http://www.posttoday.com/newsdet.php?se ... &id=134071
กองทุนพันธบัตรโตอีกเยอะ
โพสต์ทูเดย์ บลจ.เฮ! สถาบันค้ำประกันเงินฝากเข้า ครม.วันนี้ เห็นภาพชัดเงินฝากมีความเสี่ยง หนุนเงินโยกหากองทุนรวมพันธบัตร ตราสารหนี้ระยะสั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ จะมีการพิจารณาการจัดตั้งสถาบันประกันเงินฝากเข้าสู่ที่ประชุมและมีรายละเอียดในการค้ำประกันเงินฝากออกมา ทำให้เงินฝากกับธนาคารจะไม่ได้คุ้มครองทั้งหมด
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า เมื่อสถาบันประกันเงินฝากจัดตั้งได้ เชื่อว่าจะทำให้เงินฝากในระบบโยกมาสู่ธุรกิจกองทุนรวมมากขึ้น โดยเฉพาะกองทุนอายุสั้นๆ ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง และบริษัทเอกชนที่มีอันดับเครดิตที่ดี A, AA+ ซึ่งจะสะท้อนความเสี่ยงที่ต่ำ
ขณะเดียวกันผลตอบแทนจากกองทุนยังสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ย 15% เหมือนฝากเงินด้วย
นายมาริษ กล่าวว่า แม้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า จะปรับตัวลดลง แต่คาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนพันธบัตร ก็ไม่ได้ลดอย่างฮวบฮาบ เห็นได้จากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไม่ได้ปรับตัวลดลงไปมากนัก โดยเฉลี่ยอายุ 6 เดือน ลดลงจาก 4.8% ต่อปี เหลือประมาณ 4.6% ต่อปี ส่วนอายุ 6 เดือน ยังประมาณกว่า 4% ต่อปี กองทุนพันธบัตรจึงยังเป็นทางเลือกของนักลงทุนที่ไม่ชอบเสี่ยงมาก ส่วนเม็ดเงินจะโยกเข้ามามากน้อยแค่ไหนยังประเมินได้ยาก แต่ทุกวันนี้เงินลงทุนอยู่ในกองทุนพันธบัตรก็หลายแสนล้านบาท
กองทุนหุ้นในปีหน้า ก็น่าจะมีแนวโน้มที่ดี หากประเมินจากดัชนี 700 จุด ในปีนี้ หากครึ่งหลังของปีหน้าทุกอย่างคลี่คลายตลาดหุ้นฟื้นระดับ 800 จุด คงเห็น จากดัชนีที่เพิ่มขึ้นผลตอบแทนที่จะได้ประมาณ 12% ก็ถือว่าสูง รวมถึงกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ จ่ายปันผลทุกไตรมาส ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกลงทุน แต่คงต้องให้ความเข้าใจแก่ผู้ลงทุนมากขึ้น นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุนกล่าว
สำหรับ บลจ.ไอเอ็นจี ซึ่งไม่มีธนาคารถือหุ้นอาจทำให้การทำธุรกิจเสียเปรียบบลจ.ในระบบที่ส่วนใหญ่มีธนาคารถือหุ้นและมีเครือข่ายจำนวนมาก ซึ่งประเด็นเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่แล้วในตอนนี้ ดังนั้นแม้สถาบันประกันเงินฝากเกิด ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่น่ากังวล บริษัทจึงออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายบริหารผลตอบแทนให้เป็นที่น่าพอใจ
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อประชาชนต้องกระจายความเสี่ยงในการฝากเงินไปยังหลายธนาคาร เพราะรัฐบาลไม่ได้ค้ำประกัน 100% เหมือนที่ผ่านมา ประกอบกับดอกเบี้ยเงินฝากในปีหน้าอาจจะลดลงหรือทรงตัว เป็นโอกาสดีที่ทำให้ตราสารหนี้ประเภทอื่นๆ เป็นที่สนใจของประชาชน
นายศรีภพ สารสาส กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า บริษัทได้เตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว โดยที่ผ่านมาเริ่มทำตลาดโดยมีลูกค้าเงินฝากโยกเงินมาลงทุนในกองทุนพันธบัตรแล้ว โดยให้ข้อมูลลูกค้ารู้จักการลงทุนในกองทุนรวม ผลตอบแทนที่ได้ไม่เสียดอกเบี้ยเหมือนเงินฝาก ทำให้ผลตอบแทนจากกองทุนพันธบัตรรัฐบาลยังสูงกว่าฝากเงิน
ในฐานะที่ บลจ.กรุงไทย เป็นบริษัทลูกของแบงก์กรุงไทย ดังนั้นสถานภาพของการเป็นรัฐวิสาหกิจจะทำให้ภาพความมั่นของบริษัทดี ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่น อาจเป็นจุดขายของบริษัทได้ นายศรีภพ กล่าว