รักแนวทางนี้ต้องอดทนและใจเย็นกว่านี้นะครับ ทุกท่าน

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

รักแนวทางนี้ต้องอดทนและใจเย็นกว่านี้นะครับ ทุกท่าน

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ประสบการณ์ตรง ซื้อ sta 24-25 ตั้งแต่ซื้อมาตกลง ตกลงตลอด ประการผลกำไรตอนปลายปี ก็ยิ่งตกลง ตัดสินใจคัลลอสไป ลงทุนตัวอื่นๆ แต่ประเด็นที่สำคัญคือเพื่อความสบายใจ พอประกาศผลสรุปปลายปีพลิกจากขาดทุนเป็น กำไร ขึ้นไปถึง 28 ได้ โอ้ น่าเสียดาย น่าจะรอนะ งวดน่าผมมั่นใจว่าจะกำไรอีก เห็นหรือไม่ครับท่าน แหมเสียดายจัง

ดังที่เค้าบอกๆกันมาว่า ลงทุนแนวนี้ต้องใจเย็นๆ รอคอยจังหวะอย่างอดทน เป็นดังคำเล่าลือ

ตอนนี้นายตลาดสั่งให้หุ้นตก ก็ไปให้มันตกไป อยากตกไปถึงไหนก็ตกไปเลย ถ้ามั่นใจว่ามันต้องขึ้น ซื้อรอไว้เลยครับ แล้วก็รอรอรอรอรอรอรอรอรอ เป็นเพื่อนกันครับบบบบบบบ เพราะไม่มีเงินไปช้อนแล้ว

เท่าที่สังเกตุมาพอร์ตผมเอง เลือกหุ้นแนวนี้ไม่ผิดหวังครับ ตกจริงๆครับแต่ทั้งหมดเฉลี่ยตกต่ำสุดของผมไม่เกิน 5 % 6-7% แค่วันสองวันเท่านั้นก็กลับคืนมาได้ แต่สูงสุดเฉลี่ยก็ไม่มากครับเหมือนกันคับ ขึ้นพอๆกะที่ตกไปครับ

ยังไงซะผมก็มั้นใจว่าระยะเวลายาววววว คงดีกว่ามากๆ รอได้ครับ เอาเงินฝากธนาคารได้ดอกเบี้ยน้อยกว่านี้ยังฝากมาได้ตั้งหลายปี ใช่มั่ยครับ

แต่พี่ๆ ที่นี้ลงทุนกันมานานๆทั้งนั้นลืมไปครับ ตอนนี้ตกไปก็ขาดทุนกำไรกันไม่เท่าไหร่ ใช่มั้ยครับ

แต่อย่ารักปักใจมากเกินไปนะครับ อาจเสียใจได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 0

รักแนวทางนี้ต้องอดทนและใจเย็นกว่านี้นะครับ ทุกท่าน

โพสต์ที่ 2

โพสต์

อย่าไปสนใจราคามันซักปีสองปีนั่นแหละ ถือได้แน่นอน
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
นายสต็อก
Verified User
โพสต์: 777
ผู้ติดตาม: 0

รักแนวทางนี้ต้องอดทนและใจเย็นกว่านี้นะครับ ทุกท่าน

โพสต์ที่ 3

โพสต์

จากประสบการณ์การลงทุนอย่างรายย่อยคนหนึ่ง...

อยากให้สนใจเป้าหมายการลงทุนของเราเป็นสำคัญ อุปสรรค จากการ
ผันผวนของราคาหุ้น และข่าวลือ เป็นส่วนสำคัญของ การวัดความรู้ความ
สามารถในการลงทุนของเรา อย่างหนึ่งครับ 8)
วอเรน .......
ผู้ติดตาม: 0

รักแนวทางนี้ต้องอดทนและใจเย็นกว่านี้นะครับ ทุกท่าน

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ถามคนห้องนี้สิ ตอน1700 ที่ขาดทุนเพราะไม่ขายหุ้นใช่ไหม?
ดร. นิเวศน์บอกพึ่งจะเริ่มมีกำไรนับจากวิกฤติครั้งนั้น
ถ้ามันเกิดอีกครั้งมิต้องเริ่มใหม่กันอีกหรือ เพราะคำว่าลงทุนระยะยาว
ในขณะที่หมอคนดัง ไม่เพียงรอดตัวมาได้แต่port กลับโตวันโตคืนจนถึงวันนี้
ลองคิดดู นี่เมืองไทยไม่ใช่สหรัฐ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 0

รักแนวทางนี้ต้องอดทนและใจเย็นกว่านี้นะครับ ทุกท่าน

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณครับคุณ วอเรน..... ไม่ลองแบบผมบ้างหรือครับ
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tk
Verified User
โพสต์: 343
ผู้ติดตาม: 0

รักแนวทางนี้ต้องอดทนและใจเย็นกว่านี้นะครับ ทุกท่าน

โพสต์ที่ 6

โพสต์

วอเรน ....... เขียน:ถามคนห้องนี้สิ ตอน1700 ที่ขาดทุนเพราะไม่ขายหุ้นใช่ไหม?
ดร. นิเวศน์บอกพึ่งจะเริ่มมีกำไรนับจากวิกฤติครั้งนั้น
ถ้ามันเกิดอีกครั้งมิต้องเริ่มใหม่กันอีกหรือ เพราะคำว่าลงทุนระยะยาว
ในขณะที่หมอคนดัง ไม่เพียงรอดตัวมาได้แต่port กลับโตวันโตคืนจนถึงวันนี้
ลองคิดดู นี่เมืองไทยไม่ใช่สหรัฐ
เอ เราลองเทียบพอร์ตของ"หมอคนดัง" กับของ ด.ร. ดีไหมครับว่าใครกำไรมากกว่ากันในระยะ 5 ปีย้อนหลัง ไม่ทราบใครมีข้อมูล รบกวนด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Minesweeper
Verified User
โพสต์: 472
ผู้ติดตาม: 0

รักแนวทางนี้ต้องอดทนและใจเย็นกว่านี้นะครับ ทุกท่าน

โพสต์ที่ 7

โพสต์

อย่าหาว่า อย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ คุณ tk

ผมเดาว่า ดร. น่าจะทำกำไรได้น้อยกว่า หมอคนดัง นะครับ โดยเฉพาะในระยะ 5 ปีหลัง

แต่ความเสี่ยง (ซึ่งไม่ค่อยจะมีใครวัดกันเนี่ย) ผมว่า พอร์ตของ ดร. นิเวศน์ คงความเสี่ยงต่ำกว่าเยอะครับ

8)
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

รักแนวทางนี้ต้องอดทนและใจเย็นกว่านี้นะครับ ทุกท่าน

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ผมว่าอยู่ที่ความถนัดและแนวดำเนินชีวิตของแต่ละท่าน ด้วยนะครับ

ขออนุญาติยกตัวอย่าง คนดังทั้งสองท่านนะครับ เช่น
คุณหมอท่าน ทำงานโดยการลงทุนในหุ้นอย่างเดียว มีเวลา วิเคราะห์ ติดตาม ในแนวทางของแกได้ทั้งวัน ผมเคยอ่านประวัติ แกถนัดแนวนี้ ขาดทุน เกิน 5% 10% cut loss ก่อน ค่อยมาเอาคืนทีหลัง

ดร. ท่าน ทำงานอื่นไปด้วย ลงทุนในหุ้นไปด้วย พิจารณาติดตามหุ้น เวลาเลิกงานประจำ ติดตามหุ้นจนเป็นนิสัย ตรวจสอบตลาดจากวิถีชีวิตประจำวัน ขาดทุนเกิน 5% 10% ดร. อาจซื้อเพิ่ม ถ้าพื้นฐานไม่เปลี่ยน ถือว่าถูกกว่าที่ซื้อมา รออีกหน่อย ตีแตกแน่ๆ

ทั้งนี้ ทั้งคู่ก็มีความมั่นใจในแนวของตัวเอง คงสรุปยากว่าใครดีไม่ดีอย่างไร ดีในแนวทางของตน

ทั้งสองท่าน ก็อ่าน มาก วิเคราะห์มาก มีข้อมูลมาก ในแนวของตัวเอง ทำให้ประสบความสำเร็จได้

แต่ถ้าใครเล่นหุ้นโดยไม่มีข้อมูล เล่นตามเพื่อน ตามๆ กัน ไม่มั่นใจ
สั้นบ้าง ยาวบ้าง คนนู้นว่าดี คนนี้ว่าดี ตามๆ เขาไป กลัวตกรถด่วน ผมไม่แน่ใจนะครับว่าจะด่วนไปทางไหน

ใครใจร้อนหน่อย เอาเลยครับ ซื้อเช้า ขายเย็น ซื้อเย็น ขายเช้า
ใครใจเย็นๆ มั่นใจ แล้ว ลุยเลยครับ ซื้อมาแล้ว อาจจะยังไม่ใช่จุดต่ำสุด แต่รอเถอะครับ อย่าขายขาดทุน รอได้ รอไปก่อน เงินเย็นรอได้ครับ
ล็อคหัวข้อ