ส่งประกวดกันดีกว่า
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ส่งประกวดกันดีกว่า
โพสต์ที่ 1
เห็นว่าเริ่มชินกับสีแดงกันแล้ว เรามาเริ่มมองๆหาของดีราคาประหยัดกันดีกว่า ถือเป็นการทำการบ้านไปในตัว
ดังนั้นใครส่งบริษัทไหนประกวดก็ เอาข้อมูลสั้นๆละกัน
1 ประวัติการเติบโต
2 ผลกระทบต่อเหตุการณ์ต่างๆที่เคยผ่านมา และผลที่เกิด
3 การคาดหมายอนาคตสัก 5 ปีจากนี้
4 ฐานะทางการเงิน และการจ่ายปันผล
5 ความเห็นและแหล่งข้อมูลอ้างอิง
เอาทั้งหมดมารวมกันไว้ในกระทู้นี้ แล้วต่างคนก็เอาข้อมูลคร่าวๆนี้ไปศึกษาต่อละกัน จะได้ไม่ว่างจนเกินไป แถมมีประโยชน์ด้วย
ดังนั้นใครส่งบริษัทไหนประกวดก็ เอาข้อมูลสั้นๆละกัน
1 ประวัติการเติบโต
2 ผลกระทบต่อเหตุการณ์ต่างๆที่เคยผ่านมา และผลที่เกิด
3 การคาดหมายอนาคตสัก 5 ปีจากนี้
4 ฐานะทางการเงิน และการจ่ายปันผล
5 ความเห็นและแหล่งข้อมูลอ้างอิง
เอาทั้งหมดมารวมกันไว้ในกระทู้นี้ แล้วต่างคนก็เอาข้อมูลคร่าวๆนี้ไปศึกษาต่อละกัน จะได้ไม่ว่างจนเกินไป แถมมีประโยชน์ด้วย
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ส่งประกวดกันดีกว่า
โพสต์ที่ 3
uec ครับ
ไม่ชัวนะครับ กำไร เก้าเดือน 1.41 กำไร 12 เดือนเท่าไรนี่ สมมุติว่า 1.88
ราคา 12 บาท pe 6.38 นั่นหมายถึง ได้ผลตอบแทน 15.67 % ต่อปี
คือ ฝาก 12 ได้กำไร 1.88 ก็เท่ากับ 15.67 %
ในขณะที่ 15.67 % มีโอกาสโตขึ้น แต่คิดว่า การโตเป็นของแถมละกัน เพราะเป็นหุ้นใหม่
หุ้นตัวนี้ประวัติปันผลดี
ไม่ชัวนะครับ กำไร เก้าเดือน 1.41 กำไร 12 เดือนเท่าไรนี่ สมมุติว่า 1.88
ราคา 12 บาท pe 6.38 นั่นหมายถึง ได้ผลตอบแทน 15.67 % ต่อปี
คือ ฝาก 12 ได้กำไร 1.88 ก็เท่ากับ 15.67 %
ในขณะที่ 15.67 % มีโอกาสโตขึ้น แต่คิดว่า การโตเป็นของแถมละกัน เพราะเป็นหุ้นใหม่
หุ้นตัวนี้ประวัติปันผลดี
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ส่งประกวดกันดีกว่า
โพสต์ที่ 4
ถ้านับจากปี 2545-2546
ในกลุ่มประกันภัยและกลุ่มประกันชีวิต
ก็ต้องตัวนี้SCNYL
จะซื้อก็แทบจะไม่มีให้ซื้อ
จะขายก็ไม่มีคนให้ขาย
เอาไงดีล่ะเนี่ย
เป็นตัวเดียวของวงการประกันชีวิตที่เหลืออยู่ในตลาด(ห)ลักทรัพย์
แถมขึ้นเครื่องหมายCMอีกต่างหาก เอากับมันซิ
โอกาสโตได้อีก เพราะคนไทยยังทำประกันชีวิตน้อยอยู่
ดอกเบี้ยมีสัญญาณว่าจะลดลง
ตลาดตราสารหนี้ปีที่แล้วสดใสมากๆๆ แล้วปีนี้จะเป็นไงต่อไป
นอมินี ไม่โดนแน่นอน เพราะมีธนาคารไทยพาณิชย์ถือหุ้นมากกว่าต่างชาติ
เรื่องของบริษัทประกันภัยเป็นกฏหมายเฉพาะน่าครับ ต้องไปเปิดย้อนหลังช่วงปี 2539 ที่ให้จัดตั้งบริษัทประกันภัยใหม่ช่วงนั้น มีเรื่องสนุกอีกเพียบเลย
ในกลุ่มประกันภัยและกลุ่มประกันชีวิต
ก็ต้องตัวนี้SCNYL
SCNYL : บริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (ล้านบาท)
ณ วันที่ 2006
30/09/2549 2005 31/12/2548 2004 31/12/2547 2003 31/12/2546 2002 31/12/2545
สินทรัพย์รวม 19,101.66 14,337.54 8,442.31 4,903.70 3,393.89
หนี้สินรวม 17,996.02 13,597.35 8,142.45 4,405.01 2,934.57
ส่วนของผู้ถือหุ้น 1,105.64 740.19 299.86 498.68 459.32
มูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้ว 665.00 665.00 500.00 500.00 500.00
รายได้รวม 7,912.24 9,125.93 6,043.00 2,742.18 1,465.30
กำไรสุทธิ 373.80 289.65 -170.63 37.22 22.04
กำไรต่อหุ้น(บาท) 5.62 4.64 -3.41 0.74 0.44
ROA(%)* 3.47 2.54 -2.56 0.90 0.70
ROE(%)* 51.14 55.70 -42.74 7.77 4.73
อัตรากำไรสุทธิ(%) 4.72 3.17 -2.82 1.36 1.50
ณ วันที่ 09/01/2550 29/12/2549 30/12/2548 30/12/2547 31/12/2546
อัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น(เท่า) 11.02 11.02 20.16 N.A. 13.21
อัตราส่วนราคาปิดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี(เท่า) 4.51 4.51 5.11 2.54 1.48
มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น(บาท) 16.63 16.63 9.98 6.88 10.14
อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน(%) - - - - -
ราคาล่าสุด(บาท) 75.00 75.00 51.00 17.50 15.00
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 4,987.50 4,987.50 3,391.50 875.00 750.00
* - ปรับเต็มปี
จะซื้อก็แทบจะไม่มีให้ซื้อ
จะขายก็ไม่มีคนให้ขาย
เอาไงดีล่ะเนี่ย
เป็นตัวเดียวของวงการประกันชีวิตที่เหลืออยู่ในตลาด(ห)ลักทรัพย์
แถมขึ้นเครื่องหมายCMอีกต่างหาก เอากับมันซิ
โอกาสโตได้อีก เพราะคนไทยยังทำประกันชีวิตน้อยอยู่
ดอกเบี้ยมีสัญญาณว่าจะลดลง
ตลาดตราสารหนี้ปีที่แล้วสดใสมากๆๆ แล้วปีนี้จะเป็นไงต่อไป
นอมินี ไม่โดนแน่นอน เพราะมีธนาคารไทยพาณิชย์ถือหุ้นมากกว่าต่างชาติ
แถมกรมการประกันภัยก็โคตรตรวจสอบเรื่องนี้อยู่แล้วด้วย
SCNYL : บริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
ผู้ถือหุ้นรายย่อย ณ วันที่ 07/04/2549
จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) 274 % การถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (% Free float) 5.34
ภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 07/04/2549 ประเภทการปิดสมุดทะเบียน : XM
จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด 348 % การถือหุ้นแบบไร้ใบหุ้น 55.21
ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น (หุ้น) % หุ้น
1 ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 31,475,016 47.33
2 NEW YORK LIFE INTERNATIONAL, LLC. 15,886,267 23.89
3 บริษัท พีเอ็มซีซี (ประเทศไทย) จำกัด 15,588,750 23.44
4 บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) 625,000 0.94
5 นางประนอม ภู่ตระกูล 380,145 0.57
เรื่องของบริษัทประกันภัยเป็นกฏหมายเฉพาะน่าครับ ต้องไปเปิดย้อนหลังช่วงปี 2539 ที่ให้จัดตั้งบริษัทประกันภัยใหม่ช่วงนั้น มีเรื่องสนุกอีกเพียบเลย
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4526
- ผู้ติดตาม: 0
ส่งประกวดกันดีกว่า
โพสต์ที่ 5
AIT ครับ มี back logเกิน 800 ล้านสําหรับปี 07
9 เดือนที่ผ่านมา กําไร 3.96 บาทหุ้น และคาดว่า Q 4จะราวๆ .7-.8 บาทหุ้น
ราคา ณ ปัจจุบัน ถูกครับ ราคาที่ 19 บาท epsทั้งปี 06 ได้ราวๆ 4.6 บาท
ก้จะได้ peที่ 4.13 แต่ว่าปีที่ผ่านมา มีรายการพิเศษคือ กลับสํารอง
หากไม่รวมรายการน้น eps ของ ปี 06 จะอยู่แถวๆ 4.6-.7 =3.9 บาท
ซึ่งก็ยังถือว่าถูกเมื่อเทียบ กับ บริษัทที่ดําเนินธุรกิจคล้ายกัน เช่น IRCP MFEC
จากการสอบถามบริษัทๆแจ้งว่ามีแผนประมูลงานต่อจากปีที่แล้วอย่างมากและมั่นใจว่าโตไม่ตํากว่า 15 % ในขณะที่ผู้บริหารตั้งเป้าโต 20-25 %
งบการเงินแกร่งครับ FCFก็สวย ลองดูเองนะเพราะผมจําไม่ได้ครับ
จุดที่น่าสนใจคือ โอกาศในการชนะประมูลสูงเนื่องจาก ธุรกิจนี้ ขายความเชื่อมั่น และผลงานในอดีตครับ ลูกค้าหลักๆคือ TOT and CAT
บวกกับทั้ง 2 บจ นี้มีงานต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่จะรอเปิดให้ประมูล และยังมีโครงการติดตั้งระบบให้กับโรงไฟฟ้า รอเปิดประมูลเช่นกัน
ปันผลจ่ายไม่น้อยกว่า 40 % ของกําไรสุทฺธิ
อนาคต 5 ปี ไม่ทราบครับ เพราะต้องประมูลงาน ทราบแต่ว่าปี07นี้โอกาศโตตามเป้าสูงครับ
ผลกระทบต่อ BOMB ไม่ครับเพราะยังไง TOT and CAT ก็ต้องติดตั้งระบบสารสนเทศ
9 เดือนที่ผ่านมา กําไร 3.96 บาทหุ้น และคาดว่า Q 4จะราวๆ .7-.8 บาทหุ้น
ราคา ณ ปัจจุบัน ถูกครับ ราคาที่ 19 บาท epsทั้งปี 06 ได้ราวๆ 4.6 บาท
ก้จะได้ peที่ 4.13 แต่ว่าปีที่ผ่านมา มีรายการพิเศษคือ กลับสํารอง
หากไม่รวมรายการน้น eps ของ ปี 06 จะอยู่แถวๆ 4.6-.7 =3.9 บาท
ซึ่งก็ยังถือว่าถูกเมื่อเทียบ กับ บริษัทที่ดําเนินธุรกิจคล้ายกัน เช่น IRCP MFEC
จากการสอบถามบริษัทๆแจ้งว่ามีแผนประมูลงานต่อจากปีที่แล้วอย่างมากและมั่นใจว่าโตไม่ตํากว่า 15 % ในขณะที่ผู้บริหารตั้งเป้าโต 20-25 %
งบการเงินแกร่งครับ FCFก็สวย ลองดูเองนะเพราะผมจําไม่ได้ครับ
จุดที่น่าสนใจคือ โอกาศในการชนะประมูลสูงเนื่องจาก ธุรกิจนี้ ขายความเชื่อมั่น และผลงานในอดีตครับ ลูกค้าหลักๆคือ TOT and CAT
บวกกับทั้ง 2 บจ นี้มีงานต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่จะรอเปิดให้ประมูล และยังมีโครงการติดตั้งระบบให้กับโรงไฟฟ้า รอเปิดประมูลเช่นกัน
ปันผลจ่ายไม่น้อยกว่า 40 % ของกําไรสุทฺธิ
อนาคต 5 ปี ไม่ทราบครับ เพราะต้องประมูลงาน ทราบแต่ว่าปี07นี้โอกาศโตตามเป้าสูงครับ
ผลกระทบต่อ BOMB ไม่ครับเพราะยังไง TOT and CAT ก็ต้องติดตั้งระบบสารสนเทศ
-
- Verified User
- โพสต์: 1266
- ผู้ติดตาม: 0
ส่งประกวดกันดีกว่า
โพสต์ที่ 7
BAFS ตอบเรียงตามข้อ
1 ประวัติการเติบโต
http://www.settrade.com/S13_FastQuote.j ... lectPage=3
2 ผลกระทบเหตุการณ์ที่ผ่านมา
หนักๆ ก็โรค ซารส์ ระบาด ทำให้กระทบต่ออุตสาหกรรมการบินทั่วโลก
3 การคาดหมายอนาคต 5 ปี
รายได้ปี 50 เติบโตได้จากการปรับราคาค่าบริการจาก 2.74 เซนต์ต่อแกลลอน เป็น 5 เซนต์ต่อแกลลอน แม้ว่าจะมี ASIG มาแชร์ในส่วน INTO Plane ประมาณ 10% แต่ในส่วน คลัง และ Hydrant ยังเป็น BAFS เจ้าเดียว
ค่าเสื่อมเริ่มคิด แต่ไม่กระทบกระแสเงินสด เริ่มชำระหนี้ในปี 50 แต่ คาดว่าการปรับค่าบริการ Cover ทำให้กำไรเพิ่มขึ้นอยู่ดี
ตั้งแต่ปี 50 การเติบโตจะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำมันที่ให้บริการ ซึ่งผูกกับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมการบิน มองว่าจะเติบโตได้ดี จากการขยายกองบินของสายการบินต่างๆ การขยายของโลว์คอสต์แอร์ไลน์ และ โอกาสการเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค จะทำได้หรือไม่ ผมไม่รู้ แต่ดูจากที่ตั้งของไทยที่อยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตรแล้วได้เปรียบกว่าชางฮี
4 ฐานะทางการเงิน ปันผล
ตามลิงค์ในข้อ 1
5 ความเห็น แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ความเห็นส่วนตัว ช้าๆ มั่นคง เหมาะกับ คนแก่ และ Value Inverstor ในห้วงเดือนที่ผ่านมา Outperform ตลาด ลงไม่มาก ดูราคาย้อนหลังได้จาก Settrade.com ผู้บริหารเก็บหุ้น ที่ 10.4 เร็วๆนี้
ข้อมูลอ้างอิง http://www.bafsthai.com/ และร้อยคนร้อยหุ้น
1 ประวัติการเติบโต
http://www.settrade.com/S13_FastQuote.j ... lectPage=3
2 ผลกระทบเหตุการณ์ที่ผ่านมา
หนักๆ ก็โรค ซารส์ ระบาด ทำให้กระทบต่ออุตสาหกรรมการบินทั่วโลก
3 การคาดหมายอนาคต 5 ปี
รายได้ปี 50 เติบโตได้จากการปรับราคาค่าบริการจาก 2.74 เซนต์ต่อแกลลอน เป็น 5 เซนต์ต่อแกลลอน แม้ว่าจะมี ASIG มาแชร์ในส่วน INTO Plane ประมาณ 10% แต่ในส่วน คลัง และ Hydrant ยังเป็น BAFS เจ้าเดียว
ค่าเสื่อมเริ่มคิด แต่ไม่กระทบกระแสเงินสด เริ่มชำระหนี้ในปี 50 แต่ คาดว่าการปรับค่าบริการ Cover ทำให้กำไรเพิ่มขึ้นอยู่ดี
ตั้งแต่ปี 50 การเติบโตจะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำมันที่ให้บริการ ซึ่งผูกกับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมการบิน มองว่าจะเติบโตได้ดี จากการขยายกองบินของสายการบินต่างๆ การขยายของโลว์คอสต์แอร์ไลน์ และ โอกาสการเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค จะทำได้หรือไม่ ผมไม่รู้ แต่ดูจากที่ตั้งของไทยที่อยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตรแล้วได้เปรียบกว่าชางฮี
4 ฐานะทางการเงิน ปันผล
ตามลิงค์ในข้อ 1
5 ความเห็น แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ความเห็นส่วนตัว ช้าๆ มั่นคง เหมาะกับ คนแก่ และ Value Inverstor ในห้วงเดือนที่ผ่านมา Outperform ตลาด ลงไม่มาก ดูราคาย้อนหลังได้จาก Settrade.com ผู้บริหารเก็บหุ้น ที่ 10.4 เร็วๆนี้
ข้อมูลอ้างอิง http://www.bafsthai.com/ และร้อยคนร้อยหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 697
- ผู้ติดตาม: 0
ส่งประกวดกันดีกว่า
โพสต์ที่ 8
SATTEL ราคาปัจจุบัน 5.60 บาท , ขณะที่ book value 11.73
รายได้หลักๆมาจาก
- ธุรกิจดาวเทียม ขณะนี้มี ipstar , thaicom2 , thaicom5 (58% ของรายได้ทั้งหมด)
- ธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานและเคลื่อนที่ ในลาว(หมดปี 2564) , ในกัมพูชา(หมด 2571) (40% ของรายได้ทั้งหมด)
- ธุรกิจ internetและสมุดโทรศัพท์ ถือหุ้นผ่าน csloxinfo (ประมาณ 2% ของรายได้ทั้งหมด)
ผลประกอบการที่ผ่านมาในปีที่แล้ว ขาดทุนสะสม เนื่องจากเป็นช่วงการเปลี่ยนดาวเทียมที่
หมดอายุไป 2 ดวงและหนี้เพิ่มจากการดาวเทียม ipstar , thaicom5
ปีนี้น่าจะเริ่มรับรู้กำไร เนื่องจากการเปิดให้บริการที่เพิ่มขึ้น ใน ipstar และ thaicom5
คาดการอีกหลังจากนี้กำไรน่าจะกลับมาเป็นบวก
ความเสี่ยงเรื่องสัมประทาน sattel ไม่ได้อยู่ใน list เรื่องการทำผิดข้อตกลงสัมประทาน
และ การถือหุ้น โดยกลุ่มชิน + ต่างชาติ มีอยู่ประมาณ 45% ซึ่งยังไม่เกิน 49%
จึงไม่น่ามีปัญหาเรื่อง นอมินี่
ฐานะทางการเงิน ไตรมาส3
Current asset มี 2,683 ล้านบาท , total asset มี 33,474 ล้านบาท
Current liabilities มี 6861 ล้านบาท , total liabilities 20,623 ล้านบาท
Cash อยู่ 354 ล้านบาท
ใน 2-3 ปีข้าง บริษัทคงงดการจ่ายปันผล
ราคาปัจจุบันค่อนข้างต่ำ ราคาพาร์ของหุ้นอยู่ที่ 5 บาท
รายได้หลักๆมาจาก
- ธุรกิจดาวเทียม ขณะนี้มี ipstar , thaicom2 , thaicom5 (58% ของรายได้ทั้งหมด)
- ธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานและเคลื่อนที่ ในลาว(หมดปี 2564) , ในกัมพูชา(หมด 2571) (40% ของรายได้ทั้งหมด)
- ธุรกิจ internetและสมุดโทรศัพท์ ถือหุ้นผ่าน csloxinfo (ประมาณ 2% ของรายได้ทั้งหมด)
ผลประกอบการที่ผ่านมาในปีที่แล้ว ขาดทุนสะสม เนื่องจากเป็นช่วงการเปลี่ยนดาวเทียมที่
หมดอายุไป 2 ดวงและหนี้เพิ่มจากการดาวเทียม ipstar , thaicom5
ปีนี้น่าจะเริ่มรับรู้กำไร เนื่องจากการเปิดให้บริการที่เพิ่มขึ้น ใน ipstar และ thaicom5
คาดการอีกหลังจากนี้กำไรน่าจะกลับมาเป็นบวก
ความเสี่ยงเรื่องสัมประทาน sattel ไม่ได้อยู่ใน list เรื่องการทำผิดข้อตกลงสัมประทาน
และ การถือหุ้น โดยกลุ่มชิน + ต่างชาติ มีอยู่ประมาณ 45% ซึ่งยังไม่เกิน 49%
จึงไม่น่ามีปัญหาเรื่อง นอมินี่
ฐานะทางการเงิน ไตรมาส3
Current asset มี 2,683 ล้านบาท , total asset มี 33,474 ล้านบาท
Current liabilities มี 6861 ล้านบาท , total liabilities 20,623 ล้านบาท
Cash อยู่ 354 ล้านบาท
ใน 2-3 ปีข้าง บริษัทคงงดการจ่ายปันผล
ราคาปัจจุบันค่อนข้างต่ำ ราคาพาร์ของหุ้นอยู่ที่ 5 บาท
-
- Verified User
- โพสต์: 272
- ผู้ติดตาม: 0
ส่งประกวดกันดีกว่า
โพสต์ที่ 9
ผมของส่ง LST
1. สถานะการเงินไม่เลวร้ายอะไร
2. สถานะการณ์การคาดการณ์ของผลผลิตก็ตามlink http://www.oae.go.th/mis/Forecast/thai/ ... t_t_12.htm
3.ปริมาณการส่งออกก็สูงขึ้นมากข้อมูลตาม link http://www.oae.go.th/statistic/export/1301PL.xls
4. ราคาอ้างอิงรวมทั้งข้อมูลและปัจจัยทีชี้แนวโน้นด้านราคาที่เป็นบวกก็หาได้จากlink http://www.mpoc.org.my/mktstat_gofb_v3i3.asp
5. กำลังการสกัด และ กลั่นก็ยังเหลืออยู่อีกมาก ประกอบกับมีสวนเองบ้างส่วนด้วย
รวมๆแล้วสถานะการณ์ น่าจะเป็นบวกกับบริษัท รวมทั้งราคาปัจจุบันก็ต่ำกว่า book เล็กน้อย
1. สถานะการเงินไม่เลวร้ายอะไร
2. สถานะการณ์การคาดการณ์ของผลผลิตก็ตามlink http://www.oae.go.th/mis/Forecast/thai/ ... t_t_12.htm
3.ปริมาณการส่งออกก็สูงขึ้นมากข้อมูลตาม link http://www.oae.go.th/statistic/export/1301PL.xls
4. ราคาอ้างอิงรวมทั้งข้อมูลและปัจจัยทีชี้แนวโน้นด้านราคาที่เป็นบวกก็หาได้จากlink http://www.mpoc.org.my/mktstat_gofb_v3i3.asp
5. กำลังการสกัด และ กลั่นก็ยังเหลืออยู่อีกมาก ประกอบกับมีสวนเองบ้างส่วนด้วย
รวมๆแล้วสถานะการณ์ น่าจะเป็นบวกกับบริษัท รวมทั้งราคาปัจจุบันก็ต่ำกว่า book เล็กน้อย
Way of life is way of brain
- metro
- Verified User
- โพสต์: 861
- ผู้ติดตาม: 0
ส่งประกวดกันดีกว่า
โพสต์ที่ 10
ผมส่ง AHC เข้าประกวดครับ
AHC สามารถเติบโตได้ในทุกๆปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันมีจุดเปลี่ยนตรงที่ AHC ได้มีการเปิด รพ เอกชล 2 (อ่างศิลา) ขึ้นมาซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ AHC น่าจะโตอย่างก้าวกระโดดได้เมื่อ รพ เอกชล 2 สามารถเริ่มทำกำไรได้
รพ เอกชล 1 เป็นโรงพยาบาลที่มี Growth ทุกปี ดังนั้นตรงนี้ไม่น่าเป็นห่วง แต่การเปิด รพ เอกชล 2 ขึ้นมาจะเป็นตัวฉุดรั้งกำไรระยะสั้น(1-2 ปี) เพราะการเปิดกิจการในช่วงแรกคงต้องประสพกับปัญหาการขาดทุนจากการดำเนินการ แต่ถ้าเมื่อไรที่ รพ เอกชล 2 สามารถทำกำไรได้แล้ว การเติบโตจะค่อนข้างก้าวกระโดด
ผมเชื่อว่า รพ เอกชล 2 น่าจะไปได้ด้วยดี เนื่องจาก ชื่อเสียงของ รพ เอกชล 1 ที่สร้างมานานน่าจะเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการที่จะเข้ามาใช้บริการ รพ เอกชล 2 ได้ครับ
ผมว่าประเด็นที่สำคัญที่น่าจับตามอง คือ รพ เอกชล 2 จะใช้เวลานานขนาดไหนเพื่อที่จะสามารถทำกำไรได้นะครับ และผมเชื่อว่าผู้บริหารน่าจะทำให้ รพ เอกชล 2 ประสพความสำเร็จได้โดยเปรียบเทียบกับความสามารถที่ทำให้ รพ เอกชล 1 กำไรเพิ่มทุกๆปีที่ผ่านมา
ผมคิดว่าปัจจับบวกอื่นๆยังมี การเปิดสุวรรณภูมิน่าจะทำให้ชลบุรีเป็นเมืองท่ามากขึ้นทำให้มีการเพิ่มขึ้นของประชากรอย่างต่อเนื่องซึ่งคงเป็นผลบวกต่อ AHC ครับ
AHC มีแผนที่จะดัน กลุ่มลูกค้าประกันสังคมออกไปที่ รพ เอกชล 2 ซึ่งจะทำให้ รพ เอกชล 1 มีแต่กลุ่มลูกค้าระดับกลางบนครับ ซึ่งตรงนี้ รพ เอกชล จะดันตัวเองขึ้นไปจับกลุ่มลูกค้าระดับที่สูงขึ้นได้ และ จากการที่ดันระดับตัวเองขึ้นมาได้ รพ เอกชล 1 สามารถที่จะเพิ่มราคาขายและบริการได้ อัตรา net profit ในอนาคตของ รพ เอกชล 1 น่าจะสูงขึ้นตามครับ
5 ปีที่ผ่านมา
- AHC กำไรโตขึ้นทุกปี
- AHC สามารถคงระดับ Profit Margin ที่ 14-16 เปอร์เซ็นต์ได้ แม้ว่าการแข่งขันจะสูง
- AHC มี ROE ย้อนหลัง 5 ปีที่ 18-21 เปอร์เซ็นต์
- 3 ปีที่ผ่านมา AHC มีปริมาณเข้าใช้บริการของลูกค้าเพิ่มขึ้นทุกปี
ขึ้นผมคิดว่ากับ PE ที่ไม่ถึง 9 เท่า, DE 0.63 เท่า, ผลการดำเนินงานโตขึ้นอย่างสม่ำเสมอในหลายๆปีที่ผ่านๆมา และ ไม่เกี่ยวข้องกับค่าเงิน AHC น่าจะสนใจพอที่จะลงทุนได้ในระยะยาวๆได้ครับ
ผิดถูกยังไงรบกวนพี่ๆชว่ยพิจารณาครับ
ขอบคุณครับ :D
ธุรกิจสามารถจับต้องได้ง่าย-เข้าใจง่าย ราคาตรงนี้ กับ Growth ที่จะโตขึ้นจาก รพ เอกชล 2 , PE ไม่ถึง 10 เท่า และ ผลประกอบการโตขึ้นทุกปี น่าจะสนใจพอที่จะลงทุนในระยะยาว 5 ปีได้ครับ
AHC สามารถเติบโตได้ในทุกๆปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันมีจุดเปลี่ยนตรงที่ AHC ได้มีการเปิด รพ เอกชล 2 (อ่างศิลา) ขึ้นมาซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ AHC น่าจะโตอย่างก้าวกระโดดได้เมื่อ รพ เอกชล 2 สามารถเริ่มทำกำไรได้
รพ เอกชล 1 เป็นโรงพยาบาลที่มี Growth ทุกปี ดังนั้นตรงนี้ไม่น่าเป็นห่วง แต่การเปิด รพ เอกชล 2 ขึ้นมาจะเป็นตัวฉุดรั้งกำไรระยะสั้น(1-2 ปี) เพราะการเปิดกิจการในช่วงแรกคงต้องประสพกับปัญหาการขาดทุนจากการดำเนินการ แต่ถ้าเมื่อไรที่ รพ เอกชล 2 สามารถทำกำไรได้แล้ว การเติบโตจะค่อนข้างก้าวกระโดด
ผมเชื่อว่า รพ เอกชล 2 น่าจะไปได้ด้วยดี เนื่องจาก ชื่อเสียงของ รพ เอกชล 1 ที่สร้างมานานน่าจะเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการที่จะเข้ามาใช้บริการ รพ เอกชล 2 ได้ครับ
ผมว่าประเด็นที่สำคัญที่น่าจับตามอง คือ รพ เอกชล 2 จะใช้เวลานานขนาดไหนเพื่อที่จะสามารถทำกำไรได้นะครับ และผมเชื่อว่าผู้บริหารน่าจะทำให้ รพ เอกชล 2 ประสพความสำเร็จได้โดยเปรียบเทียบกับความสามารถที่ทำให้ รพ เอกชล 1 กำไรเพิ่มทุกๆปีที่ผ่านมา
ผมคิดว่าปัจจับบวกอื่นๆยังมี การเปิดสุวรรณภูมิน่าจะทำให้ชลบุรีเป็นเมืองท่ามากขึ้นทำให้มีการเพิ่มขึ้นของประชากรอย่างต่อเนื่องซึ่งคงเป็นผลบวกต่อ AHC ครับ
AHC มีแผนที่จะดัน กลุ่มลูกค้าประกันสังคมออกไปที่ รพ เอกชล 2 ซึ่งจะทำให้ รพ เอกชล 1 มีแต่กลุ่มลูกค้าระดับกลางบนครับ ซึ่งตรงนี้ รพ เอกชล จะดันตัวเองขึ้นไปจับกลุ่มลูกค้าระดับที่สูงขึ้นได้ และ จากการที่ดันระดับตัวเองขึ้นมาได้ รพ เอกชล 1 สามารถที่จะเพิ่มราคาขายและบริการได้ อัตรา net profit ในอนาคตของ รพ เอกชล 1 น่าจะสูงขึ้นตามครับ
5 ปีที่ผ่านมา
- AHC กำไรโตขึ้นทุกปี
- AHC สามารถคงระดับ Profit Margin ที่ 14-16 เปอร์เซ็นต์ได้ แม้ว่าการแข่งขันจะสูง
- AHC มี ROE ย้อนหลัง 5 ปีที่ 18-21 เปอร์เซ็นต์
- 3 ปีที่ผ่านมา AHC มีปริมาณเข้าใช้บริการของลูกค้าเพิ่มขึ้นทุกปี
ขึ้นผมคิดว่ากับ PE ที่ไม่ถึง 9 เท่า, DE 0.63 เท่า, ผลการดำเนินงานโตขึ้นอย่างสม่ำเสมอในหลายๆปีที่ผ่านๆมา และ ไม่เกี่ยวข้องกับค่าเงิน AHC น่าจะสนใจพอที่จะลงทุนได้ในระยะยาวๆได้ครับ
ผิดถูกยังไงรบกวนพี่ๆชว่ยพิจารณาครับ
ขอบคุณครับ :D
ธุรกิจสามารถจับต้องได้ง่าย-เข้าใจง่าย ราคาตรงนี้ กับ Growth ที่จะโตขึ้นจาก รพ เอกชล 2 , PE ไม่ถึง 10 เท่า และ ผลประกอบการโตขึ้นทุกปี น่าจะสนใจพอที่จะลงทุนในระยะยาว 5 ปีได้ครับ