2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 1
กรุงเทพ-โอมาฮา-พาซาดีนา
เวลา 3.30 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม 2550 ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า ผมเรียกรถแท็กซี่เพื่อเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นอีกครั้งที่ผมจะมีโอกาสไปร่วมงานประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท Berkshire Hathaway นี่เป็นครั้งที่สามแล้ว ไม่รู้ทำไม แต่ผมรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟังวอร์เรน บัฟเฟตต์ กับ ชาร์ลี มังเกอร์ พูด ผมไม่ได้คิดว่า การได้ฟังปราชญ์ทางการลงทุนทั้งสองท่านพูดจะทำให้ผมกลายเป็นนักลงทุนที่เก่งและฉลาด แต่อย่างน้อยที่สุด มันทำให้ผมมีความสุข
เวลา 6.50 น. เครื่องบินเริ่มทะยานขึ้น เวลาผ่านไปราวๆ 6 ชั่วโมง ผมก็ถึงสนามบินนาริตะ ซึ่งผมจะต้องเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางไปเมืองชิคาโก แล้วเปลี่ยนเครื่องอีกครั้งเพื่อเดินทางไปเมืองโอมาฮา ที่ผ่านมา ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี แต่ในที่สุด ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นจนได้ เครื่องบินลำที่จะนำผมไปสู่ชิคาโกไม่สามารถบินขึ้นได้ เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ที่สนามบินนาริตะขัดข้อง ตามกำหนดการเดิม เมื่อผมถึงชิคาโก ผมจะมีเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่มากพอสำหรับการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและการเช็คอินเพื่อบินต่อไปโอมาฮา อย่างไรก็ตาม กว่าเครื่องบินจะออกจากสนามบินนาริตะได้ เวลาก็ล่วงเลยกำหนดการไปหนึ่งชั่วโมงเศษ นั่นหมายถึงว่า ผมจะมีเวลาเพียงราวๆหนึ่งชั่วโมงสำหรับ Immigration และการเช็คอิน
เวลา 3.30 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม 2550 ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า ผมเรียกรถแท็กซี่เพื่อเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นอีกครั้งที่ผมจะมีโอกาสไปร่วมงานประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท Berkshire Hathaway นี่เป็นครั้งที่สามแล้ว ไม่รู้ทำไม แต่ผมรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟังวอร์เรน บัฟเฟตต์ กับ ชาร์ลี มังเกอร์ พูด ผมไม่ได้คิดว่า การได้ฟังปราชญ์ทางการลงทุนทั้งสองท่านพูดจะทำให้ผมกลายเป็นนักลงทุนที่เก่งและฉลาด แต่อย่างน้อยที่สุด มันทำให้ผมมีความสุข
เวลา 6.50 น. เครื่องบินเริ่มทะยานขึ้น เวลาผ่านไปราวๆ 6 ชั่วโมง ผมก็ถึงสนามบินนาริตะ ซึ่งผมจะต้องเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางไปเมืองชิคาโก แล้วเปลี่ยนเครื่องอีกครั้งเพื่อเดินทางไปเมืองโอมาฮา ที่ผ่านมา ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี แต่ในที่สุด ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นจนได้ เครื่องบินลำที่จะนำผมไปสู่ชิคาโกไม่สามารถบินขึ้นได้ เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ที่สนามบินนาริตะขัดข้อง ตามกำหนดการเดิม เมื่อผมถึงชิคาโก ผมจะมีเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่มากพอสำหรับการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและการเช็คอินเพื่อบินต่อไปโอมาฮา อย่างไรก็ตาม กว่าเครื่องบินจะออกจากสนามบินนาริตะได้ เวลาก็ล่วงเลยกำหนดการไปหนึ่งชั่วโมงเศษ นั่นหมายถึงว่า ผมจะมีเวลาเพียงราวๆหนึ่งชั่วโมงสำหรับ Immigration และการเช็คอิน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 2
ไม่ทันแน่เลย ผมรำพึงกับตัวเอง พอเครื่องบินบินไปได้หกเจ็ดชั่วโมง ( จากญี่ปุ่นถึงชิคาโกใช้เวลา 11 ชั่วโมง) ผมก็เดินไปหาแอร์โฮสเตส และถามเธอว่า เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงจะพอสำหรับการตรวจคนเข้าเมืองและการเช็คอินหรือ? เหลือเฟือ คือคำตอบที่ผมได้รับ ด้วยความเป็นนักลงทุนซึ่งต้องประเมินความสมเหตุสมผลของสิ่งที่ได้ฟังได้อ่านอยู่ตลอดเวลา ผมรู้ดีว่า คำว่า เหลือเฟือ ใช้ไม่ได้กับสถานการณ์ของผมแน่ คำที่ดีที่สุดเป็นได้แค่คำว่า น่าจะทัน อย่างไรก็แล้วแต่ ตั้งแต่แรก ผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากการพูดคุยมากไปกว่าการทำให้แอร์รับรู้ถึงสถานการณ์ของผม เผื่อว่าเธอจะทำอะไรได้บ้าง
เอาล่ะ เราต้องพึ่งตัวเองแล้ว ผมคิด ผมเริ่มวางแผน ก่อนที่เครื่องบินจะเริ่มลดระดับเพดานบินเพื่อเตรียมลงจอด ผมไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพื่อที่พอผมออกจากเครื่องบินแล้ว ผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปเข้าห้องน้ำ และสามารถไปที่ Immigration ได้เป็นคนแรกๆ ไม่เอาแล้ว ผมจะไม่เป็นนักลงทุนแบบเต่าแล้ว เดี๋ยวไม่ทัน ผมบอกตัวเอง
เอาล่ะ เราต้องพึ่งตัวเองแล้ว ผมคิด ผมเริ่มวางแผน ก่อนที่เครื่องบินจะเริ่มลดระดับเพดานบินเพื่อเตรียมลงจอด ผมไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพื่อที่พอผมออกจากเครื่องบินแล้ว ผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปเข้าห้องน้ำ และสามารถไปที่ Immigration ได้เป็นคนแรกๆ ไม่เอาแล้ว ผมจะไม่เป็นนักลงทุนแบบเต่าแล้ว เดี๋ยวไม่ทัน ผมบอกตัวเอง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 3
ทุกอย่างดูโอเค ผมใช้เวลาไม่นานนักกับการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง จากนั้น ผมก็ไปรอกระเป๋า รออยู่นานพอสมควร แต่จุดนี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของผม ผมจึงทำอะไรไม่ได้ พอได้กระเป๋า ผมก็รีบเดินเพื่อผ่านด่านศุลกากร ช่วงที่เจ้าหน้าที่ดูหนังสือเดินทางของผม ผมคงทำหน้าลุกลี้ลุกลน เขาเลยให้ผมไปตรวจกระเป๋าอีกช่องหนึ่ง พอผมเดินไปช่อง x-ray กระเป๋า ผมรีบเลยเดินเลยเส้นที่ให้หยุดรอไป เจ้าหน้าที่เลยบอกให้ผมไปยืนรอที่เส้น ผมต้องรีบไปต่อเครื่องบิน เดี๋ยวไม่ทัน ผมบอกเจ้าหน้าที่ คำตอบที่ผมได้รับก็คือ เขาไม่สนใจ ผมต้องรอ โชคยังดีที่เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งคงได้ยิน เลยเดินมาเปิดช่องใหม่ให้ผม และให้ผมเดินผ่านไปเลย วิบากกรรมยังไม่หมด คราวนี้ ผมต้องลากกระเป๋าขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อนั่งรถไฟไปยัง Terminal 1 ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ไกลสุด พอถึง ผมก็ต้องลากกระเป๋าผ่านสะพานข้ามถนนอีก พอผมถึงเคาน์เตอร์เช็คอิน เจ้าหน้าที่สองคนก็ปรึกษากันว่าจะรับกระเป๋าผมได้หรือไม่เพราะเวลาเหลือแค่ราวๆ 20 นาที สุดท้าย พวกเขาก็เอากระเป๋าผมไป และบอกให้ผมไปขึ้นเครื่องที่ Gate B15 โดยผมมีเวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้น Gate B15 มันอยู่ไกลสุดเลยนี่หว่า จะวิ่งทันหรือว่ะ ผมบ่นกับตัวเอง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 4
ก่อนจะออกวิ่ง ผมยังต้องผ่านด่าน Security พอผมเห็นคิวเท่านั้นแหละ แทบเป็นลมเลย ปกติ ผมไม่เคยแซงหน้าใคร แต่คราวนี้ ถ้าผมไม่ทำอะไรสักอย่าง ผมไปไม่ทันแน่ มีคนรอคิวอยู่ 40-50 คนได้ อีกอย่าง ถ้าผมตกเครื่องบินเที่ยวนี้ ผมไม่รู้ว่าผมจะได้ไปโอมาฮาหรือเปล่า เพราะผมรู้อยู่แก่ใจว่า เครื่องบินที่ไปโอมาฮาทุกเที่ยวเต็มหมดแล้วไปจนถึงวันเสาร์เช้า เมื่อคิดได้ดังนี้ ผมจึงขอแซงทุกคนแล้วไปอยู่คนแรก พอผ่านด่าน Security ได้ ผมก็เคลื่อนที่ร่างอันบอบบางของผมด้วยความเร็วสูงสุด ระหว่างที่ผมกำลังวิ่งสุดแรงเกิด ผมหวนนึกถึงตอนที่ผมพาหมาของผมออกไปฉี่ตอนสี่ทุ่มก่อนเข้านอน หลังจากฉี่เสร็จ หมาผมจะเดินชมนกชมไม้ชมแมว ไม่สนใจที่จะเข้าบ้าน ผมต้องทำท่าจะปิดประตูให้เห็น คุณเธอถึงจะรีบวิ่งเข้าบ้าน ฉันใดก็ฉันนั้น ตอนนี้ ถึงผมไม่เห็นแต่ผมก็รู้ว่าใครบางคนกำลังจะปิดประตูเครื่องบิน ผมจึงต้องวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะวิ่งได้ สุดท้าย ผมก็มาทัน เข้าเครื่องบินเป็นคนสุดท้าย พอได้นั่ง ผมก็เอาแต่หอบ เหงื่อไหลไม่หยุด คนข้างๆคงงงว่ามันร้อนอะไรกันนักหนา เวลาผ่านไปสักพัก กัปตันประกาศว่า เครื่องบินยังออกไม่ได้ ต้องรอกระเป๋าอีกใบนึง กว่าเครื่องจะออกได้ เวลาก็ผ่านไปกว่า 20 นาที กลายเป็นว่า ผมต้องทำให้คนอื่นรอ และมีส่วนทำให้โลกร้อนอีกต่างหาก แย่จัง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 5
ในที่สุด ผมก็มาถึงโอมาฮาจนได้ ปีนี้ อากาศไม่หนาวเลย แต่มีฝนตกตลอด พอถึงโรงแรม ผมลองมาทบทวนดู ผมว่าผมมี Margin of safety น้อยเกินไป ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดการ เวลาสองชั่วโมงกว่าที่มีมันก็เป็นเวลาที่พอดีแบบสบายๆ ไม่ใช่เวลาที่เผื่อความผิดพลาดอะไร แม้การที่เครื่องบินออกล่าช้ามากเป็นเหตุการณ์ที่มีความน่าจะเป็นไม่สูงนัก แต่ในกรณีนี้ ถ้ามันเกิดขึ้น มันจะสร้างปัญหาใหญ่ให้ผม นี่เองที่เขาบอกว่า อย่าดูแค่ความน่าจะเป็น ให้พิจารณา Scale ของสิ่งที่จะเกิดขึ้นด้วย เอาล่ะ ไหนๆ ผมก็มาถึงโอมาฮาแล้ว คืนนี้นอนอย่างเดียว เหนื่อยเหลือเกิน
ตื่นมาเช้าวันศุกร์ พอกินอาหารเช้าเรียบร้อย ดูทีวีอ่านหนังสือพิมพ์นิดหน่อย ผมก็ออกไปที่ Qwest Center เพื่อนำ Passport และใบหุ้นไปรับบัตรเข้างาน ผมรู้สึกได้เลยว่า ปีนี้ คนมาเยอะกว่าปีที่แล้ว มีคนจีน คนญี่ปุ่นมากันเป็นกลุ่มๆ พอผมได้บัตรแล้ว ผมก็ไปเดินเล่นรอบๆเมืองเรื่อยเปื่อย ตามปกติ เย็นวันศุกร์ จะมีงานต้อนรับผู้ถือหุ้นที่ Borsheims แต่ปีนี้ ผมตั้งใจว่าจะไม่ไป กะว่าจะไปวันอาทิตย์ครั้งเดียว ไปหลายครั้งแล้ว เสียดายค่าแท็กซี่ ไปกลับก็เกือบสองพันบาท อยากจะลืมอัตราแลกเปลี่ยนซะจริงๆ
ตื่นมาเช้าวันศุกร์ พอกินอาหารเช้าเรียบร้อย ดูทีวีอ่านหนังสือพิมพ์นิดหน่อย ผมก็ออกไปที่ Qwest Center เพื่อนำ Passport และใบหุ้นไปรับบัตรเข้างาน ผมรู้สึกได้เลยว่า ปีนี้ คนมาเยอะกว่าปีที่แล้ว มีคนจีน คนญี่ปุ่นมากันเป็นกลุ่มๆ พอผมได้บัตรแล้ว ผมก็ไปเดินเล่นรอบๆเมืองเรื่อยเปื่อย ตามปกติ เย็นวันศุกร์ จะมีงานต้อนรับผู้ถือหุ้นที่ Borsheims แต่ปีนี้ ผมตั้งใจว่าจะไม่ไป กะว่าจะไปวันอาทิตย์ครั้งเดียว ไปหลายครั้งแล้ว เสียดายค่าแท็กซี่ ไปกลับก็เกือบสองพันบาท อยากจะลืมอัตราแลกเปลี่ยนซะจริงๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 6
และแล้ววันสำคัญก็มาถึง ตั้งแต่ค่ำวันศุกร์ฝนตกตลอด ผมไปถึง Qwest Center ตีห้า (ช้ากว่าสองปีที่แล้ว ปีแรก ผมไปถึงตีสามกว่าๆ) แม้ฝนจะกำลังตก แต่มีผู้ถือหุ้นยืนรออยู่แล้วราวๆ ร้อยคนได้ ก็ต้องกางร่มยืนรอกันไป พอถึงเวลา 7.00 น. ประตูก็เปิด ทุกคนก็ออกวิ่ง เพื่อจับจองที่นั่งที่ดีที่สุด ระหว่างวิ่ง ผมพูดออกมาดังๆว่า ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องวิ่งด้วย คนข้างๆก็หัวเราะกันใหญ่ ที่บอกว่า Value investor ไม่แห่ตามฝูงคงจะใช้ไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ Qwest Center ในตอนนี้ ผมก็วิ่งขึ้นบันได วิ่งลงบันได สุดท้าย มาได้ที่นั่งแถวที่สาม ผมแปลกใจมาก เพราะมันเป็นที่นั่งที่ใกล้ที่สุดเท่าที่ผมเคยจองได้ ขนาดปีนี้ ผมมาช้านะนี่ พอจองที่นั่งเสร็จ ได้เวลา Shopping แล้ว ทุกปี บริษัทย่อยของ Berkshire จะนำสินค้าของตัวเองมาขาย และบางบริษัทก็จะผลิตของที่ระลึกมาขายด้วย (แต่ก่อน หลายๆบริษัทจะแจกของที่ระลึกฟรี แต่เดี๋ยวนี้แทบไม่มีแล้ว) ผมก็ Shop เอาเรื่องเหมือนกัน เรียกว่าถ้าไม่นับอาหารการกินและหนังสือแล้ว ผมซื้อของที่งานนี้มากกว่าซื้อของที่เมืองไทยทั้งปีอีก (ตอนอยู่เมืองไทย ผมไม่รู้จะซื้ออะไร) ที่ผมซื้อก็มีเสื้อ หมวก กระเป๋า ปากกา ไพ่ ตุ๊กตาหมี ถาดแก้ว แสตมป์ กรอบทะเบียนรถ หนังสือ Seeking Wisdom ปีนี้ บริษัทอิฐ Acme Brick ทำ Monthly Planner แจกเหมือนปีที่แล้ว แต่ทำไมผมตามหาคนแจกไม่เจอไม่รู้เลยอดได้เลย ปีนี้ บัฟเฟตต์ร้องเพลงที่บูธบริษัท Fruit of the Loom กับ Justin Brands แต่ผมไม่ได้เห็นหรอก อ่านจากหนังสือพิมพ์เอา ปีนี้ ผมเอากระเป๋าล้อเลื่อนไป เลยไม่ต้องถือของหนักมาก ค่อยสบายหน่อย
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 7
พี่ WEB มีเรื่องดีๆมาให้อ่านอีกแล้วครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 8
พอถึง 8.30 น. ก็ได้เวลาฉายหนัง เรื่องแรกเป็นการ์ตูน บัฟเฟตต์กับมังเกอร์เป็นฮิปปี้ผมยาว ไปตั้งแผงขายเสื้อยืดที่งานคอนเสิร์ตวู้ดสต็อก ขายตั้งนานไม่มีคนซื้อ จนสุดท้ายมีคนเอาโค้กมาแลกกับเสื้อยืด ทั้งสองคนถึงขายโค้กได้หมดและได้เงินไป จากนั้นก็มีโฆษณาตลกๆของ Geico, Dairy Queen, Helzberg Diamond ช่วงต่อมา มีวิดีโอที่ลอริเมอร์ เดวิดสัน อดีต CEO ของ Geico ซึ่งมีอายุเก้าสิบกว่า เล่าถึงปี 1951 ที่เขาใช้เวลาสี่ชั่วโมงเล่าถึง Geico และธุรกิจประกันให้บัฟเฟตต์ฟัง ที่สนุกหน่อยก็คือ หนังที่บัฟเฟตต์แข่งบาสเกตบอลกับ LeBron นักบาส NBA ซึ่งในชีวิตจริงเป็นเพื่อนกับบัฟเฟตต์ ในสนามจะมีกรรมการอยู่สองคน คนที่รับเงินจาก LeBron หลังเสื้อจะเขียนว่า Paid well ขณะที่กรรมการคนที่รับเงินจากบัฟเฟตต์ หลังเสื้อจะเขียนว่า Paid better ตอนกรรมการโยนลูก LeBron ปัดลูกและไปชู้ตลงตาข่ายเรียบร้อยแล้ว บัฟเฟตต์เพิ่งจะกระโดดปัดลูกเอง เล่นไปเล่นมา บางที บัฟเฟตต์เห็นเงินอยู่บนพื้น ก็ก้มลงเก็บเลยเล่นไม่ทัน LeBron แต่สุดท้าย พระเอกก็ต้องชนะ บัฟเฟตต์ไง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 9
ผมลืมเล่าไป ก่อนหนังจะฉาย คนที่นั่งข้างๆผมถามผมว่าผมชื่ออะไรมาจากไหน ผมก็ตอบไป แล้วก็ถามชื่อเขาบ้าง(ตอนแรก ผมไม่ได้มองหน้าเขาชัดๆ) พอเขาตอบมาว่าชื่อมาริโอเท่านั้นแหละ ดวงตาอันโตกลมของผมก็เบิกกว้าง ผมมองหน้าเขาชัดๆแล้วถามไปว่า มาริโอ กาเบลลิหรือ? เขาตอบว่าใช่ ผมก็เลยพูดไปว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้นั่งข้างเขา มาริโอบอกว่ารู้สึกเป็นเกียรติเช่นกัน ทำให้ผมเกือบเผลอนึกไปว่าเราสองคนอยู่ระดับเดียวกัน ( มาริโอเป็น VI ระดับ ตำนาน และมีความมั่งคั่งระดับ 2 พันล้านดอลลาร์ ส่วนผมเป็น VI ระดับ ตำข้าวสารกรอกหม้อ และเป็นพวกชอบพันแข้งพันขา) ผมจัดการให้มาริโอเซ็นชื่อในแบงก์พันล้านให้ผมซะเลย
พอหนังจบ แทนที่บัฟเฟตต์กับมังเกอร์จะออกมาเลยเหมือนปีก่อนๆ คราวนี้ คนที่ออกมาคือ จิมมี่ บัฟเฟตต์ นักร้องดังซึ่งเป็นญาติห่างๆของบัฟเฟตต์ จิมมี่พูดตลกว่า บัฟเฟตต์จะยกมรดกให้เขา และเขาจะเป็นประธานคนใหม่ของ Berkshire จากนั้น เขาก็ร้องเพลง ร้องผิด ร้องถูกจนจบ เอาล่ะ ถึงเวลาที่บัฟเฟตต์และมังเกอร์จะปรากฏตัวแล้ว
พอหนังจบ แทนที่บัฟเฟตต์กับมังเกอร์จะออกมาเลยเหมือนปีก่อนๆ คราวนี้ คนที่ออกมาคือ จิมมี่ บัฟเฟตต์ นักร้องดังซึ่งเป็นญาติห่างๆของบัฟเฟตต์ จิมมี่พูดตลกว่า บัฟเฟตต์จะยกมรดกให้เขา และเขาจะเป็นประธานคนใหม่ของ Berkshire จากนั้น เขาก็ร้องเพลง ร้องผิด ร้องถูกจนจบ เอาล่ะ ถึงเวลาที่บัฟเฟตต์และมังเกอร์จะปรากฏตัวแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 10
เริ่มแรก บัฟเฟตต์กล่าวถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกซึ่งออกมาดีมาก เนื่องจากไม่มีภัยธรรมชาติร้ายแรงเกิดขึ้น แต่บัฟเฟตต์บอกว่าธุรกิจประกันจะไม่สามารถทำกำไรสูงแบบนี้ได้ในระยะยาว จากนั้นก็ถึงส่วนถามตอบ (Q&A) ผมจะยกตัวอย่างสิ่งที่บัฟเฟตต์พูดเพียงบางส่วนนะครับ
-ให้อ่านมากๆ บัฟเฟตต์บอกว่า ตอนเขา 10 ขวบ เขาอ่านหนังสือการลงทุนทุกเล่มที่อยู่ในห้องสมุดเมืองโอมาฮาหมดทุกเล่ม แถมบางเล่มยังอ่านสองรอบด้วยซ้ำ บัฟเฟตต์บอกให้ กระโดดลงน้ำเลย ซึ่งก็คือเริ่มลงทุนจริงๆ บัฟเฟตต์เปรียบการลงทุนในกระดาษเหมือนการอ่านนิยายรัก แต่การลงทุนจริงๆเหมือนการไปออกเดท ประสบการณ์ที่ได้มันต่างกัน
- บัฟเฟตต์บอกว่าการซื้อบริษัทชั้นเยี่ยมไม่จำเป็นต้องมี Margin of safety สูงๆ เนื่องจากโอกาสผิดพลาดมีน้อย ให้ซื้อสิ่งที่เราเข้าใจ ซื้อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นสิ่งที่จะทำให้เรามีมุมมองเกี่ยวกับอนาคต
- ทักษะการลงทุนเป็นสิ่งที่พัฒนาขึ้นได้อีกแม้จะเกษียณแล้ว ให้เรียนรู้อย่าหยุดยั้ง ให้ใช้เหตุใช้ผล อย่าใช้สัญชาตญาณ
- เมื่อพบสิ่งที่น่าลงทุน ก็ลงทุน ไม่ได้รอให้ราคาปรับตัวลดลง การคาดการณ์ไม่ใช่เกมของเรา
- บัฟเฟตต์บอกว่า ถ้าเขามีเงินน้อยๆ การลงทุนของเขาจะต่างจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง เขาจะมีทางเลือกมากขึ้นมากและจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงๆ
- อย่ายุ่งกับสิ่งที่มีโอกาสขาดทุนเป็นเงินจำนวนมากๆ บัฟเฟตต์บอกว่า เขาไม่ชอบเดินไปข้างหน้าสองก้าว แล้วก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว
- คุณไม่สามารถพูดสิ่งที่ฉลาดๆและมีความสำคัญได้ทุกวัน คุณไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นหรือมุมมองทุกวัน
- บริษัทรถไฟเป็นธุรกิจที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ภาวะน้ำมันแพงส่งผลเชิงลบลบต่อธุรกิจรถบรรทุกมากกว่าธุรกิจรถไฟสี่เท่า ซึ่งทำให้ธุรกิจรถไฟแข่งขันได้ดีขึ้น อีกทั้งไม่มีอุปทานใหม่ๆด้วย อย่างไรก็ตาม ธุรกิจรถไฟเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูง
ปีนี้มีคำถามจากกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนต่างๆด้วยครับ มีกลุ่มชาวประมงได้รับความเดือดร้อนจากเขื่อนของ PacificCorp ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Berkshire และมีผู้ถือหุ้นเสนอให้ Berkshire ขาย PetroChina เนื่องจากบริษัทแม่ของ PetroChina มีการลงทุนในซูดานซึ่งถือเป็นการสนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ Darfur ปีนี้สรุปว่า มีผุ้มาร่วมงาน 27000 คน และมีชาวต่างประเทศมา 600 คน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครับ
-ให้อ่านมากๆ บัฟเฟตต์บอกว่า ตอนเขา 10 ขวบ เขาอ่านหนังสือการลงทุนทุกเล่มที่อยู่ในห้องสมุดเมืองโอมาฮาหมดทุกเล่ม แถมบางเล่มยังอ่านสองรอบด้วยซ้ำ บัฟเฟตต์บอกให้ กระโดดลงน้ำเลย ซึ่งก็คือเริ่มลงทุนจริงๆ บัฟเฟตต์เปรียบการลงทุนในกระดาษเหมือนการอ่านนิยายรัก แต่การลงทุนจริงๆเหมือนการไปออกเดท ประสบการณ์ที่ได้มันต่างกัน
- บัฟเฟตต์บอกว่าการซื้อบริษัทชั้นเยี่ยมไม่จำเป็นต้องมี Margin of safety สูงๆ เนื่องจากโอกาสผิดพลาดมีน้อย ให้ซื้อสิ่งที่เราเข้าใจ ซื้อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นสิ่งที่จะทำให้เรามีมุมมองเกี่ยวกับอนาคต
- ทักษะการลงทุนเป็นสิ่งที่พัฒนาขึ้นได้อีกแม้จะเกษียณแล้ว ให้เรียนรู้อย่าหยุดยั้ง ให้ใช้เหตุใช้ผล อย่าใช้สัญชาตญาณ
- เมื่อพบสิ่งที่น่าลงทุน ก็ลงทุน ไม่ได้รอให้ราคาปรับตัวลดลง การคาดการณ์ไม่ใช่เกมของเรา
- บัฟเฟตต์บอกว่า ถ้าเขามีเงินน้อยๆ การลงทุนของเขาจะต่างจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง เขาจะมีทางเลือกมากขึ้นมากและจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงๆ
- อย่ายุ่งกับสิ่งที่มีโอกาสขาดทุนเป็นเงินจำนวนมากๆ บัฟเฟตต์บอกว่า เขาไม่ชอบเดินไปข้างหน้าสองก้าว แล้วก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว
- คุณไม่สามารถพูดสิ่งที่ฉลาดๆและมีความสำคัญได้ทุกวัน คุณไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นหรือมุมมองทุกวัน
- บริษัทรถไฟเป็นธุรกิจที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ภาวะน้ำมันแพงส่งผลเชิงลบลบต่อธุรกิจรถบรรทุกมากกว่าธุรกิจรถไฟสี่เท่า ซึ่งทำให้ธุรกิจรถไฟแข่งขันได้ดีขึ้น อีกทั้งไม่มีอุปทานใหม่ๆด้วย อย่างไรก็ตาม ธุรกิจรถไฟเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูง
ปีนี้มีคำถามจากกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนต่างๆด้วยครับ มีกลุ่มชาวประมงได้รับความเดือดร้อนจากเขื่อนของ PacificCorp ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Berkshire และมีผู้ถือหุ้นเสนอให้ Berkshire ขาย PetroChina เนื่องจากบริษัทแม่ของ PetroChina มีการลงทุนในซูดานซึ่งถือเป็นการสนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ Darfur ปีนี้สรุปว่า มีผุ้มาร่วมงาน 27000 คน และมีชาวต่างประเทศมา 600 คน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครับ
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4244
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 11
อ่านแล้วเพลินจริงๆเลยครับพี่เว็ป
ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าสนุกๆนะครับ มีให้อ่านกันทุกปีเลย
จะว่าไป คนรวยๆเก่งนี่ เท่าที่ผมรู้จักส่วนมากอัธยาศัยดีกันทั้งนั้นเลย
หลายๆคนทักทายคนอื่นก่อนด้วยซ้ำ ไม่ถือตัวเลย
ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าสนุกๆนะครับ มีให้อ่านกันทุกปีเลย
จะว่าไป คนรวยๆเก่งนี่ เท่าที่ผมรู้จักส่วนมากอัธยาศัยดีกันทั้งนั้นเลย
หลายๆคนทักทายคนอื่นก่อนด้วยซ้ำ ไม่ถือตัวเลย
_________
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 12
จบการประชุม ก็ถึงช่วง International Meet&Greet ครับ เหล่าผู้ถือหุ้นชาวต่างประเทศก็จะเข้าคิวกันขอลายเซ็นจากบัฟเฟตต์และมังเกอร์ ปีนี้ ผมเอาโปสเตอร์ที่มีรูปบัฟเฟตต์และมังเกอร์ให้ทั้งสองท่านเซ็นในแผ่นเดียวกัน จบจากช่วงนี้ มีงานที่ Nebraska Furniture Mart ปีนี้ ผมไม่ไปครับ เพราะไปมาสองครั้งแล้ว
วันอาทิตย์ มีงาน Exclusive Shareholder Shopping Day ที่ Borsheims ผมไปแต่ไม่ได้ดูเพชรเลย ที่ไปเพราะปีนี้ เวลาบ่ายโมงตรง บัฟเฟตต์จะตีปิงปองกับ Ariel Hsing เด็กผู้หญิงอายุ 11ขวบที่เป็นมือหนึ่งในบรรดานักปิงปองผู้หญิงที่อายุไม่เกิน 16 และเป็นมือหนึ่งในบรรดานักปิงปองทั้งหญิงและชายที่อายุไม่เกิน 12 ก็เฮอาแหละครับ แต่ผมไม่ได้เห็นกับตาเลย คนมุงกันจนมองไม่เห็นเลยครับ ยังดีที่ผมขอให้ฝรั่งช่วยถ่ายรูปให้เลยได้มารูปนึง พอตีปิงปองเสร็จ บัฟเฟตต์ก็ไปเล่นบริดจ์กับบิล เกตส์ และแชมป์โลกบริดจ์ อีกฟากนึงก็มีแชมป์หมากรุกปิดตาเล่นหมากรุกกับผู้ถือหุ้น ทาง Ariel Hsing ก็เล่นปิงปองกับผู้ถือหุ้นคนแล้วคนเล่าแต่ไม่มีใครชนะเธอได้เลย ผมตามถ่ายรูปบัฟเฟตต์อยู่พักใหญ่ แล้วก็กลับโรงแรม เตรียมจัดของ เพราะวันจันทร์ ผมจะเดินทางต่อเพื่อไปร่วมงานประชุมผู้ถือหุ้นของ Wesco Financial ที่เมืองพาซาดีนา งานนี้จะมีขึ้นวันพุธ ซึ่งมังเกอร์จะพูดประมาณหนึ่งชั่วโมงและตอบคำถามอีกสองชั่วโมง
วันอาทิตย์ มีงาน Exclusive Shareholder Shopping Day ที่ Borsheims ผมไปแต่ไม่ได้ดูเพชรเลย ที่ไปเพราะปีนี้ เวลาบ่ายโมงตรง บัฟเฟตต์จะตีปิงปองกับ Ariel Hsing เด็กผู้หญิงอายุ 11ขวบที่เป็นมือหนึ่งในบรรดานักปิงปองผู้หญิงที่อายุไม่เกิน 16 และเป็นมือหนึ่งในบรรดานักปิงปองทั้งหญิงและชายที่อายุไม่เกิน 12 ก็เฮอาแหละครับ แต่ผมไม่ได้เห็นกับตาเลย คนมุงกันจนมองไม่เห็นเลยครับ ยังดีที่ผมขอให้ฝรั่งช่วยถ่ายรูปให้เลยได้มารูปนึง พอตีปิงปองเสร็จ บัฟเฟตต์ก็ไปเล่นบริดจ์กับบิล เกตส์ และแชมป์โลกบริดจ์ อีกฟากนึงก็มีแชมป์หมากรุกปิดตาเล่นหมากรุกกับผู้ถือหุ้น ทาง Ariel Hsing ก็เล่นปิงปองกับผู้ถือหุ้นคนแล้วคนเล่าแต่ไม่มีใครชนะเธอได้เลย ผมตามถ่ายรูปบัฟเฟตต์อยู่พักใหญ่ แล้วก็กลับโรงแรม เตรียมจัดของ เพราะวันจันทร์ ผมจะเดินทางต่อเพื่อไปร่วมงานประชุมผู้ถือหุ้นของ Wesco Financial ที่เมืองพาซาดีนา งานนี้จะมีขึ้นวันพุธ ซึ่งมังเกอร์จะพูดประมาณหนึ่งชั่วโมงและตอบคำถามอีกสองชั่วโมง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 13
ที่ Wesco Annual Meeting มังเกอร์จะพูดเยอะเพราะพูดคนเดียว ขณะที่ในงาน Berkshire มังเกอร์จะปล่อยให้บัฟเฟตต์พูดเป็นส่วนใหญ่ ที่Wesco มังเกอร์ พูดถึงความสำเร็จของ Berkshire ว่ามาจากปัจจัยห้าประการของบัฟเฟตต์
บัฟเฟตต์ 1. มีทัศนคติและภาวะอารมณ์ที่เหมาะสม
2. มีความชื่นชอบในสิ่งที่ทำอย่างยิ่งยวด
3. เริ่มต้นตั้งแต่อายุน้อยๆ
4. เรียนรู้อย่างไม่หยุดยั้ง
5. เป็นคนตัดสินใจหลัก
(มังเกอร์บอกว่า การตัดสินใจในรูปของคณะกรรมการประสบความสำเร็จได้ยาก)
ผมเล่าเท่านี้แล้วกันครับ พิมพ์ไม่ไหวแล้ว อ้อ ผมไปอัดรูปมา รูปบัฟเฟตต์รูปหนึ่งมีวงกลมๆเหมือนจตุคามเลยครับ ผมถือว่าเป็นรุ่นรวยหุ้นล้นฟ้าก็แล้วกัน
บัฟเฟตต์ 1. มีทัศนคติและภาวะอารมณ์ที่เหมาะสม
2. มีความชื่นชอบในสิ่งที่ทำอย่างยิ่งยวด
3. เริ่มต้นตั้งแต่อายุน้อยๆ
4. เรียนรู้อย่างไม่หยุดยั้ง
5. เป็นคนตัดสินใจหลัก
(มังเกอร์บอกว่า การตัดสินใจในรูปของคณะกรรมการประสบความสำเร็จได้ยาก)
ผมเล่าเท่านี้แล้วกันครับ พิมพ์ไม่ไหวแล้ว อ้อ ผมไปอัดรูปมา รูปบัฟเฟตต์รูปหนึ่งมีวงกลมๆเหมือนจตุคามเลยครับ ผมถือว่าเป็นรุ่นรวยหุ้นล้นฟ้าก็แล้วกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 511
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 22
ขอบคุณมากครับที่นำประสบการณ์มาแบ่งปันให้ฟังครับ
VI ฝึกหัด
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
thanks for excellent experience
โพสต์ที่ 26
ขอบคุณมากๆครับสำหรับประสบการณ์อันเยี่ยมยอดที่มาแชร์ให้ฟังกัน สุดยอดๆๆๆๆๆ
- tatandchin
- Verified User
- โพสต์: 775
- ผู้ติดตาม: 0
2007 Berkshire Hathaway Shareholders Meeting
โพสต์ที่ 29
ขอบคุณพี่ web มากครับ สำหรับประสบการณ์ดี ๆ ที่คงไม่มีแน่ถ้าพี่ไม่แบ่งปัน
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ