สมัยก่อน ตอนราคาราวๆ 17 บาทคนก็เติมกันตามปกติ
วิ่งรถทำธุระกิจกรรม ทั้งที่เป็นประโยชน์ และ ไร้สาระกัน
พอน้ำมันขยับมาถึง ประมาณ 35 บาท คนก็ยังเติมกัน
เหมือนเดิม
แต่ว่า พลังงานทางเลือก เริ่มเข้ามาแทนที่เรื่อยๆ
ไม่ว่า น้ำมันผสมอย่าง Gasohol น้ำมันปาล์มไบโอดีเซล
หรือ เติมแก๊ส NGV และ LPG แม้แต่รถใช้พลังงานไฟฟ้า
ก็เริ่มมีออกมาให้เห็นบ้าง :idea:
ฉะนั้น ถ้าแนวโน้มน้ำมันโลกขยับขึ้นตามกาลเวลา
ก็ไม่ได้หมายความว่า กิจการน้ำมันจะกำไรมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
เพราะว่า พลังงานทางเลือกจะแย่งส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่ยานพาหนะรุ่นเก่าๆ ก็ทะยอยเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงาน
ทางเลือกมากขึ้นเรื่อยๆ ตามไปด้วยนั่นเอง
ต้นทุนค่าขนส่ง หรือ เดินทางที่เพิ่มขึ้น มันจำเป็นต้องปรับลด
ลง ด้วยกลยุทธ์รูปแบบต่างๆ เช่น เติมน้ำมันคุณภาพต่ำลง
หรือ แอบหาน้ำมันราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้านมาใช้
รวมทั้งการปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถให้มีระยะสั้นลง
กว่าเดิม เป็นต้น

ฉะนั้น จะเห็นว่า...
ถ้าขึ้นราคาน้ำมันไปเกินจุด Peak มันจะกลายเป็นภาวะรายจ่าย
ภาคอุตสาหกรรมน้ำมันจะสูงกว่า รายรับที่เข้ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจ
ในระยะยาว
งานนี้...
คงกลายเป็นอุตสาหกรรม น้ำมัน(ไม่หมู) ไปซะแล้ว (ฮะๆ...) :lol: