เสาร์ ต.ค. 20, 2007 10:32 pm | 0 คอมเมนต์
เปิดศึกแข่งประมูลIPP EGCOขอเอี่ยวหงสาลิกไนต์20%
Source - ทันหุ้น (Th)
Friday, October 19, 2007 08:55
57236 XTHAI XECON XFINSEC ZSTOCK XCORP EGCO V%PAPERL P%THD
กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--ทันหุ้น
ที่มา : ทันหุ้น
ทันหุ้น-หุ้นโรงไฟฟ้าพร้อมออกตัว เปิดรับศึกประมูล IPP วันนี้ ก่อนตัดสินชี้ชะตาเดือนหน้า คาดดันราคาหุ้นวิ่งเก็งกำไรลุ้นผลแชมป์ ด้านผู้บริหาร “วิศิษฏ์ อัครวิเนค” เปิดใจยอมรับการแข่งขันดุ ฉุดผลตอบแทนจากการลงทุนต่ำ แต่ไม่หวั่นเพราะประชาชนได้ประโยชน์ พร้อมเผยสนใจร่วมทุนโครงการหงสาลิกไนต์กับ BANPU
หลังแจ้งไปแล้วว่าต้องการถือหุ้น 20% ส่วนโบรกคัด 3 ตัวเก็งประชัน EGCO , RATCH , TOP มองราคาหุ้นย้อนหลังในรอบครึ่งเดือนตุลาคม RATCH เด่นสุด ส่วนสัปดาห์นี้ TOP คว้าชัย
จากการสำรวจราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่โบรกเกอร์ยกให้เป็นตัวเก็งที่จะชนะการประมูล
IPP คือ EGCO , RATCH และ TOP ในช่วงกว่าครึ่งเดือนที่ผ่านมา (1 ต.ค.-18 ต.ค.2550) พบว่าหุ้น RATCH มีการปรับตัวขึ้นสูงสุด 7.94% รองลงมาคือ TOP ราคาเพิ่มขึ้น 6.40% และ EGCO เพิ่มขึ้น 2.59%
ส่วนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเปิดให้ยื่นประมูล IPP ในวันนี้ (19 ต.ค.2550) พบว่าหุ้น TOP ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.23% ขณะที่ EGCO และ RATCH ปรับตัวลดลง 4.03% และ 1.92% ตามลำดับ
นายวิศิษฏ์ อัครวิเนค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) EGCO เปิดเผยว่า วันนี้บริษัทจะยื่นประมูล IPP ทั้ง 3 ที่ได้แก่ พื้นที่จังหวัดราชบุรี รวมทั้งพื้นที่ของโรงไฟฟ้าเดิมทั้งโรงไฟฟ้าระยอง และโรงไฟฟ้าขนอม ซึ่งยังคาดว่าบริษัทจะชนะประมูลอย่างน้อย 30%
“วันนี้เราจะยื่นประมูล IPP ทั้งหมด 3 ที่ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซทั้งหมด ส่วนตัวแผนศึกษาผลกระ ทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ก็คงส่งไปด้วยพร้อมกันเลย ซึ่งเราก็ยังมั่นใจที่จะชนะการประมูลในครั้งนี้”นายวิศิษฏ์กล่าว
อย่างไรก็ตามมองว่าการประมูล IPP ครั้งนี้ผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) แต่ละรายจะอยู่ในระดับต่ำเพราะการแข่งขันค่อนข้างสูง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทก็คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบถึงแม้ผลตอบแทนจากการลงทุนในครั้งนี้จะไม่สูง และที่สำคัญประชาชนก็จะได้ใช้ไฟฟ้าถูกลงไปด้วย
EGCOสนหงสาลิกไนต์
ส่วนเรื่องของโครงการหงสาลิกไนต์ ซึ่ง BANPU เป็นผู้พัฒนาโครงการหลักนั้น อยู่ระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรในการเข้าไปร่วมลงทุน ซึ่ง EGCO ก็มีความสนใจและแสดงความความจำนงไปแล้ว ซึ่งคงอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งการเข้าไปร่วมลงทุนดังกล่าวคงอยู่ภายใต้นโยบายการลงทุนที่ต้องถือหุ้นในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 20%
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2550 คาดว่าจะเติบโตกว่าปีก่อน 15% และคาดว่าทั้งปีจะมีรายได้ประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท จากการรับรู้รายได้ในโครงการโรงไฟฟ้า BLCP เต็มทั้งปีและโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ที่เข้ามา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2549 ที่มีรายได้รวม 18,000 ล้านบาท
แบ่งเค้กทั่วหน้า
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า วันนี้เป็นวันครบกำหนดยื่นซองประมูล IPP รอบแรกจำนวน 3,200 เมกะวัตต์ ซึ่งหลังปิดยื่นซองประมูลและทราบจำนวนผู้ยื่นเสนอเข้าประมูลทั้งหมดแล้วคาดว่าจะสามารถประเมินโอกาสในการชนะประมูลของผู้ประกอบการได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้หากพิจารณาถึงความพร้อมและเหมาะสมในการดำเนินการโรงไฟฟ้าใหม่ ทั้งในด้านของทำเล ความสามารถในการจัดหาเงินทุน ประสบการณ์ความชำนาญ และความเป็นไปได้ในเชิงเทคนิคแล้ว ฝ่ายวิจัยยังคงประเมินว่า EGCO , RATCH และ TOP มีความได้เปรียบ และคาดว่าจะสามารถชนะการประมูล IPP ขั้นต่ำรายละ 1 โรง หรือขนาดกำลังการผลิต 800 เมกะวัตต์
“วันนี้ราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าอาจจะมีการเข้ามาเก็งกำไรรับเปิดยื่นประมูลโครงการ IPP ซึ่งหลังรู้คนที่เข้าประมูลทั้งหมดแล้วคงประเมินโอกาสในการชนะของแต่ละรายได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งฝ่ายวิจัยยังให้น้ำหนักกับ EGCO , RATCH และ TOP ซึ่งอย่างน้อยคงได้ 1 โรง”นายสุกิจกล่าว
สำหรับคำแนะนำ เลือกหุ้น TOP จากอัพไซต์ที่ยังสูง โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 100 บาท ส่วน RATCH ให้ราคาเหมาะสมที่ 56.50 บาท และ EGCO ให้ราคาเหมาะสมที่ 138.60 บาท
จับเทคนิครายตัว
นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า ยังคงมีมุมมองในเชิงบวกและแนะนำซื้อหุ้นที่เป็นตัวเก็งจะชนะการประมูล โดยยังให้น้ำหนักกับหุ้น EGCO ซึ่งมีโอกาสชนะประมูล IPP สูงสุดจากความได้เปรียบในด้านต้นทุนการดำเนินการ
ขณะเดียวกันแนวโน้มผลการดำเนินงานก็คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2551 จากการเริ่มดำเนินการโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ระยะที่ 2 ที่จะเริ่มดำเนินการผลิต รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศซึ่งจะเพิ่มมูลค่าให้กับหุ้น EGCO โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 140 บาท
นอกจากนี้ยังรวมถึง RATCH ที่คาดว่าจะชนะ IPP อย่างน้อย 1 โรง ด้วยศักยภาพด้านต้นทุนที่ได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ เช่นกัน จึงยังคงแนะนำซื้อ ให้ราคาเหมาะสมที่ 55.28 บาท
ส่วนทางด้านของสัญญาณเทคนิคของ EGCO มีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยแนะนำซื้อ ให้แนวรับที่ 120 บาท แนวต้านที่ 125 บาท ส่วน RATCH ให้แนวรับที่ 50 บาท แนวต้านที่ 52 บาท
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าวานนี้ (18 ต.ค.2550) นำโดย EGCO ปิดบวกสวนทิศทางตลาดหุ้นโดยรวมที่ราคา 120 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 0.84% มูลค่าการซื้อขาย 40.10 ล้านบาท ส่วน RATCH ปิดที่ราคา 51.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.98% มูลค่าการซื้อขาย 56 ล้านบาท
http://www.gulf.co.th/thai/popup_news.p ... 7fXPkf4YvY