หุ้นกลุ่มแบงค์

[thanwa]

วันนี้ขอแหกกฎสักหนึ่งวัน ...ลืมคำนิยาม VI ใช้ความรู้สึก

ผมมีความรู้สึก (ซึ่งน่าจะเหมือนกับหลายคน...) ว่า...
หุ้นกลุ่มแบงค์น่าจะมากะเขาบ้าง... ความจริงก็เริ่มมาระยะหนึ่งแล้ว
จากจุดนี้ ถึงปีน่า capital gain ก็น่าจะมีสัก 20-30% อย่างน้อย...

ไม่รู้ชาว TVI คิดว่าอย่างไร
อยากให้ช่วยออกความเห็นหน่อยครับ
หากความเห็นเอกฉันท์
จะได้ชวนกันไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สักแบงค์
ตอนนี้ที่คิดว่าน่าสนใจก็มี
KBank จากอาจารย์ FITCH
ไม่รู้ราคาจะลงมาที่ 40-41 บาทอีกอะเป่า

คุณเจ๋ง... ผมช่วยตั้งแล้วหนึ่งกระทู้

[harry]

พอมายึดแนว VI ก็เลยมองข้ามไปเลย ผมคิดว่ามองหาแบงค์ที่มีรายได้หลักมากๆหน่อย โดยเฉพาะจากดอกเบี้ย และดูที่สำรองเงินสำหรับหนี้มากพอ ผมคิดว่าสักสองปีจากไป ดอกเบี้ยน่าจะมีการปรับสูงขึ้นสักหน่อย ก็น่าจะทำให้รายได้ของแบงค์ดีขึ้น ส่วนแบงค์ไหนจะน่าลงทุน ผมก็มองไม่ออกเหมือนกัน

[CEO]

สวัสดีครับคุณ ธันวา
สำหรับคนดูงบเก่งๆผมว่าน่าสนนะครับ

ผมใช้บริการของ BBL ผมก็เลยซื้อ BBL ตั้งแต่แถวๆ 40 รอบก่อน แต่ผมอ่านงบแบงคืไม่เป็นเลยโดนนักเลงแถวถนนสาธรตีกบาลเอา

งวดหลังนี้ผมว่า BAY ดูดีขึ้นเยอะเลยครับ แต่เสียที่มี Warrant และผมบวกลบคูณหารเจ้า วอร์ กับเขาไม่คล่องก็เลยขอบายไป

ผมว่าแบงค์เล็กยังไม่เฟอร์มนะครับว่าจะไปรอด้วยตัวเองหรือต้องควบรวมเป็นแบงค์ใหญ่เพื่อความอยู่รอด
และเดี๋ยวนี้ธุรกิจหลายอย่างไม่ค่อยอยากง้อแบงค์แล้ว

[FITCH]

วันนี้ขอแหกกฎสักหนึ่งวัน ...ลืมคำนิยาม VI ใช้ความรู้สึก

ผมมีความรู้สึก (ซึ่งน่าจะเหมือนกับหลายคน...) ว่า...
หุ้นกลุ่มแบงค์น่าจะมากะเขาบ้าง... ความจริงก็เริ่มมาระยะหนึ่งแล้ว
จากจุดนี้ ถึงปีน่า capital gain ก็น่าจะมีสัก 20-30% อย่างน้อย...

ไม่รู้ชาว TVI คิดว่าอย่างไร
อยากให้ช่วยออกความเห็นหน่อยครับ
หากความเห็นเอกฉันท์
จะได้ชวนกันไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สักแบงค์
ตอนนี้ที่คิดว่าน่าสนใจก็มี
KBank จากอาจารย์ FITCH
ไม่รู้ราคาจะลงมาที่ 40-41 บาทอีกอะเป่า

คุณเจ๋ง... ผมช่วยตั้งแล้วหนึ่งกระทู้

ขอออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นอาจง อาจารย์อะไรนะครับ
ถ้าเป็นอ.ใบ้หุ้น ขอไม่เป็นดีก่า
จากกระทู้ก่อนที่ "เดา" ราคาพวก หุ้นช้างทั้งหลายก็บอกว่าเดานะครับ

แต่ผมเคยคิดไว้ตั้งแต่นานแล้วว่ากลุ่ม Bank น่าจะเกิด fundamental change เนื่องมาจากการกลับตัวของเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเหมือนกับเปลี่ยนพื้นฐานเรียกว่าเปลี่ยนจุดยืน เปลี่ยนมุมกันไปเลย ทำให้การ approach Valuation ของราคาหุ้นต้องเปลี่ยนไปด้วยเหมือนยืนอยู่บนเกาะ เปลี่ยนมาอยู่บนแผ่นดินใหญ่ยังไงยังงั้นเลย เมื่อก่อนจะเดินจะวิ่งก็ได้แค่รอบๆเกาะ เดี๋ยวนี้มีที่เป็นแสนเป็นล้านๆไร่ให้ได้เดินได้วิ่ง

ช่วงนี้คงต้องมองแบบนี้กันก่อนนะครับ ตำรา VI พันธ์แท้อาจไม่เข้าทางเสียทีเดียว ต้องพลิกนิดหน่อยอะเอาเป็นว่าถ้ามองในทางดีก็
1. ถ้า econ ดีขึ้นมีการขอกู้ bank จะเริ่มมีรายได้จาก interest มากขึ้นอย่างมาก
2. Bank มีความมั่นใจในการปล่อยไม่ต้องกลัว NPL เหมือนก่อน แต่การทำงานและการตัดสินใจในการปล่อยมีความโปร่งใสและระมัดระวังมากขึ้นเท่ากับ Efficiency ในการทำงานสูงขึ้นโดยปริยาย เราผู้ถือหุ้นน่าจะดีใจ
3. สามารถขยายงานได้มากขึ้นเพราะพวก BIS ratio, tier1 tier2 ไม่โดน lock เหมือนก่อนเพราะสามารถเพิ่มทุนจากตลาดมา cover ไดเรียบร้อยแล้ว ( อาจมี dilution บ้าง แต่ in long term น่าจะดีกว่านะครับ )
4. มี capital gain จากการแปลงหนี้เป็นทุนของบริษัทเยอะดีโดยเฉพาะ Bank ทีมี NPL เยอะๆก่อนหน้านี้

ข้อเสียก็มีแต่ว่าไม่อยากพูดเพราะไม่งั้นจะไม่มีมุมมองท่านอื่นเลยครับ
เอาเป็นว่าผมเชียร์ bank ก็เลยเสนอแต่ด้านดีดีกว่า ใครมี view ด้านอื่นๆ ขอคำชี้แนะด้วยครับ

[thanwa]

ผมแซวคุณ FITCH เล่นนะครับ ขออภัย
เห็นคุณ FITCH มีหุ้นดีๆ ต้นทุนต่ำหลายตัวนะ

ตกลงคุณ FITCH ไม่ช่วย confirm หน่อยหรือครับ
ว่าเป็นแบงค์ไหน ความจริงผมคิดว่าน่าจะดีกันทั้งหมด
แต่ผมชอบลงทุนตัวเดียว มากกว่ากระจายนะครับ
เอาเป็นว่าผมยังชอบ KBank ตามการคาดเดาคุณ FITCH ก็แล้วกัน

[FITCH]

ผมแซวคุณ FITCH เล่นนะครับ ขออภัย
เห็นคุณ FITCH มีหุ้นดีๆ ต้นทุนต่ำหลายตัวนะ

ตกลงคุณ FITCH ไม่ช่วย confirm หน่อยหรือครับ
ว่าเป็นแบงค์ไหน ความจริงผมคิดว่าน่าจะดีกันทั้งหมด
แต่ผมชอบลงทุนตัวเดียว มากกว่ากระจายนะครับ
เอาเป็นว่าผมยังชอบ KBank ตามการคาดเดาคุณ FITCH ก็แล้วกัน

ผมเลือก 4 Bankครับตัวไหนก็ได้ BBL KBANK SCB กะ BAY
ตอนนี้มีแล้ว 2 คือตัว B ทั้งคู่ครับ
ส่วนอีกคู่ที่เหลือนั้นน่าจะวิ่งแข่งกันครับ ราคาดีๆที่ตัวไหนซื้อตัวนั้น อิอิ

[Manit]

คุณ FITCH ครับ ผมมีข้อคิดที่น่าสนใจจากเพื่อนที่จบโทเศรษฐศาสตร์คนหนึ่ง เค้าบอกว่า ตอนเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวกลุ่มที่เป็น Real Sector จะฟื้นตัวก่อนเนื่องจากสามารถผลิตสินค้าและขายให้กับลูกค้าได้ เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ยานยนตร์ ปิโตรเคมี เมื่อผู้ผลิตและขายสินค้ามีกำไรจึงจะค่อยนำกำไรที่ได้ไปจ่ายดอกเบี้ยที่ไปกู้มา ดังนั้น กลุ่มที่จะฟื้นตัวเป็นกลุ่มสุดท้ายก็คือกลุ่ม Bank โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเพิ่มทุนของ BBL เสร็จสิ้นลงแล้วจะทำให้ต้นทุนในส่วนของดอกเบี้ยจ่ายลดลงเป็นอย่างมาก ในปีหน้ากลุ่ม Bank น่าจะฟื้นตัวอย่างแท้จริง โดยเฉพาะ Bank ใหญ่ ๆ จะได้ประโยชน์จาก บริษัทที่มีหนี้และสามารถแปลงหนี้เป็นทุนสามารถพลิกฟื้นผลการดำเนินงานกลับมาเป็นกำไรได้ รวมถึง ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่เป็น NPL หรือ NPA :lol:

[Stock Broker]

หุ้นธนาคารเป็นหุ้นที่ Underperform ที่สุดกลุ่มหนึ่งในรอบปีนี้ (ถ้าเทียบกับ SET)

ผมเองเชื่อลึกๆ ครับ ว่าตราบใดที่ธนาคารยังแก้ NPL ไม่ตก ยังปล่อยสินเชื่อไม่ได้มาก ต่างชาติไม่สนแบงค์จริงหรอกครับ

ยังไงไว้รอดูกันว่า เมื่อหุ้น PO ของ BBL เข้าเทรดช่วงคริสมาสต์ ต่างชาติจะทิ้งในกระดานหรือไม่ ก็จะช่วยพิสูจน์ว่า ในมุมมองของต่างชาตินิยมกลุ่มธนาคารหรือไม่

[sirivajj]

ผมมีความคิดเกี่ยวกับแบงค์ในทางที่ไม่ดีนัก
ซึ่งก็จะเล่าให้ฟังว่า โดยส่วนตัว ถ้าผมจะลงทุนในแบงค์
ผมคิดว่า มันเป็นการซื้ออนาคต เพราะเท่าที่ผ่านมาแบงค์ส่วนใหญ่แทบจะไม่มีปันผลเลยในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ดังนั้น ถ้าจะลงทุนก็ต้องหวังพึ่ง Capital gain อย่างเดียว
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว ก็สู้มาซื้อหุ้นประกันที่แบงค์มีส่วนเป็นผู้ถือหุ้นด้วยดีกว่า อาทิ เช่น BKI, AYUD, PHA etc. โดยผมมีสมมติฐานว่า
ถ้าหุ้นแบงค์ขึ้น พอร์ตของเงินลงทุนที่บริษัทประกันลูกๆ ซึ่งย่อมถือหุ้น บริษัทแม่ไว้ย่อมมีกำไรด้วย และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทประกัน
ไม่ได้ขาดทุน แถมยังมีปันผลสม่ำเสมออีก
ดังนั้น พอจะซื้อแบงค์ ก็แค่มีเป้าหมายเพื่อหวังเล่นรอบทำกำไรเท่านั้น
หากคิดจะถือ แบบสบายใจ และหวังผลตอบแทนที่แน่นอนล่ะก็
ผมก็จะเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทประกัน แทนครับ

ที่คิดแบบนี้ก็เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวนะครับ อาจจะล้าสมัยแล้วก็ได้
(ผมหมายถึงทิศทางเริ่มเปลี่ยนแล้ว??)
นอกจากนี้พวกแบงค์ ก็วิ่งได้ไม่เลวทีเดียวในหลายๆ สถานการณ์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ผมคงไม่ถนัดกับการเล่นแบงค์ในแบบที่จะถือยาวๆ ก็ได้ครับ

โชคดีทุกท่านครับ

[หมาป่า]

ขอเสนอความเห็นแบบเก็งกำไรราคาหุ้นบ้างนะครับ ถ้าใหนๆจะลองเก็งกำไรแล้ว ผมเลือก TMBครับ เพราะมีเงินสดอยู่มาก โดยส่วนหนึ่งกันไว้เป็นค่าเผื่อหนี้สูญแล้ว และกำลังจะควบกิจการกับdbsในปลายเดือนมกราคมนี้ ซึ่งหลังจากควบกิจการแล้ว น่าจะเปลี่ยนจากธนาคารขนาดเล็กเป็นธนาคารขนาดกลาง และมีผลให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมากครับ

ที่สำคัญ ลองเช็คดูสิครับว่าใครเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่tmb รองจากกองทัพ

[Jeng]

อยากถามเพื่อนๆว่า ท่านทักษิณ มีหุ้นในแบงค์ไหนหรือเปล่าครับ

อันนี้ไม่ได้ใบ้หุ้น แต่ไม่ทราบจริงๆ เห็น shin ขยายงานเยอะมากเลย จึงอยากรู้อะครับ

[หมาป่า]

แฮ่ะๆ คุณjengครับ ท่านทักษิณไม่มีหุ้นในธนาคารใหนหรอกครับ แต่คุณพานเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่คนหนึ่งใน tmb ครับ ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ tmbคือกองทัพ แต่ท่านผอทบ.คนล่าสุดก็มีนามสกุลคุ้นๆนะครับ

อันนี้ไม่ได้ใบ้หุ้นนะครับ แต่ตอบคำถามเฉยๆ

[Jeng]

ขอบคุณครับ ผมจะลองสังเกตุดู

[tmb]

ถ้าในแง่เก็งกำไรกับ tmb ผมค่อนข้างเห็นด้วย เพราะเท่าที่ติดตามข่าวมาการควบรวมมีความเป็นไปได้สูงมากและจำเพาะลงไปที่ DBS กับ SHIN ที่ได้จับมือกันทำ consumer finance แล้วอะไรมันจะเข้าล็อคขนาดนั้นที่ทำก่อนที่จะมีข่าวควบรวมของ TMB+DTDB ไม่กี่วันเลย ถ้าการเจรจาลุล่วงด้วยดีผมว่า TMBได้รับผลดีมากกว่านะครับอย่าลืมว่ากลุ่ม shin ปัจจุบันถือหุ้น tmb ไว้ เกือบ 400 ล้านหุ้นแล้วดูเหมือนยังไม่มากแต่อนาคตหลังการควบรวมก็ไม่แน่ในเมื่อเป้าหมายของผู้ร่วมธุรกิจคือ DBSนั้นต้องการถือหุ้น tmb 25%ถ้าทุกอย่างเป็นจริงผมว่าแบงค์นี้เริ่มมีสีสรรแล้วครับเชื่อว่าศักยภาพน่าจะโดดเด่นขึ้นมาทีเดียวครับก็กลุ่มนี้เล็กๆไม่ใหญ่ๆทำครับนี่ยังไม่นับรวมกับพวกบรรดาสินทรัพย์และหุ้นของบริษัทต่างๆที่ได้จากแปลงหนี้เป็นทุนช่วงที่เศรษฐกิจฟุปตอนนี้ถ้าคิดเป็นเงินคงนับกันไม่ไหวมั้งครับขนาดเฮียหวัดเหมของผมยังดูมีสง่าราศีเลยจริงมั้ยครับ