อยากให้คุณวิบูลย์และท่านอื่นๆ ช่วยวิเคราะห์ พลังทั้งห้า

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
yakole
Verified User
โพสต์: 226
ผู้ติดตาม: 0

อยากให้คุณวิบูลย์และท่านอื่นๆ ช่วยวิเคราะห์ พลังทั้งห้า

โพสต์ที่ 1

โพสต์

หุ้น IPO ของ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จะเปิดจองแล้ว อยากให้ คุณวิบูลย์ และท่านอื่นๆ ช่วยกันวิเคราะห์ หรือแสดงความคิด
เห็น ในแนวความคิด ของ "พลังทั้งห้า" ด้วยครับ จะเป็นพระคุณยิ่ง
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

อยากให้คุณวิบูลย์และท่านอื่นๆ ช่วยวิเคราะห์ พลังทั้งห้า

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการท่าเลย
ถ้าให้ดูจากคนข้างนอกก็น่าจะมองว่าเป็น มินิโมโนโพลี่เล็กๆ
เพราะถ้าได้บริหารสนามบินไหน คงบริหารคนเดียวก็คงไม่มีคนแข่ง
รู้สึกจะมีอยู่ 5 สนามบินที่การท่าดูแลอยู่

ลองไปหาหนังสือชี้ชวนมาอ่านซิครับ
แล้วลองทำความเข้าใจดู
ได้ความยังไงมาบอกกันมั่ง

ให้ดู การท่าได้กำไรมาจากไหน
มีการลงทุนหรือเปล่า
ผลงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
อนาคตของธุรกิจเป็นอย่างไรบ้าง

ผมคงไม่มีปัญญาได้หุ้น IPO กับเขา
คงต้องรอให้ Mr.Market มาขายของถูกๆให้ทีหลังถ้าอยากได้

ผมไม่อยากตอบส่งเดช ถ้าไม่รู้จริง
ใครรู้เรื่องการท่า ช่วยตอบด้วยนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tummeng
Verified User
โพสต์: 3665
ผู้ติดตาม: 0

อยากให้คุณวิบูลย์และท่านอื่นๆ ช่วยวิเคราะห์ พลังทั้งห้า

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เอาข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ครับ


ทอท.ตั้งราคาไอพีโอช่วง 37-42 บาท - กรุงเทพธุรกิจ

ทอท.เสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 358.8 ล้านหุ้น 26-27 ก.พ.และ 1 มี.ค.นี้ ตั้งราคาจองระหว่าง 37-42 บาท เผยจัดสรรให้ประชาชน-ข้าราชการร่วม 56 ล้านหุ้นผ่านสาขา 4 ธนาคารพาณิชย์ ส่วนนักลงทุนทั่วไปจัดสรรให้โบรกเกอร์ 85 ล้านหุ้น ผู้อุปการคุณ 22 ล้านหุ้น ส่วนต่างประเทศ 143 ล้านหุ้น พร้อมเตรียมกรีนชูรองรับความต้องการอีก 53.77 ล้านหุ้น

นายบัญชา ปัตตนาภรณ์ รักษาการกรรมการผูจัดการใหญ่ บริษัท การท่าอากาศยาน (ทอท.) กล่าวว่า บริษัทได้กำหนดช่วงราคาขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนและนักลงทุนทั่วไปครั้งแรก (ไอพีโอ) อยู่ที่ระหว่าง 37-42 บาทต่อหุ้น ซึ่งราคาจองที่แน่นอน จะมีการประกาศในวันที่ 2 มี.ค.2547

ทั้งนี้ ทอท.จะขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 358.8 ล้านหุ้น ให้กับประชาชนและนักลงทุนทั่วไป โดยจัดสรรให้แก่ประชาชนและนักลงทุนในประเทศ จำนวน 215.28 ล้านหุ้น ซึ่งประกอบด้วย นักลงทุนสถาบัน 52 ล้านหุ้น ประชาชนรายย่อย 40 ล้านหุ้น ข้าราชการ 16 ล้านหุ้น

สำหรับบุคคลทั่วไปจะจำหน่ายผ่านโบรกเกอร์ จำนวน 85.25 ล้านหุ้น และผู้อุปการคุณ 22 ล้านหุ้น ส่วนนักลงทุนต่างประเทศจะได้รับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว 143.52 ล้านหุ้น

อย่างไรก็ตาม ในการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้บริษัทได้เตรียมหุ้นในส่วนของกรีนชู เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนไว้เพิ่มเติมอีกจำนวน 53.77 ล้านหุ้น

นายบัญชา กล่าวว่า บริษัทจะเริ่มนำเสนอข้อมูลการลงทุน (โรดโชว์) ต่อนักลงทุนในประเทศในวันที่ 12 ก.พ.นี้ หลังจากนั้น ก็จะมีการโรดโชว์ต่างประเทศร่วม 10 ประเทศ ในระหว่างวันที่ 16-27 ก.พ.2547 ขณะเดียวกัน ระหว่างวันที่ 16-23 ก.พ.นี้ก็มีการโรดโชว์ต่างจังหวัดด้วย โดยหลังจากประกาศราคาจอง และมีการจองหุ้นสำเร็จ ทอท.จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ประมาณวันที่ 11 มี.ค.นี้

นายบัญชา กล่าวว่า ประชาชนรายย่อยและข้าราชการทั่วไปสามารถจองซื้อได้ที่ 4 สำนักงานใหญ่ และสาขาของ 4 ธนาคารพาณิชย์ ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารทหารไทย โดยจะเริ่มเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 26-27 ก.พ.และ 1 มี.ค.นี้ ซึ่งนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นจะต้องจองในราคา 42 บาทก่อน

"หากราคาจองที่ประกาศมาในวันที่ 2 มีนาคม 2547 ต่ำกว่าราคา 42 บาท บริษัทก็จะคืนเงินภายใน 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ ในส่วนของประชาชนรายย่อยและข้าราชการที่จองผ่านธนาคารพาณิชย์จะเริ่มเปิดจองซื้อตั้งแต่เวลา 08.30-10.00 น.หากมีความต้องการซื้อเกินกว่าจำนวนหุ้นที่จะจัดสรร ก็จะมีการสุ่มเลือก (Random) ผ่านบริษัท เซ็ทเทรด

นายบัญชา กล่าวต่อว่า การกำหนดราคากจองหุ้นที่ระดับ 37-42 บาทนั้น บริษัทพยายามกำหนดราคาให้เหมาะสมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน ซึ่งคาดว่าราคาจองที่จะประกาศออกมานักลงทุนผู้จองซื้อหุ้น จะได้รับประโยชน์ทั้งจากเงินปันผลและราคาหุ้นด้วย โดยบริษัทมีนโยบายที่จะจ่ายปันผลทันทีในงบการเงินงวดสิ้นปี 2547 ในอัตราไม่ต่ำกว่า 25%

สำหรับการกำหนดราคาจอง 37-42 บาทนั้น ได้คำนวณจากกระแสเงินสดส่วนลด (Discount Cashflow) พิจารณาจากค่าพี/อี เรโช เทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันทั้งในและต่างประเทศ โดยราคาจองที่ 37-42 บาท มีค่าพี/อี เรโช ประมาณ 9.9/11 เท่า ขณะที่อุตสาหกรรมเดียวกันที่เทรดอยู่ในตลาดมีค่าพีอีมากกว่า 10 เท่า

นายบัญชา กล่าวว่า ภายหลังจากที่บริษัทได้ชำระเงินค่าหุ้นแล้ว บริษัทจะนำเงินมาใช้ในการลงทุนสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นเงินกู้ 70,000 ล้านบาท และที่เหลือ 5 หมื่นล้านบาท จะเป็นเงินที่ได้จาการระดมทุนและการดำเนินงานที่เกิดขึ้น โดยคาดว่าการขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้จะได้รับเงินเพิ่มทุนประมาณ 1.3-1.5 หมื่นล้านบาท

ทอท.เป็นเจ้าของสนามบิน 6 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย ท่าอาศยานกรุงเทพ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศภูเก็ต ท่าอากาศหาดใหญ่ และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ประมาณ เดือน ก.ย.2548 โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเป็นท่าอากาศยานพาณิชย์หลักของกรุงเทพฯและประเทศไทย โดยจะรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 45 ล้านคนต่อปี

ปัจจุบัน ทอท.มีทุนจดทะเบียน 1 หมื่นล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น 100% หลังขายหุ้นไอพีโอ ทุนจะเพิ่มเป็น 14,280 ล้านบาท และหุ้นของกระทรวงการคลังจะลดลงเหลือ 70%

แหล่งข่าวจาก ทอท.รายหนึ่ง กล่าวว่า ด้วยภาวะตลาดหุ้นที่ซบเซาในปัจจุบัน ทำให้บริษัทต้องลดช่วงราคาจองหุ้น ทอท.ลงมา เพื่อให้เกิดความเหมาะสม

"ในตอนแรกเราคาดว่าน่าจะขายได้ 45-50 กว่าบาทต่อหุ้น แต่จังหวะไม่ดี มาเจอตลาดหุ้นตกมากในช่วงที่เราตั้งราคาขาย" แหล่งข่าวกล่าวและว่า "ทอท.เป็นหุ้นรัฐวิสาหกิจตัวแรกของปีนี้ที่เข้าตลาดหุ้น การตั้งราคาไม่สูง จะทำให้นักลงทุนไม่ผิดหวัง เราอยากให้นักลงทุนได้กำไรบ้าง"

ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (2-6 ก.พ.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวนมาก จากข่าวการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในเอเชีย โดยดัชนีปรับตัวลงไปต่ำสุดที่ 649.31 จุด เมื่อวันที่ 3 ก.พ.แต่ก็มีแรงซื้อหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีในช่วงปลายสัปดาห์ ทำให้ดัชนีเมื่อวานนี้ (10 ก.พ.) ปิดที่ 739.43 จุด เพิ่มขึ้น 7.38 จุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
tummeng
Verified User
โพสต์: 3665
ผู้ติดตาม: 0

อยากให้คุณวิบูลย์และท่านอื่นๆ ช่วยวิเคราะห์ พลังทั้งห้า

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ทอท.เปิดจองหุ้นปลายเดือน ก.พ.นี้
โดย ผู้จัดการออนไลน์

ท่าอากาศยานไทยเตรียมนำหุ้นให้ประชาชนและนักลงทุนทั่วไปจองในช่วงปลายเดือนก.พ.นี้ โดยกำหนดราคาหุ้นไว้ระหว่าง 37-42 บาทต่อหุ้น มั่นใจว่านักลงทุนจะตอบรับการขายหุ้นในครั้งนี้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บริหารของบริษัทท่าอากาศยานไทย แถลงยืนยันความพร้อมในการนำหุ้นเข้าจำหน่ายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะเริ่มออกชักชวนนักลงทุนครั้งแรกในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ จากนั้นจะเดินทางไปชี้แจงนักลงทุนในต่างจังหวัดและต่างประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทโดยจะเปิดให้จองหุ้นทั้งหมด 56 ล้านหุ้นในวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์ และ 1 มีนาคม ซึ่งกำหนดช่วงราคาไว้ระหว่าง 37-42 บาท แต่นักลงทุนที่จองซื้อจะต้องจ่าย 42 บาทต่อหุ้นก่อน เมื่อที่ปรึกษาทางการเงินสรุปราคาที่ชัดเจนออกมาต่ำกว่าจะคืนเงินให้ภายใน 2 สัปดาห์

นายบัญชา ปัตตนาภรณ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย กล่าวว่า ได้กำหนดสัดส่วนการจองซื้อสำหรับนักลงทุนรายย่อย 40 ล้านหุ้น และจัดสรรเป็นกรณีพิเศษสำหรับข้าราชการ 16 ล้านหุ้น โดยกำหนดให้จองผ่าน ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารทหารไทย

สำหรับเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นประมาณ 18,000 ล้านบาทจะนำมาลงทุนในการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ โดยผู้บริหารของบริษัทท่าอากาศยานไทยมั่นใจว่านักลงทุนจะตอบรับการขายหุ้นในครั้งนี้เป็นอย่างดีเพราะบริษัทมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา
นักดูดาว
Verified User
โพสต์: 2513
ผู้ติดตาม: 0

อยากให้คุณวิบูลย์และท่านอื่นๆ ช่วยวิเคราะห์ พลังทั้งห้า

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ทอท. เข้าข่ายหุ้น Toll Bridge หรือเปล่าครับ ท่านวิบูลย์ กรุณาแนะนำ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

อยากให้คุณวิบูลย์และท่านอื่นๆ ช่วยวิเคราะห์ พลังทั้งห้า

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ท่านนักดูดาว ผมว่าไม่ใช่ก็ใกล้เคียงละครับ
ลองนึกภาพ"ทางด่วน" ละก็ใช่เลย

ผมว่าเป็น Mini-monopoly นะครับ
เป็นคนผูกขาดสนามบินที่เป็นคนดำเนินการแน่นอน

ต้องดูราคาที่ตั้งว่ารวมรายได้จากหนองงูเห่าหรือยัง
ถ้ายังไม่รวมก็น่าสนใจครับ
Jaturont
Verified User
โพสต์: 224
ผู้ติดตาม: 0

อยากให้คุณวิบูลย์และท่านอื่นๆ ช่วยวิเคราะห์ พลังทั้งห้า

โพสต์ที่ 7

โพสต์

รวมแล้วครับ
My way, or the highway
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

อยากให้คุณวิบูลย์และท่านอื่นๆ ช่วยวิเคราะห์ พลังทั้งห้า

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เฮอ เฮอ ต้องต่างคนต่างทำการบ้านแล้วมาคุยกันใหม่นะครับ

ใครสนใจการท่า ได้ข้อมูลอะไรก็เอามาโพสบอกกันในนี้หละ

มีน้องที่ทำงานมาถามผมเหมือนกัน ว่าซื้อการท่าดีหรือเปล่า

ผมบอกไม่รู้ ยังไม่ได้ดู

เขาเลยบอกว่า ช่วยดูให้หน่อย

ผมก็เลยบอกว่า ไปหาหนังสือชี้ชวนมาอ่านไป้

เลยงอนผมออกจากห้องทำงานผมไปเลย

เล่าให้ฟังเล่นๆ
thanwa
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1011
ผู้ติดตาม: 0

อยากให้คุณวิบูลย์และท่านอื่นๆ ช่วยวิเคราะห์ พลังทั้งห้า

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
หุ้น IPO ปีนี้ อาจจะไม่ได้สร้างกำไรเป็นเท่าตัวเหมือนปีที่ผ่านมา
ขอให้ศึกษาทำความเข้าใจให้ดีก่อนทุ่มหมดตัวสำหรับหุ้น IPO
ถึงแม้จะกึง monopoly แต่คงต้องดูราคา IPO เช่นเดียวกัน
ถ้าใครชอบลุ้น หุ้น IPO ก็เป็นทางออกที่ไม่เลวทีเดียวครับ
toon
ผู้ติดตาม: 0

อยากให้คุณวิบูลย์และท่านอื่นๆ ช่วยวิเคราะห์ พลังทั้งห้า

โพสต์ที่ 10

โพสต์

โบรกเชียร์หุ้นการท่าฯ พื้นฐานเยี่ยมกำไรงาม

Friday, February 13, 2004

โดยMGR ONLINE


นักวิเคราะห์มองหุ้นการท่าอากาศฯ IPO ราคา 32-42 บาท ปัจจัยพื้นฐานดี กระแสเงิน สดสม่ำเสมอ จ่ายปันผลทันที "โลว์คอสต์แอร์ไลน์" หนุนรายได้เพิ่ม แถมจ่อคิวปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมสนามบิน

การแปรรูปและเข้าระดมทุนในตลาดหลัก ทรัพย์ของบริษัทท่าอากาศยานไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจรายแรกที่แปรรูปในปีนี้ ด้วยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนช่วงราคาระหว่าง 37-42 บาท จำนวน 358.8 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชน 215.28 ล้านหุ้น โดยมีกลุ่มเป้าหมายนักลงทุนสถาบันในประเทศ 52 ล้านหุ้น ข้าราชการ 16 ล้านหุ้น ผู้จองซื้อรายย่อย 40 ล้านหุ้น บุคคลทั่วไป 85.28 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการะคุณ 22 ล้านหุ้น และนักลงทุนต่างประเทศ 143.52 ล้านหุ้น กำหนดเปิดจองซื้อหุ้นวันที่ 26-27 ก.พ. และ 1 มี.ค. 47 ณ ธนาคารพาณิชย์ 4 แห่่ง ประกอบด้วย ธ.กรุงเทพ ธ.กสิกรไทย ธ.กรุงไทย และธ.ทหารไทย ผ่านสาขาทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง โดยหุ้นจะเข้าเทรดในหมวดขนส่งวันที่ 11 มี.ค. 47

บัญชา ปัตตนาภรณ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำก้ด(มหาชน) (AOT) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน AOT มีสนามบินภายใต้การบริหารงานจำนวน 6 แห่ง รวมสนามบินสุวรรณภูมิที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างและจะโอนสินทรัพย์ทั้งหมดมาอยู่ภายใต้การบริหารของ AOT ภายหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ

โดยสนามบินทั้ง 5 แห่ง จาก 31 แห่งทั่วประเทศนั้น ที่ AOT บริหารงานอยู่นั้นมีสัดส่วนการใช้ของผู้โดยสารสูง 90% เนื่องจากเป็นสนามบินมีจุดเด่นด้านภูมิศาสตร์ และเป็นสนามบินนานาชาติ

ขณะที่ผลประกอบการมีการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนตลอด 25 ปีที่ผ่านมา แม้จะประสบปัญหาวิกฤต 911 หรือสถานการณ์โรคซาร์ส แต่ยอดผู้ใช้บริการสนามบินปรับลดลงในจำนวนที่ไม่มาก สถานการณ์สามารถพลิกกลับได้อย่างรวดเร็ว โดยในเดือนมกราคมที่มีผลกระทบจากไข้หวัดนก ยอดผู้ใช้บริการสนามบินกลับเพิ่มขึ้น 14.8% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีที่ผ่านมา

AOT ยังได้รับประโยชน์โดยตรงจากการที่ภาครัฐส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยสถิติจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พบว่าจำนวนนักท่องเที่่ยวเฉลี่ย 5 ปี เพิ่มขึ้น 8.5% คาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 3 เท่าตัว หรือคิดเป็น 30 ล้านคน ในปีพ.ศ.2553

การมีจุดเด่นของทำเลที่ตั้งที่เชื่อมต่อเส้นทางยุโรป ตะวันออกกลางโดยตรง ทำให้สนามบินในประเทศไทยสามารถรองรับบริการนักท่องเที่ยวได้ดี โดยสนามบินดอนเมืองในปัจจุบันเป็นสนามบินที่มีผู้โดยสารมากที่สุดเป็นอันดับ 18 จากสายการบิน 100 แห่งทั่วประเทศ และเป็นสนามบินที่มีผู้โดยสารมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย

ประกอบกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า รวมถึงความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจกว่า 20 ปี เหล่านี้จึงเป็นจุดเด่นของ AOT และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จึงเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น และการเติบโตของรายได้และกำไร ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานในปี 2456 ที่มีกำไรสุทธิกว่า 3,000 ล้านบาท ทำให้ AOT สามารถจ่ายปันผลให้นักลงทุนได้ไม่ต่ำกว่า 25% ของกำไรสุทธิ ปัจจุบัน AOT ไม่มีหนี้เลย แต่หากนับรวมเงินกู้เพื่อก่อสร้างนามบินสุวรรณภูมิทำให้บริษัทมีหนี้สินต่อทุน 1.5 เท่า

บัญชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังคณะกรรมการการบินพลเรือนอนุมัติให้ปรับเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน 20% จากปัจจุบัน ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ต.ค. ปีนี้ และปรับเพิ่มได้อีกใน 1 ต.ค. 48 การอนุมัติปรับเพิ่มเพดานค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินของผู้โดยสารระหว่างประเทศจาก 500 บาท เป็น 700 บาท ผู้โดยสารในประเทศ 50 บาท เป็น 100 บาท ในวันที่ 1 ต.ค.48 รวมถึงการเปิดให้ผู้บริหารรายอื่นเข้ามามีส่วนร่วมในคลังสินค้า กิจกรรมภาคพื้น หรือการปรับขึ้นการขนส่งน้ำมันจากลิตรละ 6 สตางค์เป็น 8 สตางค์จะทำให้รายได้กิจการการพาณิชย์เพิ่มขึ้น โครงสร้างรายได้เดิมที่มีสัดส่วนรายได้ทีี่ไม่ใช่กิจการการบิน 40% รายได้ทีี่มาจากกิจการการบิน 60%

ส่วนสนามบินดอนเมืองจะเปิดให้บริการเที่ยวบินเหมาลำ สายการบินต้นทุนต่ำ เครื่องบินส่วนบุคคล ในส่วนของอาคารผู้โดยสาร 1 และ 2 จะเปิดเป็นศูนย์ประชุม แสดงนิทรรศการ นานาชาติ เช่น งานแอร์โชว์ มอเตอร์โชว์ เพื่อสร้างรายได้ให้คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่ต้องบริหารอยู่ปีละ 1,000 ล้านบาทต่อปี โดยคาดว่าส่วนของการใช้บริการสนามบินจะมีรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท ศูนย์ประชุมและแสดงงานมีรายได้ประมาณ 600 ล้านบาทต่อปี

โบรกแนะผลตอบแทนดี

บุญชัย ศรีปราชญ์อนันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ภัทร เปิดเผยว่า การกำหนดช่วงราคาที่ 37-42 บาท จากอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (พีอี) ที่ 9-11 ใกล้เคียงกับพีอีกลุ่มขนส่งที่ 10 เท่า ขณะที่พีอีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 10.7 เท่า และถือว่าไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับบริษัทท่าอากาศยานในภูมิภาคเดียวกันที่ค่าพีอีอยู่ทีี่ระดับ 12 เท่า โดยราคาดังกล่าวได้ปรับลดเพิื่อให้นักลงทุนมีส่วนต่างกำไร และรวมรายได้ที่จะมาจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว โดยจุดเด่นของบริษัทท่าอากาศยานไทยมีความได้เปรียบคู่แข่งทั้งด้านของขนาดสินทรัพย์ และทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบคู่แข่ง

วรุตม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกล เบล็กซ์ กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนของ AOT น่าจะได้รับความสนใจจองซื้อจากนักลงทุนหมด เนื่องจากเป็นบริษัทที่แหล่งรายได้ กระแสเงินสดเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิที่กำลังจะเปิดใช้ในอนาคตจะเอื้อประโยชน์กับการ AOT เพราะมีความได้เปรียบเรื่องทำเลที่ตั้งที่สามารถเป็นศูนย์กลางทางการบิน เหมาะสมที่จะเป็นจุดจอดของสายการบินที่บินเส้นทางระยะยาว และเส้นทางบินระยะสั้นในภูมิภาค ขณะที่การแข่งขันสายการบินต้นทุนต่ำและการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากภาครัฐจะเป็นประโยชน์โดยตรงกับ AOT

ทั้งนี้ นักลงทุนต้องพิจารณาด้วยว่าการรับรู้รายได้ในอนาคตของ AOT จากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิที่กำหนดให้เปิดใช้ได้ในวันที่ 29 ก.ย. 48 นั้น อาจมีความเสี่ยงในเรื่องการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ไม่เต็ม 100% เนื่องจากเป็นการใช้สนามบินแห่งใหม่ที่มีขนาดใหญ่ ความพร้อมและความคล่องตัวในการใช้งานคงไม่เหมือนกับสนามบินที่เปิดใช้บริการมาก่อนหน้า

นอกจากนั้น การบริหารองค์์กรภายหลังจากการปรับโครงสร้างเป็นบริษัทมหาชนต้องมีความโปร่งใส เป็นมืออาชีพเพิ่มขึ้น ไม่อุ้ยอ้ายเหมือนรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง เนื่องจากธุรกิจขององค์กรสามารถสร้างรายได้จำนวนมากหากมีการบริหารจัดการที่ดี ส่วนนโยบายรัฐคงไม่ส่งผลกระทบกับ AOT เชื่อมั่นว่าภายใต้การบริงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันเอาจริงเอาจังกับการพัฒนาประเทศให้มีศักยภาพเชิงการแข่งขัน

นักวิเคราะห์จาก บล.ไซรัส หนึ่งในตัวแทนจัดจำหน่าย กล่าวว่า โดยภาพรวมหุ้น AOT น่าจะให้ส่วนต่างผลตอบแทนนักลงทุนได้ หากลงทุนในระยะยาว และจากนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 25% ของกำไรสุทธิ จะเป็นจุดดึงดูดความสนใจนักลงทุนให้จองซื้อหุ้น ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่ครองส่วนแบ่งสูงสุดในการใช้สนามบินของประเทศ แต่นักลงทุนต้องพิจา่รรณาผลกระทบจากปัจจัยภายนอกด้วยว่าจะมีผลกระทบอย่างไร เช่น โรคไข้หวัดนก มีความยืดเยื้อเพียงใด โรคซาร์สมีโอกาสที่จะย้อนกลับมาอีกหรือเปล่า รวมถึงการก่อการร้าย ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น AOT จะได้รับผลกระทบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tk
Verified User
โพสต์: 343
ผู้ติดตาม: 0

อยากให้คุณวิบูลย์และท่านอื่นๆ ช่วยวิเคราะห์ พลังทั้งห้า

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ไม่ทราบว่าสนามบินอื่นๆ ในประเทศเป็ของใครครับ ใช่การบิดไทย/บางกอกแอร์เวย์หรือเปล่าครับ :?:
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

อยากให้คุณวิบูลย์และท่านอื่นๆ ช่วยวิเคราะห์ พลังทั้งห้า

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เท่าที่รู้สนามบินเกาะสมุยเป็นของบางกอกแอร์เวย์ครับ แล้วก็รู้มาว่าเก็บค่าใช้บริการสนามบินแพงมากด้วย
Expecto Patronum!!!!!!
ล็อคหัวข้อ