ลุงขวด พี่ ครรชิต คุณคัดท้าย ครับ Singha ราคาเหมาะสม เท่าใด
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ลุงขวด พี่ ครรชิต คุณคัดท้าย ครับ Singha ราคาเหมาะสม เท่าใด
โพสต์ที่ 2
ราคาพาร์ก็เหมาะสมครับ แต่เห็นบางโบร๊คบอก 26 บาท
ผมก็ได้มาติ๊ดนึงครับ คิดว่าจะถือยาวๆไปเลย (แต่ก็อยากขายราคา
เปิดเหมือนกัน) นี่เป็นหุ้น IPO ตัวแรกของผมเลยครับ เนื่องจาก
ได้นิดเดียว จะลองถือจนลูกโตเป็นหนุ่มดู ไม่รู้ทนไหวไหม
ผมก็ได้มาติ๊ดนึงครับ คิดว่าจะถือยาวๆไปเลย (แต่ก็อยากขายราคา
เปิดเหมือนกัน) นี่เป็นหุ้น IPO ตัวแรกของผมเลยครับ เนื่องจาก
ได้นิดเดียว จะลองถือจนลูกโตเป็นหนุ่มดู ไม่รู้ทนไหวไหม
-
- ผู้ติดตาม: 0
ลุงขวด พี่ ครรชิต คุณคัดท้าย ครับ Singha ราคาเหมาะสม เท่าใด
โพสต์ที่ 3
ck ครับ ขอบคุณ ที่ให้ความเห็นครับ
ผม ก็ คงขายไม้แรก ครับ
ผม ก็ คงขายไม้แรก ครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
ลุงขวด พี่ ครรชิต คุณคัดท้าย ครับ Singha ราคาเหมาะสม เท่าใด
โพสต์ที่ 5
บังเอิญอ่านเจอเลยเอามาฝากครับ
http://www.bangkokbiznews.com/2003/12/1 ... 33830.html
3 หุ้นใหม่จูงมือเข้าซื้อขายสัปดาห์นี้
3 หุ้นใหม่จ่อคิวเทรดสัปดาห์นี้ "ฮั้วฟง-ชลบุรี คอนกรีต -สิงห์พาราเทค" โบรกเกอร์มั่นใจราคาเหนือจอง เหตุพื้นฐานดี กระแสหุ้นจองแรง ขณะเดียวกันภาวะการลงทุนในหุ้นตลาดเอื้ออำนวย
นักวิเคราะห์จากหลายสำนักยืนยันว่า หุ้นใหม่ของ 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัทฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) และบริษัทผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี ซึ่งจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์กลุ่มวัสดุก่อสร้างและตกแต่งในวันที่ 15 และ 16 ธันวาคมนี้ รวมถึงหุ้นของบริษัทสิงห์พาราเทค ซึ่งคาดว่าจะเข้าซื้อขายประมาณวันที่ 19 ธันวาคม ราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นกว่าระดับราคาจอง เนื่องจากราคาเป้าหมายของแต่ละบริษัท ยังสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่องในปีหน้า รวมทั้งภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นเอื้ออำนวย นักลงทุนให้ความสนใจหุ้นที่เข้ามาซื้อขายใหม่
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า การซื้อขายหุ้นของบริษทฮั้วฟง รับเบอร์ (ประเทศไทย) วันแรกราคาน่าจะสูงกว่าราคาจองที่ระดับ 35.50 บาท โดยมีการประเมินราคาเป้าหมายที่เหมาะสมในปี 2547 อยู่ที่ระดับ 42 บาท เนื่องจากทิศทางอุตสาหกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีแนวโน้มการเติบโตสูง ทั้งนี้การเติบโตของกำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้ไม่มาก โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 10 ล้านบาท คือจากระดับ 77 ล้านบาท ในปี 2545 เป็น 86 ล้านบาทในปี 2546 แต่คาดว่า ปี 2547 กำไรสุทธิของบริษัทจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 26%
นักวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวเสริมว่า ในภาคอุตสาหกรรมยางรถยนต์นั้นมีความเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากดูจากปัจจัยพื้นฐานแล้วคิดว่าดี เทรดวันแรกน่าจะเหนือราคาจอง ซึ่งบวกภาวะหุ้นในช่วงนี้ที่มีแนวโน้มเติบโตดีพอสมควร โดยมีภาครัฐเข้ามาสนับสนุน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังเป็นห่วงในส่วนของต้นทุนวัตถุดิบของบริษัท จากที่ราคายางพาราและน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งอาจจะกระทบต่อมาร์จินของบริษัทได้
สำหรับผลดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2546 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 1,113 ล้านบาท และกำไรสุทธิเท่ากับ 53 ล้านบาท ตามลำดับ มีอัตรากำไรขั้นต้น 16% ทั้งนี้บริษัทยังมีนโยบายปันผลประมาณ 30% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย และเงินทุนสำรองอื่นๆ
ส่วนบริษัทผลิตภัณฑ์ชลบุรีคอนกรีต มีราคาเป้าหมายสิ้นปี 2547 ที่ระดับ 28 บาท จากระดับราคาจองที่ 25 บาท รวมทั้งคาดว่า บริษัทจะสามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ในปีหน้า เนื่องจากสามารถล้างขาดทุนสะสม ณ ไตรมาส 2 ปีนี้ ที่มีอยู่ประมาณ 101 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนงานที่จะขยายโครงการลงทุนใหม่ จึงคาดว่าจะทำให้กำไรสุทธิปีนี้จะเติบโต 161% และปีหน้า 34% หรือประมาณ 144 ล้านบาท และ 193 ล้านบาทตามลำดับ
นักวิเคราะห์ บล.บี ฟิท กล่าวเสริมว่า น่าจะดีเพราะมีการเติบโตของเศรษฐกิจวัสดุก่อสร้างอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยมีปัจจัยทางตลาดที่เอื้ออยู่มาก สำหรับผลดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2546 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานและกำไรสุทธิเท่ากับ 844 ล้านบาท และ 104 ล้านบาท ตามลำดับ มีอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ หลังปรับรายการพิเศษเท่ากับ 18% และ 12% ทั้งนี้ ก็ยังมีนโยบายปันผลประมาณ 40% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย
สำหรับบริษัทสิงห์พาราเทค มีราคาเป้าหมายสิ้นปี 2547 ที่ระดับ 24-28 บาท จากระดับราคาจองที่ 21 บาท คาดว่าบริษัทจะมีอัตราการทำกำไรปีนี้ 113 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 85% และปีหน้า 125 ล้านบาท คิดเป็น 35% อย่างไรก็ตามเป้าหมายระดับราคาดังกล่าวของทั้ง 3 บริษัท เป็นเป้าหมายในระยะ 12 เดือน
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า บริษัทแนะนำลงทุนในหุ้นของบริษัทผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี เนื่องจากมีอัตราการเติบโตของรายได้ในระดับสูง จากการทำธุรกิจคอนกรีตครบวงจร นอกจากนี้ยังจะขยายการลงทุน ไปยังคอนกรีตผสมเสร็จและอิฐมวลเบา รวมทั้งมีการเปิดสาขาร้านค้าปลีกเพิ่มอีก 1 แห่ง จึงคาดว่าราคาเป้าหมายสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 37 บาท และสิ้นปีหน้าจะอยู่ที่ 55 บาท
"ราคาหุ้นในวันแรก คาดว่าจะสูงกว่าราคาจองแน่นอน เพราะขณะนี้กระแสหุ้นไอพีโอมาแรง ทำให้นักลงทุนสนใจที่จะจองซื้อหุ้นใหม่มากขึ้น" นักวิเคราะห์กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com/2003/12/1 ... 33830.html
3 หุ้นใหม่จูงมือเข้าซื้อขายสัปดาห์นี้
3 หุ้นใหม่จ่อคิวเทรดสัปดาห์นี้ "ฮั้วฟง-ชลบุรี คอนกรีต -สิงห์พาราเทค" โบรกเกอร์มั่นใจราคาเหนือจอง เหตุพื้นฐานดี กระแสหุ้นจองแรง ขณะเดียวกันภาวะการลงทุนในหุ้นตลาดเอื้ออำนวย
นักวิเคราะห์จากหลายสำนักยืนยันว่า หุ้นใหม่ของ 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัทฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) และบริษัทผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี ซึ่งจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์กลุ่มวัสดุก่อสร้างและตกแต่งในวันที่ 15 และ 16 ธันวาคมนี้ รวมถึงหุ้นของบริษัทสิงห์พาราเทค ซึ่งคาดว่าจะเข้าซื้อขายประมาณวันที่ 19 ธันวาคม ราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นกว่าระดับราคาจอง เนื่องจากราคาเป้าหมายของแต่ละบริษัท ยังสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่องในปีหน้า รวมทั้งภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นเอื้ออำนวย นักลงทุนให้ความสนใจหุ้นที่เข้ามาซื้อขายใหม่
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า การซื้อขายหุ้นของบริษทฮั้วฟง รับเบอร์ (ประเทศไทย) วันแรกราคาน่าจะสูงกว่าราคาจองที่ระดับ 35.50 บาท โดยมีการประเมินราคาเป้าหมายที่เหมาะสมในปี 2547 อยู่ที่ระดับ 42 บาท เนื่องจากทิศทางอุตสาหกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีแนวโน้มการเติบโตสูง ทั้งนี้การเติบโตของกำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้ไม่มาก โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 10 ล้านบาท คือจากระดับ 77 ล้านบาท ในปี 2545 เป็น 86 ล้านบาทในปี 2546 แต่คาดว่า ปี 2547 กำไรสุทธิของบริษัทจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 26%
นักวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวเสริมว่า ในภาคอุตสาหกรรมยางรถยนต์นั้นมีความเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากดูจากปัจจัยพื้นฐานแล้วคิดว่าดี เทรดวันแรกน่าจะเหนือราคาจอง ซึ่งบวกภาวะหุ้นในช่วงนี้ที่มีแนวโน้มเติบโตดีพอสมควร โดยมีภาครัฐเข้ามาสนับสนุน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังเป็นห่วงในส่วนของต้นทุนวัตถุดิบของบริษัท จากที่ราคายางพาราและน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งอาจจะกระทบต่อมาร์จินของบริษัทได้
สำหรับผลดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2546 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 1,113 ล้านบาท และกำไรสุทธิเท่ากับ 53 ล้านบาท ตามลำดับ มีอัตรากำไรขั้นต้น 16% ทั้งนี้บริษัทยังมีนโยบายปันผลประมาณ 30% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย และเงินทุนสำรองอื่นๆ
ส่วนบริษัทผลิตภัณฑ์ชลบุรีคอนกรีต มีราคาเป้าหมายสิ้นปี 2547 ที่ระดับ 28 บาท จากระดับราคาจองที่ 25 บาท รวมทั้งคาดว่า บริษัทจะสามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ในปีหน้า เนื่องจากสามารถล้างขาดทุนสะสม ณ ไตรมาส 2 ปีนี้ ที่มีอยู่ประมาณ 101 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนงานที่จะขยายโครงการลงทุนใหม่ จึงคาดว่าจะทำให้กำไรสุทธิปีนี้จะเติบโต 161% และปีหน้า 34% หรือประมาณ 144 ล้านบาท และ 193 ล้านบาทตามลำดับ
นักวิเคราะห์ บล.บี ฟิท กล่าวเสริมว่า น่าจะดีเพราะมีการเติบโตของเศรษฐกิจวัสดุก่อสร้างอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยมีปัจจัยทางตลาดที่เอื้ออยู่มาก สำหรับผลดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2546 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานและกำไรสุทธิเท่ากับ 844 ล้านบาท และ 104 ล้านบาท ตามลำดับ มีอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ หลังปรับรายการพิเศษเท่ากับ 18% และ 12% ทั้งนี้ ก็ยังมีนโยบายปันผลประมาณ 40% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย
สำหรับบริษัทสิงห์พาราเทค มีราคาเป้าหมายสิ้นปี 2547 ที่ระดับ 24-28 บาท จากระดับราคาจองที่ 21 บาท คาดว่าบริษัทจะมีอัตราการทำกำไรปีนี้ 113 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 85% และปีหน้า 125 ล้านบาท คิดเป็น 35% อย่างไรก็ตามเป้าหมายระดับราคาดังกล่าวของทั้ง 3 บริษัท เป็นเป้าหมายในระยะ 12 เดือน
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า บริษัทแนะนำลงทุนในหุ้นของบริษัทผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี เนื่องจากมีอัตราการเติบโตของรายได้ในระดับสูง จากการทำธุรกิจคอนกรีตครบวงจร นอกจากนี้ยังจะขยายการลงทุน ไปยังคอนกรีตผสมเสร็จและอิฐมวลเบา รวมทั้งมีการเปิดสาขาร้านค้าปลีกเพิ่มอีก 1 แห่ง จึงคาดว่าราคาเป้าหมายสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 37 บาท และสิ้นปีหน้าจะอยู่ที่ 55 บาท
"ราคาหุ้นในวันแรก คาดว่าจะสูงกว่าราคาจองแน่นอน เพราะขณะนี้กระแสหุ้นไอพีโอมาแรง ทำให้นักลงทุนสนใจที่จะจองซื้อหุ้นใหม่มากขึ้น" นักวิเคราะห์กล่าว
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2431
- ผู้ติดตาม: 0
ลุงขวด พี่ ครรชิต คุณคัดท้าย ครับ Singha ราคาเหมาะสม เท่าใด
โพสต์ที่ 7
ผมไม่มีครับ แต่สนใจอยู่ เลยไม่ได้ตามเท่าไหร่ แต่ เท่าที่ดูน่าจะเป็นกิจการที่ดี ไม่เสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยนเท่าไหร่ เพราะ เขาขายให้ทาง ยุโรป มากกว่า ทาง อเมริกา........ความเสี่ยงมีเพียงต้นทุนไม้ยางที่เขาใช้ ราคาสูงขึ้นเท่านั้นเอง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ลุงขวด พี่ ครรชิต คุณคัดท้าย ครับ Singha ราคาเหมาะสม เท่าใด
โพสต์ที่ 8
ไม่ใช่แค่ยางพาราด้วยครับ SINGHA สั่งไม้เกือบทุกชนิดเพื่อทำ
หน้าไม้ปาร์เก้ รวมทั้งการ import ไม้ต่างประเทศด้วย เช่นไม้
เชอร์รี่
ธุรกิจที่เกี่ยวกับไม้ มองในมุมหนึ่งก็ว่าดีครับ คือเป็นที่ต้องการ
ของตลาด แต่ในอีกมุมหนึ่งคือไม้เป็น scarce resources ซึ่ง
มีปริมาณวัตถุดิบ (ต่อปี) จำกัด ทำให้เมื่อเกิด demand สูงขึ้น
ราคาต้นทุนจะพุ่งขึ้นสูง
แต่ข้อดีของ SINGHA คือจะเริ่มหันไปผลิตปาร์เก้ "สิงห์ลาย"
ที่ราคาสูงขึ้น และมาร์จิ้นสูงขึ้นด้วยครับ ซึ่งสินค้าประเภท
อัตรากำไรขั้นต้นสูงจะได้รับผลกระทบด้านยอดขายน้อยถ้า
ราคาวัตถุดิบเปลี่ยนแปลง
ผู้บริหารว่าที่บริษัทฯต้องการเข้าตลาดก็เพื่อระดมทุนในการ
เพิ่มเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตครับ และกำลังการผลิต
ใหม่จะเน้นไปที่ "ไฮเอนด์" ซึ่งขายดีมากจนผลิตไม่ทัน
เท่าที่ผมดูคร่าวๆ 2-3 ปีข้างหน้าจะเป็นปีที่บริษัทฯจะต้องโต
แบบก้าวกระโดด โดยการเพิ่มกำลังการผลิตมากๆ และดัน
ยอดขาย หลังจากที่อัตราการเติบโตเริ่มชะลอตัวลง บริษัท
ควรจะหันมาปรับปรุงขบวนการเพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่ง
ถ้าทำได้จะทำให้ได้กำไรเพิ่มโดยที่ยอดขายคงที่
หน้าไม้ปาร์เก้ รวมทั้งการ import ไม้ต่างประเทศด้วย เช่นไม้
เชอร์รี่
ธุรกิจที่เกี่ยวกับไม้ มองในมุมหนึ่งก็ว่าดีครับ คือเป็นที่ต้องการ
ของตลาด แต่ในอีกมุมหนึ่งคือไม้เป็น scarce resources ซึ่ง
มีปริมาณวัตถุดิบ (ต่อปี) จำกัด ทำให้เมื่อเกิด demand สูงขึ้น
ราคาต้นทุนจะพุ่งขึ้นสูง
แต่ข้อดีของ SINGHA คือจะเริ่มหันไปผลิตปาร์เก้ "สิงห์ลาย"
ที่ราคาสูงขึ้น และมาร์จิ้นสูงขึ้นด้วยครับ ซึ่งสินค้าประเภท
อัตรากำไรขั้นต้นสูงจะได้รับผลกระทบด้านยอดขายน้อยถ้า
ราคาวัตถุดิบเปลี่ยนแปลง
ผู้บริหารว่าที่บริษัทฯต้องการเข้าตลาดก็เพื่อระดมทุนในการ
เพิ่มเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตครับ และกำลังการผลิต
ใหม่จะเน้นไปที่ "ไฮเอนด์" ซึ่งขายดีมากจนผลิตไม่ทัน
เท่าที่ผมดูคร่าวๆ 2-3 ปีข้างหน้าจะเป็นปีที่บริษัทฯจะต้องโต
แบบก้าวกระโดด โดยการเพิ่มกำลังการผลิตมากๆ และดัน
ยอดขาย หลังจากที่อัตราการเติบโตเริ่มชะลอตัวลง บริษัท
ควรจะหันมาปรับปรุงขบวนการเพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่ง
ถ้าทำได้จะทำให้ได้กำไรเพิ่มโดยที่ยอดขายคงที่
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
ลุงขวด พี่ ครรชิต คุณคัดท้าย ครับ Singha ราคาเหมาะสม เท่าใด
โพสต์ที่ 10
ผมก็ได้ไม่เยอะครับ ได้มา 1,000 หุ้นขายไปที่ 31.75 ครับ โดนคุณ Solo ตัดหน้าไป อิอิ
ตอนนี้ซัดกันฝุ่นตลบ กะไว้ว่าจะรอให้ ฝุ่นจางก่อน ค่อยเข้าไปเก็บใหม่ครับ
ตอนนี้ซัดกันฝุ่นตลบ กะไว้ว่าจะรอให้ ฝุ่นจางก่อน ค่อยเข้าไปเก็บใหม่ครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ลุงขวด พี่ ครรชิต คุณคัดท้าย ครับ Singha ราคาเหมาะสม เท่าใด
โพสต์ที่ 14
ตัวนี้ผมได้น้อยมากครับ เขาให้เป็น "สินน้ำใจ" ครับ
เป้าหมายของผมจึงไม่ใช่ตัวเลขราคาขาย เป็นเวลามากกว่าครับ
ผมอยากติดตามผลการดำเนินการของเขาไปสัก 3 ปีว่า ผู้บริหาร
มีลับลมคมในหรือไม่ มีความพยายามในการคุมต้นทุน เพิ่มยอด
ขายหรือไม่ และจัดการกับปัญหาเมื่อเกิดวิกฤตอย่างไร และอยาก
รู้ว่าเมื่อพ้น silent period แล้วผู้ถือหุ้นใหญ่จะขายหรือไม่
ถึงเวลานั้นค่อยตัดสินใจว่า จะ upgrade หรือขายทิ้งไป
สมมุติเล่นๆนะครับ ว่าราคาเกิดบ้าเลือดขึ้นไป 100 บาท แล้วตก
ฮวบลงมาเหลือแค่ 10 บาท ผมก็คงจะถือไว้เฉยๆครับตัวนี้ เพราะ
เท่าที่ดู ผู้บริหารยังไม่มีประวัติเสียหายครับ เป็นธุรกิจครอบครัว
ของตระกูล โบว์เสรีวงศ์ ซึ่งผมคิดว่าคุณบุญรอดนับเป็นผู้ที่มี
วิสัยทัศน์และความสามารถทีเดียว
เป้าหมายของผมจึงไม่ใช่ตัวเลขราคาขาย เป็นเวลามากกว่าครับ
ผมอยากติดตามผลการดำเนินการของเขาไปสัก 3 ปีว่า ผู้บริหาร
มีลับลมคมในหรือไม่ มีความพยายามในการคุมต้นทุน เพิ่มยอด
ขายหรือไม่ และจัดการกับปัญหาเมื่อเกิดวิกฤตอย่างไร และอยาก
รู้ว่าเมื่อพ้น silent period แล้วผู้ถือหุ้นใหญ่จะขายหรือไม่
ถึงเวลานั้นค่อยตัดสินใจว่า จะ upgrade หรือขายทิ้งไป
สมมุติเล่นๆนะครับ ว่าราคาเกิดบ้าเลือดขึ้นไป 100 บาท แล้วตก
ฮวบลงมาเหลือแค่ 10 บาท ผมก็คงจะถือไว้เฉยๆครับตัวนี้ เพราะ
เท่าที่ดู ผู้บริหารยังไม่มีประวัติเสียหายครับ เป็นธุรกิจครอบครัว
ของตระกูล โบว์เสรีวงศ์ ซึ่งผมคิดว่าคุณบุญรอดนับเป็นผู้ที่มี
วิสัยทัศน์และความสามารถทีเดียว