อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง ราคาเข้าซื้อ กับการรักษาสมดุลของปอด

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง ราคาเข้าซื้อ กับการรักษาสมดุลของปอด

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สมมติว่าคุณลงหุ้นเต็มพอร์ตตลอดเวลา สินทรัพย์อย่างอื่นไม่มี

อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง การซื้อหุ้นที่ราคาถูกที่สุด กับการซื้อหุ้นราคาปกติบ้างเพื่อรักษาสมดุลของหุ้นในพอร์ตเอาไว้ไม่ให้ overwieght กลุ่มใดมากเกินไป

ถ้าคุณเห็นว่ามีหุ้น sector นึ่งราคาถูกมาก คุณกล้าลงหุ้น sector นั้นทุกตัวเต็มพอร์ตหรือไม่
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
triathlon
Verified User
โพสต์: 551
ผู้ติดตาม: 0

อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง ราคาเข้าซื้อ กับการรักษาสมดุลของปอด

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ถ้าเป็นเงินเย็น และเข้าใจมูลค่าธุรกิจนั้นดีพอ คิดว่าคงลงประมาณแปดสิบเปอร์เซนต์ของปอดคะ :lol:
ทุกวันนี้ยังเจ็บใจที่ซื้อหุ้นตัวหนึ่งน้อยไป (แม้จะเป็นการซื้อหุ้นที่เยอะที่สุดในชีวิตก็ตาม) :oops:
just one life, use it!
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 0

อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง ราคาเข้าซื้อ กับการรักษาสมดุลของปอด

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ถ้าเข้าใจและมั่นใจจริง ผมว่าจะให้น้ำหนักกลุ่มหนึ่งมากๆ ก็คงไม่ผิดครับ (ต้องเข้าใจจริงๆ นะครับ) ดีกว่าไปลงทุนในกลุ่มอะไรที่เราอาจจะไม่มีความรู้
Impossible is Nothing
javoel
Verified User
โพสต์: 383
ผู้ติดตาม: 0

อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง ราคาเข้าซื้อ กับการรักษาสมดุลของปอด

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ตัวที่ undervalue ที่สุดครับ

ถ้าเข้าใจและมั่นใจจริง ผมว่าจะให้น้ำหนักกลุ่มหนึ่งมากๆ ก็คงไม่ผิดครับ (ต้องเข้าใจจริงๆ นะครับ) ดีกว่าไปลงทุนในกลุ่มอะไรที่เราอาจจะไม่มีความรู้
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับิ คุณwoody
Onokung
Verified User
โพสต์: 1250
ผู้ติดตาม: 0

Re: อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง ราคาเข้าซื้อ กับการรักษาสมดุลของ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

สุมาอี้ เขียน:สมมติว่าคุณลงหุ้นเต็มพอร์ตตลอดเวลา สินทรัพย์อย่างอื่นไม่มี
ต้องลองเปลี่ยนวิธีมาถือเงินสดบ้าง เพราะว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่รู้ ถ้ามีเงินสดติดมือ จะมีกลยุทธมากวิธีในการจัดการเรื่องราวมากขึ้น ปลายปีที่แล้วเป็นตัวอย่าง อย่างดีเลยครับ
สุมาอี้ เขียน:อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง การซื้อหุ้นที่ราคาถูกที่สุด กับการซื้อหุ้นราคาปกติบ้างเพื่อรักษาสมดุลของหุ้นในพอร์ตเอาไว้ไม่ให้ overwieght กลุ่มใดมากเกินไป
ซื้อราคาถูก เพราะว่า ซื้อราคาปรกติบ้าง เพื่อรักษากฏเกณฑ์การลงทุน 100 % ตลอดเวลาคิดว่าไม่น่าจะเป็นกลยุทธที่ดีกว่า
ลองอ่านไปอ่านมาหนังสือหลายเล่ม บัฟเฟต ก็น่าจะอาศัยจังหวะเข้าซื้อมากกว่าที่จะรักษากฏเกณฑ์การลงทุน 100 % หรือสมดุลของปอด
สุมาอี้ เขียน:ถ้าคุณเห็นว่ามีหุ้น sector นึ่งราคาถูกมาก คุณกล้าลงหุ้น sector นั้นทุกตัวเต็มพอร์ตหรือไม่
ไม่กล้าครับเหตุผลเหมือนข้อ1. แต่เน้นหนักคงกล้าในระดับหนึ่งครับ แต่ว่าให้ถิอตัวเดียวหนักๆ ไม่กล้าครับ

:oops:  :oops:  :oops:
1.ถูกหรือแพง
2.มั่นคงหรือชั่วครู่
3.ขยายตัวหรือหดตัว
รูปภาพ
Tiger
Verified User
โพสต์: 593
ผู้ติดตาม: 0

Re: อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง ราคาเข้าซื้อ กับการรักษาสมดุลของ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

สุมาอี้ เขียน:ถ้าคุณเห็นว่ามีหุ้น sector นึ่งราคาถูกมาก คุณกล้าลงหุ้น sector นั้นทุกตัวเต็มพอร์ตหรือไม่
ไม่กล้าครับ โดยเฉพาะถ้า sector นั้นมีปัจจัยที่

นอกเหนือการควบคุมหลาย ๆ ตัว

สุมาอี้ เขียน:สมมติว่าคุณลงหุ้นเต็มพอร์ตตลอดเวลา สินทรัพย์อย่างอื่นไม่มี

อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง การซื้อหุ้นที่ราคาถูกที่สุด กับการซื้อหุ้นราคาปกติบ้างเพื่อรักษาสมดุลของหุ้นในพอร์ตเอาไว้ไม่ให้ overwieght กลุ่มใดมากเกินไป
ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดควรถูกนำมาพิจารณาก่อนเสมอ

ฉะนั้นการรักษาสมดุลของหุ้นในพอร์ต เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผม

ถ้าเราอยู่ใน position ที่สามารถทำ return ที่ต้องการได้

ค่อนข้างแน่นอนแล้ว ก็ไม่อยากไปลุ้นมากเกินไป

การเดินทางที่มั่นคง กับ return ที่สมเหตุสมผล

น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ของคนที่ได้ good แต่ไม่ได้

outstanding   :lol:  :lol:
ต้องเรียนรู้ให้ได้
Li .. Zhi .. Ren
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 0

อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง ราคาเข้าซื้อ กับการรักษาสมดุลของปอด

โพสต์ที่ 7

โพสต์

คำตอบนี้ ผมว่าขึ้นอยู่กับตาชั่งในใจของแต่ละคนครับ

เป็นผม ถึงเจอหุ้นหรือ sector นึงที่มัน ถู๊ก ถูก น่าซื้อขนาดไหนจริงๆ ผมก็ยังไม่กล้าเข้าซื้อหมด 100% ของพอร์ตครับ (จากที่ท่านแม่ทัพบอกว่าสินทรัพย์ทั้งหมดมีแต่หุ้น) อย่างมากจริงๆ ขนาดเป็นหุ้นตีแตกผมคงลงทุนแค่ 60%-70% ของพอร์ตครับ

ถ้าถามว่าทำไมไม่กล้าเข้าซื้อเต็ม 100% แม้ว่าจะดูตามหลักการและเหตุผลแล้วว่าเข้าตามหลักเกณฑ์ทุกประการก็เถอะ แต่สำหรับหุ้นแล้วผมเชื่ออย่างที่ด็อกเตอร์นิเวศน์กล่าวไว้ครับว่าเรามองเป็นไปตามหลักของความน่าจะเป็นมากกว่า ยังไงความเสี่ยงก็ยังมีอยู่ถึงแม้จะน้อยมากก็ตามครับ ซึ่งความเสี่ยงก็ขึ้นอยู่กับว่ามั่นใจกับการวิเคราะห์ของเรามากน้อยขนาดไหน
ภาพประจำตัวสมาชิก
โอ@
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4244
ผู้ติดตาม: 0

อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง ราคาเข้าซื้อ กับการรักษาสมดุลของปอด

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ตอนนี้ผมเลือกที่จะแบ่งเงินเป็น 4 ส่วนเท่ากัน

หุ้นแต่ละตัวจะต้องไม่เกินในส่วนของตัวเองครับ

ถ้าเจอหุ้นน่าซื้อแค่ 2 ตัว ก็จะถือเงินสดมากกว่า 50%

แต่กำลังสับสน เวลามีหุ้นตัวนึงตอนซื้อไม่เกิน 25%
แต่พอขึ้นมาแล้วมันเกินข้อจำกัดไป อันนี้ยังนึกไม่ออกว่าทำไงดี ไม่อยากขาย
เพราะพื้นฐานยังดีอยู่ซะงั้นไป ก็คงต้องเลยตามเลยไป
_________
ภาพประจำตัวสมาชิก
MO101
Verified User
โพสต์: 3226
ผู้ติดตาม: 0

อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง ราคาเข้าซื้อ กับการรักษาสมดุลของปอด

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผมอาศัยความรุ้สึกเอา
การเข้าซื้อสำคัญที่สุดครับ เพราะถ้าเราได้ราคาต่ำๆ จะรู้สึกดีกว่า ราคาสูงแต่ได้ปริมาณมาก

overwieght  ผมไม่ค่อยสนใจ ซื้อไปเรีอยๆ จนกว่า จะรู้สึกว่าเสี่ยง
บางตัวซื้อกันจนหมด port ตัวเดียวเลยก็มี(เล่นมา 5 ปีเท่าที่นับได้ 3 หน)
ภาพประจำตัวสมาชิก
bmw2681
Verified User
โพสต์: 710
ผู้ติดตาม: 0

อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง ราคาเข้าซื้อ กับการรักษาสมดุลของปอด

โพสต์ที่ 10

โพสต์

โดยส่วนตัว ไม่เคยได้ซื้อหุ้นราคาต่ำๆ กับเค๊าบ้างเลย ส่วนใหญ่จะซื้อหุ้นที่ราคาวิ่งมาจนถึงจุดๆหนึ่งที่ยืนยันด้วยสัญญาณทางเทคนิคแล้วว่า มันเอาจริง ถ้ามั่นใจหุ้นกลุ่มไหนสุดๆ ก็คงเลือกซื้อตัวที่เด่นที่สุด เพียง 1-2 ตัว (เอา เด่นสุด กะ รองอันดับ 1) แล้วก็คงไม่อัดตัวเดียว หรือกลุ่มเดียวเต็มพอร์ต เพราะเคยอัดตัวเดียวเต็มพอร์ต รู้สึกกดดันกว่า กระจายความเสี่ยงมาก ทั้งเวลาราคาหุ้นขึ้นและลง มีโอกาสเสี่ยงในการขายหมูมากกว่ามาก (เคยโดนมาแล้ว เพราะใจไม่นิ่งพอจะถือหุ้นตัวเดียวเต็มพอร์ต)
Every passing minute is a chance to turn it all around
http://bmw2681.wordpress.com
โพสต์โพสต์