สาเหตุของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น

[plamuek76]

14:17 29/10/2007
แฉ! เฮดจ์ฟันด์-แบงก์ เบื้องหลังกักตุนน้ำมันเก็งกำไร

--ผู้จัดการออนไลน์

ผู้ค้าน้ำมันแฉ! เฮดจ์ฟันด์-ธนาคาร แห่เข้าเก็งกำไรตลาดน้ำมันโลก เผยยอดกักตุนพุ่งสูงถึง 88 ล้านบาเรล ระบุ หากมีการเทขายพร้อมกัน อาจทำให้ตลาดน้ำมันโลกผันผวนอีกครั้ง ส่งผลกระทบต่อเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง

นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน อดีตผู้บริหาร บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงภาวะราคาน้ำมันที่ปรับสูงจนทำให้น้ำมันดิบทะลุ 92 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดีเซลในตลาดสิงคโปร์ทะลุ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์นั้น นอกจากการปรับขึ้นจากปัจจัยพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันแล้ว ขณะนี้ ยังพบว่ากองทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน(นอนคอมเมอร์ เชียลฟันด์) อาทิ กองทุนธนาคาร กองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์) เข้ามากว้านซื้อน้ำมันเพื่อเก็งกำไรไว้รวมกันถึง 88 ล้านบาร์เรล

นายมนูญ กล่าวอีกว่า หากกลุ่มนอนคอมเมอร์เชียลฟันด์ เทขายน้ำมันในถือครองไว้ออกมาพร้อมกัน จะทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงจากระดับปัจจุบัน 5-10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทันที

ดังนั้น ตลาดจึงคาดการณ์ว่า หากไม่เกิดภาวะสงครามขึ้น หรือเกิดอุบัติเหตุในแหล่งขุดน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบคงไม่พุ่งขึ้นไปสูงถึง 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลอย่าที่กลัวกัน

อย่างไรก็ตาม กรณีที่ปริมาณสำรองน้ำมันในสหรัฐลดลงจากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ประกอบกับกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก(โอเปก) ประกาศที่จะไม่เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันที่ขณะนี้ผลิต 26.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมถึงกรณี ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน และจากที่ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าธนาคารกลางของสหรัฐ(เฟด) จะลดดอกเบี้ยลงในวันที่ 31 ต.ค.นี้ จะมีผลให้ค่าเงินสหรัฐอ่อนตัวลง

"กลุ่มประเทศผู้ขายน้ำมันพยายามดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้นเพื่อชดเชยค่าเงินที่อ่อนลง ล้วนเป็นปัจจัยลบที่กระทบต่อตลาดน้ำมัน คาดว่าในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ในอีก 2-3 เดือนราคาน้ำมันดิบจะยังสูงกว่าระดับ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล"

ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันดิบสูงขนาดนั้นคงจะส่งผลให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในไทยเบนซินยืนอยู่ที่ 30-31 บาทต่อลิตร และดีเซล 28 บาทต่อลิตร แต่คงต้องติดตามว่ากลุ่มโอเปกจะทนแรงกดดันของนานาประเทศที่พยายามกดดันให้เพิ่มกำลังการผลิตอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือไม่ ซึ่งประเมินว่าหากเพิ่มกำลังการผลิตมากสุดน่าจะแค่ 5 แสนบาร์เรลต่อวัน คงไม่ช่วยทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลงมากนัก

นายมนูญ ชี้ว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ความต้องการใช้น้ำมันของโลกเพิ่มในระดับ 3-4% ทุกปี แต่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันไม่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ทันกับความต้องการใช้ ขณะนี้ผู้ผลิตน้ำมันมีปริมาณสำรองเหลือยู่อีก 2-3 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นของกลุ่มโอเปก ส่วนกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปกผลิตเต็มที่แล้ว รวมแล้วการผลิตน้ำมันของโลกขณะนี้อยู่ที่ 86 ล้านบาร์เรลต่อวัน

[plamuek76]

โอเปกครวญขาดทุนกำไรจากดอลล์อ่อนแม้ราคาน้ำมันพุ่งแตะ 90 ดอลล์

นายอับดุลลาห์ อัล-บาดรี เลขาธิการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) กล่าวว่า ตลาดน้ำมันโลกมีอุปทานในระดับสูง แต่การอ่อนค่าของดอลลาร์และการลงทุนเก็งกำไรจำนวนมาก เป็นปัจจัยดันราคาน้ำมันขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นายบาดรีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ราคาน้ำมันที่ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ต่อโอเปกซึ่งลงทุนอย่างหนักในการผลิตใหม่ และมีรายได้ลดลงจากการอ่อนค่าของดอลลาร์

"อุปทานมีอย่างต่อเนื่อง โดยมีน้ำมันจำนวนมากในตลาด" เขากล่าวในระหว่างการเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเพื่อเข้าร่วมการประชุมพลังงานจีน-โอเปก "สถานการณ์ด้านความรุนแรงในภูมิภาคต่างๆ, ค่าเงินดอลลาร์, ปัญหาในด้านการกลั่นน้ำมัน และการที่นักเก็งกำไรลงทุนอย่างหนักในตลาดน้ำมัน เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาแตะระดับสูงเช่นนั้น" เขาเสริมว่า ก่อนหน้านี้โอเปกได้เริ่มเพิ่มการผลิตแล้ว ขณะที่จะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พ.ย. "เราเพิ่งจะเริ่มการผลิตน้ำมัน 500,000 บาร์เรล/วัน โดยบริษัทต่างๆกำลังเตรียมพร้อมสำหรับภาวะนี้" ราคาน้ำมันสหรัฐอยู่สูงกว่า 88 ดอลลาร์/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์แตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ หลังจากที่การลดลงของสต็อคน้ำมันสหรัฐ กระตุ้นความวิตกเกี่ยวกับการขาดแคลนพลังงานในช่วงฤดูหนาวในซีกโลกเหนือ นายบาดรีกล่าวว่า แม้ว่าราคาอยู่ในระดับสูง แต่ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงและการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในการลงทุนใหม่ ได้จำกัดผลกำไรของประเทศผู้ผลิตซึ่งต้องการราคา "ที่สมเหตุสมผล" ไม่ใช่สูงเกินไป
"ราคาน้ำมันที่ 90 ดอลลาร์ ไม่ได้ทำให้เราได้ประโยชน์พิเศษ อันเป็นผลจากมูลค่าของดอลลาร์, ต้นทุนด้านอุปกรณ์, ต้นทุนในการผลิตน้ำมัน และต้นทุนในการลงทุน" โอเปกไม่มีเป้าหมายราคาอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อได้รับคำถามเกี่ยวกับช่วง 50-80 ดอลลาร์ ซึ่งในเดือนก.ค.นายบาดรีกล่าวว่า นั่นเป็นระดับที่น่าพอใจ นายบาดรีกล่าวว่า "เรายังคงพิจารณาเหมือนเดิม เราไม่ได้ต้องการราคาที่สูงเกินไป" เขาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทัศนะของตัวแทนระดับสูงของโอเปกผู้หนึ่งที่ว่า โอเปกจำเป็นต้องเพิ่มการผลิตน้ำมันอีก 500,000 บาร์เรล/วันในเดือนหน้า เพื่อควบคุมราคาที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วฝ่าทะลุระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรก

นายบาดรีกล่าวว่า ประเด็นการผลิตน้ำมันจะไม่อยู่ในวาระการประชุมหลักสำหรับการประชุมผู้นำประเทศในกลุ่มโอเปกในวันที่ 11-12 พ.ย. "การประชุมเดือนพ.ย.มีจุดประสงค์เพื่อการประชุมสุดยอด ไม่ใช่เพื่อตลาด" เขากล่าว โดยเสริมว่า เขาไม่ได้คาดถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดในปีหน้า "ผมคิดว่าปี 2008 จะไม่ไกลจากปี 2007 คงเกือบจะเป็นรูปแบบเดิม" เขากล่าว
หนังสือพิมพ์รายวันของทางการอิหร่านรายงานการเปิดเผยของรมว.น้ำมันหลังราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่เหนือ 92 ดอลลาร์/บาร์เรลว่า ตลาดยังมีปริมาณน้ำมันดิบเพียงพอ และโอเปกไม่ควรถูกตำหนิสำหรับการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน "ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับปริมาณน้ำมัน โอเปกกำลังดำเนินการผลิตเต็มกำลังการผลิต" นายโกแลมฮอสเซน โนซารี รักษาการรมว.น้ำมันเปิดเผย "โอเปกไม่ควรถูกตำหนิ ชาติตะวันตกไม่ควรจ้องมองโอเปกเพื่อหาเหตุผลสำหรับการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน" นายโนซารีกล่าว