เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

โพสต์ที่ 1

โพสต์

อัตรากำไรสุทธิ - หรือกำไรที่ทำได้จากยอดขาย หากมีค่าสูงจะบ่งบอกถึงอะไรหลายๆอย่าง แต่ค่านี้จะผันแปรไปตามกลุ่มอุตสาหกรรม ปกติอุตสาหกรรมบริการ จะมีอัตรากำไรสุทธิสูงกว่าอุตสาหกรรมการผลิต ดังนั้นหากพบว่าบางบริษัทที่เป็นอุตสาหกรรมผลิต มีอัตรากำไรสูง จะน่าสนใจมากครับ...

ROE หรือผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น คิดได้ง่ายๆว่า หากเราลงทุนในกิจการ 100 บาท 1 ปีผ่านไป>>จะได้กำไร (หรือขาดทุน) กี่บาท ซึ่งกำไรที่ำทำได้อาจจะสะสมในเป็นทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในกิจการต่อไป หรืออาจจะจ่ายออกมาเป็นปันผลให้ผู้ถือหุ้น...แต่ค่านี้จะบิดเบือนได้หากมีส่วนทุนน้อยๆ จะทำให้ ROE สูงกว่าปกติ เช่นกิจการมีการก่อหนี้มาก หรือจ่ายปันผลมากๆ หรือส่วนทุนเริ่มต้นเป็นบวกน้อยๆ ... ROE เป็นอัตราส่วนที่น่าสนใจครับ เราจะพบได้บ่อยๆในงานเขียนที่กล่าวถึงวิธีการลงทุนของ วอเรน บัฟเฟตต์...

หากจะทำการซื้อขาย ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆประกอบด้วยครับ โดยเฉพาะราคา
เพราะหากหุ้นดี แต่ซื้อที่ราคาสูง ผลตอบแทนก็จะน้อยลง ในขณะที่มีความเสี่ยงมากขึ้น แต่เท่าที่ดูหลายตัวก็ยังซื้อขาย กันที่ราคาค่อนข้างต่ำครับ
และหุ้นบางตัว ผมก็มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยครับ.. :lol: :lol:

เปิด'22ธุรกิจ'ชั้นนำ ฝ่าวิกฤติ ทำกำไร 5ปี
เฟ้น "เบอร์หนึ่ง"รายอุตสาหกรรม



"กรุงเทพธุรกิจ" สำรวจผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปี (2541-2545) ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แยกรายกลุ่ม โดยใช้เกณฑ์ Net Profit Margin ซึ่งแสดงถึงความสามารถ ในการทำกำไร เมื่อเทียบกับรายได้ โดยพิจารณาร่วมกับ ROE - Return on Equity (ผลตอบแทนส่วนทุน) เพื่อให้สามารถเทียบเคียง ระหว่างธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ภายใต้มาตรฐานเดียวกันได้

เป้าหมายสำคัญในการจัดลำดับผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปีของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ก็เพื่อแจกแจงถึงเห็นความสามารถ ในการทำกำไร รายกลุ่มอุตสาหกรรมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถบ่งชี้ถึงแนวโน้ม ของแต่ละอุตสาหกรรม ได้ระดับหนึ่ง นอกจากนั้น ยังเป็นตัวชี้วัดที่ระบุได้ว่า ในแต่ละอุตสาหกรรม ลำดับ 1-3 ของบริษัทที่มีผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปีดีที่สุดของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมเป็นบริษัทใดบ้าง

บีอีซีเวิลด์ เด่นที่สุดในกลุ่ม "บันเทิง"
กลุ่มบันเทิงและสันทนาการ มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งหมด 11 ราย กลุ่มธุรกิจนี้เป็นกลุ่มที่มี Net Profit Margin หรือความสามารถ ในการทำกำไร เทียบกับยอดขายค่อนข้างสูง แต่มีผลตอบแทนส่วนทุน หรือ ROE ค่อนข้างต่ำ และจัดเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีผลประกอบการดีขึ้นต่อเนื่อง

ในจำนวน 11 บริษัท มี 4 บริษัทเพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดทำให้ไม่สามารถมองย้อนไปถึง 5 ปีได้ ส่วนในจำนวน 7 บริษัทที่เหลือ มี 3 บริษัทที่อยู่ในข่ายโดดเด่น ซึ่งประกอบด้วย บริษัท บีอีซี เวิลด์ เทพธานีกรีฑา และจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ โดยบีอีซี เวิลด์ มี ROE เฉลี่ย 5 ปีสูงสุดของกลุ่มที่ระดับ 19.46% ขณะที่ Net Profit Margin ของบีอีซี เวิลด์ เฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 30.4% และขึ้นลงอยู่ในระดับ 28-34% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ลำดับสองของบริษัทที่มีผลประกอบการดีเด่นในกลุ่มนี้ คือ เทพธานีกรีฑา ซึ่งมี Net Profit Margin เฉลี่ย 5 ปีที่ 25.06% แต่ ROE เฉลี่ย 5 ปีอยู่ในระดับที่ต่ำมากคือเพียง 1% เศษเท่านั้น ลำดับที่ 3 ได้แก่ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มี Net Profit Margin เฉลี่ย 5 ปีที่ 7.51% แต่มี ROE เฉลี่ย 5 ปี เท่ากับ 10.13%

สื่อสาร "ชินกรุ๊ป" ครองทุกตำแหน่ง

แม้ว่าในรอบหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมจะเป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยแนวโน้มทางบวกของธุรกิจ แต่เมื่อพิจารณาจาก Net Profit Margin ย้อนหลังไป 5 ปีจะพบว่า มีหลายบริษัทในกลุ่มนี้ที่ความสามารถในการทำกำไรเทียบกับยอดขายอยู่ในระดับต่ำ

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาบริษัทที่มีผลประกอบการโดดเด่น ไม่ว่าจะใช้เกณฑ์ Net Profit Margin หรือ ROE พบว่า บริษัทในกลุ่มชินวัตรเป็นท็อปทรีของทั้งสองเกณฑ์ ได้แก่ ชิน คอร์ปอเรชั่น ชิน แซทเทลไลท์ และแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส โดย ROE เฉลี่ย 5 ปี เรียงลำดับได้ดังนี้ 30.88% 27.67% และ 19.78% ส่วน Net Profit Margin อยู่ที่ 25.96% 24.92% และ 12.96%

"กสิกรไทย"แบงก์เดียวกำไรต่อรายได้บวก 3 ปีซ้อน

ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา อาจกล่าวได้ว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีผลประกอบการแย่ที่สุด โดยเฉพาะในช่วงปี 2541 - 2543 แต่สถานการณ์เริ่มดีขึ้นบ้างในปี 2544 และ 2545

ในจำนวนทั้งหมด 14 ธนาคารที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ กสิกรไทยเป็นเพียงธนาคารเดียวที่มี Net Profit Margin เป็นบวกติดต่อกัน 3 ปีซ้อน โดยความสามารถในการทำกำไรเป็นบวกตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ส่วนธนาคารอื่นๆ เริ่มมีกำไรในปี 2544 อีกทั้งมีผลตอบแทนจากการลงทุน (ROE) ในปี 2545 สูงที่สุดในกลุ่ม คือ 21.51%

อสังหาฯ : เอ็มบีเค ปลอดภัยในวิกฤติ

กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีจำนวนบริษัทจดทะเบียนมากถึง 29 บริษัท กลุ่มนี้เข้าสู่ช่วงตกต่ำมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มนี้มีหลายบริษัทที่มีกำไรเติบโตต่อเนื่องตลอด 5 ปี เช่น สวนอุตสาหกรรมโรจนะ เอ็มบีเค ดีเวลลอปเมนท์ และเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งมีความสามารถในการทำกำไรเทียบรายได้ เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง เรียงตามลำดับดังนี้ 19.18% 16.39% และ 15.95%

เมื่อพิจารณาจาก ROE หรือผลตอบแทนส่วนทุน จะพบว่า บริษัทที่มี ROE เฉลี่ย 5 ปี 3 ลำดับแรก กลับเป็น พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เซ็นทรัลพัฒนา และอมตะ คอร์ปอเรชั่น โดยอยู่ที่ระดับ 48.73 % 13.2% และ 19.3%

ปูนกลาง ROE ดีที่สุดกลุ่มวัสดุก่อสร้าง

กลุ่มธุรกิจก่อสร้างเริ่มมีผลประกอบการดีขึ้นในปี 2544 และ 2545 บริษัทที่มี Net Profit Margin ดีที่สุดในกลุ่มนี้ คือ วนชัย กรุ๊ป ซึ่งมีค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 22.03% ลำดับ 2 และ 3 คือ วิค แอนด์ ฮุคลันด์ และ ปูนซีเมนต์นครหลวง และถ้าพิจารณาจาก ROE ผู้ประกอบการ 3 ลำดับแรกที่มี ROE ดีที่สุด คือ ปูนซีเมนต์นครหลวง อุตสาหกรรมพรมไทย และ วิคแอนด์ ฮุคลันด์ โดยมี ROE เฉลี่ย 5 ปีที่ 22.97% 19.59% และ 18.02% ตามลำดับ

ศรีอยุธยาประกันภัย สัดส่วนกำไรสูงสุด


ธุรกิจประกันชีวิต และประกันภัย เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีกำไรส่วนเกินสุทธิ (Net Profit Margin) ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยในปี 2541 บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย มี Net Profit Margin สูงถึง 50% และบริษัทนี้ยังมีกำไรส่วนเกินสุทธิ เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังสูงที่สุดในกลุ่มด้วยตัวเลข 39.77% ส่วนบริษัทที่มี ROE ดีที่สุดในกลุ่มนี้ คือ ไทยรับประกันภัยต่อ ซึ่งมีค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 20.65%

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ผลประกอบการในปี 2545 ของบริษัทประกันส่วนใหญ่มีอัตราส่วนการทำกำไรต่อยอดขายที่มีแนวโน้มลดลง

"เชียงใหม่โฟรเซ่น" ดาวเด่นเกษตร

ผู้ประกอบการในธุรกิจการเกษตรที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีทั้งหมด 20 ราย โดยรวมแล้วผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในระหว่างปี 2541 - 2543 จะเป็นช่วงที่ธุรกิจการเกษตรค่อนข้างไปได้ดี แต่ผลกำไรเริ่มลดลงในปี 2544 และ 2545 นอกจากนั้น ยังเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีสัดส่วนของกำไรต่อรายได้ (Net Profit Margin) ค่อนข้างต่ำ และเมื่อพิจารณาผลตอบแทนส่วนทุน (ROE) ถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ คือ มีค่าเฉลี่ยที่ร้อยละ 20 - 36 อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มลดลงในปี 2545

3 ลำดับแรกของบริษัทที่มี Net Profit Margin สูงที่สุดในกลุ่มนี้ ประกอบด้วย เชียงใหม่โฟรเซ่นฟู้ดส์ ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์ และไทย อกริ ฟู้ดส์ โดยมีค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่ในระดับ 19.24% 10.6% และ 9.89% ตามลำดับ ส่วนบริษัทที่มี ROE สูงสุด 3 ลำดับแรก คือ แพ็คฟู้ด ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ ซีเฟรช อินดัสตรี ซึ่งมี ROE เฉลี่ย 5 ปี เท่ากับ 36.72% 26.43% และ 26.29%

ในช่วงปี 2541-2543 บริษัทส่วนใหญ่ในกลุ่มธุรกิจเงินทุนหลักทรัพย์ มีผลประกอบการที่ย่ำแย่ และเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวใน 2 ปีก่อน ซึ่งหากเทียบกับกลุ่มอื่น กลุ่มนี้ถือว่ามี Net Profit Margin สูง โดยบริษัทที่เด่นที่สุด คือ บล.เอบีเอ็นแอมโร เอเชีย ที่ติด 1 ใน 3 ทั้ง Net Profit Margin และ ROE

ไทยคาร์บอนสุดยอดกลุ่มเคมีภัณฑ์

เคมีภัณฑ์และพลาสติก เป็นกลุ่มธุรกิจขาขึ้นอีกธุรกิจหนึ่งโดยทุกบริษัทในกลุ่มนี้มีผลประกอบการที่ดีขึ้นในช่วงปี 2544 - 2545 แต่เป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนกำไรส่วนเกินสุทธิ Net Profit Margin ค่อนข้างต่ำ โดย 3 ลำดับแรกที่มี Net Profit Margin เฉลี่ย 5 ปีสูงสุด คือ ไทยคาร์บอนแบล็ค ปิโตรเคมีแห่งชาติ และวีนิไทย โดยมีกำไรส่วนเกินสุทธิเฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 18.9% 13.64% และ 9.14% ตามลำดับ

เมื่อพิจารณาจาก ROE บริษัทที่มี ROE สูงที่สุด คือ ปิโตรเคมีแห่งชาติ ซึ่งมี ROE เฉลี่ย 5 ปี สูงถึง 1,489% ตามด้วย ไทยเซ็นทรัลเคมี 33.43% และ ไทยคาร์บอนแบล็ค 25.40%

"ไทยเรยอน"กำไรเติบโตต่อเนื่อง

กลุ่มสิ่งทอเป็นกลุ่มธุรกิจที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งมีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากถึง 24 บริษัท กลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจัดเป็นธุรกิจที่มีขาลงอันยาวนาน เมื่อมองย้อนหลังไป 5 ปีผลประกอบการในกลุ่มนี้ย่ำแย่มาตลอด หลายบริษัทประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง อีกทั้งสัดส่วนกำไรต่อรายได้ก็ค่อนข้างต่ำ

อย่างไรก็ตาม ในสภาวะแห่งความยากลำบาก ยังมีหลายบริษัทในธุรกิจนี้ที่รักษาอัตราการทำกำไรไว้ได้อย่างน่าสนใจ บริษัทที่มี Net Profit Margin สูงสุด 3 ลำดับแรก คือ ไทยเรยอน 16.31% เท็กซ์ไทล์เพรจทีจ 12.97% ธนูลักษณ์ 11.62% ส่วนเมื่อพิจารณาจาก ROE บริษัทที่โดดเด่นได้แก่ เท็กซ์ไทล์เพรสทีจ ประชาอาภรณ์ และยูเนี่ยนไพโอเนียร์ ซึ่งมี ROE เฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 49.9% 21.4% และ 19.97%

ด้านกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ในช่วง 2 ปีหลัง คือ 2544-2545 สัดส่วนการทำกำไรเพ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยบริษัทที่มี Net Profit Margin เฉลี่ย 5 ปีสูงสุด คือ คอมพาสส์อีสต์ อินดัสตรี กุลธรเคอร์บี้ มูราโมโต้ อีเล็คตรอน ในอัตราส่วน 15.52% 7.97% และ 5.55%

อิเล็กทรอนิกส์ มีแนวโน้ม "ขาลง"

เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปีจะพบว่า กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีสัดส่วนการทำกำไรต่อรายได้ผันผวนค่อนข้างมาก แม้ว่าผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ส่วนใหญ่จะทำผลประกอบการได้ดีในช่วงปี 2542 และ 2543 แต่ผลประกอบการปี 2544-2545 ชี้ว่าอาจเข้าสู่ "ขาลง" ของอุตสาหกรรม

บริษัทที่มี ROE เฉลี่ย 5 ปีดีที่สุดในกลุ่มนี้ คือ เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ที่ 27.67% ฮานา ไมโคร อิเล็คทรอนิกส์ 14.61% และดราโก้ พีซีบี 9.83% ส่วนถ้ามองจาก Net Profit Margin เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ก็ยังเป็นบริษัทที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุด โดยมีกำไรต่อรายได้ที่ 10.88% ลำดับสอง ฮานา ไมโครอีเล็คทรอนิกส์ 8.88 % และลำดับ 3 ดราโก้ พีซีบี 7.18%

"ปตท.สผ." โดดเด่นในกลุ่มพลังงาน

ผลการดำเนินงานของกลุ่มพลังงาน 9 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์มี 3 บริษัทที่โดดเด่นอย่างมาก ทั้งในส่วนของผลกำไรส่วนเกินสุทธิ และผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้น นั่นคือ ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม ผลิตไฟฟ้า และลานนา-รีซอร์สเซส

บริษัทที่มี Net Profit Margin เฉลี่ย 5 ปีดีที่สุด คือ ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม 26.7% ผลิตไฟฟ้า (EGCOMP) 26.77% และ ลานนารีซอร์สเซส 18.26% และทั้ง 3 บริษัทยังมี ROE เฉลี่ย 5 ปีดีที่สุดอีกด้วย โดยอยู่ที่ระดับ 25.62% 18.96% และ 16.05% ตามลำดับ

สำหรับกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยภาพรวมมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงปี 2544 และ 2545 ซึ่งบริษัทที่น่าจับตามองมากที่สุด คือ ไทยเพรสซิเดนท์ฟู้ดส์ เนื่องจากมีกำไรเพิ่มขึ้นมาตลอดตั้งแต่ปี 2542

ขณะที่ในกลุ่มธุรกิจการแพทย์ ทั้ง 10 บริษัท มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในแง่ของความสามารถในการทำกำไร แต่ผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้นมีแนวโน้มลดลง และมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงมาก

โรงพยาบาลซึ่งมีผลประกอบการดีที่สุดในกลุ่ม คือ โรงพยาบาลเอกชล โดยมีผลประกอบการติดอันดับ 1 ใน 3 ทั้งในส่วนของ Net Profit Margin และ ROE แต่โรงพยาบาลที่มี Net Profit Margin ดีที่สุดได้แก่ โรงพยาบาลนนทเวช ซึ่งมีอัตราส่วนกำไรต่อยอดขาย 27.01% ขณะที่ โรงพยาบาล สมิติเวช มี ROE ดีที่สุดของกลุ่มคือ 194.9%

"สยามภัณฑ์" ศักยภาพทำกำไรดีที่สุด

ภาพรวมแล้วกลุ่มยานพาหนะ และอุปกรณ์ เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มดีขึ้นในปี 2545 โดยมี 2 บริษัทที่น่าจับตา ได้แก่ สยามภัณฑ์กรุ๊ป และไทยสตอเรจ แบตเตอรี่ ซึ่งติด 1 ใน 3 บริษัทที่มี Net Profit Margin และ ROE เฉลี่ย 5 ปีสูงที่สุดในกลุ่ม

โดย ROE เฉลี่ย 5 ปีสูงสุด 3 ลำดับแรก คือ สวีเดนมอเตอร์ส 33.51% ไทยสตอเรจ แบตเตอรี่ 21.09% สยามภัณฑ์ กรุ๊ป 20.72% ส่วน Net Profit Margin 3 ลำดับแรกคือ สยามภัณฑ์ กรุ๊ป 12.24% ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ 11.4% ไทยสตอเรจ แบตเตอรี่ 10.7%

สำหรับกลุ่มขนส่งเมื่อพิจารณาจากผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้น หรือ ROE เฉลี่ย 5 ปีของ การบินไทยอยู่ที่ 43.49% ยูนิไทย ไลน์ 12.62% และเมื่อพิจารณาจาก Net Profit Margin พรีเชียส ชิพปิ้ง มีค่าเฉลี่ย 5 ปีสูงสุดที่ 12.73% ยูนิไทย ไลน์ 8.44% และ การบินไทย 5.48%

เอ..ว่าแต่เพื่อนๆ ถือหุ้นเหล่านี้กันบ้างหรือเปล่าครับ
เท่าที่ทราบพี่ธันวาจะถืออยู่หลายตัวหน่อย
ส่วนผมถือแค่ 2 ตัว จากที่มีอยู่ในพอร์ท 5 ตัวครับ.. :lol:
แก้ไขล่าสุดโดย ลูกอิสาน เมื่อ เสาร์ ก.พ. 21, 2004 10:16 pm, แก้ไขไปแล้ว 2 ครั้ง.
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

โพสต์ที่ 2

โพสต์

มีรายชื่อหุ้นที่ผมถือและมองๆไว้เหมือนกันด้วยครับ :)
Expecto Patronum!!!!!!
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เดี่ยวจะกลับมาอ่าน อย่างตั้งใจ อิอิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ลุงขวด
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2431
ผู้ติดตาม: 0

เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เป็นบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจครับ อยู่ในฉบับไหนของ กรุงเทพธุรกิจ ครับ ผมอยากตัดเก็บเอาไว้........ขอบคุณที่เอามาให้อ่าน

ผมมี MBK TR BEC(ขาดทุนอยู่) AYUD และ THAI (จองแต่แรกเลยที่ 60 บาท ที่จัดสรร ให้คนละ 200 หุ้น หลาย ๆ ปี มาแล้ว สุ่มตัวอย่างได้มาครับ ถือเป็นใบหุ้นอยู่เลย).............ทำให้นึกถึง การท่า(AOT)..ที่จะออกให้ใหม่ เห็นจัดแบ่งให้รายย่อยจองที่ ธนาคาร ไม่เกิน คนละ 500 หุ้น..........เห็น ท่านรักษาการ MD คุณ บัญชา ตอนออกมานำเสนอ เรื่องของการท่า ทาง ทีวี เลย จำได้ เพราะเคยทำงานด้วยกันสมัยอยู่การบินไทย ท่านจบจากอินเดีย ยังคงรักษาบุคคลิกเดิม พูดไป ขยับเข่าไปด้วย........โอ้ เพื่อนเราตอนนี้ใหญ่โตจังเลย

ไม่ได้จองการท่า กับ เขา เห็นว่า มีคนสนใจกันมาก เลย กลัว ๆ ไม่รู้จะเหมือนการบินไทยหรือเปล่า.........เหนือจอง ไม่กี่เดือน ตอนนั้นหุ้นการบินไทย จองที่ 60 บาท นอกตลาดเห็นขายกันแถว 90 บาทก็มี คนซื้อนอกตลาดขาดทุนกันหมด
อ-ริน
Verified User
โพสต์: 222
ผู้ติดตาม: 0

เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

โพสต์ที่ 5

โพสต์

:D
ไม่อยากเชื่อเลย ว่าไม่มีสักตัวค่ะ
บางตัวเคยถือ แต่ทิ้งไปแล้ว
8)
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมนำมาจากกรุงเทพธุรกิจฉบับวันที่ 19/5/2003 ครับ
แต่ข้อมูลยังทันสมัยอยู่ครับ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์บ้าง..

ส่วนข้างล่างเป็นลิงค์ที่สรุปหุ้นเด่น 10 ตัว
ที่มี net profit margin เฉลี่ย 5 ปี สูงสุด
คงจะถูกใจแฟน PHA และ PL ครับ... :D


http://www.phatra.co.th/news/news_3.htm
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
Chlorophyle
Verified User
โพสต์: 93
ผู้ติดตาม: 0

เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ข้อมูลข้างบน ช่วยเพิ่มความมั่นให้ผมอีก 7 จุด เป็นประโยชน์(กับผม)มาก
ขอบคุณครับ คุณ _ลูกอีสาน
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

โพสต์ที่ 8

โพสต์

โอ้ เย้ เบบี้ เย้

ขอบคุณคุณ _ลูกอีสานขอรับ

ทำไมชื่อต้องมี underline นำหน้าด้วยหละ

:lol:
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
คนขายถ่าน
ผู้ติดตาม: 0

เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

โพสต์ที่ 9

โพสต์

อ้าว ใครทิ้งถ่านของป๋มไป เสียจัยม่ะนั่น :lol:
FITCH
Verified User
โพสต์: 194
ผู้ติดตาม: 0

เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

โพสต์ที่ 10

โพสต์

มีหลายตัวเลยเนี่ย
BEC
SHIN
KBANK
AYUD
DELTA
เฮ้ออ่านจนตาลายเลยครับ :lol:
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0

เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ผมคิดว่าข้อมูลไม่ update แล้วนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณครับ ยกตัวอย่างเช่น TCB นั้น อัตรากำไรสุทธิเท่าที่ผมวิเคราะห์จากงบการเงินย้อนหลังได้ คือ

ปี 1999 (15.3%)
ปี 2000 (11.5%)
ปี 2001 (12.4%)
ปี 2002 (17.6%)
ปี 2003 (14.5%)

ในบทความที่อ้างถึงบอกว่าเป็นค่าเฉลี่ย 5 ปี คิดว่าคงเฉลี่ยตั้งแต่ ปี 1998 ถึงปี 2002 ครับ สำหรับปี 1998 นั้น มีค่าอัตรากำไรสุทธิทางบัญชีถึง 53% คาดว่าไม่น่าจะเป็นความสามารถจากการประกอบการ แต่เป็นเรื่องของรายการพิเศษเสียมากกว่า ยังไม่ได้ดูงบของปีนั้นอย่างละเอียดครับ

อย่างไรก็ตาม ปี 2003 เฉลี่ยทั้งปี อยู่ที่ 14.5% และถ้าดูเฉพาะ Q4 จะเหลือเพียง 10.2% ครับ คาดว่าคงได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เป็น Carbon Feed Stock Oil ที่คงจะสูงตามราคาน้ำมันดิบในช่วง 3 เดือนหลังของปีที่แล้ว ในขณะที่ราคาขายของให้กับลูกค้า ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ถ้าจะให้ดีน่าจะไปประชุมผู้ถือหุ้นก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ ไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา เห็นราคาน้ำมันก็ยังสูงอยู่ด้วยครับ โชคดีปลอดภัยทุกท่านครับ
ผ่านมา
ผู้ติดตาม: 0

เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ส่วน CM นั้นเป็นหุ้นส่งออก แม้ว่าทั้ง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา จะมีผลประกอบการไม่เลวนัก แต่ไตรมาสที่ 4 มักจะมีผลประกอบการที่ด้อยกว่าไตรมาสอื่นเสมอ อีกสัปดาห์เดียวก็จะประกาศผลแล้ว ถ้าราคาเริ่มปรับตัวขึ้นไปแล้วก็อย่าไล่ตามเลยครับ รอดูผลไตรมาส 4 ก่อนจะดีกว่าครับ อีกอย่างค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นคงจะมีผลกระทบต่อกำไรด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

เปิดโผ 22 หุ้นเด่น!! อัตรากำไรสุทธิ-ROE สูงสุด ย้อนหลัง 5 ปี

โพสต์ที่ 13

โพสต์

Guest wrote:
อย่างไรก็ตาม ปี 2003 เฉลี่ยทั้งปี อยู่ที่ 14.5% และถ้าดูเฉพาะ Q4 จะเหลือเพียง 10.2% ครับ คาดว่าคงได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เป็น Carbon Feed Stock Oil ที่คงจะสูงตามราคาน้ำมันดิบในช่วง 3 เดือนหลังของปีที่แล้ว ในขณะที่ราคาขายของให้กับลูกค้า ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ถ้าจะให้ดีน่าจะไปประชุมผู้ถือหุ้นก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ ไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา เห็นราคาน้ำมันก็ยังสูงอยู่ด้วยครับ โชคดีปลอดภัยทุกท่านครับ
ขอบคุณคุณแขก (มีหนวดอะป่าวไม่รู้) ที่ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มครับ

ผมว่าที่ q4 มีต้นทุนสูงน่าจะเกิดจากน้องหนิงแน่ๆ เลย (บ. เหลียวหนิงในเมืองจีน) เพราะถ้าดูงบการเงินเฉพาะบริษัทจะได้ต้นทุนที่ไม่ต่างจากปีที่แล้วมากนักครับ

แน่นอนครับ จะไปถามผู้บริหาร TCB ให้ ตอนนี้ก็ทีคำถามอยู่ที่

1. น้องหนิงจะคุ้มทุนเมื่อไหร่ ต้องเดินเครื่องกี่เปอร์เซนต์ถึงจะคุ้มทุน เอาว่าง่ายๆว่าทำไมถึงขาดทุนก็แล้วกัน อิอิ
2. แนวโน้มราคา CBFO ในปีนี้เป็นไง
3. จะเริ่มใช้เงินเพื่อลงทุนในอียิปต์เมื่อไหร่ และโรงงานจะเริ่มเปิด commercialized เมื่อไหร่
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
ล็อคหัวข้อ