บ. นี้พอจะลุ้นเป็น super growth stock ได้ไหมครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
cryptonian_man
Verified User
โพสต์: 585
ผู้ติดตาม: 0

บ. นี้พอจะลุ้นเป็น super growth stock ได้ไหมครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ฝันข้า...ใครอย่าแตะ 'จเรรัฐ ปิงคลาศัย' 
อีก 5 ปี 'มาร์เก็ตแคป' D1 ทะยาน 'หมื่นล้าน' '...ผมไม่ได้โม้...'

เปิดฝันฉบับ "จเรรัฐ ปิงคลาศัย" ถึงตัวข้าเล็ก แต่ใจข้าใหญ่...ถึงหุ้นข้าจิ๋ว แต่ข่าวข้าดัง ภายใน 5 ปี (2550-2554) "สิงห์จอมโว" ให้สัญญา ดราก้อน วัน จะเป็น โฮลดิ้ง คอมปะนี ที่มีเครือข่าย 100 บริษัทลูก และมี มาร์เก็ตแคป แตะ 10,000 ล้านบาท เจ้าตัวคุย ทำได้แน่ เพราะ ข้า คือ IT Man 




-----------------------------------
ผมไม่สนหรอกว่า ใครจะว่าผม ขี้โม้ มันยังดีกว่า โกหก เพราะทุกอย่างที่ตั้งใจจะทำ มันจะเกิดขึ้นจริงในอนาคต" 
-----------------------------------


ถึงแม้ว่า "นักลงทุน" ยังตั้งข้อสงสัยว่า เจมส์ บอนด์ 007 จะหิ้วกระเป๋าใบโตพร้อมเงิน "เต็มกระเป๋า" หายเข้ากลีบเมฆ ก่อนจะสำเร็จภารกิจหรือไม่ ยังเป็นประเด็นถูกตั้งข้อสงสัย นั่นเพราะประวัติศาสตร์มีไว้ให้ "ซ้ำรอยเดิม" เฉกเช่น "ใจคน" จะเอาอะไรแน่นอน "ร้อยเปอร์เซ็นต์" เห็นจะไม่มี

จเรรัฐ ปิงคลาศัย เป็นบุคคลหนึ่งที่เด่นดังขึ้นมา ภายหลังเข้ามาทำ Backdoor Listing (การเข้าจดทะเบียนทางอ้อม) บมจ.ไดอาน่า ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ซื้อ "ชื่อบริษัท" จาก เนตร จันทรัศมี เจ้าพ่อห้างสรรพสินค้าเมืองหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2549 จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 76.17%

จากนั้น ก็เปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจใหม่หมด และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บมจ.ดราก้อน วัน (D1) ซึ่งเขาเคยบอกความหมายว่า เป็นชื่อเรียกแทนตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" ของประเทศจีน (มังกรหมายเลข 1)

บ้างก็ว่า จเรรัฐ เป็นสาขาหนึ่งของ "ไออีซี" ที่มี ไพโรจน์ เปี่ยมพงศ์สานต์ เป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง พร้อมทั้งมีเสียงอื้ออึงมาตั้งแต่แรกแล้วว่า การเดิมเกมสร้างสตอรี่ทั้งหมด มีเป้าหมายอยู่ที่ "ราคาหุ้น" เพียงประการเดียว

ก่อนหน้านี้ จเรรัฐ เคยลั่นวาจาไว้ว่า จะเทคโอเวอร์เดือนละ 2 บริษัท และจะปั้นบริษัทระดับ "ร้อยล้าน" ทะยานสู่มาร์เก็ตแคป "หมื่นล้าน" ภายใน 3 ปี (2550-2552)

"การโตเร็วมีทางเดียวคือ "ซื้อ" ถ้าคุณ "สร้าง" ไม่มีทาง วันนี้การเป็นเถ้าแก่แล้วสร้างจากศูนย์ชาติหนึ่งก็ไม่ได้ ต้องซื้ออย่างเดียวมันถึงจะโต...ไม่อยากคุย จริงๆ จะซื้อ 2 บริษัทต่อเดือนด้วยซ้ำ!!!" จเรรัฐ เคยกล่าวไว้

ภายใต้ "ฝัน" อันรุ่งโรจน์ จเรรัฐ กลับเทขายหุ้น D1 ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เคยลั่นวาจาไว้ว่าจะไม่ขายหุ้นจนเหลือต่ำกว่า 25% แต่วันนี้เหลือหุ้นเพียง 18% ขายหุ้นออกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 150 ล้านหุ้น ได้เงินสดๆ ออกไปแล้วเฉียด 200 ล้านบาท

พูดให้ชัดๆ ก็คือ "เงินลงทุน+ดอกเบี้ย" ที่กู้มาซื้อหุ้นไดอาน่า ผ่านมาปีเศษ สามารถ "ถอนทุนคืน" ออกไปหมดแล้ว แถมยังได้กำไรออกไปอีกก้อนใหญ่ น่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ด้วย

เป้าหมายต่อไป จเรรัฐ ต้องการทำให้ ดราก้อน วัน เป็นหุ้น "บลูชิพ ไอที" แต่ผ่านมาแล้วกว่า 1 ปี ผู้ถือหุ้นตั้งกระทู้ถามว่า ที่พูดไว้น่ะ "เมื่อไรจะทำได้"

ล่าสุด จเรรัฐ ปิงคลาศัย ให้สัมภาษณ์กับกรุงเทพธุรกิจ BizWeek เขาถ่ายทอดความฝัน และย้ำจุดยืนเดิม (แต่ขยายระยะเวลา) ว่า ยังคงมุ่นมั่นที่จะเป็น Holding Company โดยตั้งเป้าไว้ว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้า (2550-2554) จะมีบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ประมาณ 100 แห่ง เฉลี่ย 2 เดือนต่อ (ซื้ออย่างน้อย) 1 บริษัท

"หากทำได้ตามความตั้งใจ อีก 5 ปี เราจะมีมาร์เก็ตแคป 10,000 ล้านบาท (ปัจจุบัน ดราก้อน วัน มีมาร์เก็ตแคป เพียง 250 ล้านบาท)"

จเรรัฐ มั่นใจว่า จะเดินทางไปถึง ฝัน ได้ไม่ยาก เพราะมีทีมผู้บริหารที่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีเป็นอย่างดี ประกอบกับมีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจประเภทนี้ในประเทศไทยเกือบ 4,000 แห่ง (ที่มีให้เลือกซื้อ) ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก

ผมไม่สนหรอกว่า ใครจะว่าผม ขี้โม้ มันยังดีกว่า โกหก เพราะทุกอย่างที่ตั้งใจจะทำ มันจะเกิดขึ้นจริงในอนาคต เพียงแต่วันนี้สถานการณ์ต่างๆ มันเข้ามากวนใจ ทำให้ต้องชะลอออกไปก่อน ไม่เชื่อเดี๋ยวจะพิสูจน์ให้ดู จเรรัฐ กล่าว

พร้อมทั้งบอกเหตุผลว่า ที่หันมาโฟกัสด้าน "ธุรกิจไอที" เพราะตัวเองเป็น "ไอที แมน" จับธุรกิจด้านนี้ได้ โดยไม่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติม ก่อนจะคุยต่อว่า...

"ผมจบปริญญาตรีคณะวิศวกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ สาขาไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีประวัติเคยทำงานอยู่ที่บริษัท ไอบีเอ็ม (ประเทศไทย) เป็นเวลา 10 ปี จนมีโอกาสได้ร่วมคิดค้นโปรแกรมภาษาไทยในเครื่อง ATM คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ และเคยได้รับรางวัลสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมซอฟต์แวร์ภาษาไทยจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาแล้ว"

แผนของ จเรรัฐ ที่เปิดหน้าไพ่ให้เห็นถ้าโฟกัสมาที่ธุรกิจไอที ธุรกิจนี้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 25% และหุ้นในกลุ่มไอทีจะเทรดกันที่ค่า พี/อี เรโช "สูงมาก" แปลเป็นภาษาหุ้นได้ว่า ธุรกิจนี้ "หุ้น" จะมี "พรีเมียมสูง"

เหตุผลที่ทำให้แผนการลงทุนในช่วงท้ายปี 2550 "พลาดเป้า" จเรรัฐ ชี้แจงว่า เดิมทีตั้งใจว่าจะมีบริษัทในเครือเพิ่มขึ้นอีก 10 แห่ง แต่ก็ต้องมาปรับแผนใหม่เหลือ 3 แห่งเท่านั้น โดยปัจจุบันมี "บริษัทแกน" คือ บริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด (A-Host) เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ ไม่เอื้ออำนวย

ล่าสุด ดราก้อน วัน มีเงินลงทุนทางตรงและทางอ้อม ประกอบด้วย...

1. บริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด (A-Host) ซึ่งเป็น "เสาหลัก" ถือหุ้น 96.60% ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปของ Oracle

2. บริษัท ไชโย โปรดักส์ชั่น จำกัด (Chaiyo) ผลิตและจำหน่ายภาพยนตร์และโฆษณา ถือหุ้น 17.06%

3. บริษัท เอวิชั่น จำกัด (Avision) ให้บริการด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ถือหุ้น 46.68%

4. บริษัท วันเน็ต จำกัด ให้บริการด้านซอฟต์แวร์ประเภทเกมคอมพิวเตอร์ และเกมออนไลน์ ถือหุ้น 14.52%

5. บริษัท บริทไบค์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Triumph ถือหุ้น 15%

ล่าสุด เพิ่งทำบันทึกข้อตกลงเข้าลงทุนใน บริษัท มีเดีย คอมมูนิเคชั่น เน็ทเวอร์ค จำกัด เป็นผู้ให้บริการสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมแก่ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีทั่วประเทศ ภายใต้แบรนด์ MTV และ Smile TV ทั้งหมดจำนวน 8 ช่องรายการ

จเรรัฐ บอกว่า มีดีลที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 3 บริษัท (รวม มีเดีย คอมมูนิเคชั่นฯ) คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเร็วๆ นี้ จะใช้เงินลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท เราสนใจธุรกิจเคเบิลทีวี เพราะมีมาร์จินสูงถึง 20% และมีคนสนใจค่อนข้างมาก" เขาบอกเหตุผลที่สนใจธุรกิจนี้

ทิศทางผลประกอบการปี 2551 จเรรัฐ ไม่ได้ให้ความเชื่อมั่นมากนัก บอกเพียงว่า "เราเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้นกว่าในปี 2550 (งวด 9 เดือนมีรายได้ 284 ล้านบาท ขาดทุน 59 ล้านบาท) ที่อาจมีรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท เพราะมีบริษัทในเครือเพิ่มขึ้น และสถานการณ์ต่างๆ เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

"ปีหน้าเรายังมีกำไรจากการนำบริษัทในเครืออย่าง A-Host และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเคเบิลทีวี เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ด้วย"

จเรรัฐ อธิบายว่า ดราก้อน วัน ต่อจากนี้จะมีรายได้มาจาก 3 ทาง คือ

1. เงินปันผลจากบริษัทที่ลงทุน

2. ค่าบริหารจัดการบริษัทในเครือ 

3. กำไรจากการนำหุ้นในในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

โลกใบนี้อาจเล็กเกินไปสำหรับชายผู้...ผู้คิดการใหญ่ หวัง "ปั้นฝัน" ดราก้อน วัน จากบริษัทระดับ "ซูเปอร์จิ๋ว" ด้วยขนาดมาร์เก็ตแคป 250 ล้านบาท ภายใน 5 ปี (2550-2554) "มังกรหมายเลข 1" จะต้องมีขนาดมาร์เก็ตแคป ระดับ 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันราวๆ 3,900 เท่าตัว...กาลเวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์!!! 

------------------------------------------

กฎเล่นหุ้น 5 ข้อ ของ 'จเรรัฐ' 

------------------------------------------

แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นเป็น "เซียนหุ้นขาใหญ่" แต่ระดับ "ไต่บันไดเมฆ" ได้ ต้องยกนิ้วให้ว่า จเรรัฐ ผู้นี้ "ไม่ทำธรรมดา" แน่ๆ 

จเรรัฐ เปิดสูตรสำเร็จการลงทุน "ฟันกำไรหุ้น" มานักต่อนักว่า มีกฎง่ายๆ เพียง 5 ข้อ โปรดจำไว้ให้ขึ้นใจ...

1. เราต้องดูว่าหุ้นตัวนั้นจ่ายเงินปันผล "ทุกปี" และมีอัตรา "สูงกว่า" ดอกเบี้ยเงินฝากประจำหรือไม่ 

2. เราต้องดูว่าหุ้นตัวนั้น "ซื้อง่ายขายคล่อง" หรือไม่ ถ้าเราต้องการ "ออกของ" แต่หุ้นไม่มีสภาพคล่อง คุณอาจติด ยอดดอย ได้ง่ายๆ (ขอเตือนด้วยความหวังดี)

3. เราต้องไม่ดูอนาคต (อย่าเชื่ออนาคต ให้เชื่อแต่ปัจจุบัน) เพราะหากมีสถานการณ์อะไรเข้ามากระทบก็จะทำให้ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปได้ทันที 

4. อย่าเข้าไปเล่นหุ้น "ไอพีโอ" เนื่องจากหุ้นประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมี "เจ้าภาพ" ถ้าหาก ขาใหญ่ พร้อมใจกัน "ออกของ" เราในฐานะรายย่อย จะตกเป็น "เหยื่อ" ได้ง่ายๆ

5. คุณต้อง "หูไวตาไว พูดง่ายๆ ต้องมีเครือข่ายอยู่ในแวดวงเดียวกัน เพราะเขาย่อมรู้ข้อมูลดีกว่าเรา (อย่าเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป...เหนือฟ้ายังมีฟ้า)

จเรรัฐ ยังฝากเตือนด้วยว่า การเล่นหุ้น (เก็งกำไร) ให้ได้กำไร เราควรถือคติว่า โลภแต่พองาม (อย่าโลภมาก) สำหรับตัวเองจะใช้เทคนิเคิลในการเทรดหุ้น เมื่อราคาหุ้นขึ้น-ลง 10% ก็ขายแล้ว สำหรับนักลงทุนมือใหม่ ระยะฝึกฝนให้เทรดหุ้น "บลูชิพ" ไปก่อน เมื่อเก่งแล้วค่อยขยับไปเล่นหุ้นที่มี "เจ้าภาพ" ดูแล

จเรรัฐ เล่าว่า ตนเองเริ่มมาเล่นหุ้นครั้งแรก เมื่อปี 2536 ด้วยเงินเพียง 350,000 บาท โดยเพื่อนแนะนำให้เล่น เพราะเห็นว่าได้รับเงินปันผลสูงกว่าดอกเบี้ยหลายเท่าตัว แต่วันนี้ยอมรับว่าเล่นหุ้นน้อยลงไม่หนักเหมือนก่อน

"ตอนนี้ชีวิตผมมันเริ่มอิ่มตัว จะมีเส้นทางเดินคล้ายๆ กับ เซียนหุ้นใหญ่ๆ อย่าง ชนะชัย ลีนะบรรจง และ สีฟ้า แจ่มวุฒิปรีชา (มาม่าบูล) ที่วันนี้เริ่มเล่นหุ้นน้อยลงเหมือนกัน

แท้จริงแล้ว จเรรัฐ มีเป้าหมายลงเล่นการเมืองมาตลอด เขาบอกว่า อีก 6 ปีข้างหน้า อาจเห็นลงไปเล่นการเมืองอย่างจริงจัง แต่จะไม่ลงสมัคร ส.ส. เพราะถนัดที่จะอยู่เบื้องหลัง ชอบร่างนโยบาย และเป็นที่ปรึกษาให้กับพรรคการเมืองมากกว่า แต่จะเป็น "พรรคพลังประชาชน" เหมือนที่ใครหลายๆ คน ประเมินไว้หรือไม่ "ยังไม่รู้" (เพราะสนิทกับ สุชน ชาลีเครือ อดีตประธานวุฒิสภา คนสนิทคุณหญิงพจมาน)

"มันเป็นเรื่องของอนาคตคงเร็วเกินไปที่จะสรุป หากเกิดชอบใจนโยบายพรรคอื่นขึ้นมาก็เท่ากับ ปิดประตู ขังตัวเอง ผมถือคติว่า On My Own จะทำทุกอย่างตามวิถีทางของฉันเอง


คือผมอ่านกรุงเทพธุรกิจ พอเปิดมาหน้าถนนนักลงทุนเจอก้อเลย อ่านดูแล้วไม่รู้จะพูดไงดี ถ้าทำได้จริงนี้ต้องยกให้เป็นสุดยอดหุ้นโตเร็วจริงๆเลยนะครับ  :lol:  :lol:

ดูจากวิธีการแล้วน่ากลัวว่าถ้าซื้อได้เดือนละ 2 บ. จริงคงอยู่ได้ไม่นานแน่ หนี้บาน การบริหารจัดการคงทำได้ยาก

แต่พอดูวิธีการทำกำไรหุ้นของเขาแล้วก้อดูดีใช้ได้เลยนะครับ อย่างคำนึงถึงความสามารถในการปันผล ไม่ได้มองอนาคตธุรกิจสวยเกินจริงแล้วก้อหลีกเลี่ยงหุ้นที่มี "เจ้า"ภาพ


แต่ทำไมวิธีการสร้างบ. D1 ของเขามันไม่เหมือนกะวิธีลงทุนของเขาเลยอ่ะครับ งง :shock:  :shock:
เขาว่า "หลังจากปากพองจากการดื่มนมร้อน เราจะเป่าโยเกิร์ตให้เย็นก่อนตักเข้าปาก"
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

บ. นี้พอจะลุ้นเป็น super growth stock ได้ไหมครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ดูตัวธุรกิจแล้ว งงงง
ลงทุน IT อุตร้าแมน ฯลฯ สับสนว่ามันทำกิจการอะไรกันแน่
:)
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
bigshow
Verified User
โพสต์: 730
ผู้ติดตาม: 0

บ. นี้พอจะลุ้นเป็น super growth stock ได้ไหมครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ไม่แน่คับ หุ้นบ้านเรามีอะไรแปลกเสมอ ดู live  ดิ
Market Cap จะหมื่นล้านแล้ว :lol:
เป็นคนเลว ในสายตาคนอื่น ดีกว่าโกหกตัวเอง ให้เทิดทูนบูชา ติดกับมายาคติ ที่กะลาครอบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
cryptonian_man
Verified User
โพสต์: 585
ผู้ติดตาม: 0

บ. นี้พอจะลุ้นเป็น super growth stock ได้ไหมครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

miracle เขียน:ดูตัวธุรกิจแล้ว งงงง
ลงทุน IT อุตร้าแมน ฯลฯ สับสนว่ามันทำกิจการอะไรกันแน่
:)

อาจสรุปให้เป็นวิสั้นของกิจการนี้ได้เลยนะครับ  :lol:  :lol:  :lol:
เขาว่า "หลังจากปากพองจากการดื่มนมร้อน เราจะเป่าโยเกิร์ตให้เย็นก่อนตักเข้าปาก"
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย
trainn
Verified User
โพสต์: 69
ผู้ติดตาม: 0

บ. นี้พอจะลุ้นเป็น super growth stock ได้ไหมครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

แต่ผมได้พบอย่างหนึ่ง ในประสบการณ์กรทำงาน
ที่ดีลกับ suppliers ...

รายไหนใช้ Ultraman มาช่วยสร้างแบรนด์ ทำตลาด

มัก .... เจ็บหนักทุกราย   เหอๆ
ความล้มเหลว ให้การเรียนรู้ได้มากกว่า

ความสำเร็จ ...
mprandy
Verified User
โพสต์: 1992
ผู้ติดตาม: 0

บ. นี้พอจะลุ้นเป็น super growth stock ได้ไหมครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ภายใต้ "ฝัน" อันรุ่งโรจน์ จเรรัฐ กลับเทขายหุ้น D1 ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เคยลั่นวาจาไว้ว่าจะไม่ขายหุ้นจนเหลือต่ำกว่า 25% แต่วันนี้เหลือหุ้นเพียง 18% ขายหุ้นออกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 150 ล้านหุ้น ได้เงินสดๆ ออกไปแล้วเฉียด 200 ล้านบาท

พูดให้ชัดๆ ก็คือ "เงินลงทุน+ดอกเบี้ย" ที่กู้มาซื้อหุ้นไดอาน่า ผ่านมาปีเศษ สามารถ "ถอนทุนคืน" ออกไปหมดแล้ว แถมยังได้กำไรออกไปอีกก้อนใหญ่ น่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ด้วย
ผมว่าผมอ่านมา รู้มา ก็ไม่น้อย ...ในชีวิตนี้ไม่เคยเห็นบริษัทที่ผู้บริหารที่ขยันให้ข่าวสร้างราคาหุ้นตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ออกของมาจนหุ้นที่ตัวเองเหลือไม่มีต้นทุนแล้ว จะสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างที่บอกได้เลยซักคน

ดูบริษัทที่ D1 เข้าไปถือแต่ละตัว ลูกนกกระจิบทั้งนั้น แก่นสารไม่เจอ หาความยั่งยืนแทบไม่ได้ ต่อให้มีหมื่นบริษัท ก็เหมือนมี junk เต็มไปหมด

ถ้าจะเป็น growth น่าจะเป็น P/E ratio มากกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
SEHJU
Verified User
โพสต์: 1238
ผู้ติดตาม: 0

ครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เอาอีกแล้วเหรอเพ่................
shinnozuke
Verified User
โพสต์: 341
ผู้ติดตาม: 0

บ. นี้พอจะลุ้นเป็น super growth stock ได้ไหมครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

:rofl:  :rofl:  :rofl:
anakinnet
Verified User
โพสต์: 520
ผู้ติดตาม: 0

บ. นี้พอจะลุ้นเป็น super growth stock ได้ไหมครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ลองเอากฎ 5 ข้อของเค้า เทียบกับหุ้นของเค้าเองดูสิครับ อิอิ
In the long run, We are all dead.
pegaxus
Verified User
โพสต์: 141
ผู้ติดตาม: 0

บ. นี้พอจะลุ้นเป็น super growth stock ได้ไหมครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

แหมเห็นแล้ว นึกถึงบริษัทขายสายสัญญาณครับ ก็บอกคล้ายๆแบบนี้แหละครับ แล้วตอนนี้เป็นไงละ
Outside Investor
ภาพประจำตัวสมาชิก
BOONPARUEY
Verified User
โพสต์: 184
ผู้ติดตาม: 0

บ. นี้พอจะลุ้นเป็น super growth stock ได้ไหมครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

:rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:
... " บุญ คือ เสบียงของคนไม่ประมาท "  พุทธตรัส ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

บ. นี้พอจะลุ้นเป็น super growth stock ได้ไหมครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

คนมีแต่เศษสตางค์ในกระเป๋า เดินไปไหนต้องมีเสียงดัง
ใครไม่รู้พูดเอาไว้ครับ

อ้อ คุณ anakinnet vi ที่เป็น editor unix นะออกง่ายมาก กด escape กด : และกด q! แค่นั้นเอง  :lol:  :lol:

แต่แนวทางการลงทุนแบบ vi ออกง่ายกว่าอีกนะครับ เข้าไปวิ่งเวียนสิงสถิตต่างหากที่ยากครับ

ไม่มีอะไรแซวเล่น 8)
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
โพสต์โพสต์