ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
โพสต์ที่ 3
ผมเองหละ คลิ๊กขาย 555
จริงๆก็ไม่มีหุ้นอยู่หรอก จะขายได้ไง งง!!!!!!!!!
ผมว่านะ ถ้ายังต้องใช้คำว่า "ถ้า"
ก็แปลว่ายังไม่มีอะไรแน่นอน
ถ้ายังไม่แน่นอน ผมก็ไม่ซื้อแน่นอน
ขนาดบางเรื่องที่คิดว่าแน่นอนแล้ว บางทียังไม่กล้าซื้อเลย 555
แล้วถ้าเรื่องที่ตั้งกระทู้นี้ เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนแล้ว ผมคงคิดได้แค่ตรงข้ามกับคำว่าซื้อ
จริงๆก็ไม่มีหุ้นอยู่หรอก จะขายได้ไง งง!!!!!!!!!
ผมว่านะ ถ้ายังต้องใช้คำว่า "ถ้า"
ก็แปลว่ายังไม่มีอะไรแน่นอน
ถ้ายังไม่แน่นอน ผมก็ไม่ซื้อแน่นอน
ขนาดบางเรื่องที่คิดว่าแน่นอนแล้ว บางทียังไม่กล้าซื้อเลย 555
แล้วถ้าเรื่องที่ตั้งกระทู้นี้ เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนแล้ว ผมคงคิดได้แค่ตรงข้ามกับคำว่าซื้อ
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
โพสต์ที่ 4
วันนี้เก็บมาสองร้อยหุ้น ว่าจะไปประชุมผู้ถือหุ้นเรียกร้องสิทธิ์ขอเพิ่มทุนอีกร้อยหุ้น
เขาจะเห็นแก่ผู้ถือหุ้นอันน้อยนิดของเขาไหมหนอ?
เห็นอีกกระทู้เถียงกันเรื่อง NPM ของที่york
โรงงานนี้เปิดมาประมาณ 6-7ปีนี่แหละ ผมเป็นคนนอกรุ่นแรกๆที่มีสิทธิ์เดินเผ่นพล่านในโรงงานนี้ เป็นโรงงานประกอบแอร์ไม่ได้มีtechnologyอะไรเด็ดๆหรอกครับ
ที่ถามจากผู้รู้ในวงการแอร์มาว่า ไอ้ที่เดี้ยงกันอยู่เนี้ยไม่ใช่เรื่องอื่น เป็นเรื่องของโครงแอร์ที่เป็นพลาสติก ต้นทุนมันสูง เมื่อนำมาประกอบเป็นแอร์แล้วขายไม่ค่อยได้กำไร ไอ้ที่จะได้กำไรกันพออยู่รอดนั้นเขาทำเป็น Condensing unitเพื่อนำไปประกอบเป็น แอร์ก็ได้ เครื่องทำความเย็นก็ได้
ส่วนใครที่คิดว่าSNCจะไปรอดไหม ลองไปสืบๆดูแถวโรงงานผลิตแอร์ Amina ดู หรือเอางบการเงินมาดูจะเห็นว่า มันขนาดไหน โรงงานนี้ฉีดโครงเองด้วย แต่คอมฯยังไงก็ต้องซื้อมา เมืองไทยนี่แหละผลิตคอมฯแอร์ขายมากมายหลายโรงงานทีเดียว
เขาจะเห็นแก่ผู้ถือหุ้นอันน้อยนิดของเขาไหมหนอ?
เห็นอีกกระทู้เถียงกันเรื่อง NPM ของที่york
โรงงานนี้เปิดมาประมาณ 6-7ปีนี่แหละ ผมเป็นคนนอกรุ่นแรกๆที่มีสิทธิ์เดินเผ่นพล่านในโรงงานนี้ เป็นโรงงานประกอบแอร์ไม่ได้มีtechnologyอะไรเด็ดๆหรอกครับ
ที่ถามจากผู้รู้ในวงการแอร์มาว่า ไอ้ที่เดี้ยงกันอยู่เนี้ยไม่ใช่เรื่องอื่น เป็นเรื่องของโครงแอร์ที่เป็นพลาสติก ต้นทุนมันสูง เมื่อนำมาประกอบเป็นแอร์แล้วขายไม่ค่อยได้กำไร ไอ้ที่จะได้กำไรกันพออยู่รอดนั้นเขาทำเป็น Condensing unitเพื่อนำไปประกอบเป็น แอร์ก็ได้ เครื่องทำความเย็นก็ได้
ส่วนใครที่คิดว่าSNCจะไปรอดไหม ลองไปสืบๆดูแถวโรงงานผลิตแอร์ Amina ดู หรือเอางบการเงินมาดูจะเห็นว่า มันขนาดไหน โรงงานนี้ฉีดโครงเองด้วย แต่คอมฯยังไงก็ต้องซื้อมา เมืองไทยนี่แหละผลิตคอมฯแอร์ขายมากมายหลายโรงงานทีเดียว
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
- Eyore
- Verified User
- โพสต์: 606
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
โพสต์ที่ 5
มันขึ้นกับราคาขายด้วยนะครับ พี่ leksmile
เห็นแก่ลาโง่ตาดำๆด้วยเถิด...
อันนี้เป็นโอกาสของ SNC ไม๊ครับMon money เขียน:ที่ถามจากผู้รู้ในวงการแอร์มาว่า ไอ้ที่เดี้ยงกันอยู่เนี้ยไม่ใช่เรื่องอื่น เป็นเรื่องของโครงแอร์ที่เป็นพลาสติก ต้นทุนมันสูง เมื่อนำมาประกอบเป็นแอร์แล้วขายไม่ค่อยได้กำไร ไอ้ที่จะได้กำไรกันพออยู่รอดนั้นเขาทำเป็น Condensing unitเพื่อนำไปประกอบเป็น แอร์ก็ได้ เครื่องทำความเย็นก็ได้
แล้วมันขนาดไหนล่ะครับ ผมไม่สามารถMon money เขียน: ส่วนใครที่คิดว่าSNCจะไปรอดไหม ลองไปสืบๆดูแถวโรงงานผลิตแอร์ Amina ดู หรือเอางบการเงินมาดูจะเห็นว่า มันขนาดไหน โรงงานนี้ฉีดโครงเองด้วย แต่คอมฯยังไงก็ต้องซื้อมา เมืองไทยนี่แหละผลิตคอมฯแอร์ขายมากมายหลายโรงงานทีเดียว
เห็นแก่ลาโง่ตาดำๆด้วยเถิด...
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
โพสต์ที่ 6
นานๆเฮียมนจะเข้ามาแจมซักที ... ได้มุมมองจากผู้เชียวชาญในวงการโรงงานแบบเฮียนี่น่าจะดี .. อย่าเพิ่งไปไหนนะครับ อยู่ให้ความรู้น้องๆก่อน
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
โพสต์ที่ 7
กระทู้นี้ ขึ้นต้นด้วย ถ้ายอดขาย 8000 ล้าน
ถ้างั้นผมของตอบว่า ไม่ซื้อครับ เหตุผลของผม คือ ถ้ากำไรปี 2551 ได้เท่าปี 2550 หละ ราคาจะเหลือเท่าไร
เพราะบริษัทที่ขยายงานมากๆ มักจะเจอปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย เกินตัว ค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรจ่าย
......................................................................................
ลองกลับไปนึกถึง บริษัทที่ขยายงานกันจริงๆหลายบริษัท
อย่าง ah ptl และอื่นๆ ตอนขยายงาน ดูดีไปหมด พอขยายจริง กำไรลดครับ
เพราะอะไร เพราะค่าใช้จ่ายเพิ่มครับ สรุป คนเข้าไปซื้อ ติดดอยกันแหง๊ก
กว่าจะกลับมายืนราคาเดิมใช้เวลาหลายปี
ถ้างั้นผมของตอบว่า ไม่ซื้อครับ เหตุผลของผม คือ ถ้ากำไรปี 2551 ได้เท่าปี 2550 หละ ราคาจะเหลือเท่าไร
เพราะบริษัทที่ขยายงานมากๆ มักจะเจอปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย เกินตัว ค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรจ่าย
......................................................................................
ลองกลับไปนึกถึง บริษัทที่ขยายงานกันจริงๆหลายบริษัท
อย่าง ah ptl และอื่นๆ ตอนขยายงาน ดูดีไปหมด พอขยายจริง กำไรลดครับ
เพราะอะไร เพราะค่าใช้จ่ายเพิ่มครับ สรุป คนเข้าไปซื้อ ติดดอยกันแหง๊ก
กว่าจะกลับมายืนราคาเดิมใช้เวลาหลายปี
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2431
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
โพสต์ที่ 8
ผม vote เป็นถือ.....แต่ถ้า vote ซื้อ ต้องดูที่ราคา นั่นแสดง กำไร 480 ล้าน หรือ eps 1.59 บาทในปีหน้า ถ้าปลอดภัยซื้อที่ pe 8 เท่าก็เท่ากับ 12.80 บาท ก็น่าปลอดภัย....ถ้าเพิ่มความเก่งและความสามารถของผู้บริหาร ให้ pe 12 เท่า ก็ เท่ากับ 19.10 บาท...มันจะเว่อไปหน่อยไหม ลองพิจารณากันดู.......งานนี้ผู้บริหารต้องทำงานหนัก น่าเห็นใจนะครับ ผมถือยาวกับเขาอยู่แล้ว แต่คนใกล้ตัว ส่วนใหญ่ก็ หนีกันไปบ้างแล้ว รอความชัดเจนแล้วค่อยมาพิจารณาใหม่ :lol: :lol:
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- Alastor
- Verified User
- โพสต์: 2590
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
โพสต์ที่ 9
PTL ร่วงเพราะ Supply ถล่มตลาดจนค่า Spread ลงไปเหลือ 0.6 USD/Kg ครับ ไม่เกี่ยวกับสร้างโรงงานหรือไม่สร้างอย่าง ah ptl และอื่นๆ ตอนขยายงาน ดูดีไปหมด พอขยายจริง กำไรลดครับ
เพราะอะไร เพราะค่าใช้จ่ายเพิ่มครับ สรุป คนเข้าไปซื้อ ติดดอยกันแหง๊ก
ตอน PTL สร้างโรงงานใหม่ปุ๊บรายได้โต 50% ทันที และ Capacity Utilization = 95% ด้วยครับ
ขอชะแว้บมาชี้แจง
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
โพสต์ที่ 11
โค้ด: เลือกทั้งหมด
PTL ร่วงเพราะ Supply ถล่มตลาดจนค่า Spread ลงไปเหลือ 0.6 USD/Kg ครับ ไม่เกี่ยวกับสร้างโรงงานหรือไม่สร้าง
ตอน PTL สร้างโรงงานใหม่ปุ๊บรายได้โต 50% ทันที และ Capacity Utilization = 95% ด้วยครับ
ขอชะแว้บมาชี้แจง
ว่าแต่ snc เทกโอเวอร์ เสร็จ พวกแบรนด์เนมที่มาจ้าง จะกดราคา snc ได้หรือไม่
เพราะว่า เอ็งลงทุนไปแล้ว เอ็งไม่ทำ เอ็งก็แย่ ประมาณนั้น
สมัยก่อนเห็น metco แรกๆ ยอดขายเพิ่ม กำไรเพิ่ม
แต่ตอนหลังยอดขายเยอะมาก แต่กำไรนิดเดียว
เป็นไปได้หรือไม่ว่า แบรนด์เนม ที่มาสั่งให้ผลิต ปล่อยให้ลงทุนเยอะๆก่อน
แล้วค่อยบีบราคาที่หลัง
อยากรู้ว่า ลักษณะธุรกิจของ oem จะเป็นแบบนี้หรือเปล่า
ไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายนะครับ พยายามจะมองในแง่ความจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
โพสต์ที่ 12
คลิ๊กซื้อ เพราะ
ตรรกะบอกว่าน่าจะเป็นไปได้
บริษัทคงต้องมีอะไรในใจแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่เพิ่มทุนมากมาย
กำไร 1.33 บาท ปีหน้า เป็นกรณีที่เป็นไปได้มาก
ถ้ากำไร 1.33 ผมยังซื้อเลย
ถ้าได้ 1.60 บาทจริงผมยิ่งสบายใจ
แล้วปีต่อๆไปล่ะ
ถ้า snc สามารถผลิตoem ได้ดี
เดี๋ยวรายอื่นๆก็ตามมา เพราะบริษัทน่าจะ well known ขึ้นเรื่อยๆในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนแอร์ และ oem
snc strategy ก็ชัดว่าจะไม่ทำ brand และ focus ที่การผลิตอย่างเดียว
ลูกค้าก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีคู่ต่อสู้เพิ่ม
สมมุติฐานเป็นไปได้หรือเปล่า ผมเชื่อว่าเป็นไปได้
มันคงไม่มีเหตุผลอะไรที่ snc จะเพิ่มทุนมาก ถ้าไม่คิดว่าจะได้งานใหญ่จริงๆ
ตรรกะบอกว่าน่าจะเป็นไปได้
บริษัทคงต้องมีอะไรในใจแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่เพิ่มทุนมากมาย
กำไร 1.33 บาท ปีหน้า เป็นกรณีที่เป็นไปได้มาก
ถ้ากำไร 1.33 ผมยังซื้อเลย
ถ้าได้ 1.60 บาทจริงผมยิ่งสบายใจ
แล้วปีต่อๆไปล่ะ
ถ้า snc สามารถผลิตoem ได้ดี
เดี๋ยวรายอื่นๆก็ตามมา เพราะบริษัทน่าจะ well known ขึ้นเรื่อยๆในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนแอร์ และ oem
snc strategy ก็ชัดว่าจะไม่ทำ brand และ focus ที่การผลิตอย่างเดียว
ลูกค้าก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีคู่ต่อสู้เพิ่ม
สมมุติฐานเป็นไปได้หรือเปล่า ผมเชื่อว่าเป็นไปได้
มันคงไม่มีเหตุผลอะไรที่ snc จะเพิ่มทุนมาก ถ้าไม่คิดว่าจะได้งานใหญ่จริงๆ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
โพสต์ที่ 13
รอให้เวลาเป็นคำตอบดีกว่า ....
ขนาดลุงขวดกับกอดไว้แน่น .. แล้วผมจะปล่อยไปได้ไง ..
แต่ว่าผมต่างกับลุงขวดนิดหน่อย เพราะว่าซื้อไปเรียบร้อยแว้ว :lol:
ขนาดลุงขวดกับกอดไว้แน่น .. แล้วผมจะปล่อยไปได้ไง ..
แต่ว่าผมต่างกับลุงขวดนิดหน่อย เพราะว่าซื้อไปเรียบร้อยแว้ว :lol:
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1296
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
โพสต์ที่ 14
ยังไม่ซื้อ ขอดูก่อน เพราะได้แต่คาดหวังว่าจะได้รายได้ 8000 ล้าน
แต่ทำจริงๆมันลำบากกว่าที่คาดหวังมาก และจากประสบการณ์ที่พบ
มักทำไม่ได้ดังหวัง เพราะมีตัวแปรที่เราคาดไม่ถึงมารบกวนเสมอ
แต่ทำจริงๆมันลำบากกว่าที่คาดหวังมาก และจากประสบการณ์ที่พบ
มักทำไม่ได้ดังหวัง เพราะมีตัวแปรที่เราคาดไม่ถึงมารบกวนเสมอ
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
โพสต์ที่ 15
ลุงขวดว่า...
ซื้อ ถือ หรือ ขาย
มันอยู่ที่ราคาต้นทุนของแต่ละคนที่ลงไป หรือกำลังจะลงทุน ว่าเท่าไหร่
เพราะว่า เหตุผลที่เฮียเจ๋งว่า...
หุ้นเพิ่มทุนส่วนใหญ่ ก็มักเพิ่มตอนพีคๆเนี่ยแหละ
แต่ทีนี้ ท่านที่ลงทุนมานาน ก็แน่นอน น่าถือ เพราะรอเวลาได้ ให้หุ้นส่วนใหม่เข้ามาเจือจาง รอระยะเวลาที่เงินใหม่เข้ามาทำให้เกิดกำไรใหม่
ทีนี้ รอระยะเวลาเท่าๆกัน แต่ระดับการลอยตัวลอย คนละระดับกัน
คนมาก่อน นอนนิ่งๆได้ คนมาหลัง มันจะลอยไปแบบ สูดอากาศเบื้องบนไปอีกระยะหนึ่ง
eps ประมาณ 1.59 ที่ลุงขวดว่า ให้พีอี 8 ถือว่าไม่แพง
แต่ถ้าพีคไปแล้วอย่างเฮียเจ๋งกังวล พีอี 8 ก้อาจจะไม่ถูกนัก
เพราะปกติ ถ้าพีคแล้วรอบใหญ่ ก็อาจจะต้องรออีกไม่ทราบ 2-3 ปี ที่จะเบรคพีคเดิมได้
แต่ถ้าคาดว่า อันนี้ไม่พีคแน่นอน พีอีแพงกว่า 8 ก็ยังเคาะขวาได้แน่ๆ
มันต่างกันอยู่มากทีเดียว คนที่เป็นผถห.ที่ต้นทุนต่ำมากอยู่แล้ว จะพีคไม่พีค ก็นอนฝังไปเลยก็ย่อมได้ แต่ทุนสูงๆก็ย่อมต้องคิดคนละแบบกัน
เห็นด้วยค่ะแต่ถ้า vote ซื้อ ต้องดูที่ราคา นั่นแสดง กำไร 480 ล้าน หรือ eps 1.59 บาทในปีหน้า ถ้าปลอดภัยซื้อที่ pe 8 เท่าก็เท่ากับ 12.80 บาท ก็น่าปลอดภัย
ซื้อ ถือ หรือ ขาย
มันอยู่ที่ราคาต้นทุนของแต่ละคนที่ลงไป หรือกำลังจะลงทุน ว่าเท่าไหร่
เพราะว่า เหตุผลที่เฮียเจ๋งว่า...
อันนี้มันต้องคิดถึงด้วยค่ะ ว่ามันพีคแล้วหรือไม่กระทู้นี้ ขึ้นต้นด้วย ถ้ายอดขาย 8000 ล้าน
ถ้างั้นผมของตอบว่า ไม่ซื้อครับ เหตุผลของผม คือ ถ้ากำไรปี 2551 ได้เท่าปี 2550 หละ ราคาจะเหลือเท่าไร
หุ้นเพิ่มทุนส่วนใหญ่ ก็มักเพิ่มตอนพีคๆเนี่ยแหละ
แต่ทีนี้ ท่านที่ลงทุนมานาน ก็แน่นอน น่าถือ เพราะรอเวลาได้ ให้หุ้นส่วนใหม่เข้ามาเจือจาง รอระยะเวลาที่เงินใหม่เข้ามาทำให้เกิดกำไรใหม่
ทีนี้ รอระยะเวลาเท่าๆกัน แต่ระดับการลอยตัวลอย คนละระดับกัน
คนมาก่อน นอนนิ่งๆได้ คนมาหลัง มันจะลอยไปแบบ สูดอากาศเบื้องบนไปอีกระยะหนึ่ง
eps ประมาณ 1.59 ที่ลุงขวดว่า ให้พีอี 8 ถือว่าไม่แพง
แต่ถ้าพีคไปแล้วอย่างเฮียเจ๋งกังวล พีอี 8 ก้อาจจะไม่ถูกนัก
เพราะปกติ ถ้าพีคแล้วรอบใหญ่ ก็อาจจะต้องรออีกไม่ทราบ 2-3 ปี ที่จะเบรคพีคเดิมได้
แต่ถ้าคาดว่า อันนี้ไม่พีคแน่นอน พีอีแพงกว่า 8 ก็ยังเคาะขวาได้แน่ๆ
มันต่างกันอยู่มากทีเดียว คนที่เป็นผถห.ที่ต้นทุนต่ำมากอยู่แล้ว จะพีคไม่พีค ก็นอนฝังไปเลยก็ย่อมได้ แต่ทุนสูงๆก็ย่อมต้องคิดคนละแบบกัน
- Golden Stock
- Verified User
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6%
โพสต์ที่ 16
ยอดขายผมคิดว่าอาจจะเป็นไปได้leksmile เขียน:ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up คุณจะทำอะไร
แต่กำไรเนี่ยซิ มันจะแน่นอนขนาดนั้นเลยเหรอ :?:
ยอดขายโดดจากปีละ 3,000 ล้าน ไปเป็น 8,000 ล้านบาทในปีเดียว
คิดว่าผู้บริหารสามารถจัดการทุกอย่างอยู่หมัดในทันทีเลยหรือ :?:
ผมว่าในระยะเริ่มต้นมันต้องมีการสูญเสียในกระบวนการต่างๆ บางแหละครับ
ส่วนจะซื้อ หรือไม่ มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างครับ
เช่นราคาหุ้น แพงหรือถูก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละคนอีก อัตราการเติบโตหลายปีข้างหน้า การรักษาระดับมาร์จิ้นในอนาคต ภาวะเศรษฐกิจ และการแข่งขัน เป็นต้น
-
- Verified User
- โพสต์: 375
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า snc po 100 ล้านหุ้น แต่ยอดขายได้ 8000 ล้าน up NPM 6% up
โพสต์ที่ 17
ผมก็เป็นอีกคนที่มี snc ตั้งแต่ 4 บาทแล้วและก็บอกตามตรงว่าช็อคนิดๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งมองว่า snc ไม่น่าจะทำยอดขายเพิ่มได้ในส่วนของดิลใหม่ 3-4 พันล้าน ที่ว่าได้ในระยะเวลาในปีหน้า อาจจะได้ยอดของยอร์คเพิ่มว่าบวกกับเจ้าอื่นๆอีกนิดหน่อย เหตุผลนะครับ ง่ายมากครับ การที่ snc จะเพิ่มพนักงาน 300-400 คนมาแทนที่คนงานของยอร์คในแต่ตำแหน่งงาน แบบทันทีทันใดก็ไม่ช่ายเรื่องง่ายๆนะครับ line การประกอบมีปัจจัยค่อนข้างมาก snc จะต้อง control ตั้งแต่ฝ่ายบุคคล การผลิต การควบคุมของเสีย QC ไหนจะต้อง ดูเรื่อง Process และทักษะของพนักงานในการผลิต cap อีก และเรือ่ง supply part จาก ผู้ผลิตต่างๆอีก ไม่ช่ายน้อยนะครับ เชื่อครับว่า snc ทำได้แต่ต้องใช้เวลาที่มากอยู่
เฉพาะเอาให้ line เดิมของ york stable ก็ยากแล้วนะ ส่วนกรณีที่ถ้าได้ order เพิ่ม มาจากเจ้าอื่นอีกสัก 2-3 เจ้าเจ้าละสัก 1000 ล้านยึ่งหนักเลยครับ เหตุผลเพราะว่า ปกติการ up cap . การผลิตจาก line การผลิตเดิมแบบ 50-100% เนี่ยในเวลาอันสั้นยากมาก ปกติจะต้อง มีการ ทดสอบการ เดิน line การผลิตแบบขั้นบันไดค่อยๆขยับไปก่อน ไหนจะเรื่อง tooling ที่ต้องเพิ่ม ไหนจะเริ่อง skill พนักงานอีก การประกอบจะทำได้ยากกว่า line การผลิตไปส่งให้โรงประกอบนะครับ เพราะใน line assembly มักจะประกอบด้วย sub line หลายๆอัน
สรุปครับ บ่นมาซะยาว ทำไม่ได้แน่ในปี 51 แต่ปีเริ่มใกล้เคียงแล้วในปี 52
ความเห็นส่วนตัวนะครับ
เฉพาะเอาให้ line เดิมของ york stable ก็ยากแล้วนะ ส่วนกรณีที่ถ้าได้ order เพิ่ม มาจากเจ้าอื่นอีกสัก 2-3 เจ้าเจ้าละสัก 1000 ล้านยึ่งหนักเลยครับ เหตุผลเพราะว่า ปกติการ up cap . การผลิตจาก line การผลิตเดิมแบบ 50-100% เนี่ยในเวลาอันสั้นยากมาก ปกติจะต้อง มีการ ทดสอบการ เดิน line การผลิตแบบขั้นบันไดค่อยๆขยับไปก่อน ไหนจะเรื่อง tooling ที่ต้องเพิ่ม ไหนจะเริ่อง skill พนักงานอีก การประกอบจะทำได้ยากกว่า line การผลิตไปส่งให้โรงประกอบนะครับ เพราะใน line assembly มักจะประกอบด้วย sub line หลายๆอัน
สรุปครับ บ่นมาซะยาว ทำไม่ได้แน่ในปี 51 แต่ปีเริ่มใกล้เคียงแล้วในปี 52
ความเห็นส่วนตัวนะครับ