กระแสแตกพาร์มาแรง

[vichit]

กระแสแตกพาร์มาแรง
ม.ค-ตค. 50
ลำดับที่ หลักทรัพย์ Par
%
เปลี่ยนแปลง
ปริมาณ
(หุ้น)
มูลค่า
(บาท)
1 PD 1 44.1% 40 290
2 DM 5 90.5% 466 4,092
3 MACO 1 -27.2% 4,572 14,139
4 SWC 1 14.3% 3,930 14,457
5 GFM 1 17.8% 3,180 22,687
6 PR124 1 -20.4% 5,484 29,158
7 PICO 1 -6.3% 10,356 36,921
8 BOL 1 56.1% 6,222 45,000
9 SLC 1 -13.0% 17,350 49,561
10 TMW 5 2.6% 3,117 50,978
11 CHUO 5 -33.6% 6,042 62,459
12 L&E 5 -11.5% 5,304 64,763
13 ACAP 1 -22.6% 18,797 118,286
14 YUASA 1 -25.4% 53,224 127,878
15 TRT 2 7.8% 35,981 158,939
16 STEEL 1 -29.8% 62,468 171,288
17 FOCUS 1 19.2% 59,136 184,793
18 PYLON 1 -8.1% 93,513 209,975
19 TPAC 1 166.1% 46,062 230,593
20 CMO 1 -20.6% 103,300 252,351
21 IRCP 2 -10.7% 21,422 294,081
22 CIG 1 100.7% 93,422 340,209
23 TIES 1 22.1% 118,426 355,843
24 STAR 1 -3.7% 363,779 623,787
25 TAPAC 1 -12.7% 352,189 691,993
26 TNH 1 7.8% 88,145 728,240
27 MBAX 1 22.7% 142,968 753,627
28 LVT 1 40.0% 508,071 778,574
29 ILINK 1 -22.9% 110,180 924,376
30 CPR 1 -3.9% 543,880 975,960
31 BROOK 0.5 -9.2% 1,023,681 986,649
32 ETG 1 -3.3% 193,151 1,023,533
33 PPM 1 5.0% 211,242 1,060,752
34 UKEM 1 -19.6% 634,935 1,259,406
35 TNDT 1 3.6% 225,863 1,311,309
36 DEMCO 1 130.4% 322,287 1,427,141
37 UEC 1 182.2% 64,397 1,435,312
38 SALEE 1 123.2% 522,934 1,802,337
39 D1 1 -46.3% 2,070,736 2,396,415
40 UBIS 1 71.6% 1,021,420 2,614,357
41 ADAM 1 40.7% 878,095 2,689,767
42 KASET 1 34.8% 1,749,143 2,799,312
43 TRC 1 49.7% 1,093,671 4,238,293
44 UMS 0.5 264.8% 226,162 4,455,305
45 S2Y 1 215.7% 3,370,407 7,422,650
มูลค่าเฉลี่ย 366,425 1,005,285
หากว่าไปแล้วกระแสการแตกพาร์ของหุ้น mai
ตอนนี้ยังมาค่อนข้างแรง ทั้งนี้ด้วยหลายเหตุผล
ได้แก่
1. ราคาหุ้นปรับตัวสูงมาก จนสภาพคล่องถูก
ดูดหายไป เนื่องจากมีแต่ซื้อไม่มีขาย
2. สภาพคล่องของหุ้นต่ำอยู่แล้วเนื่องจากหุ้น
float มีน้อย
3. หุ้นอยู่ในมือผู้ถือหุ้นเป็นส่วนใหญ่และไม่
ยอมปล่อย เคลื่อนไหวอยู่ในตลาดน้อยจึง
ต้องแตกพาร์เสริมสภาพคล่อง
จากประเด็นดังกล่าวทำให้หุ้น mai เริ่มมีการแตก
พาร์เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนในตลาดให้มีมากขึ้น และ
ทำให้ราคาหุ้นเหลือน้อยลง นักลงทุนกล้าที่จะเข้ามา
ซื้อมากขึ้นนั่นเอง โดยมีหุ้นที่อาศัยประเด็นดังกล่าว
ได้ประกาศแตกพาร์ไปแล้ว และราคาหุ้นยังคง
ร้อนแรงได้แก่ UMS แตกพาร์จาก 1 บาทเป็น 0.50
บาท BROOK แตกพาร์จาก 1 บาทเป็น 0.50 บาท
UEC ประกาศแตกพาร์จาก 1 บาทเป็น 0.25 บาท
เป็นต้น จากการพิจารณาหุ้นทั้งสามบริษัทพบว่า
การแตกพาร์นั้นมาจากราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นอย่าง
ต่อเนื่องจนสภาพคล่องของหุ้นหายไปมาก และ
ราคาที่สูงขึ้นทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้าซื้อหุ้น ดังนั้น
การแตกพาร์จึงเกิดขึ้นตามมา ดังนั้นในบทวิเคราะห์
นี้เราเลือกประเด็นการแตกพาร์มาจากราคาหุ้นที่
ปรับตัวสูงขึ้นมากเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา
จากตารางเราพบว่าหุ้นที่มีพาร์สูงกว่า 1 บาทและมี
โอกาสแตกพาร์ได้ในอนาคตได้แก่ DM, TMW,
CHOU, L&E, TRT แต่หุ้นที่เราตั้งข้อสังเกตว่า
ราคาปรับตัวสูงมากเกิน100% นับตั้งแต่ต้นปีแล้ว
และน่าจะแตกพาร์มากที่สุดได้แก่ S2Y, SALEE,
DEMCO , CIG และ TPAC