ที่แท้กองทุนสไตล์คล้าย Berkshire Hathawayใน SET เราก้อมีแฮะ!
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
ที่แท้กองทุนสไตล์คล้าย Berkshire Hathawayใน SET เราก้อมีแฮะ!
โพสต์ที่ 1
เขาซุ่มลงทุนแต่เฉพาะในตลาดหุ้นของไทยเราเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ที่อื่นไม่เอา เพราะเขาเชี่ยวชาญในตลาด SET ....แล้วก้อลงทุนมานานติดต่อกันตั้ง 17.4 ปี แล้วจ้า :)
ผลงาน ....เห็นบอกว่าในคาบระยะเวลา 17.4 ปีดังกล่าว สามารถเพิ่มพูนความมั่งคั่งแก่กองทุนได้ถึง 2333%
กองทุนนี้ชื่อ Quest Management Inc โดยเขาซุ่มตั้งสำนักงานดูแลกองทุนอยู่ที่อยู่สิงค์โปร์
หมายเหตุ: ไม่รับเงินลงทุนจากนักลงทุนที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ............ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไม
ประธานกองทุนชื่อ Doug Barnett เป็นคนอเมริกัน จบตรี-โท ด้านวิศวกรรมเครื่องกล จาก มหาวิทยาลัย Princeton และต่อที่ UCLA's Anderson Graduate School of Management
นอกจากนี้มีสุภาพสตรีไทย 2 คน เป็น Staff ร่วมงานตั้งแต่ปี 1994 คนแรกชื่อ Katekao Tuntiprawon เป็น Finacial Analyst และ Trader ประวัติการเรียนจบ BS ที่ ธรรมศาสตร์ และ MBA ที่ ABAC คนที่สอง ชื่อ Pakamon Pruksanubal เป็น Accounting manager ประวัติการเรียน จบ BS ด้านบัญชีจากธรรมศาสตร์ ต่อ MBA ด้านไฟแนนซ์ ที่จุฬาฯ
ท่านใดสนใจเพิ่มเติม เชิญติดตามต่อได้ที่นี่ครับ:
http://www.questthai.com/
ทีมบริหาร
http://www.questthai.com/mgmtteam.html
ผลงาน (เป็น pdf file)
http://www.questthai.com/hkpresent33R.pdf
ผลงาน ....เห็นบอกว่าในคาบระยะเวลา 17.4 ปีดังกล่าว สามารถเพิ่มพูนความมั่งคั่งแก่กองทุนได้ถึง 2333%
กองทุนนี้ชื่อ Quest Management Inc โดยเขาซุ่มตั้งสำนักงานดูแลกองทุนอยู่ที่อยู่สิงค์โปร์
หมายเหตุ: ไม่รับเงินลงทุนจากนักลงทุนที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ............ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไม
ประธานกองทุนชื่อ Doug Barnett เป็นคนอเมริกัน จบตรี-โท ด้านวิศวกรรมเครื่องกล จาก มหาวิทยาลัย Princeton และต่อที่ UCLA's Anderson Graduate School of Management
นอกจากนี้มีสุภาพสตรีไทย 2 คน เป็น Staff ร่วมงานตั้งแต่ปี 1994 คนแรกชื่อ Katekao Tuntiprawon เป็น Finacial Analyst และ Trader ประวัติการเรียนจบ BS ที่ ธรรมศาสตร์ และ MBA ที่ ABAC คนที่สอง ชื่อ Pakamon Pruksanubal เป็น Accounting manager ประวัติการเรียน จบ BS ด้านบัญชีจากธรรมศาสตร์ ต่อ MBA ด้านไฟแนนซ์ ที่จุฬาฯ
ท่านใดสนใจเพิ่มเติม เชิญติดตามต่อได้ที่นี่ครับ:
http://www.questthai.com/
ทีมบริหาร
http://www.questthai.com/mgmtteam.html
ผลงาน (เป็น pdf file)
http://www.questthai.com/hkpresent33R.pdf
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
-
- Verified User
- โพสต์: 187
- ผู้ติดตาม: 0
ที่แท้กองทุนสไตล์คล้าย Berkshire Hathawayใน SET เราก้อมีแฮะ!
โพสต์ที่ 3
ผมรอโพสของคุณPP มาหลายเพลา เพราะผมติดตามอ่านทุกโพสของคุณมาตลอด โพสนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
ผมว่าเป็นกองทุนที่น่าสนใจในแง่การทำงานนะครับ
โดยเฉพาะตรงที่เขาบอกว่าหลังจากกลั่นกรองหลายชั้นแล้ว
เขาจะเข้าซื้อตอนที่พีอีอยู่แถวๆ1/3 ของประวัติพีอี
และจะขายเมื่อพีอีขึ้นไปอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์บนของประวัติพีอี
และก็อาจปล่อยให้กำไรวิ่งไปตราบที่ยังมีบทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ท้องถิ่นออกมาสนับสนุน
ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ คุณ PP ช่วยตรวจสอบให้ด้วย
ผมว่าเป็นกองทุนที่น่าสนใจในแง่การทำงานนะครับ
โดยเฉพาะตรงที่เขาบอกว่าหลังจากกลั่นกรองหลายชั้นแล้ว
เขาจะเข้าซื้อตอนที่พีอีอยู่แถวๆ1/3 ของประวัติพีอี
และจะขายเมื่อพีอีขึ้นไปอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์บนของประวัติพีอี
และก็อาจปล่อยให้กำไรวิ่งไปตราบที่ยังมีบทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ท้องถิ่นออกมาสนับสนุน
ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ คุณ PP ช่วยตรวจสอบให้ด้วย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ที่แท้กองทุนสไตล์คล้าย Berkshire Hathawayใน SET เราก้อมีแฮะ!
โพสต์ที่ 4
ผมติดตามการลงทุนของเค้ามาบ้าง
อย่างที่พี่ PP โพสต์ไว้ครับ hedge fund นี้จะ focus ประเทศไทยเท่านั้น สไตร์การลงทุนจะคล้ายๆกับ Buffet คือเน้นลงทุนไม่กี่ตัว โดยเน้นพื้นฐานเป็นสำคัญ มีการเยี่ยมชมกิจการ หลายปีก่อนมีเงินกองทุนนิดเดียว แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาก
หุ้นที่กองทุนนี้เคยกำไรมากๆคือ tta tta-w2 ตอนที่ยังขาดทุน ตอนนั้นผมสงสัยมากว่าทำไมกองทุนนี้ไปซื้อหุ้นที่ขาดทุน มองไม่เห็นอนาคต ซื้อจนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้เป็นกรรมการด้วย ไม่น่าเชื่อว่าเวลวผ่านไปไม่นาน tta และ tta-w2 จะให้กำไรหลายเท่า โดยเฉพาะวอร์แรนต์ถ้าจำไม่ผิดให้ผลตอบแทนเกิน 30-40 เท่า
อีกหลายตัวที่ให้กำไรมากๆคือ rcl banpu mfg เข้าใจว่าน่าจะยังถืออยู่บางตัวโดยเฉพาะบ้านปู
ส่วนตัวที่ขาดทุนก็มีครับ ที่หนักๆเช่น mpt fancy cei
ส่วนที่เค้าไม่รับเงินในประเทศไทย ถ้าจำไม่ผิดคงเป็นเหตุผลเรื่องกฏหมาย ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่อนุญาติให้คนไทยลงทุนใน hedge fund ครับ
อย่างที่พี่ PP โพสต์ไว้ครับ hedge fund นี้จะ focus ประเทศไทยเท่านั้น สไตร์การลงทุนจะคล้ายๆกับ Buffet คือเน้นลงทุนไม่กี่ตัว โดยเน้นพื้นฐานเป็นสำคัญ มีการเยี่ยมชมกิจการ หลายปีก่อนมีเงินกองทุนนิดเดียว แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาก
หุ้นที่กองทุนนี้เคยกำไรมากๆคือ tta tta-w2 ตอนที่ยังขาดทุน ตอนนั้นผมสงสัยมากว่าทำไมกองทุนนี้ไปซื้อหุ้นที่ขาดทุน มองไม่เห็นอนาคต ซื้อจนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้เป็นกรรมการด้วย ไม่น่าเชื่อว่าเวลวผ่านไปไม่นาน tta และ tta-w2 จะให้กำไรหลายเท่า โดยเฉพาะวอร์แรนต์ถ้าจำไม่ผิดให้ผลตอบแทนเกิน 30-40 เท่า
อีกหลายตัวที่ให้กำไรมากๆคือ rcl banpu mfg เข้าใจว่าน่าจะยังถืออยู่บางตัวโดยเฉพาะบ้านปู
ส่วนตัวที่ขาดทุนก็มีครับ ที่หนักๆเช่น mpt fancy cei
ส่วนที่เค้าไม่รับเงินในประเทศไทย ถ้าจำไม่ผิดคงเป็นเหตุผลเรื่องกฏหมาย ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่อนุญาติให้คนไทยลงทุนใน hedge fund ครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
ที่แท้กองทุนสไตล์คล้าย Berkshire Hathawayใน SET เราก้อมีแฮะ!
โพสต์ที่ 5
อันนี้ คุณ Serioj คงหมายถึง Valuation Criteria ของกองทุนเขาใช่ไหมครับ เดี่ยวผมยกเอามาทั้งกระบิก็แล้วกันserioj เขียน:......................................................................................................................................................................................................................
เขาจะเข้าซื้อตอนที่พีอีอยู่แถวๆ1/3 ของประวัติพีอี
และจะขายเมื่อพีอีขึ้นไปอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์บนของประวัติพีอี
และก็อาจปล่อยให้กำไรวิ่งไปตราบที่ยังมีบทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ท้องถิ่นออกมาสนับสนุน
ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ คุณ PP ช่วยตรวจสอบให้ด้วย
ในส่วนที่ Highlight เป็นสีแดงเข้ม ผมตีความอย่างนี้ครับ "เราซื้อเมื่อราคาหุ้นนั้นถูกเมื่อเทียบกับหุ้นบริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจคล้ายคลึงกันและโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะซื้อที่ราคาซึ่งมีค่า P/E อยู่ในกลุ่มล่าง 1/3 ของ range ของ P/E ที่จะเป็นไปได้ในอนาคตข้างหน้า และถือเป็นรูปแบบเฉพาะของกองทุนเราที่จะลดการถือครองหุ้นโดยทยอยขายหุ้นออกไปเมื่อราคาหุ้นนั้นสูงขึ้นจนทำให้ค่า P/E ไปแตะที่ค่า P/E ในอดีตที่ระดับสูงสุด 10%" .......น่าจะอ่านแล้วทำให้งง ลองอ่านหลายๆเที่ยวและคิดตามก็แล้วกันครับคุณ Serioj ....แต่คงไม่ถึงกับทำให้ต้องตีความภาษาไทยเป็นภาษาไทย นะครับ :lol:Quest Management Inc เขียน:VALUATION CRITERIA
We look for companies with high expected EPS growth over the next two or three years, which have strong management teams and defensible market niches. We buy a stock when it is cheap relative to other stocks in similar businesses and preferably in the lower third of its forward-looking P/E trading range. We typically reduce our exposure to a stock when the stock reaches the upper 10% of its historical P/E trading range. However, we believe in letting winners ride; as such, we tend to maintain our positions as long as the companys fundamentals are intact and there is strong upward momentum and a consistent flow of new brokerage research coverage and a broadening base of institutional investors in the stock
อันนี้มันเป็นสไตล์ประเมินมูลค่าของเขา คงไม่เหมือนของ Warren Buffett เสียทีเดียว เก็บไว้เป็นความรู้ก็ดีเหมือนกัน
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
ที่แท้กองทุนสไตล์คล้าย Berkshire Hathawayใน SET เราก้อมีแฮะ!
โพสต์ที่ 7
โอ้โห! กองทุน Quest Management Inc.นี่ก้อยังไม่รอดพ้นสายตาคุณลูกอิสานเลยนะครับ ..ผมนับถือในความละเอียดประณีตบรรจงของคุณลูกอิสานจริงๆ (สำหรับผมเองเพิ่งรู้ .........เพราะยังเป็นมือใหม่ครับ :) .....นี่แหละ เขาถึงว่า ... เอามะพร้าวห้าวมาขายสวน :oops: )ลูกอิสาน เขียน:ผมติดตามการลงทุนของเค้ามาบ้าง
อย่างที่พี่ PP โพสต์ไว้ครับ hedge fund นี้จะ focus ประเทศไทยเท่านั้น สไตร์การลงทุนจะคล้ายๆกับ Buffet คือเน้นลงทุนไม่กี่ตัว โดยเน้นพื้นฐานเป็นสำคัญ มีการเยี่ยมชมกิจการ หลายปีก่อนมีเงินกองทุนนิดเดียว แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาก
หุ้นที่กองทุนนี้เคยกำไรมากๆคือ tta tta-w2 ตอนที่ยังขาดทุน ตอนนั้นผมสงสัยมากว่าทำไมกองทุนนี้ไปซื้อหุ้นที่ขาดทุน มองไม่เห็นอนาคต ซื้อจนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้เป็นกรรมการด้วย ไม่น่าเชื่อว่าเวลวผ่านไปไม่นาน tta และ tta-w2 จะให้กำไรหลายเท่า โดยเฉพาะวอร์แรนต์ถ้าจำไม่ผิดให้ผลตอบแทนเกิน 30-40 เท่า
อีกหลายตัวที่ให้กำไรมากๆคือ rcl banpu mfg เข้าใจว่าน่าจะยังถืออยู่บางตัวโดยเฉพาะบ้านปู
ส่วนตัวที่ขาดทุนก็มีครับ ที่หนักๆเช่น mpt fancy cei
ส่วนที่เค้าไม่รับเงินในประเทศไทย ถ้าจำไม่ผิดคงเป็นเหตุผลเรื่องกฏหมาย ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่อนุญาติให้คนไทยลงทุนใน hedge fund ครับ
จากข้อมูลของกองทุนนี้ เห็นว่า ทีมบริหารกองทุนนี้ เขาลงทุนลงแรงไปช่วยดูด้านการเงินแก่บริษัทต่างๆที่เขาถือหุ้นอยู่ โดยไปช่วยแนะนำจัดการปรับปรุงด้านโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯนั้นๆให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะทีมเขาเชี่ยวด้าน Finance กัน .....แต่ก็ไม่วายที่เขาจะขาดทุนในหลายบริษัทที่เขาลงทุน ตามที่คุณลูกอิสานแจงไว้ในโพสต์ที่แล้ว อย่างว่าแหละ ...การลงทุนมีความเสี่ยง ...ตาดีก็ได้ ตาร้ายก็เสีย
อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูล performance จะเห็นว่า กองทุนนี้ผลงานเหนือกว่ากองทุนทั้งหลายที่ลงทุนในเมืองไทย แม้แต่ Aberdeen ที่คุ้นหูว่าบริหารแบบ Value Investing เช่นกัน
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain