 46 ปันผลให้ไปแล้ว 0.45 บาท คิดเป็น 7.96%
งวด 3เดือนสุดท้ายนี้จะปันผลเพิ่มอีกเท่าไร?
ราคาลดลงมา 5.65 บาท เป็นราคาที่สมเหตุสมผลที่จะทะยอยเก็บเพื่อรอฟื้นตัวของ EPS แล้วหรือยัง
ความสามารถในการแข่งขันยังดีอยู่หรือไม่
หรือว่า ต้นทุนเม็ดพลาสติกที่สูงขึ้น จะยังคงกดดันต่อ กำไรของ AJ ต่อไป
ใครมีความรู้ลึกซึ่งเกี่ยวกับธุรกิจ แผ่นฟิมพ์ TOPP PET ของ AJ ช่วยพูดให้ฟังหน่อยสิครับ
โค้ด: เลือกทั้งหมด
NAME ราคา18/9/03 LAST8/3/04 +/-(%) (%)วันนี้ EPS P/E P/BV D/P%
AJ 8.50 5.65 -33.53 -1.74 0.85 6.65 2.31 7.96
หนี้สิน ผู้ถือหุ้น หนี้/EQ ทุน รายได้ กำไร ROA(%) ROE(%) PM(%) PAR MarCap
1,434.11 733.53 1.96 300.00 1,695.80 255.65 11.76 34.76 15.08 1 1,695.00
เติบโต% EPS03 EPS02 EPS01 EPS00 EPS99 วันXD ปันผล วันจ่าย หมวด
-27.97 0.85 1.18 0.51 -0.17 -0.27 28/11/2003 0.10 18/12/2003 PACK
วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2547
เรื่อง ขอชี้แจงผลการดำเนินงาน
เรียน กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สรุปผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุด 31 ธันวาคม
หน่วย:ล้านบาท
2546 2545
รายได้จากการขาย 1,637.22 1,543.59
รวมรายได้ 1,695.80 1,591.68
รวมค่าใช้จ่าย 1,408.29 1,199.65
กำไรสุทธิ 255.65 352.87
กำไรต่อหุ้น (บาท) 0.85 1.18
ผลการดำเนินงานเปรียบเทียบระหว่างปี 2546 และ 2545
1. ยอดขายในปี 2546 ได้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่ากับ 93.63 ล้านบาทเนื่องจากบริษัทฯ มีกำลังการผลิต บี
โอพีพี เครื่องที่สามเพิ่มขึ้น เริ่มผลิตได้ปลายไตรมาสที่สองปี 2546 ซึ่งยังใช้กำลังการผลิตไม่เต็มที่ คาด
ว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้เต็มที่ในปี 2547
2. ต้นทุนขายปี 2546 ได้เพิ่มขึ้น 8.40% ซึ่งมาจากราคาขายต่อหน่วยของ บีโอพีพี ที่ลดลง เนื่องจากมีการ
แข่งขันมาจากประเทศจีน และในไตรมาสที่ 2 ปี 2546 ได้มีการทดสอบการเดินเครื่องจักร บีโอพีพี ตัวที่
สามและมีค่าใช้จ่ายในการทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น
3. กำไรสุทธิลดลง 97.22 ล้านบาท จากปี 2545 เนื่องจากต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวข้างต้น
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายกิตติภัต สุทธิสัมพัทน์)
รองประธานกรรมการ